Reincarnation Of The Strongest Sword God - ตอนที่ 2614
ตอนที่ 2614 ดินแดนลับโบราณ และสิทในการเลือก
“ผู้เชี่ยวชาญหนึ่งร้อยคนที่ปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาได้หนึ่งร้อยเปอเซ็นต์แล้วงั้นหรอ ?!”
ความเงียบเข้าปกคลุมไปทั่วห้อง หลังจากได้ฟังคำถามของซือเฟิง แม้แต่ทอร์เร้นตอนนี้ก็จ้องมองมายังซือเฟิงอย่างเฉียบคมมากขึ้นเพื่อพยายามตรวจจับการโกหกของนักดาบ
“นี่คุณกำลังพูดความจริงงั้นหรอ ?” ทอร์เร้นถาม
มหาอำนาจต่างๆล้วนต้องการผู้เชี่ยวชาญที่สามารถปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาได้หนึ่งร้อยเปอเซ็นต์แล้วกันอย่างเร่งด่วน เพราะมันมีเพียงผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้เท่านั้นที่จะสามารถรับมือกับสภาพแวดล้อมและมอนสเตอร์ภายในดันเจี้ยนเลเวลมากกว่าหนึ่งร้อยขนาดใหญ่พิเศษ หรือดินแดนลับที่แสนอันตรายได้
แต่น่าเสียดายที่ผู้เชี่ยชาญที่ปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาได้หนึ่งร้อยเปอเซ็นต์แล้วหนึ่งโหลหรือมากกว่านั้น มันจะไม่ทำให้ทีมมีข้อได้เปรียบมากนักในระหว่างการบุกโจมตี
อย่างไรก็ตามถ้าเป็นทีมผู้เชี่ยวชาญหนึ่งร้อยคนที่ปลดล๊อคศักยภาพร่างมานากันได้หนึ่งร้อยเปอเซ็นต์ทั้งหมดแล้ว มันก็จะเป็นสถานการณ์ที่แตกต่างกันออกไป ด้วยทีมหนึ่งร้อยคนแบบนี้ การบุกสถานที่พวกนี้จะเป็นไปได้แน่นอน และทีมดังกล่าวก็จะมีค่าอย่างยิ่งสำหรับไวโอเล็ตซอร์ดซึ่งให้ความสำคัญในเรื่องดินแดนลับโบราณอย่างมาก
ในขณะเดียวกันหลงหวู่ชางก็อ้าปากค้าง และอดไม่ได้ที่จะมองมายังซือเฟิง เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่ารากฐานของสภาสิบแปดปีกจะแข็งแกร่งจนน่ากลัวขนาดนี้
ผู้เชี่ยวชาญหนึ่งร้อยคนที่ปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาได้หนึ่งร้อยเปอเซ็นต์แล้ว !!!
ด้วยผู้เชี่ยวชาญหนึ่งร้อยคนนี้ มันจะไม่มีมหาอำนาจกล้ายั่วยุสภาสิบแปดปีกแน่นอน แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้มีอิทธิพลกับอำนาจอยู่มากนักในทวีปด้านตะวันตกก็ตาม และหากผู้เชี่ยวชาญทั้งหนึ่งร้อยคนนี้ตัดสินใจที่จะตอบโต้ในแผนที่ล่าหรือก่อความวุ่นวายในเมืองกิล มหาอำนาจที่ตกเป็นเป้าหมายก็จะต้องทนทุกข์ทรมาณแน่นอน
“แน่นอน ไม่งั้นฉันคงไม่กล้าจะมาที่นี่หรอก …” ซือเฟิงกล่าวยืนยันพลางพยักหน้า
