Reincarnation Of The Strongest Sword God - ตอนที่ 2608
ตอนที่ 2608 การต่อสู้ระหว่างสัตว์ประหลาด
สนามประลองทั้งหมดนั้นเงียบลงไปชั่วขณะ เมื่อได้ยินคำพูดของไวโอเล็ตคลาวด์ และทุกคนก็จ้องมองไปยังเด็กสาวเครอลิคด้วยความประหลาดใจ “นี่เธอเบื่อกับการมีชีวิตอยู่แล้วงั้นหรอ ?”
ซินฟูลเฟรมนั้นเต็มไปด้วยความไม่พอใจอย่างชัดเจนจากการกระทำของสภาสิบแปดปีก ซึ่งมันสังเกตเห็นได้ชัดเลยจากท่าทีของเขา และถ้าไม่ใช่เพราะเขารับหน้าที่เป็นผู้จัดการแข่งขันนี้ ทุกคนก็มั่นใจว่าเขาคงจะพุ่งเข้าใส่ไวโอเล็ทคลาวด์และฆ่าเธอไปนานแล้ว
แม้ว่านี่จะเป็นเพียงการแข่งขันต่อสู้ และไม่มีโทษใดๆจากการตาย แต่ซินฟูลเฟรมก็ยังคงจะสามารถฆ่าคู่ต่อสู้ของเขาได้ด้วยทุกวิธีที่เขาต้องการ ในขณะเดียวกันมันก็มีหลายวิธีที่เขาสามารถจะใช้เพื่อทำให้สภาสิบแปดปีกอับอายได้
แบล๊คเฟรมกำลังพยายามจะทำอะไรกัน ?! นั่นคือซินฟูลเฟรมเลยนะ !! เราจะสูญเสียการสนับสนุนของเหล่าผู้อาวุโสและผู้อาวุโสสูงสุดที่วางตัวเป็นกลางไปแน่นอน หากไปทำให้ซินฟูลเฟรมโกรธ !!! และถ้าไม่มีพวกเขา เรื่องของวอร์นเดอร์จะไปเจรจากับบริษัทซีอุสได้ยังไง ?! หลงหวู่ชางรู้สึกกระวนกระวายใจ ขณะที่เขามองไปยังซือเฟิงซึ่งยังคงนั่งอยู่อย่างสงบในที่นั่งของตัวเอง
การที่ไซเร้นวอร์นเดอร์พัฒนามาได้ถึงขนาดนี้นั้นมันทำให้หลงหวู่ชางประหลาดใจมากๆ อย่งไรก็ตามหากพวกเขาต้องการจะเปลี่ยนความคิดของบริษัทซีอุส พวกเขาก็จะไม่สามารถทำได้อย่างแน่นอน หากพวกเขาไม่ได้รับการสนับสนุนจากเหล่าผู้อาวุโสและผู้อาวุโสสูงสุดที่วางตัวเป็นกลางของหอการค้าอาซู ในขณะเดียวกันซินฟูลเฟรมก็อาจกล่าวได้ว่าเป็นตัวแทนของผู้อาวุโสและผู้อาวุโสสูงสุดที่วางตัวเป็นกลาง
ด้วยการส่งเครอลิคไปต่อสู้กับซินฟูลเฟรม สภาสิบแปดปีกไม่เพียงแต่จะต้องพ่ายแพ้อย่างน่าอัปยศด้วยมือของซินฟูลเฟรมเท่านั้น แต่พวกเขายังจะไปทำให้ชายคนนี้ขุ่นเคืองด้วย ซึ่งนี่มันจัดว่าโง่เขลามากๆ !!!
