Reincarnation Of The Strongest Sword God - ตอนที่ 2620
ตอนที่ 2620 หอการค้าอาซูบ้าคลั่ง
สถานที่พักกิลหอการค้าอาซู ห้องประชุม :
โดยปกติแล้วการเรียกเหล่าผู้อาวุโสสูงสุดของหอการค้าอาซูมารวมตัวกันในสถานที่เดียวนั้นเป็นเรื่องยากมาก แต่ตอนนี้เกือบทุกคนนั้นมารวมตัวกันอยู่ที่ห้องประชุมชั้นบนสุด และพวกเขาก็ดูใกล้หมดความอดทนกันแล้ว
“เซี่ยงหลง ทำไมคุณถึงเรียกเรามารวมตัวกันที่นี่อย่างเร่งด่วน ? คุณก็รู้ว่าตอนนี้เรายุ่งแค่ไหน บรรดามหาอำนาจต่างๆล้วนกำลังค้นหาวิธีปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาของผู้เชี่ยวชาญกันอย่างบ้าคลั่ง ถ้าเราตามหลังตอนนี้ เราจะต้องทนทุกข์ทรมาณในภายหลังนะ …” หญิงสาวในชุดนักเวทย์สีขาวที่ดูสวยหรูบ่น
“ถูกต้อง หากเรื่องที่คุณเรียกพวกเรามารวมตัวกันไม่ใช่เรื่องสำคัญ คุณจะต้องจ่ายสำหรับการทำให้เราเสียเวลาแบบนี้ด้วย !!!” ชายวัยกลางคนที่ดูแข็งแกร่งและมีดวงตาสีแดงเข้มกับมีร่างที่ถูกปกคลุมไปด้วยอักษรรูนเรืองแสงพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของหญิงสาวในชุดนักเวทย์สีขาว
แม้จะเผชิญหน้ากับคำถามและท่าทีอันหยาบคายแบบนี้ แต่หลงเซี่ยงหลงนั้นก็ไม่ได้ระเบิดความโกรธออกมา
เขายอมให้สองคนนี้ไม่ใช่แค่เพียงเพราะว่าทั้งสองเป็นผู้อาวุโสสูงสุดในหอการค้าอาซู แต่เป็นเพราะความแข็งแกร่งของทั้งสองก็เป็นรองแค่ซินฟูลเฟรมเท่านั้น พวกเขาแข็งแกร่งกว่าหลงเซี่ยงหลง ผู้เชี่ยวชาญที่น่าเกรงขามที่สุดของตระกูลหลง และนอกจาก Triumphant Howl แล้ว สัตว์ประหลาดทั้งสามนี้ก็ยังนับเป็นตัวแทนของสมาชิกที่ไม่ได้มาจากตระกูลผู้ถือหุ้นหลักของหอการค้าอาซู
“ทำไม Triumphant Howl ถึงยังไม่มาที่นี่ ?” หลงเซี่ยงหลงถามพลางเหลือบไปมองที่นั่งว่างข้างๆทั้งสองคน
“คุณก็รู้จักเขาดี เว้นแต่ว่ากิลจะมีสงครามหรือเสี่ยงต่อการถูกทำลายล้าง เขาก็ไม่สนใจอะไรอย่างอื่นแล้วนอกจาการเก็บเลเวล” ชายที่มีดวงตาสีแดงเข้มกล่าว “ลืมเขาไปเถอะ ว่าแต่ทำไมคุณถึงเรียกเรามาที่นี่ ?”
“เอาล่ะ ไม่เป็นไร ในเมื่อตอนนี้มีผู้อาวุโสสูงสุดมารวมกันมากกว่าแปดสิบเปอเซ็นต์แล้ว เราก็น่าจะมีคนเพียงพอในการจะตัดสินใจแล้ว” หลงเซี่ยงหลงกล่าวพลางถอนหายใจ แม้ว่าสัตว์ประหลาดทั้งสามของหอการค้าอาซูจะทรงพลังและทรงอิทธิพลอย่างมาก แต่พวกเขาก็ล้วนรักอิสระมากเช่นกัน พวกเขาเกลียดข้อจำกัดและมักจะไม่ฟังตัวแทนของผู้ปกครองหอการค้า
“เกิดอะไรขึ้นล่ะครับคุณหลงเซี่ยงหลง ? นี่ถึงขั้นใช้คำสั่งระดมพลด่วนเหล่าผู้อาวุโสสูงสุด มีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้นกับไวโอเล็ตซอร์ดและไซเร้นวอร์นเดอร์งั้นหรอ ?”