แม้ว่าสภาสิบแปดปีกจะมีผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากกว่าสองโหลเพียงเล็กน้อยเท่านั้นในตอนนี้ที่สามารถปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาได้หนึ่งร้อยเปอเซ็นต์ แต่ตอนนี้ผู้เชี่ยวชาญขั้นสามขอบเขตการปรับแต่งของกิลหลายคนก็ได้เข้าถึงจำนวนแปดสิบห้าเปอเซ็นต์หรือสูงกว่าแล้ว เนื่องจากสภาพแวดล้อมที่พิเศษของเมืองที่สาบสูญ และอย่างมากสภาสิบแปดปีกก็จะต้องใช้เวลาอีกราวสามวันเท่านั้นเพื่อรวบรวมทีมหนึ่งร้อยคนแบบนี้ให้ครบ
การบุกโจมตีดินแดนลับโบราณนั้นไม่ได้จะเริ่มขึ้นในทันที ไวโอเล็ตซอร์ดนั้นต้องใช้เวลาในการเตรียมตัว เพราะหากไม่มีเครื่องมือที่จำเป็น ผู้เล่นก็จะไม่สามารถอยู่รอดได้นานนักในดินแดนลับโบราณ และเมื่อถึงเวลาที่เครื่องมือเหล่านั้นพร้อม สภาสิบแปดปีกก็ควรจะมีผู้เชี่ยวชาญตามที่สัญญาไว้แล้ว
ดังนั้นซือเฟิงจึงไม่คิดเลยว่าเรื่องที่เขาพูดเป็นเรื่องโกหก
ทอร์เร้นและผู้ฝึกสอนอีกสองคนเงียบลง หลังจากได้ยินคำตอบของซือเฟิง
“เราจะยอมรับข้อเสนอของเขาไหมผู้ฝึกสอนทอร์เร้น ? ดินแดนลับโบราณแห่งนี้นั้นมันมีลักษณะที่ค่อนข้างจะพิเศษมากๆ คุณก็รู้ว่าสภาพแวดล้อมภายในดินแดนลับนั้นมันน่าประหลาดใจและเหมาะกับการฝึกมากแค่ไหน แบล๊คเฟรมนั้นโลภเกินไป เราได้แบ่งช่องทางเข้าครึ่งหนึ่งให้กับไมโทโลจี้แล้ว หากเราแบ่งอีกหนึ่งร้อยช่องให้สภาสิบแปดปีก เราจะมีอำนาจน้อยกว่าไมโทโลจี้ในนั้น แม้ว่าเราจะรักษาจุดยืนของเราไว้ได้ก็ตาม” ไวน์ไฟเตอร์ถามทอร์เร้นผ่านแชททีม
ดินแดนลับโบราณแห่งนี้นั้นมันมีการจำกัดการเข้าอย่างเข้มงวด เพราะมันเป็นเหมือนเมืองโบราณที่แยกตัวออกจากโลกภายนอกมากกว่าดินแดนลับที่แท้จริง และตราบใดที่ผู้เล่นเอาชนะบอสในการทดสอบได้ พวกเขาก็จะกลายเป็นพลเมืองทั่วไปในเมือง และได้เพลิดเพลินไปกับสิทธิประโยชน์ที่เมืองมอบให้
ในการจะผูกขาดดินแดนลับโบราณแห่งนี้ ไวโอเล็ตซอร์ดได้เลือกจะร่วมมือกับไมโทโลจี้ และทั้งสองกิลก็ได้ส่งกองทัพขนาดใหญ่เข้ามาขวางทางเข้าไว้เพื่อป้องกันไม่ให้มหาอำนาจอื่นเข้ามา จากนั้นแต่ละกิลก็จะครอบครองครึ่งหนึ่งของช่องทางเข้าที่มีอยู่
ไวโอเล็ตซอร์ดนั้นก็พยายามอย่างมากแล้วกว่าจะได้รับสองร้อยช่องนี้มา แต่สภาสิบแปดปีกกับต้องการหนึ่งร้อยช่องเพื่อที่จะช่วยให้ซุเปอร์กิลเอาชนะบอสในการทดสอบ ซึ่งไม่ว่าใครจะมองอย่างไรสิ่งนี้มันก็ดูเหมือนไม่ใช่การทำธุรกรรมที่คุ้มค้าเลย และเมื่อเวลาผ่านไปอีกสองสัปดาห์ ไวโอเล็ตซอร์ดก็จะมีความสามารถในการจัดการบอสในการทดสอบได้ด้วยตัวเอง ซุเปอร์กิลจะไม่ต้องการความช่วยเหลือจากสภาสิบแปดปีกเลย
