Reincarnation Of The Strongest Sword God - ตอนที่ 2585
ตอนที่ 2585 ปัญหาเล็กๆ และเริ่มการโจมตี
ป่าใบไม้ผลิ เมืองป่าหิน :
หลังจากได้รับดาบแห่งภัยพิบัติมา ซือเฟิงก็ได้ตัดสินใจที่จะออกจากเมืองพิษทันทีโดยใช้ม้วนคัมภีร์วาร์ปกลับเมือง เพื่อเทเลพอร์ตกลับไปยังโรงแรมอิสระของเมืองป่าหินทันที
ซึ่งขณะที่เขาและทั้งทีมปรากฎตัวขึ้นในล๊อบบี้ของโรงแรม พวกเขาก็ดึงดูดความสนใจจากแขกของโรงแรมได้เป็นอย่างมาก แม้ว่าสมาชิกในทีมส่วนใหญ่จะซ่อนข้อมูลและออร่าของตนไว้ภายใต้เสื้อคลุมสีดำ แต่บางคนก็ไม่ได้ทำ ….
เป็นผลให้เกิดแรงกดดันอย่างหนักในหมู่ผู้เล่นในล๊อบบี้ เมื่อทั้งทีมกลับมาถึง และออร่านี้มันก็แข็งแกร่งกว่าลอร์ดบอสผู้ยิ่งใหญ่เลเวลหนึ่งร้อยสิบด้วย ขณะที่บางคนนั้นมีออร่าที่แข็งแกร่งกว่าแกรนลอร์ดเลเวลหนึ่งร้อยสิบด้วยซ้ำ ….
“อึก !! ออร่าของผู้เล่นเหล่านี้นั้นไม่แข็งแกร่งเกินไปหน่อยงั้นหรอ ?! นี่พวกเขาดูแข็งแกร่งกว่าทีมของมหาอำนาจที่ฉันเคยพบมาก่อนเสียอีก !! คนพวกนี้เป็นใครกัน ?!”
“ดูนั่นสิ NPC เหล่านั้นแสดงความเคารพต่อนักดาบที่เป็นผู้นำ เป็นไปได้ไหมว่านั่นคือทีมที่แบล๊คเฟรมนำออกจากเมืองไปล่าก่อนหน้านี้ ?”
“คุณอาจจะพูดถูกนะ โดยปกติแล้ว NPC เหล่านั้นจะไม่สนใตแม้แต่สมาชิกระดับทองด้วยซ้ำ และฉันก็คิดว่าพวกเขาจะแสดงความเคารพแบบนี้ก็คงต่อหน้าแบล๊คเฟรมเท่านั้นแหละ”
ผู้เล่นหลายคนพูดคุยกันอย่างเผ็ดร้อนเกี่ยวกับทีมของซือเฟิง และผู้เล่นอิสระหลายคนก็มองดูด้วยความอิจฉา
ตอนนี้สภาสิบแปดปีกนั้นเข้าควบคุมประตูเทเลพอร์ตที่เชื่อมต่อกับโลกแห่งความมืดไว้ได้แล้ว ดังนั้นเมืองป่าหินจึงกลายเป็นสถานที่ฝึกฝนและพักผ่อนอันศักสิทธิ์สำหรับผู้เล่นทั่วไปอย่างเป็นทางการ และมันก็มีผู้เล่นจำนวนนับไม่ถ้วนจากอาณาจักรและจักรวรรดิต่างๆที่เข้ามารวมตัวกันที่เมือง และแค่จะเข้าเมืองก็ยากมากแล้ว ไม่ต้องพูดถึงการเช่าห้องในโรงแรมอิสระเลย
อย่างไรก็ตามสมาชิกของสภาสิบแปดปีกนั้นไม่ได้มีปัญหาเหล่านี้ พวกเขาไม่จำเป็นต้องยืนต่อแถวเพื่อเข้าเมืองหรือต่อสู้เพื่อหาห้องพักในโรงแรมอิสระ เพราะกิลของพวกเขานั้นได้จองห้องสำหรับสมาชิกเอาไว้แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นสมาชิกทั่วไปของสภาสิบแปดปีกยังจะได้รับส่วนลดสี่สิบเปอเซ็นต์ หากชำระค่าห้องด้วยคะแนนสะสมกิล ในขณะที่แกนหลักจะได้รับส่วนลดห้าสิบเปอเซ็นต์