ต้วนฮันซานกล่าวอย่างประชด ขณะที่ยิ้มเยาะและมองไปยังหลงเซี่ยงหลง
ต้วนฮันซานได้เรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องที่ซือเฟิงพาไซเร้นวอร์นเดอร์ไปที่สถานที่พักกิลของไวโอเล็ตซอร์ด หลังจากที่การแข่งขันระหว่างตระกูลของหอการค้าอาซูสิ้นสุดลง ด้วยความหวังที่จะยุติข้อพิพาทระหว่างตระกูลหลงกับซุเปอร์กิล
อย่างไรก็ตามเขาคิดว่าปัญหานี้คงไม่ได้รับการแก้ไขอย่างง่ายดายแน่นอน เพราะท้ายที่สุดชื่อเสียงของบริษัทซีอุสนั้นเสื่อมถอยลงไปมากๆ และหากตระกูลหลงปฎิเสธที่จะให้ความร่วมมือ มันก็จะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีสำหรับมหาอำนาจอื่นๆที่อยู่ภายใต้คำสั่งของบริษัท และแม้ว่าไซเร้นวอร์นเดอร์จะมีความสำคัญเพียงแค่เล็กน้อยต่อแผนการของบริษัทซีอุส แต่พวกเขาก็จะไม่ปล่อยให้เรื่องนี้จบลงง่ายๆแน่นอน
ในขณะเดียวกันสภาสิบแปดปีกก็ไม่มีอำนาจมากพอในทวีปด้านตะวันตกที่จะกดดันให้ไวโอเล็ตซอร์ดยอมถอยได้ ซึ่งหากการเจรจาไม่เป็นไปด้วยดี ไวโอเล็ตซอร์ดอาจเคลื่อนไหวปะทะเข้ากับตระกูลหลง และสภาสิบแปดปีกได้เลย
“ฉันคิดว่า ฉันคงทำให้คุณผิดหวังแล้วล่ะ ผู้อาวุโสต้วน เรื่องของวอร์นเดอร์นั้นได้รับการจัดการเรียบร้อยแล้ว …” หลงเซี่ยงหลงตอบโต้ “พูดกันตามความจริง วันนี้ฉันได้รวบรวมทุกคนมาที่นี่เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับข่าวดี และเรื่องนี้ก็อาจส่งผลต่ออนาคตของหอการค้าอาซูด้วยซ้ำ …”
“ขนาดนั้นเลยงั้นหรอ ? นี่หลงหวู่ชางออกไปพร้อมกับสภาสิบแปดปีกเพื่อไปพบไวโอเล็ตซอร์ด และเราก็สามารถร่วมมือกับซุเปอร์กิลในเรื่องการเข้าสู่ดินแดนลับโบราณได้รึไง ?” หญิงสาวในชุดขาวถามขึ้น พร้อมกับดวงตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง
สิ่งเดียวที่เธอคิดได้ที่มันอาจส่งผลต่ออนาคตของหอการค้าอาซู คือความสามารถในการเลี้ยงดูเหล่าผู้เชี่ยวชาญ
จากข้อมูลที่หอการค้าอาซูได้รับมา ไวโอเล็ตซอร์ดได้ค้นพบดินแดนลับโบราณที่มีสนามฝึกโบราณ และหากผู้เชี่ยวชาญรุ่นเยาว์ของหอการค้าอาซูสามารถเข้าไปใช้ที่นี่ได้ พวกเขาก็จะเติบโตขึ้นอย่างมากแน่นอน
“คุณพูดถูกต้องครึ่งหนึ่ง …” หลงเซี่ยงหลงกล่าวพลางหัวเราะเบาๆ
“ครึ่งหนึ่ง ? เราไม่ได้เจรจาเป็นพันธมิตรกับไวโอเล็ตซอร์ดงั้นหรอ ?” ต้วนฮันซานถามอย่างสับสน
“ไม่ใช่ๆ เรากำลังเจรจาความร่วมมือกับสภาสิบแปดปีก” หลงเซี่ยงหลงกล่าว “แบล๊คเฟรมยินดีจะขายช่องเข้าสู่ดินแดนลับโบราณให้เราสี่สิบช่อง โดยแลกกับมรดกขอบเขตอนันต์ที่สมบูรณ์ของเรา”
“นี่แบล๊คเฟรมบ้าไปแล้วงั้นหรอ ? นั่นคือรากฐานของกิลเราเลยนะ …. แต่เขากับจะแลกเปลี่ยนกับแค่สี่สิบช่องเนี่ยนะ ? มีเพียงคนโง่เท่านั้นแหละที่จะเห็นด้วยกับการเป็นหุ้นส่วนดังกล่าว นี่คุณบ้าไปแล้วรึไงผู้อาวุโสเซี่ยงหลง ถึงได้เอาอะไรแบบนี้มาขึ้นปรึกษาน่ะ ?” ต้วนฮันซานกล่าวด้วยความเย้ยหยัน
นี่มันบ้าชัดๆ มรดกขอบเขตอนันต์ที่สมบูรณ์นั้น หอการค้าอาซูได้มาหลังจากตรากตรำทำงานหนักมาหลายทศวรรษ และพวกเขาก็แทบจะไม่โอเคแล้ว หากต้องแชร์ช่องมรดกบางช่องให้สภาสิบแปดปีก ….
