Reincarnation Of The Strongest Sword God - ตอนที่ 2618
ตอนที่ 2618 มรดกโบราณ
“ก่อนหน้านี้ฉันเคยบอกว่าฉันต้องการได้รับสิทในการเลือกไอเทมชิ้นแรกที่ดรอปจากบอสในการทดสอบ ซึ่งเรื่องนั้นยังคงเหมือนเดิม แต่ฉันก็แน่ใจว่าคุณทราบดีว่าการทดสอบโหมดฮีโร่นั้นมันยากขนาดไหน ซึ่งสมาสมาชิกสภาสิบแปดปีกหนึ่งร้อยคนนั้นไม่เพียงพอที่จะเคลียร์มันได้แน่นอน” ซือเฟิงกล่าวอย่างใจเย็น “ดังนั้นฉันจึงต้องการความร่วมมืออย่างเต็มที่จากคุณ ฉันขอย้ำความร่วมมืออย่างเต็มที่จากคุณ ฉันจะเลือกสมาชิกทีมจู่โจมจากสองร้อยคนจากคนของฉัน และแน่นอนว่าคุณจะต้องเลือกสมาชิกส่วนที่เหลือมาจากคนของคุณให้ไปกับพวกเรา ซึ่งเมื่อเราเคลียร์การทดสอบได้ เราก็จะมารับช่องหนึ่งร้อยช่องไป ฉันแน่ใจว่านั่นจะเป็นการแลกเปลี่ยนที่เหมาะสม คุณคิดอย่างนั้นไหม ?”
เมื่อซือเฟิงพูดจบไวน์ไฟเตอร์ และคริมสันสตาร์ก็เต็มไปด้วยความตกตะลึง ทั้งสองคนไม่คิดเลยว่าซือเฟิงจะเรียกร้องมาแค่นี้
พวกเขาคิดว่านักดาบคนนี้นั้นจะเรียกร้องมากเกินไป เช่นการขอให้สมาชิกของไวโอเล็ตซอร์ดทำหน้าที่เป็นหัวหอกหลัก และพวกเขาก็ได้เตรียมใจที่จะดูสมาชิกของตัวเองตายลงหลายครั้งที่นั่นแล้ว อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่คิดมาก่อนเลยว่าซือเฟิงจะไม่ต้องการอะไรแบบนี้ แต่แค่เสนอให้สมาชิกกิลของพวกเขาเข้าร่วมการจู่โจมเท่านั้น
แม้แต่อควาโรส หลงหวู่ชาง และคนอื่นๆที่ยืนอยู่ใกล้ประตูห้องรับรองนั้นก็พูดไม่ออกเลย
ความต้องการสุดท้ายของซือเฟิงนั้นหมายความว่าสภาสิบแปดปีกจะทำงานทุกอย่างให้ไวโอเล็ทซอร์ดเลย นี่มันบ้ามากๆ ….
“นั่นจะไม่เป็นปัญหา เมื่อคุณต้องการจะเข้าไปเคลียร์การทดสอบโหมดฮีโร่เมื่อไหร่ ให้มาเลือกสมาชิกของเราด้วยตัวเองได้เลย ฉันอนุญาติ ในความเป็นจริงฉันต้องบอกว่าเราจะไม่กำหนดโทษหรือเรียกร้องใดๆด้วย หากสมาชิกของเราตายในระหว่างเรื่องนี้” ทอร์เร้นกล่าว แม้ว่าเขาจะรู้สึกประหลาดใจมากกกับความต้องการสุดท้ายของซือเฟิง แต่เขาก็พยักหน้าเห็นด้วย “อย่างไรก็ตามคนของเราจะเพิกเฉยต่อคำสั่งของคุณ หากคิดว่าการโจมตีเป็นไปไม่ได้ และคุณขอให้พวกเขาทิ้งชีวิตของตัวเองอย่างไร้ค่า …”
ไวโอเล็ตซอร์ดนั้นได้คัดเลือกและเตรียมทีมสำหรับการเคลียร์การทดสอบโหมดฮีโร่มาหลายครั้งแล้ว โดยพวกเขานั้นล้วนคัดแล้วคัดอีก เอาแต่สมาชิกระดับหัวกะทิเข้าทีมมาเตรียมพร้อม อย่างไรก็ตามความต้องการของซือเฟิงนั้นจะช่วยลดการบาดเจ็บล้มตายของสมาชิกไวโอเล็ตซอร์ดได้ ดังนั้นทอร์เร้นจึงเต็มใจจะเห็นด้วย และยอมรับ
