Reincarnation Of The Strongest Sword God - ตอนที่ 2559
ตอนที่ 2559 มุ่งหน้าสู่โลกแห่งความมืด
เมจิคแฟลชและคนของเขาจ้องมองไปยังซือเฟิงด้วยความเงียบงัน
ช่างหยิ่งผยองอย่างแท้จริง !!!
นักดาบผู้นี้หยิ่งผยองอย่างมาก !!!
ไม่มีแม้แต่ซุเปอร์กิลของทวีปหลักจะกล้าพูดเรื่องแบบนี้ !!!
พวกเขากำลังพูดถึงผู้เล่นทุกคนในโลกแห่งความมืดทั้งหมด ซึ่งโลกแห่งความมืดนี้ก็ไม่ใช่โลกธรรมดา มันเป็นโลกที่มีขนาดใหญ่เท่ากับจักรวรรดิทั่วไปในทวีปหลักสามแห่ง แถมมันยังมีการแข่งขันที่รุนแรงและโหดร้ายมากๆ ซึ่งผู้อยู่อาศัยในโลกแห่งความมืดนั้นจะต้องมีความระมัดระวังตัวเองเป็นอย่างยิ่ง เพราะไม่เพียงแต่ความผิดพลาดของพวกเขาอาจจะทำให้พวกเขาตายได้ทันที แต่มันยังอาจจะทำให้การทำงานหนักของตัวเองกลายเป็นคนอื่นที่ได้รับผลประโยชน์ไปด้วย
ดังนั้นโลกแห่งความมืดนั้นจึงแทบจะไม่มีผู้เล่นทั่วไปเลย เพราะท้ายที่สุดผู้เล่นทั่วไปส่วนใหญ่มักจะลบไอดีของตนและเริ่มต้นใหม่ในโลกอื่น หลังจากลองอยู่ในโลกแห่งความมืดแค่ไม่กี่วัน ผู้เล่นที่ยังเลือกจะอยู่ในโลกแห่งความมืดต่อ และอยู่ได้ในระยะยาวนั้นจะต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญหรือไม่ก็มีทักษะการเอาชีวิตรอดที่สูงพอสมควร
เมื่อผู้เล่นหลายสิบล้านคนเข้ามารวมตัวกันที่ป่าใบไม้ผลิ แม้แต่ซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุดห้าอันดับแรกร่วมมือกันก็ยังไม่สามารถจะหยุดยั้งพวกเขาได้แน่นอน ไม่ต้องพูดถึงมหาอำนาจแค่กลุ่มเดียว และแม้ว่ามหาอำนาจต่างๆในทวีปจะรวมตัวกัน แต่พวกเขาก็ยังจะต้องจ่ายในราคาที่สูงมากเพื่อเอาชนะผู้เล่นจากโลกแห่งความมืดทั้งหมด และราคาที่พวกเขาต้องจ่ายอาจทำให้บางกิลถึงขั้นล่มสลายเลยก็ได้
อย่างไรก็ตามซือเฟิงพึ่งประกาศว่าสภาสิบแปดปีกจะสามารถเข้าควบคุมประตูเทเลพอร์ตที่เชื่อมต่อกับโลกแห่งความมืดได้ ….
ครู่หนึ่ง เมจิคแฟลชและคนของเขานั้นสงสัยว่านักดาบคนนี้บ้าไปแล้วรึปล่าว ? นี่นักดาบคนนี้คิดว่าตัวเองเป็นเจ้าของ God domain รึไง ?
“หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม ฉันไม่ได้คิดจะตั้งข้อสงสัยในตัวคุณ แต่เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์มากเกินไป ฉันไม่มีอำนาจในการตัดสินใจจริงๆ” ฟอเร้สต์กล่าวยืนยัน และหลังจากหายใจเข้าลึกๆเขาก็พูดต่อว่า “มีเพียงหัวหน้ากิลของฉันเท่านั้นที่จะสามารถตัดสินใจในเรื่องนี้ได้ สิ่งที่ฉันสามารถทำได้ดีที่สุดคือการแจ้งข้อเสนอของคุณให้หัวหน้ากิลของฉันทราบ และฉันไม่สามารถพูดได้ว่าเขาจะยอมรับมันไหม ….”