ข้อมูลนี้มันเพียงพอที่จะช่วยให้กึ่งมหาอำนาจสามารถก้าวขึ้นมาเป็นมหาอำนาจที่แท้จริงได้ภายในไม่กี่ปีเลย ในความเป็นจริงสาเหตุส่วนใหญ่ที่กิลส่วนใหญ่ยังไม่ได้กลายเป็นมหาอำนาจที่แท้จริงนั้นก็เพราะว่าพวกเขาขาดวิธีการฝึกที่มีปรสิทธิภาพ อย่างไรก็ตามตราบใดที่กิลมีข้อมูล เวลา และเงิน มากเพียงพอ กิลก็จะสามารถเติบโตกลายเป็นมหาอำนาจที่แท้จริงได้อย่างง่ายดาย นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้บรรดากิลชั้นยอดและซุเปอร์กิลนั้นแทบจะไม่เคยขายงานวิจัยเกี่ยวกับมรดกขอบเขตการปรับแต่งให้ใครเลย ….
“เซี่ยงหลง ถ้าคุณเรียกพวกเรามารวมตัวกันที่นี่เพื่อหารือเรื่องนี้ ฉันก็คิดว่าฉันคงจะต้องเลิกสนับสนุนตระกูลหลงแล้วล่ะ …” ชายที่มีดวงตาสีแดงเข้มกล่าวอย่างเย็นชา
ขณะเดียวกันตอนนี้ ทุกคนก็มองไปยังหลงเซี่ยงหลงด้วยดวงตาที่เย็นชาเช่นกัน
หอการค้าอาซูนั้นไม่ได้เป็นของตระกูลหลงแค่ตระกูลเดียว หอการค้ายังมีอีกสี่ตระกูลที่ถือเป็นผู้ถือหุ้นหลัก และนี่ยังไม่นับรวมเหล่าผู้อาวุโสสูงสุดที่มาจากแต่ละตระกูล และเหล่าผู้อาวุโสสูงสุดอิสระ ซึ่งมันจะไม่มีใครยอมขายความลับกิลแน่นอน
“ฉันรู้” หลงเซี่ยงหลงกล่าวโดยไม่แปลกใจกับทัศนคติของทุกคนแม้แต่น้อย เขาเพียงแค่ยิ้มให้กับทุกคนและพูดต่อว่า “สิ่งที่ฉันจะพูดต่อไปนี้คือส่วนสำคัญ”
“อะไรที่มันสำคัญถึงขนาดทำให้คุณต้องเรียกเรามารวมตัวกันแบบนี้ ? อย่าบอกว่านะว่าสภาสิบแปดปีกสามารถจะเลี้ยงดูสัตว์ประหลาดกลุ่มหนึ่งได้ ?” หญิงชุดขาวกล่าวอย่างเหยียดหยาม
“คุณพูดได้ตรงจุดเป๊ะเลย เบล …” หลงเซี่ยงหลงตอบพลางพยักหน้าให้กับหญิงสาวในชุดสีขาว “แบล๊คเฟรมได้ให้คำมั่นว่าจะช่วยเราเลี้ยงดูสัตว์ประหลาดสามตัวที่สามารถปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาได้มากกว่าหนึ่งร้อยเปอเซ็นต์ขึ้นมา อันที่จริงเขายังสัญญาด้วยซ้ำว่าเขาจะช่วยให้ผู้เล่นสามคนที่เราเลือกสามารถปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาได้หนึ่งร้อยเปอเซ็นต์ภายในหนึ่งวัน”
“มากกว่าหนึ่งร้อยเปอเซ็นต์ ? นี่เรากำลังพูดถึงสิ่งที่เด็กสาวจากสภาสิบแปดปีกทำได้สำเร็จใช่ไหม ?” ต้วนฮันซานอุทาน
ทุกคนที่ได้ดูการแข่งขันระหว่างตระกูลของหอการค้าอาซูนั้นล้วนได้เรียนรู้ว่าพลังการต่อสู้ของไวโอเล็ตคลาวด์น่ากลัวแค่ไหน และแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญระดับตำนานของหอการค้าอาซูอย่างซินฟูลเฟรมก็ยังไม่สามารถเทียบกับเธอได้ พลังดิบของเธอนั้นมันน่ากลัวอย่างแท้จริง !!!