ในขณะนี้นับประสาอะไรกับหลงหวู่ชาง แม้แต่สมาชิกของตระกูลผู้ถือหุ้นของหอการค้าอาซูหลายคนก็ยังพูดไม่ออกกับสถานการณ์นี้
แม้ว่ามันจะดูน่าอับอายนิดหน่อย แต่แบล๊คเฟรมก็สามารถจะก้าวขึ้นมาต่อสู้ได้ด้วยตัวเองอย่างชัดเจน และในกรณีนี้นั้นซินฟูลเฟรมก็จะได้สนุกไปกับการต่อสู้ โดยเมื่อการต่อสู้จบลง เขาก็จะเลือกที่จะสนับสนุนไซเร้นวอร์นเดอร์ไม่มากก็น้อยแน่นอน อย่างไรก็ตามตอนนี้สภาสิบแปดปีกกับทำตัวหยิ่งผยองด้วยการส่งเครอลิครุ่นเยาว์ออกไป กิลจะต้องเหนื่อยกับการใช้ชีวิตแล้วแน่นอน ….
ในขณะที่ทุกคนกำลังอธิษฐานให้กับไวโอเล็ตคลาวด์อย่างเงียบๆ ซินฟูลเฟรมก็ได้เดินเข้าใกล้เครอลิครุ่นเยาว์
“คุณโจมตีมาก่อนได้เลย !!! ฉันจะให้โอกาสคุณเพียงแค่ครั้งเดียว !!! ให้ฉันดูหน่อยว่าคุณแข็งแกร่งอย่างที่วอร์นเดอร์พูดไหม !!! ถ้่าคุณแค่เสแสร้งหรือไม่ได้เป็นอย่างที่วอร์นเดอร์พูด ฉันจะให้คุณได้ลิ้มรสกับนรก !!!” ซินฟูลเฟรมพูดอย่างเย็นชา ขณะที่เขามองไปยังไวโอเล็ตคลาวด์
“ฉันโจมตีก่อนได้งั้นหรอ ?” ไวโอเล็ตคลาวด์ถามอย่างประหลาดใจ
“ถูกต้อง !! หากการแสดงของคุณไม่เป็นไปตามที่ฉันคาดหวัง ฉันจะทำให้คุณเสียใจอย่างถึงที่สุดเลยที่มายืนอยู่บนเวทีนี้ !!!” ซินฟูลเฟรมกล่าวยืนยันพลางพยักหน้า
“งั้นฉันก็จะโจมตีจริงๆแล้วนะ …” ไวโอเล็ตคลาวด์กล่าวแบบไม่แน่ใจเพื่อขอคำยืนยันอีกครั้ง
“หยุดพูดได้แล้วน่า !!! ฉันบอกให้คุณโจมตีมาก่อนก็ทำเถอะ !!! นี่เป็นเพียงโอกาสเดียวของคุณ ….”
หลังจากที่ไวโอเล็ตคลาวด์ขอคำยืนยันซ้ำๆ ซินฟูลเฟรมก็แทบจะหมดความอดทนกับเรื่องนี้ อย่างไรก็ตามก่อนที่ซินฟูลเฟรมจะทันได้พูดจบดี ไวโอเล็ตคลาวด์ก็หยิบคทาของเธอออกมาและเริ่มร่ายเวทย์
และแทบจะทันทีโดยมีไวโอเล็ตคลาวด์เป็นศูนย์กลาง วงเวทย์สีเงินขนาดใหญ่กว่าปกติราวสองเท่าก็ปรากฎขึ้นบนเวทีและดึงดูดมานาจำนวนมหาศาลเข้าไปหา และหลังจากปรากฎการณ์นี้ดำเนินต่อไปเป็นเวลาสามวินาที มานาโดยรอบภายในสถานที่จัดงานก็เบาบางลงอย่างเห็นได้ชัด
อย่างไรก็ตามก่อนที่ใครจะทันได้ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้ ดาบเงายี่สิบสองเล่มก็ปรากฎขึ้นรอบๆไวโอเล็ตคลาวด์และหมุนรอบตัวเธอ ซึ่งมันทำให้เธอดูเหมือนเทพธิดาแห่งความมืดที่จุติลงมา แถมเครอลิคยังแผ่ออร่าที่น่ากลัวที่เทียบได้กับมอนสเตอร์ระดับเทพนิยายในเลเวลเดียวกันออกมาด้วย และทุกคนที่สัมผัสได้ถึงออร่านี้นั้นก็มีค่าสถานะพื้นฐานลดลงอย่างรวดเร็ว
“นี่เธอเป็นมอนสเตอร์รึไงกัน ?!”