“ฉันเองก็คงต้องพูดแบบเดียวกับฟอเร้สต์นั่นแหละ หัวห้ากิลแบล๊คเฟรม …” เมจิคแฟลชกล่าวพลางพยักหน้าเห็นด้วย อย่างไรก็ตามภายในใจนั้นเขาได้ตัดสินว่าซือเฟิงเป็นบ้าไปเรียบร้อยแล้ว
แม้ว่าเซ็ทปีศาจแห่งความมืดจะมีค่ามาก แต่การได้รับเซ็ทระดับนี้นั้นก็จะไม่เป็นปัญหาเลย เมื่อกิลของพวกเขาเริ่มการเจรจาเป็นพันธมิตรกับมหาอำนาจต่างๆ ข้อเสียเพียงอย่างเดียวคือมหาอำนาจต่างๆอาจจะไม่สามารถจัดหาเซ็ทที่แข็งแกร่งเท่ากับเซ็ทปีศาจแห่งความมืดให้พวกเขาได้ แต่อย่างน้อยเซ็ทที่มหาอำนาจต่างๆจัดหาให้ได้มันก็จะมากเกินพอที่จะใช้โจมตีดันเจี้ยนเลเวลหนึ่งร้อย ขนาดหนึ่งร้อยคนแน่นอน
เอาจริงๆไม่ต้องพูดถึงเมจิคแฟลช และฟอเร้สต์เลย แม้แต่เมลานโครอิคสไมล์ที่ทำ
งานกับซือเฟิงมานานก็ยังสงสัยว่าทำไมหัวหน้ากิลของเธอถึงกล้ายื่นข้อเสนอแบบนี้ และพูดแบบนี้
“ฉันเข้าใจ เรื่องนี้มันเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์มากมายจริงๆ และมันก็เป็นเรื่องยากสำหรับกิลทั้งสองของคุณที่จะตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว สภาสิบแปดปีกไม่ได้เร่งรีบ ดังนั้นฉันไม่มีปัญหาในการจะรอให้คุณถ่ายทอดเรื่องนี้ไปยังหัวหน้ากิลของคุณ” ซือเฟิงกล่าวยอมรับอย่างใจเย็น
“โปรดมั่นใจได้หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม เราจะรายงานเรื่องนี้ไปยังหัวหน้ากิลของเราแน่นอน เมื่อเรากลับไป …” ฟอเร้สต์กล่าวพลางพยักหน้า
หลังจากนั้นเมจิคแฟลช และฟอเร้สต์ก็ได้มอบคริสตัลแห่งความมืดคนละสองแสนห้าหมื่นชิ้นให้กับซือเฟิง ก่อนที่จะออกจากโรงแรมอิสระ และเดินทางกลับสู่โลกแห่งความมืด
เมื่อพวกเขาจากไป เสวี่ยเหวินโหรวก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว ….
“หัวหน้ากิลประตูเทเลพอร์ตที่เชื่อมต่อกับโลกแห่งความมืดได้ถูกเปิดขึ้นแล้วแบบนี้ เราควรจำกัดกิจกรรมของสมาชิกกิลเราไหม ?” เสวี่ยเหวินโหรวถาม
เธอไม่คิดเลยเลยว่าประตูเทเลพอร์ตจะถูกเปิดขึ้นเร็วขนาดนี้ โชคดีที่สภาสิบแปดปีกบรรลุข้อตกลงกับดาร์ครัปโซดี้ และเดียตี้โซไซตี้ได้ในเวลาอันรวดเร็ว ไม่งั้นสภาสิบแปดปีกจะไม่รู้เลยว่าประตูเทเลพอร์ตถูกเปิดขึ้นแล้ว และสูญเสียโอกาสในการเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้
“นั่นไม่จำเป็น เนื่องจากประตูเทเลพอร์ตที่เชื่อมต่อกับโลกแห่งความมืดถูกเปิดขึ้นแล้ว ดังนั้นเราจึงควรจะรีบไปที่โลกอื่นนี้กัน ติดต่อทีมของไฟเออร์แดนซ์ทั้งหมด รวมทั้งกองกำลังนรก สั่งให้พวกเขามารวมตัวกัน” ซือเฟิงกล่าวพลางหัวเราะเบาๆ