คริมสันสตาร์พยักหน้าเห็นด้วยกับความคิดของไวน์ไฟเตอร์
“หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม แม้ว่าข้อเสนอของคุณจะน่าดึงดูด แต่คุณก็เรียกร้องมามากเกินไป ฉันสามารถเสนอช่องทางเข้าให้คุณได้แค่สิบช่องเท่านั้น ไม่มีมากกว่านี้” ทอร์เร้นกล่าวหลังจากครุ่นคิด “แม้จะไม่ได้รับความช่วยเหลือจากคุณ แต่เราก็จะสามารถยึดดินแดนลับโบราณแห่งนี้ได้แน่นอน แม้ว่ามันจะต้องใช้เวลานานสักหน่อย”
“คุณอาจจะพูดถูก แต่เท่าที่ฉันได้ยินมาไวโอเล็ตซอร์ดนั้นไม่ใช่มหาอำนาจแค่กลุ่มเดียวที่ควบคุมดินแดนลับโบราณแห่งนี้ และเพียงแค่วันเดียวมันก็สามารถจะสร้างความแตกต่างได้มาก ฉันแน่ใจว่าคุณรู้เรื่องนี้ผู้ฝึกสอนทอร์เร้น ยิ่งไปกว่านั้นฉันยังไม่ได้ต้องการแค่ช่องทางเข้าหนึ่งร้อยช่อง ฉันต้องการสิทในการเลือกไอเทมชิ้นแรกที่ดรอปจากบอสในการทดสอบด้วย” ซือเฟิงประกาศอย่างเย็นชาพลางพยักหน้า
เมื่อได้ยินคำพูดล่าสุดของซือเฟิง หลงหวู่ชางก็อดไม่ได้ที่จะมองไปยังนักดาบอย่างพูดไม่ออก
นี่มันจะเรียกว่าการเจรจาความร่วมมือได้อย่างไร ?
ไวโอเล็ตซอร์ดได้ระบุอย่างชัดเจนแล้วว่ากิลนั้นสามารถที่จะประสบความสำเร็จได้แน่นอนไม่ว่าจะมีหรือไม่มีความช่วยเหลือจากสภาสิบแปดปีก แต่แทนที่จะลดความต้องการของเขาลง ซือเฟิงกับเรียกร้องมาขึ้นไปอีก นี่เขาบ้าไปแล้วรึไง ? …..
“คุณพูดถูก เราไม่ใช่กิลเดียวที่ควบคุมดินแดนลับโบราณในตอนนี้ แต่คุณก็ไม่สามารถไปเป็นพันธมิตรกับกิลอื่นได้นี่นา ? ฉันได้ยินมาว่าที่ผ่านสภาสิบแปดปีกทำให้ไมโทโลจี้ขุ่นเคืองอยู่บ่อยครั้งนี่นา …” ไวน์ไฟเตอร์ตอบโต้ด้วยรอยยิ้ม “ไวโอเล็ตซอร์ดนั้นเป็นตัวเลือกเดียวเท่านั้นของสภาสิบแปดปีกในการที่จะเป็นพันธมิตรด้วยได้ในเรื่องนี้ และเราก็ค่อนข้างใจกว้างอยู่แล้วที่นำเสนอถึงสิบช่องทางเข้าให้คุณ หากคุณไม่ชอบก็ไปหาวิธีอื่นเพื่อเข้าสู่ดินแดนลับโบราณแห่งนี้เอาแล้วกัน …”
ความขัดแย้งของสภาสิบแปดปีกกับไมโทโลจี้นั้นไม่ใช่ข่าวใหม่อีกต่อไป ….
ถ้าไมโทโลจี้ไม่ใช่แค่กิลอื่นๆกิลเดียวที่ควบคุมดินแดนลับโบราณอยู่ ไวโอเล็ตซอร์ดอาจจะยอมรับข้อเรียกร้องของซือเฟิง แต่อย่างไรก็ตามสำหรับไมโทโลจี้กับสภาสิบแปดปีกนั้น พวกเขาไม่มีวันจะทำงานร่วมกันได้แน่นอน
ซือเฟิงนั้นจะต้องฝันไปแล้ว หากเขาคิดว่าเขาจะได้รับทุกอย่างตามข้อเรียกร้อง ….