“ถ้าเป็นแบบนั้น ฉันก็โอเค …” ซือเฟิงกล่าวพลางพยักหน้า “ให้เวลาฉันสามวัน !! ฉันจะพาคนของฉันไปที่ดินแดนลับโบราณภายในสามวัน !! ในขณะเดียวกันไซเร้นวอร์นเดอร์ตะอยู่ที่นี่เพื่อช่วยเหลือคุณ สามวันควรเพียงพอสำหรับคุณด้วยในการ
เตรียมเครื่องมือที่จำเป็น”
“สามวัน ?” ไวน์ไฟเตอร์ขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาไม่คิดเลยว่าซือเฟิงจะต้องการดำเนินการในเร็วๆนี้ เขาคิดว่าพวกเขาจะมีเวลาเตรียมตัวราวห้าวัน หรืออาจถึงสิบวัน เพราะท้ายที่สุดในตอนนั้นไวโอเล็ตซอร์ดอาจรวบรวมผู้เชี่ยวชาญได้มากพอที่จะเคลียร์การทดสอบในโหมดขั้นสูงได้เลย
“นั่นไม่มีปัญหา คุณสามารถจะเข้าสู่เมืองไวโอเล็ตไลท์ได้ในสามวัน เราจะรอคุณอยู่ที่นั่น …” ทอร์เร้นกล่าว
หลังจากนั้นซือเฟิงและทอร์เร้นก็ได้ทำการเซ็นสัญญากัน ซึ่งเนื้อหาระบุว่า สภาสิบแปดปีกจะเคลียร์การทดสอบโหมดฮีโร่ให้กับไวโอเล็ตซอร์ด และเพื่อแลกเปลี่ยนกัน ไวโอเล็ตซอร์ดจะมอบช่องทางเข้าสู่ดินแดนลับโบราณหนึ่งร้อยช่องให้กับสภาสิบแปดปีก แต่หากสภาสิบแปดปีกล้มเหลวกิลจะถูกห้ามไม่ให้เข้าสู่ดินแดนลับเป็นเวลาสิบวัน
เมื่อเซ็นสัญญาเรียบร้อย ซือเฟิงก็รีบออกจากเมืองไฟศักสิทธิ์ไปทันที ….
“หัวหน้ากิล เวลาสามวันมันไม่เพียงพอนะ เราไม่สามารถจะเคลื่อนย้ายผู้เล่นหนึ่งร้อยคนมายังทวีปด้านตะวันตกได้ด้วยซ้ำด้วยเวลาแค่นี้ …. แล้วทำไมหัวหน้าถึงไปเสนอให้คนของเราเข้าร่วมการจู่โจมเป็นจำนวนมากขนาดนั้นกัน ?” อควาโรสถามซือเฟิงที่ตอนนี้ทำหน้าที่บังคับอินทรีสายฟ้าอยู่
การสำรวจดินแดนลับนั้นมักมีอัตราการตายที่สูงมาก และแม้ว่าทีมจะสามารถเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ได้มากมาย แต่สภาสิบแปดปีกก็จะได้รับประโยชน์จากดินแดนลับนี้เพียงแค่เศษเสี้ยวเท่านั้น เมื่อเวลานั้นมาถึง …. ขณะที่ไวโอเล็ตซอร์ดนั้นจะเป็นผู้ได้รับประโยชน์สูงสุด ดังนั้นทำไมสภาสิบแปดปีกจะต้องไปเสียสละมากมายเพื่อซุเปอร์
กิลด้วย
หลงหวู่ชางก็คิดว่าการตัดสินใจของซือเฟิงนั้นค่อนข้างน่าแปลกใจเช่นกัน แต่เนื่องจากเขาไม่ได้เป็นสมาชิกสภาสิบแปดปีก เขาจึงไม่สามารถจะตั้งคำถามกับนักดาบได้
“ถ้าที่นี่เป็นแค่ดินแดนลับธรรมดา ฉันก็คงจะไม่เสนอความช่วยเหลือไปมากขนาดนั้นหรอก แต่นี่เรากำลังพูดถึงดินแดนลับที่มีอยู่มาตั้งแต่สมัยโบราณ ยิ่งไปกว่านั้นสิ่งที่เราต้องทำก็คือไปท้าทายการทดสอบของดินแดนนี้ด้วย ” ซือเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เธอคิดว่าการทดสอบนี้คืออะไรล่ะ ?”