“นี่มันเป็นสกิลโดเมนประเภทไหนกัน ?! นอกเหนือจากค่าสถานะพื้นฐานแล้ว ฉันยังรู้สึกได้ว่าร่างกายทางกายภาพของฉันนั้นถูกปราบปรามอย่างหนัก !! ซึ่งมันราวกับว่าพื้นที่ทั้งหมดนี้ปฎิเสธถึงการมีอยู่ของฉัน !!!”
ทุกคนล้วนตกตะลึงกับสถานการณ์นี้
ท้ายที่สุดแล้วไวโอเล็ตคลาวด์นั้นไม่ได้ดูเหมือนเครอลิคศักสิทธิ์แล้วในตอนนี้ แต่เธอเป็นเหมือนกับศูนย์รวมแห่งความมืดมากกว่า ยิ่งไปกว่านั้นทุกคนยังสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนเลยว่าพื้นที่ภายในเวทีทั้งหมดนั้นมีศูนย์กลางอยู่รอบตัวเธอ ซึ่งมันก็ราวกับว่าเธอสามารถตัดสินชีวิตและความตายของทุกสิ่งภายในสถานที่นี้ได้ด้วยการใช้แค่ความคิด
ก่อนที่ทุกคนจะสามารถตอบสนองต่อสถานการณ์นี้อย่างถูกต้อง ไวโอเล็ตคลาวด์ ก็มองไปที่ซินฟูลเฟรมซึ่งยืนอยู่ห่างออกไปสี่สิบหลา และกล่าวว่า “ฉันจะเริ่มแล้วนะ …”
หลังจากพูดจบ เธอก็โบกคทาของเธอเบาๆสั่งให้ดาบเงาทั้งยี่สิบสองเล่มแปรเปลี่ยนเป็นหลุมดำพุ่งเข้าหาซินฟูลเฟรม
เทคนิคการต่อสู้ระดับทองแดง Spatial Smash!
ในช่วงเวลาต่อมาทุกสิ่งที่หลุมดำเคลื่อนผ่านก็แปรเปลี่ยนเหลือแต่เพียงความว่างเปล่าทั้งหมด พลังทำลายล้างของหลุมดำนั้นเป็นสิ่งที่แม้แต่มอนสเตอร์ระดับเทพนิยายในเลเวลเดียวกันก็ยังไม่สามารถจะรับได้เลย
เทคนิคการต่อสู้ระดับทองแดง ?! เป็นไปได้ยังไง ?! เมื่อต้วนฮันซานเห็นฉากนี้เขาก็อ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง
มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะแสดงพลังในมาตราฐานของขั้นสี่ออกมาได้ โดยอาศัยแค่เวทย์ขั้นสามทั่วไป ดังนั้นคำอธิบายเดียวสำหรับตอนนี้ก็คือไวโอเล็ตคลาวด์ได้ใช้เทคนิคการต่อสู้ระดับทองแดง แทนที่จะเป็นเทคนิคการต่อสู้ขั้นสูง เพราะมันมีเพียงแต่เทคนิคการต่อสู้ระดับทองแดงเท่านั้นที่จะทำให้ผู้เล่นสามารถแสดงพลังก้าวข้ามขั้นได้
อย่างไรก็ตามการจะเรียนรู้เทคนิคการต่อสู้ระดับทองแดงให้ได้นั้นมันก็ยากเกินไป ในความเป็นจริงผู้เชี่ยวชาญขอบเขตโดเมนส่วนใหญ่นั้นยังไม่สามารถจะเรียนรู้และใช้เทคนิคการต่อสู้ระดับทองแดงได้ด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตามตอนนี้เด็กสาวที่อายุน้อยมากที่อยู่แค่ในขอบเขตอนันต์เท่านั้นกับสามารถใช้เทคนิคการต่อสู้ระดับทองแดงได้ นี่มันเป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อมากๆ
ในขณะนี้โซริทารี่ฟรอสต์เองก็ประหลาดใจกับฉากนี้เช่นกัน
เทคนิคการต่อสู้ระดับทองแดง !!
จนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่สามารถเรียนรู้และใช้เทคนิคการต่อสู้ระดับทองแดงได้เยแม้แต่เทคนิคเดียว แต่เด็กสาวตัวเล็กๆคนนี้ที่อายุน้อยกว่าเขามากกับสามารถใช้มันได้ ยิ่งไปกว่านั้นไวโอเล็ตคลาวด์ยังใช้เทคนิคการต่อสู้ระดับทองแดงของเธอได้อย่างสมบูรณ์แบบ ตอนนี้ทางเลือกเดียวของซินฟูลเฟรมคือรับการโจมตีของเธอโดยตรง มันไม่มีทางที่เขาจะหลบการโจมตีของเธอได้
“ยอดเยี่ยม !!!”
ซินฟูลเฟรมอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา เมื่อเห็นหลุมดำกำลังใกล้เข้ามา และตอนนี้มันก็เป็นครั้งแรกที่ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ และในช่วงเวลาต่อมาท่าทีของเขาก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้น ก่อนที่เขาจะชักดาบยาวสองเล่มที่เขาสะพายอยู่ที่หลังออกจากฝักมารวมกันเข้าเป็นดาบใหญ่อย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็เหวี่ยงดาบใหญ่นี้ไปยังพื้นที่ว่างตรงหน้าของเขา
สกิลต้องห้ามขั้นสาม Space Tearing Blade!
เทคนิคการต่อสู้ขั้นสูง Quadruple Phantoms!
ในช่วงเวลาต่อมา มานาในจำนวนที่น่ากลัวก็พุ่งออกมาจากดาบใหญ่ และในขณะที่ซินฟูลเฟรมเหวี่ยงดาบใหญ่นั้นร่างของเขาก็แยกออกเป็นสี่ร่าง และการโจมตีของเขาก็พุ่งเข้าใส่พื้นที่ตรงหน้าเขา
ตู้ม !!
เมื่อการโจมตีของทั้งสองปะทะกัน มันก็เกิดแรงสั่นสะเทือนที่ทรงพลังจนสั่นสะเทือนไปทั่วสนามประลอง และผลของคลื่นกระแทกจากการปะทะกันของทั้งสองนี้ก็ทำให้ผู้เล่นที่ยืนอยู่ด้านหลังของเวทีนั้นต้องถูกบังคับให้ถอยไปหลายก้าวเลย หลังจากนั้นหลุมอุกกาบาติที่มีรัศมีกว้างสามสิบหลาก็ปรากฎขึ้นบนเวทีที่ถูกปูพื้นด้วยแร่มานา
แต่สิ่งที่สร้างความประหลาดใจให้กับทุกคนมากที่สุดเลยก็คือ ซินฟูลเฟรม และไวโอเล็ตคลาวด์นั้นไม่ได้รับบาดเจ็บจากการปะทะกันเลย
“อึก !! นี่เธอเป็นใครกัน ?! เธอสามารถจะหยุดการโจมตีเต็มกำลังจากผู้อาวุโสเฟรมได้ !!!”
“วอร์นเดอร์พูดความจริงงั้นหรอ ?!”
สมาชิกของตระกูลผู้ถือหุ้นหลายรายของหอการค้าอาซูต่างเต็มไปด้วยความตกตะลึง เมื่อเห็นว่าไวโอเล็ทคลาวด์ไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ การต่อสู้ครั้งนี้มันไม่เหมือนการแข่งขันระหว่างผู้เล่นอีกต่อไป มันเหมือนกับการต่อสู้ระหว่างสัตว์ประหลาดยักษ์สองตัวมากกว่า ทุกการกระทำของพวกเขานั้นแทบจะทำให้เกิดรอยแยกมิติ และเปลี่ยนภูมิประเทศโดยรอบของพวกเขาไปเลย
เป็นไปไม่ได้ ?! นี่สภาสิบแปดปีกเป็นกิลแบบไหนกัน ?!