มหาอำนาจส่วนใหญ่นั้นจะคิดว่าการปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาให้ได้หนึ่งร้อยเปอเซ็นต์นั้นจะสามารถทำได้แน่นอนเมื่อเวลาผ่านไป และมหาอำนาจส่วนใหญ่ก็คิดว่าหนึ่งร้อยเปอเซ็นต์นั้นคือจำนวนเปอเซ็นต์สูงสุดที่จะสามารถปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาได้แล้ว
อย่างไรก็ตามไวโอเล็ตคลาวด์ได้เปิดโลกให้กับพวกเขาใหม่ทั้งหมด และเธอก็นับเป็นอัจฉริยะที่มีพรสวรรค์สูงของสภาสิบแปดปีกที่สามารถทะลุขีดจำกัดหนึ่งร้อยเปอเซ็นต์ในเรื่องนี้ได้ ซึ่งในอนาคตมันก็คงมีคนน้อยมากที่จะทำได้แบบเธอ
กระนั้นสภาสิบแปดปีกกับบอกว่าตัวเองสามารถเลี้ยงดูผู้เชี่ยวชาญที่น่ากลัวแบบไวโอเล็ทคลาวด์ขึ้นมาได้อีกงั้นหรอ ?”
“ฉันเคยได้ยินเด็กสาวคนนั้นพูดถึงเรื่องนี้มาก่อน ดูเหมือนว่าจะไม่ได้มีเธอแค่คนเดียวที่เป็นแบบนี้ในสภาสิบแปดปีก และเธอก็ยังบอกว่ามีสมาชิกที่แข็งแกร่งกว่าเธออยู่ในกิลอีกจำนวนหนึ่งด้วย” ซินฟูลเฟรมพูดขึ้นมา “และจากการแสดงออกของเธอในตอนนั้น ฉันไม่คิดว่าเธอโกหกนะ สภาสิบแปดปีกจะต้องมีผู้เชี่ยวชาญแบบนี้อยู่มากกว่านี้แน่นอน”
ทุกคนเงียบลงไปทันที หลังจากได้ฟังคำพูดของซินฟูลเฟรม
เหล่าผู้อาวุโสและผู้อาวุโสสูงสุดนั้นก็ประทับใจมากอยู่แล้วที่สภาสิบแปดปีกสามารถเลี้ยงดูสัตว์ประหลาดอย่างไวโอเล็ตคลาวด์ขึ้นมาได้ แต่กิลอย่างสภาสิบแปดปีกก็ควรจะมีคนแบบไวโอเล็ทคลาวด์แค่คนเดียว หรืออย่างน้อยเต็มที่ก็สองคน อย่างไรก็ตามตอนนี้พวกเขาพึ่งได้รู้ว่าสภาสิบแปดปีกมีสัตว์ประหลาดแบบไวโอเล็ตคลาวด์อีกจำนวนหนึ่งเลย จะให้พวกเขาเชื่อเรื่องนี้ได้ยังไง ?
แต่อย่างไรก็ตามไม่ว่ามันจะน่าเหลือเชื่อแค่ไหน คำพูดของซินฟูลเฟรมก็จัดเป็นแหล่งข้อมูลที่สามารถเชื่อถือได้
“นี่คือเหตุผลว่าทำไมฉันถึงเรียกรวมพวกคุณมาที่นี่ ทุกคนมีความคิดเห็นยังไงเกี่ยวกับเรื่องนี้ล่ะ ? เราจะยอมรับข้อเสนอเขาไหม ?” หลงเซี่ยงหลงถาม หลังจากที่เขากวาดสายตามองไปทั่วห้องประชุม ….