“เราจะไปที่นั่นกันจริงๆงั้นหรอ ?” การตัดสินใจของซือเฟิงทำให้เธอประหลาดใจ
เมื่อซือเฟิงประกาศความตั้งใจของเขาต่อหน้าตัวแทนของดาร์ครัปโซดี้ และเดียตี้โซไซตี้ เธอไม่ได้คิดว่ามันไร้สาระเลยแม้แต่น้อย ตราบใดที่สภาสิบแปดปีกมีเวลาเพียงพอ ทุกอย่างที่ซือเฟิงพูดไปนั้นมันก็มีสิทเป็นไปได้ทั้งหมด เพราะตอนนี้ไม่เพียงแต่กิลจะมีโรงแรมอิสระเท่านั้น แต่กิลยังทำกำไรได้มากกว่าหนึ่งแสนเหรียญทองต่อวันด้วย
ยิ่งไปกว่านั้นรายได้ที่เป็นเหรียญทอง และคริสตัลเวทย์มนต์ ทั้งหมดที่สภาสิบแปดปีกได้รับนั้นมันก็ยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากจำนวนผู้เล่นของเมืองป่าหินที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และโรงแรมอิสระในเมืองนั้นก็ทำหน้าที่ดึงดูดผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากให้หลั่งไหลเข้ามาที่เมืองเช่นกัน และด้วยข้อดีมากมายขนาดนี้ การจะปกครองป่าใบไม้ผลิในส่วนพื้นที่ของตัวเองด้วยหมัดเหล็กนั้นจึงยังเป็นไปได้ ….
อย่างไรก็ตามตอนนี้ ….
ต่อให้รวมกองกำลังนรกเข้ามา สภาสิบแปดปีกก็มีผู้เชี่ยวชาญขั้นสามมากกว่าห้าร้อยคนเพียงเล็กน้อยเท่านั้นอยู่ภายใต้การควบคุม แม้ว่าพวกเขาจะรวมอัศวินขั้นสามจำนวนหกร้อยคนหรือมากกว่านั้นนิดหน่อยเข้าไป แต่พวกเขาก็ยังไม่ควรจะมีพลังมากพอที่จะท้าทายโลกแห่งความมืดทั้งหมดได้
“อืมม ตอนนี้เราต้องรีบมุ่งหน้าไปที่นั่น ถ้าเราไม่รีบมันจะสายเกินไป” ซือเฟิงกล่าวด้วยความมุ่งมั่นในน้ำเสียงของเขา
“เอาล่ะ ฉันจะไปจัดการแจ้งไฟเออร์แดนซ์ และคนอื่นๆทันที ….” เสวี่ยเหวินโหรวกล่าว แม้ว่าเธอจะไม่เข้าใจในความตั้งใจของซือเฟิง แต่พวกเขาก็ไม่น่าจะมีปัญหาใดๆในการเอาชีวิตรอด
“เมลานโครอิค การสร้างเรือเหาะมังกรสีเลือดไปถึงไหนแล้ว ?” ซือเฟิงถามโดยหันไปมองผู้จัดการของบริษัทการค้าแสงเทียน
“หากไม่รวมเรือเหาะที่เรามีในครอบครองแต่เดิม ตอนนี้เรามีเรือเหาะมังกรสีเลือดห้าลำที่พร้อมสำหรับการใช้งาน” เมลานโครอิคสไมล์กล่าวอย่างภาคภูมิใจ
แม้ว่าตอนนี้ผู้เล่นจะเริ่มมีอะเม้าท์บินได้เป็นของตัวเองมากขึ้น แต่เรือเหาะห้าลำสำหรับสภาสิบแปดปีกตอนนี้มันก็มากพอที่จะทำให้พวกเขาครองน่านฟ้าได้ และมันจะไม่มีมหาอำนาจอื่นใดใน God domain ที่สามารถจะคุกคามกิลกลางอากาศได้