“มันไม่ใช่การทดสอบความแข็งแกร่งที่จะให้รางวัลเมื่อเราเคลียร์ได้สำเร็จงั้นหรอ ?” อควาโรสตอบอย่างสับสนกับคำถามของหัวหน้ากิลของเธอ สิ่งนี้นั้นมันเป็นความรู้โดยทั่วไปใน God domain
“เธอพูดถูกแค่ครึ่งเดียว …” ซือเฟิงกล่าวพลางส่ายหัว
“ครึ่งเดียว ?” อควาโรสสับสนมากขึ้น “หัวหน้ากิลหมายความว่ายังไง ?”
“ในระหว่างการทดสอบนั้นมันยังเป็นเส้นทางการฝึกที่ยอดเยี่ยมมากๆ” ซือเฟิงอธิบาย “มันเป็นเรื่องจริงที่การทดสอบของ God domain นั้นจะทดสอบความแข็งแกร่งของผู้เล่น แต่ส่วนใหญ่ของเหตุผลในการดำรงอยู่ของพวกมันคือช่วยให้ผู้เล่นเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการทดสอบจากยุคโบราณ”
“รางวัลนั้นเป็นเพียงโบนัสสำหรับการเคลียร์การทดสอบ การได้เข้าสู่การทดสอบไปฝึกนั้นมีค่ามากกว่า ซึ่งการทดสอบเหล่านี้ประกอบไปด้วยมรดกโบราณที่สมบูรณ์ และแม้แต่การก้าวข้ามขีดจำกัดหนึ่งร้อยเปอเซ็นต์ของร่างมานาก็อาจจะเป็นไปได้ หากเราเข้าใจเพียงเศษเสี้ยวของมรดกเหล่านี้ ไม่งั้นเหตุใดมันจึงจะมีโอกาสในการท้าทายการทดสอบโหมดฮีโร่เพียงแค่ครั้งเดียวล่ะ ?”
ก่อนที่ผู้เล่นจะมาถึงขั้นสี่ และเริ่มสำรวจสถานที่อันตรายอย่างแท้จริงของ God domain ในชีวิตที่ผ่านมาของซือเฟิง ทุกคนล้วนคิดว่าการทดสอบพวกนี้ก็เป็นเหมือนกับดันเจี้ยนที่ไม่มีอะไรมาก
อย่างไรก็ตามเมื่อผู้เล่นมาถึงขั้นสี่ และเริ่มสำรวจสถานที่อันตรายมากขึ้น พวกเขาก็ได้พบกับการทดสอบโบราณหลายครั้ง ซึ่งในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญขั้นสี่เหล่านี้ทำการเคลียร์การทดสอบโบราณ พวกเขาก็มีความแข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และท้ายที่สุดทุกคนก็เริ่มตระหนักได้ถึงความสำคัญของการทดสอบใน God domain โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทดสอบโบราณที่นับเป็นโอกาสทองเลย
เนื่องจากไวโอเล็ตซอร์ดได้เลือกจะละทิ้งโอกาสแบบนี้ ดังนั้นซือเฟิงจึงไม่ได้รังเกียจเลยที่จะใช้ประโยชน์จากเรื่องนี้ และเขาก็เกือบจะล้มเหลวในการปกปิดอารมณ์ความตื่นเต้นของตัวเองจนทำให้ทอร์เร้นรู้ไปแล้ว …..