นี่คือสาเหตุที่ทำให้มีผู้เล่นจำนวนมากพยายามจะเข้าร่วมกิลอย่างต่อเนื่อง และเพื่อให้แน่ใจว่ากิลจะสามารถดำเนินการตามปกติต่อไปได้ ในขณะที่ให้สิทธิประโยชน์เหมือนเดิม สภาสิบแปดปีกก็ได้เพิ่มข้อกำหนดในการรับสมัครเข้ากิลขึ้นอีก ซึ่งผู้เล่นนับไม่ถ้วนนั้นก็รู้สึกเสียใจที่ไม่ได้เข้าร่วมกับสภาสิบแปดปีกให้เร็วกว่านี้
ในขณะเดียวกันไม่นานหลังจากที่ทีมของซือเฟิงได้กลับมาถึง ข่าวก็ไปถึงหูมหาอำนาจต่างๆที่กำลังติดตามการเคลื่อนไหวของสภาสิบแปดปีกอย่างรวดเร็ว
“ในที่สุดแบล๊คเฟรมก็กลับมาแล้วงั้นหรอ ?” ดอร์นโดมิแน้นซ์ซึ่งปกปิดตัวตนไว้ใต้เสื้อคลุมสีดำและพักผ่อนอยู่ในห้องหนึ่งของโรงแรมอิสระกล่าวอย่างเย้ยหยัน ในขณะที่เขาอ่านรายงานที่เขาได้รับจากลูกน้องของเขา “ดูเหมือนว่าเขาจะเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับสมาชิกกองกำลังหลักของดาร์ครัปโซดี้ และเดียตี้โซไซตี้ขึ้นมาไม่น้อยเลย แต่น่าเสียดายที่เขาทำมันได้ช้าเกินไป ทีมของหัวใจปีศาจเกือบจะสามารถระบุจุดอ่อนของบอสตัวที่สามได้แล้ว และมันก็เป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้นก่อนที่พวกเขาจะเอาชนะมัน และก้าวหน้าไปหาบอสตัวสุดท้าย”
“หัวหน้ากิล เฟรมมิ่งไลท์รายงานมาว่าคนเหล่านั้นอยู่ในป่าใบไม้ผลิแล้ว เราควรออกไปไหม ?” Elementalist ขั้นสาม เลเวลหนึ่งร้อยเก้ากล่าวถามดอร์นโดมิแน้นซ์
“ดี เราจะรีบตรงไปที่นั่นทันที ฉันอยากจะเห็นเช่นกันว่าบุคคลประเภทใดกันที่เฟรมมิ่งไลท์ได้เชิญมาและประกาศว่าเขาจะสามารถช่วยเวิร์ลโดมิเนชั่นเข้าควบคุมโลกแห่งความมืดได้” ดอร์นโดมิแน้นซ์กล่าวพลางพยักหน้า
หลังจากนั้นดอร์นโดมิแน้นซ์ก็ได้ออกจากเมืองป่าหินไปพร้อมกับลูกน้องของตน และเขาก็ได้เดินทางไปยังพื้นที่ชั้นนอกของป่าใบไม้ผลิ
ในเวลาเดียวกันมหาอำนาจต่างๆที่ปฎิบัติการอย่างลับๆอยู่ในเมืองป่าหินนั้นก็ไม่ได้กังวลอะไรมากนักกับการกลับมาของซือเฟิง สภาสิบแปดปีกควบคุมประตูเทเลพอร์ตที่เชื่อมต่อกับโลกแห่งความมืดแล้วยังไงล่ะ ?