“ดี ไปเตรียมพวกมันให้พร้อม …” ซือเฟิงกล่าวพลางพยักหน้า
ในขณะที่เสวี่ยเหวินโหรวและเมลานโครอิคสไมล์ไปเตรียมการทุกอย่างตามคำสั่งของซือเฟิง เมจิคแฟลชและทีมของเขาก็ได้บินกลับไปที่ประตูเทเลพอร์ตที่เชื่อมต่อกับโลกแห่งความมืดด้วยค้างคาวแห่งความมืดของพวกเขา
เมื่อพวกเขากลับไปถึงที่บ้านของพวกเขาที่โลกแห่งความมืด พวกเขาก็สังเกตเห็นกองทัพผู้เล่นสายความมืดจำนวนมากมายมหาศาล และเต๊นท์ที่ถูกตั้งอยู่เต็มเรียงรายในที่ราบด้านหน้า ซึ่งประมาณด้วยสายตาคร่าวๆ พวกเขาก็สามารถบอกได้เลยว่ามันมีผู้เล่นสายความมืดหลายล้านคนอยู่ตรงนี้
ขณะที่ผู้เล่นสายความมืดเหล่านี้ส่วนใหญ่ก็ล้วนเต็มไปด้วยออร่าแห่งความมืดและการฆ่าฟันที่เข้มข้นมากๆ และแม้แต่ผู้ที่มีเลเวลต่ำสุดในหมู่พวกเขาก็ยังมีเลเวลหนึ่งร้อยห้า แถมมันยังมีผู้เชี่ยวชาญขั้นสามอยู่ในหมู่กองทัพนี้อีกจำนวนหนึ่งด้วย
“เราก็ไม่ได้หายไปนานนัก นี่พวกเขารวบรวมกองทัพได้มากมายขนาดนี้แล้วงั้นหรอ ?” เมจิคแฟลชอุทานออกมา ขณะมองดูฝูงชนเบื้องล่างของเขา จากสิ่งที่เขาเห็น เขาสามารถบอกได้เลยว่ามันมีอย่างน้อยสี่ถึงห้าล้านคนตั้งเต๊นท์อยู่ที่นี่ และในการเปรียบเทียบผู้เล่นหลายหมื่นคนที่ดาร์ครัปโซดี้เตรียมจะส่งไปที่ป่าใบไม้ผลินั้นไม่มีอะไรเลย
เมื่อเมจิคแฟลชนึกถึงคำกล่าวอันหยิ่งผยองของซือเฟิง เขาก็อดคิดไม่ได้ว่าชายคนนี้เป็นคนบ้าและโง่ชัดๆ
อย่างไรก็ตามเมจิคแฟลช และฟอเร้สต์ ก็ยังคงปฎิบัติทุกอย่างตามหน้าที่ของลูกน้องที่ดีคือแจ้งข้อเสนอของซือเฟิงให้พวกระดับสูงของกิลพวกเขาได้รู้ ….
ภายในเต๊นท์ประชุมที่มีผู้เล่นหลายร้อยคน ….
“แบล๊คเฟรมบ้าไปแล้วรึไง ? ตอนนี้ประตูเทเลพอร์ตได้ถูกเปิดขึ้นแล้ว และเขาก็จะมีช่วงเวลาที่ยากลำบากมากแล้วในการปกป้องตัวเอง แต่เขากับบอกว่าประตูเทเลพอร์ตนี้เป็นของเขางั้นหรอ ?” เมื่อบลูเรนโบว์ อัศวินแห่งความมืดหญิงจากดาร์ครัปโซดี้ ได้ยินรายงานของเมจิคแฟลชและฟอเร้สต์เธอก็อดไม่ได้ที่จะขำ
“มันอาจเป็นเพราะเขายังไม่เห็นกองทัพผู้เล่นของโลกแห่งความมืดน่ะ … เมื่อเขาเห็นเช่นเดียวกับมหาอำนาจต่างๆเมื่อไหร่ เขาก็คงจะละทิ้งความคิดบ้าๆนี้ไปเอง …” ผู้อาวุโสโกลด์แห่งเดียตี้โซไซตี้ตอบด้วยรอยยิ้ม