หลงหวู่ชางอดไม่ได้ที่จะส่ายหัว เมื่อเห็นซือเฟิงที่ยังคงยืนยันทุกอย่างตามคำเดิม
สภาสิบแปดปีกนั้นทรงพลังมากในทวีปด้านตะวันออก อันที่จริงต้องบอกว่ากิลนั้นทรงพลังมากซะจนมหาอำนาจหลายกลุ่มไม่สามารถจะโค่นกิลลงได้ด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตามความแข็งแกร่งของสภาสิบแปดปีกนั้นถูกจำกัดไว้ที่ทวีปด้านตะวันออกเท่านั้น และแม้ว่ากิลจะนำผู้เชี่ยวชาญที่ปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาได้หนึ่งร้อยเปอเซ็นต์แล้วมายังทวีปด้านตะวันตก แต่กิลก็จะทำได้มากที่สุดแค่สร้างความรำคาญให้กับมหาอำนาจต่างๆเท่านั้น กิลจะไม่สามารถเข้าถึงรากฐานของมหาอำนาจต่างๆได้ นี่ไม่ต้องพูดถึงว่ามหาอำนาจกลุ่มนั้นเป็นซุเปอร์กิลที่มีประสบการณ์โชกโชนอย่างไวโอเล็ตซอร์ดเลย
“จะเป็นอย่างไร ถ้าฉันบอกว่าฉันสามารถเข้าสู่ดินแดนลับแห่งนี้ด้วยตัวเองได้ ?” ซือเฟิงถามด้วยรอยยิ้ม
“เข้าสู่ดินแดนลับแห่งนี้ด้วยตัวเอง ?” คริมสันสตาร์อดไม่ได้ที่จะยิ้มเยาะเมื่อได้ยินคำพูดของซือเฟิง จากนั้นเธอก็กล่าวต่อว่า “หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม ฉันไม่ได้คิดจะดูแคลนคุณนะ แต่คุณรู้ไหมว่ากองกำลังที่ทั้งสองกิลของเราให้เข้าประจำการไว้ที่นั่นมีขนาดใหญ่แค่ไหน ? แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญหนึ่งพันคนที่สามารถปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาได้หนึ่งร้อยเปอเซ็นต์แล้วก็ยังจะไม่สามารถผ่านไปได้แน่นอน หากไม่ได้รับอนุมัติจากเรา”
เพื่อผูกขาดดินแดนลับโบราณแห่งนี้ ไมโทโลจี้และไวโอเล็ตซอร์ด ได้ตั้งเมืองกิลขึ้นรอบๆทางเข้าดินแดนลับโบราณ ซึ่งหากไม่สามารถทำลายเมืองกิลได้ มันก็จะไม่มีใครสามารถเข้าสู่ดินแดนลับโบราณได้แน่นอน
หลงหวู่ชางนั้นอดไม่ได้ที่จะพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของคริมสันสตาร์อย่างเงียบๆ เขานั้นเคยไปเยี่ยมชมเมืองเหล่านี้อยู่ ในตอนที่เขาทำการส่งผู้เล่นสายอาชีพของหอการค้าอาซูไปทำงานให้ไวโอเล็ตซอร์ด และการป้องกันของเมืองเหล่านี้ก็ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าเมืองที่เป็นสำนักงานใหญ่หลักของซุเปอร์กิลเลย
“เป็นอย่างนั้นหรอ ?” ซือเฟิงกล่าวอย่างสบายๆ ก่อนที่เขาจะถามต่อว่า “แล้วถ้าฉันมีเขาล่ะ ?”
เมื่อซือเฟิงกล่าวจบเขาก็นำม้วนคัมภีร์อัญเชิญองครักษ์ส่วนตัวออกมา และอัญเชิญแวร์ซายออกมา