ในท้ายที่สุดผู้เล่นจากโลกแห่งความมืดก็ยังจะต้องหลั่งไหลเข้ามายังทวีปหลักได้อยู่ดีด้วยฝีมือของหัวใจปีศาจ และเมื่อเวลานั้มาถึง สภาสิบแปดปีกที่เป็นศัตรูกับพวกเขาจะต้องทนทุกข์ทรมาณแน่นอน เมื่อออกไปนอกป่าใบไม้ผลิ
ขณะเดียวกันอีกด้านหนึ่ง เมื่อเขากลับมาซือเฟิงก็ได้สั่งให้ผู้จัดการ NPC จัดห้องรับรองขั้นสูงเพื่อให้ทั้งทีมได้พักผ่อน ….
“หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม หัวใจปีศาจได้เริ่มโจมตีบอสตัวที่สามแล้ว แต่คุณยังต้องการพักที่นี่ …?” บลูเรนโบว์บ่อย่างกังวล
แม้ว่าพวกเขาจะเหนื่อยล้าจากการเดินทางไปยังเมืองพิษ แต่ผู้เล่นก็จะฟื้นฟูค่าสตามิน่าและค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจขึ้นได้เร็วขึ้นเมื่อมีเลเวลสูงขึ้น และหลังจากพวกเขาเลเวลเพิ่มขึ้นมาถึงคนละสองเลเวลกันหลังจากฆ่าคลอเดียได้ พวกเขาจึงอยู่ในสภาพที่ค่อนข้างดีมากๆ และพวกเขาก็มีมากกว่าความสามารถในการบุกโจมตีหอคอยเทพโบราณด้วยซ้ำ ….
แต่ถึงกระนั้นตอนนี้ซือเฟิงกับบอกให้พวกเขาพักผ่อนในตอนนี้ ราวกับว่าเขาคิดว่าหัวใจปีศาจยังคงนำพวกเขาไปไม่มากเพียงพอ
“ไม่ใช่แบบนั้น ค่าสตามิน่าและค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจของพวกคุณอาจจะอยู่ในเกณฑ์ที่ดี แต่พลังแห่งความตายของดินแดนลับนั้นก็ได้กัดกร่อนร่างกายของพวกคุณไปอย่างมาก แถมในหอคอยเทพโบราณนั้นมันยังมีพลังแปลกๆอื่นที่ทรงพลังมากด้วย ซึ่งในกรณีที่พลังแปลกๆที่ว่านี้ส่งผลกระทบมากเกินไปก่อนที่พวกคุณจะพิชิตการทดสอบได้ ทุกอย่างที่พวกคุณทำมาก็จะสูญเปล่า มันจะดีกว่าที่จะพักผ่อนที่นี่สักพักแทนที่จะไปเสี่ยงแบบนั้น …. และคุณก็สามารถใช้เวลานี้ในการดื่มโพชั่น Exotic Legacy ที่คุณได้รับมาด้วยเช่นกัน …” ซือเฟิงกล่าวพลางส่ายหัว
“แต่กว่าจะถึงเวลานั้น …” การยืนกรานของซือเฟิงไม่ได้ทำให้บลูเรนโบว์สงบลง
อนาคตของทั้งสองกิลของพวกเขากำลังตกอยู่ในความเสี่ยง หากทีมพันธมิตรของหัวใจปีศาจทำการพิชิตชั้นหนึ่งของหอคอยเทพโบราณได้ก่อน ทั้งสองกิลจะยืนหยัดอยู่ได้ไม่นานนักแน่นอนในโลกแห่งความมืด
“ฉันคิดว่ามันคงจะไม่มีปัญหาใดๆ หากพวกคุณดื่มโพชั่น Exotic Legacy เข้าไปและใช้มันจนเสร็จเรียบร้อย …” ซือเฟิงกล่าวพลางหัวเราะเบาๆ
รางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ทั้งทีมได้รับมานั้นไม่ใช่อาวุธ อุปกรณ์ หรือคะแนนสกิลมรดก แต่เป็นโพชั่น Exotic Legacy
เมื่อผู้เล่นฆ่าบอสของเมืองพิษตามปกติ บอสแต่ละตัวก็จะดรอปโพชั่น Exotic Legacy เพียงหนึ่งถึงสองครั้งเท่านั้น นอกจากนี้บอสเหล่านี้ยังจะเกิดใหม่หลังสามวันผ่านไป เมื่อรู้อย่างนี้แล้วมันจึงง่ายที่จะจินตนาการเลยว่าโพชั่นนี้มีค่ามากแค่ไหน
อย่างไรก็ตามเนื่องจากทีมได้ทำเควสระดับตำนานที่อ่อนแอได้สำเร็จ สมาชิกในทีมทั้งหมดจึงได้รับมันมาคนละหนึ่งขวด
แม้ว่าการใช้โพชั่น Exotic Legacy เพียงขวดเดียวจะไม่ช่วยให้คนๆหนึ่งสามารถปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาของเขาได้หนึ่งร้อยเปอเซ็นต์ แต่เมื่อมันใช้ร่วมกับสภาพแวดล้อมของโรงแรมอิสระแล้ว มันก็น่าจะช่วยให้ผู้เล่นที่ใช้มันปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาได้ในเปอเซ็นต์ค่อนข้างมาก ซึ่งนี่มันก็จะช่วยปรับปรุงทั้งร่างกาย สกิล และเวทย์ของผู้เล่นได้อย่างมาก
ซึ่งเมื่อได้ยินคำแนะนำของซือเฟิงนั้นผู้อาวุโสโกลด์ และบลูเรนโบว์ก็เลิกดื้อแพ่งทันที เพราะท้ายที่สุดแล้วซือเฟิงก็พูดมีประเด็นจริงๆ หากพวกเขาไปในสภาพนี้ และไม่สามารถรับพลังแปลกๆที่รุนแรงในหอคอยเทพโบราณได้ แผนของพวกเขาทั้งหมดที่อุตส่าห์ทำมาจะจบสิ้นแน่นอน
โดยรวมแล้วทั้งทีมได้พักเป็นเวลานานกว่าหนึ่งชั่วโมง ซึ่งเมื่อพวกเขารู้สึกสดชื่นแล้ว ผู้อาวุโสโกลด์และบลูเรนโบว์ก็ได้รีบไปยังหอคอยเทพโบราณพร้อมกับสมาชิกกองกำลังหลักของกิลพวกเขา
เมื่อถึงเวลาที่ทั้งหมดเดินทางมาถึง มันก็ผ่านไปอีกสี่ชั่วโมงแล้ว ….
หอคอยเทพโบราณนั้นมีทั้งหมดเจ็ดชั้น และสูงกว่าหนึ่งพันเมตร โดยผู้เล่นของมหาอำนาจต่างๆที่ทำหน้าที่ป้องกันทางเข้าอยู่นั้นไม่ได้พยายามจะหยุดทีมของบลูเรนโบว์และผู้อาวุโสโกลด์เมื่อพวกเขามาถึง พวกเขาเพียงแค่เปิดทางและแจ้งให้ทีมพันธมิตรหัวใจปีศาจรู้ถึงการมาถึงของทีมทั้งสองกิลเท่านั้น
“ผู้อาวุโสฮาร์ท คนของเราได้แจ้งมาว่าตอนนี้สมาชิกของดาร์ครัปโซดี้และเดียตี้โซไซตี้ได้ปรากฎตัวขึ้นแล้ว และพวกเขาก็ได้เข้ามาภายในหอคอยแล้ว” แรนเจอร์แห่งความมืดขั้นสามเดินเข้ามารายงานฟิวเรียสฮาร์ท
“ในที่สุดพวกเขาก็ตัดสินใจที่จะปรากฎตัวงั้นหรอ ?” รายงานนี้ทำให้ฟิวเรียสฮาร์ทประหลาดใจ “พวกเขาส่งคนมาเท่าไหร่ ? แล้วสมาชิกสภาสิบแปดปีกอยู่กับพวกเขาไหม ?”