มหาอำนาจจำนวนหนึ่งนั้นได้รู้ถึงการที่ประตูเทเลพอร์ตที่เชื่อมต่อกับโลกแห่งความมืดถูกเปิดขึ้นแล้ว และพวกเขาก็ได้เริ่มส่งตัวแทนบางส่วนเข้ามาตรวจสอบและติดต่อที่นี่แล้ว พวกเขาต้องการเจรจาข้อตกลงทางธุรกิจกับมหาอำนาจต่างๆของโลกแห่งความมืด แต่เมื่อพวกเขาเห็นจำนวนกองทัพผู้เล่นของโลกแห่งความมืดที่เฝ้ารอจะเริ่มการรุกราน พวกเขาก็ได้เลือกจะทิ้งข้อเสนอที่หยิ่งผยองของพวกเขาไป
ตัวแทนของมหาอำนาจต่างๆเหล่านี้ตระหนักดีว่าเมื่อการรุกรานเริ่มขึ้น ทั้งอาณาจักรและจักรวรรดิใกล้เคียงต่างๆจะตกอยู่ในความโกลาหลแน่นอน ไม่ต้องพูดถึงป่าใบไม้ผลิซึ่งเป็นสถานที่เริ่มต้นเลย
ในความเป็นจริงแม้แต่กิลที่แข็งแกร่งที่สุดสามอันดับแรกของโลกแห่งความมืดก็ยังอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจกับจำนวนผู้เล่นที่เข้าร่วมกองทัพรุกรานนี้เลย พวกเขาคาดเดาว่าจะมีผู้เชี่ยวชาญขั้นสามแค่ประมาณสองหมื่นคนเท่านั้นที่เข้าร่วม แต่ตอนนี้มันกับมีผู้เชี่ยวชาญขั้นสามมากกว่าสามหมื่นคนแล้วที่เข้าร่วม ในอัตรานี้พวกเขาจะไม่มีปัญหาในการรวบรวมผู้เชี่ยวชาญขั้นสามให้ได้สี่ถึงห้าหมื่นคนเลย เมื่อการรุกรานเริ่มขึ้น
ในขณะที่บลูเรนโบว์และผู้อาวุโสโกลด์กำลังกระซิบกระซาบพูดคุยกัน ตัวแทนหลายคนในเต๊นท์ก็เงียบลง
“ดูเหมือนว่าทุกคนจะมีความเห็นเหมือนกัน งั้นในกรณีนี้เราก็ไม่จำเป็นจะต้องพูดเรื่องนี้อีกต่อไป ตอนแรกเรายังจะสามารถเพิกเฉยต่อเมืองป่าหินได้ แต่ตอนนี้ฉันคิดว่าไม่ได้แล้ว เราไม่สามารถปล่อยให้มหาอำนาจของทวีปหลักมาแย่งส่วนแบ่งของเมืองที่เราควรจะได้รับไปได้ !!!” ชายผู้เย็นชาที่ดูแข็งแกร่ง ซึ่งนั่งอยู่หนึ่งในสามที่นั่งหัวโต๊ะลุกขึ้นยืนและกล่าว ก่อนที่เขาจะประกาศต่อว่า “เราจะบุกเข้าป่าใบไม้ผลิกันตอนนี้เลย !!! ถึงเวลาที่เราจะแสดงพลังของโลกแห่งความมืดให้พวกทวีปหลักได้เห็นแล้ว !!!”
เมื่อชายผู้นี้กล่าวจบ ตัวแทนแต่ละคนก็เริ่มออกคำสั่งจัดกระบวนทัพในส่วนที่พวกเขารับผิดชอบ และเดินทางเข้าสู่ป่าใบไม้ผลิทันที
ผู้เล่นหลายล้านคนนั้นเริ่มเดินทางผ่านประตูเทเลพอร์ตขนาดใหญ่นี้ไป ซึ่งการเคลื่อนทัพของกองทัพนับล้านนี้มันก็ทำให้พื้นดินโดยรอบสั่นสะเทือนเลย และมันทำให้หน่วยสอดแนมที่มหาอำนาจต่างๆจากทวีปหลักส่งมานั้นล้วนตกตะลึงและหวาดกลัวมากๆ และหน่วยสอดแนมเหล่านี้ก็ได้เริ่มแจ้งไปยังหัวหน้าของพวกเขาทันที ….
ในขณะเดียวกันในห้องขั้นสูงบนชั้นยี่สิบเก้าของโรงแรมอิสระ ….
“ในที่สุด พวกเขาก็ยังคงเลือกจะบุกอยู่ดีสินะ ?” หยวนเทียนซินส่ายหัวและถอนหายใจออกมา เมื่อเขาได้รับข้อความจากลูกน้องของเขา