เมื่อต้วนฮันซานเห็นไวโอเล็ทคลาวด์ใช้ดาบเงายี่สิบสองเล่มเข้าโจมตีซินฟูลเฟรมอย่างต่อเนื่อง และบังคับให้เขาต้องป้องกันตลอดเวลา ความตกตะลึงมันก็เริ่มเข้าปกคลุมเต็มไปหมดในหัวใจเขา
ก่อนหน้านี้ต้วนฮันซานนั้นมองว่าสภาสิบแปดปีกเป็นเพียงแค่กิลที่ต้องการได้รับการสนับสนุนจากหอการค้าอาซู อย่างไรก็ตามพอเขาได้มาเห็นไซเร้นวอร์นเดอร์ กับไวโอเล็ตคลาวด์ เขาก็เริ่มรู้สึกว่าเขาคิดผิด รุ่นเยาว์ที่เก่งกาจขนาดนี้นั้นหาได้ยากมากๆ แม้แต่ในซุเปอร์กิล
นี่เป็นเรื่องจริงอย่างยิ่งโดยเฉพาะกับไวโอเล็ทคลาวด์ ด้วยการใช้ดาบเงายี่สิบสองเล่มโจมตีซินฟูลเฟรมเรื่อยๆ เธอก็สามารถที่จะรักษาระยะห่างระหว่างเธอกับซินฟูลเฟรมไว้ได้สี่สิบหลาตลอดเวลา ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่แม้แต่ต้วนฮันซานยังทำไม่ได้ แต่เด็กสาวคนหนึ่งที่มีอายุน้อยมากจากสภาสิบแปดปีกกับสามารถทำได้
อย่างไรก็ตามเมื่อการต่อสู้บนเวทีทวีความเข้มข้นขึ้น ความตึงเครียดและความกดดันระหว่างทั้งสองฝ่ายก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะกับไวโอเล็ทคลาวด์ เธอเริ่มควบคุมดาบเงายี่สิบสองเล่มช้าลงไปมาก
“ช่างน่าเสียดาย ความเข้าใจในขอบเขตจิตวิญญาณของคุณนั้นเหนือกว่าฉันอย่างชัดเจน และคุณก็ได้ให้แรงบันดาลใจมากมายกับฉัน แต่น่าเสียดายที่การรับรู้ทางจิตของคุณยังอ่อนแอเกินไป คุณไม่สามารถจะใช้ประโยชน์จากความเข้าใจที่เหนือกว่าเพื่อเพิ่มพลังในการต่อสู้ของคุณให้เหมาะสมได้ นอกจากนี้คุณยังไม่สามารถลดปริมาณการผลาญค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจของตัวเองได้ ซึ่งในอัตรานี้คุณจะยืนหยัดอยู่ได้อีกไม่เกินสิบวินาทีก่อนที่ค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจของคุณจะหมดลง” ซินฟูลเฟรมแสดงความเห็น ขณะที่เขาป้องกันการโจมตีที่เข้ามาอย่างไม่หยุดยั้งของไวโอเล็ตคลาวด์ “และนี่มันก็ไม่ใช่ผลลัพธ์ที่ฉันอยากเห็นเช่นกัน !!! เดิมทีฉันตั้งใจจะเก็บไพ่ใบนี้ไว้ใช้กับการแข่งขันกับสองคนนั้น แต่ตอนนี้ฉันเปลี่ยนใจแล้ว ฉันจะให้คุณได้ลองมันก่อน !!!”
หลังจากพูดจบ ซินฟูลเฟรมก็เปลี่ยนสเต็ปเท้าของเขา และทันใดนั้นร่างของเขาก็แยกออกเป็นสิบสองร่าง
เทคนิคสเต็ปเท้าระดับทองแดง Shadowprey!