ทีมของพวกเขานั้นสามารถจะเอาชนะบอสตัวที่สามของชั้นหนึ่งได้แล้ว และพวกเขาก็ได้ตำแหน่งของบอสตัวสุดท้ายมาแล้ว ดังนั้นเขาจึงพบว่ามันน่าประหลาดใจมากๆที่ทั้งสองกิลพึ่งจะปรากฎตัวในตอนนี้ และพวกเขาก็ควรจะนำพันธมิตรของพวกเขามาด้วยเพื่อให้พวกเขาสามารถตามทันความก้าวหน้าของทีมพันธมิตรหัวใจปีศาจได้ทัน
“มากกว่าสองร้อยคนเล็กน้อย และเราไม่เห็นสมาชิกของสภาสิบแปดปีกหรือผู้เล่นจากโลกภายนอกมากับพวกเขาเลย” แรนเจอร์แห่งความมืดรายงาน
“ห้ะ ? นี่พวกเขาไม่หลงตัวเองเกินไปหน่อยหรอถึงพาผู้เล่นมาแค่นี้ ?” ชั่วขณะหนึ่งฟิวเรียสฮาร์ทนั้นสงสัยว่าเขาได้ยินแรนเจอร์แห่งความมืดรายงานผิดรึปล่าว
ทีมพันธมิตรของหัวใจปีศาจนั้นได้ส่งผู้เชี่ยวชาญขั้นสามมามากกว่าหนึ่งพันคนเพื่อโอกาสในการจะพิชิตการทดสอบในชั้นหนึ่งของหอคอยเทพโบราณให้ได้ !!
แล้วนี่มันเรื่องตลกอะไรกันทั้งสองกิลถึงนำผู้เชี่ยวชาญขั้นสามมามากกว่าสองร้อยคนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ?
“เราควรส่งสายลับไปสืบหาข้อมูลเพิ่มเติมไหม ?” แรนเจอร์แห่งความมืดกล่าวถาม
“ไม่จำเป็น นี่พวกเขาคิดว่าที่นี่เป็นสนามเด็กเล่นรึไงถึงส่งคนมาแค่นี้ ?” ฟิวเรียสฮาร์ทกล่าวพลางส่ายหัวและหัวเราะเบาๆ “ปล่อยให้พวกเขาดิ้นรนไป ฉันอยากจะให้พวกเขารู้ว่าพวกเขาโง่แค่ไหนที่คิดจะพึ่งพาสภาสิบแปดปีก !!! และเมื่อเราทำทุกอย่างที่นี่เรียบร้อย พวกเขาก็จะต้องเสียใจกับการตัดสินใจของพวกเขา !!!”
เมื่อเป็นดังนี้ฟิวเรียสฮาร์ทจึงสั่งให้ทีมของเขามุ่งหน้าไปยังบอสตัวสุดท้าย โดยละความสนใจจากดาร์ครัปโซดี้และเดียตี้โซไซตี้อย่างสิ้นเชิง
ในระหว่างนั้นสมาชิกกองกำลังหลักของดาร์ครัปโซดี้และเดียตี้โซไซตี้ก็มาหยุดอยู่ตรงที่หน้าประตูชั้นหนึ่งของหอคอยเทพโบราณ
“เอาล่ะ เริ่มการโจมตี !!!” บลูเรนโบว์ตะโกนพลางมองไปยังสมาชิกในทีมทั้งหมด