หากเป็นไปได้ เขาอยากจะอ้างสิทเหนือช่องทีมจู่โจมทั้งหมดเลยด้วยซ้ำ แต่เขาก็ไม่สามารถทำได้ เพราะท้ายที่สุดไวโอเล็ตซอร์ดจำเป็นต้องมีตัวแทนจำนวนหนึ่งมาเข้าร่วมกับพวกเขาด้วยเพื่อให้ตัวเองบรรลุเป้าหมาย
“หัวหน้ากิล หัวหน้ากำลังบอกว่าเราสามารถใช้โอกาสนี้ในการทะลุขีดจำกัดหนึ่งร้อยเปอเซ็นต์ของร่างมานาเราได้งั้นหรอ ?” ความตื่นเต้นปรากฎขึ้นในดวงตของอควาโรส ถ้าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง มันก็แสดงว่าพวกเขาถูกแจ๊คพอตเลย !!!
เธอนั้นเคยมีประสบการณ์การฝึกกับสิ่งที่มาจากสมัยโบราณมาแล้ว ซึ่งนั่นก็คือหอคอยพิเศษ ซึ่งก็ต้องขอบคุณผลการฝึกจากหอคอยนี้ที่ช่วยให้เธอสามารถต่อสู้กับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตโดเมนได้สบายๆ ทั้งๆที่เธออยู่ในขอบเขตอนันต์
หากเธอและสมาชิกคนอื่นๆของสภาสิบแปดปีกสามารถปรับปรุงมาตราฐานการต่อสู้และการรวบรวมมานาได้ พวกเขาก็จะมีโอกาสที่ง่ายขึ้นมากในการทำเควสเลื่อนขั้น ขั้นสี่
“มันจะง่ายขนาดนั้นได้ยังไงกัน ? เรามีโอกาสเพียงแค่ครั้งเดียวนะในการทดสอบนี้ ไม่ว่าพวกเราจะได้อะไรมากน้อยแค่ไหน มันก็ขึ้นอยู่กับพวกเรา” ซือเฟิงตอบพลางกลอกตา
ในหนึ่งหมื่นคนนั้น หากให้นับเป็นอัตราส่วน มันจะมีผู้เชี่ยวชาญขั้นสามไม่ถึงหนึ่งคนด้วยซ้ำที่สามารถทะลุขีดจำกัดหนึ่งร้อยเปอเซ็นต์ของร่างมานาได้ ดังนั้นสมาชิกสภาสิบแปดปีกที่ได้เข้าไปในการทดสอบนี้จะไปทำได้ทุกคนได้อย่างไรกัน ?
สิ่งนี้มันก็เหมือนกับหอคอยพิเศษ เพราะแม้มันจะมีกลไกการฝึกที่ยอดเยี่ยม แต่แกนหลักของสภาสิบแปดปีกหลายคนนั้นก็ยังไม่สามารถเข้าถึงขอบเขตที่แท้จริงได้
“ถึงกระนั้นนี่ก็เป็นโอกาสที่ดี อย่างน้อยเราก็มีโอกาสจะได้เติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่ง และบางคนในหมู่พวกเราก็อาจจะประสบความสำเร็จแบบไวโอเล็ตคลาวด์ หากโชคดีมากพอ …” อควาโรสกล่าวด้วยรอยยิ้ม
หลงหวู่ชางซึ่งนั่งอยู่ใกล้ๆเองก็ถูกล่อลวงอย่างมากเช่นกันเมื่อเขาได้แอบฟังการสนทนา เขาไม่เคยตระหนักเลยว่าการทดสอบจากยุคโบราณจะให้ประโยชน์แบบนี้
เขาได้เห็นความแข็งแกร่งของผู้ที่ปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาได้มากกว่าหนึ่งร้อยเปอเซ็นต์มาแล้ว ซึ่งนั่นก็คือไวโอเล็ตคลาวด์ และแม้เธอจะยังเข้าไม่ถึงขอบเขตโดเมน แต่เธอก็สามารถจะเอาชนะซินฟูลเฟรมได้
ในท้ายที่สุดหลงหวู่ชางก็ไม่สามารถจะควบคุมตัวเองได้ และเอ่ยปากถามซือเฟิงว่า “หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม คุณอยากขายช่องทางเข้าบางส่วนให้กับหอการค้าอาซูไหม ? แน่นอนว่าเราจะจ่ายในราคาที่เหมาะสม คุณสามารถระบุความต้องการของคุณมาได้เลย”