ในช่วงเวลาต่อมาร่างแยกทั้งสิบสองร่างของซินฟูลเฟรมก็ทำการช่วยกันป้องกันการโจมตีของไวโอเล็ตคลาวด์ไว้ได้ทั้งหมด และเธอก็ไม่สามารถจะทำอะไรได้เลย ในขณะที่เขากำลังขยับเข้าหาเธอเรื่อยๆ
อย่างไรก็ตามเมื่อซินฟูลเฟรมขยับเข้าใกล้ไวโอเล็ตคลาวด์มากขึ้นเรื่อยๆ ดาบเงารอบตัวของเธอก็หายไป ซึ่งจากมุมมองของผู้ชมนั้นมันก็ดูเหมือนกับว่าเธอเลือกจะยอมแพ้ และรอการมาถึงของซินฟูลเฟรมอย่างเงียบๆ
“เกิดอะไรขึ้น ? เธอยอมแพ้แล้วงั้นหรอ ?”
“นั่นก็สมเหตุสมผลนะ ใครจะไปหยุดการโจมตีนั่นได้ ความจริงที่ว่าเธอมาได้ถึงขนาดนี้นั้นมันก็จะทำให้เธอติดอันดับหนึ่งในรุ่นเยาว์ที่เก่งกาจที่สุดใน God domain ได้แน่นอน”
เมื่อกลุ่มผู้ชมเห็นไวโอเล็ตคลาวด์ละทิ้งการต่อสู้ของเธอ ไม่มีใครนั้นล้อเลียนหรือเลือกจะตำหนิที่เธอทำแบบนั้นเลย มันเป็นเรื่องปกติมากที่ไวโอเล็ตคลาวด์จะประสบกับความพ่ายแพ้ เพราะท้ายที่สุดแม้แต่ในหมู่นักเล่นเกมเสมือนจริงรุ่นเก่า มันก็มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถจะเอาชนะซินฟูลเฟรมได้
เมื่อซินฟูลเฟรมอยู่ห่างจากไวโอเล็ตคลาวด์ราวสิบห้าหลา เครอลิคก็ถอนหายใจ และกระแทกคทาของเธอลงกับพื้น
“ทุกอย่างเป็นอย่างที่หัวหน้ากิลพูดจริงๆ ฉันไม่สามารถเทียบกับคุณได้เลยในแง่ของมาตราฐานการต่อสู้ และฉันก็ยังไม่สามารถจะกลบช่องว่างนั้นได้ แม้จะปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาของฉันได้หนึ่งร้อยเปอเซ็นต์แล้วก็ตาม และดูเหมือนว่าตอนนี้ฉันจะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องทุ่มเทหมดทุกอย่างที่มีเช่นกัน นี่คือไพ่ลับของฉันที่แม้แต่หัวหน้ากิลของฉันก็ยังไม่รู้ !!!”
ทันใดนั้นร่างกายของไวโอเล็ตคลาวด์ก็เริ่มแผ่มานาที่หนาแน่นออกมามากกว่าเดิมอย่างมาก และตอนนี้มันก็สามารถเห็นได้ชัดเลยว่าความหนาแน่นของมานาเธอนี้เหนือกว่าไซเร้นวอร์นเดอร์หลายเท่า ในขณะเดียวกันเอฟเฟคการปราบปรามจากโดเมนของเครอลิคก็ยิ่งน่ากลัวขึ้นไปอีก และมันก็ทรงพลังมากซะจนลดร่างแยกของซินฟูลเฟรมจากสิบสองร่างไปเหลือแปดร่าง
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันนี้ทำให้ทุกคนที่เฝ้าดูอยู่ต่างพูดไม่ออก
“นี่เธอยังปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาของเธอได้ไม่ครบหนึ่งร้อยเปอเซ็นต์งั้นหรอ ? ทำไมความหนาแน่นของมานาจากร่างเธอถึงยังคงเพิ่มขึ้นกัน ?”
“เป็นไปได้ไหมว่าก่อนหน้านี้เธอไม่ได้ใช้ร่างมานาในการต่อสู้น่ะ ?”