Reincarnation Of The Strongest Sword God - ตอนที่ 2627
ตอนที่ 2627 ดาบของซือเฟิง
เมื่อเห็นซือเฟิงพุ่งเข้าหาหัวหน้าภูมิภาคทั้งสองตัวที่อยู่ห่างออกไป คริมสันสตาร์ และไวน์ไฟเตอร์ก็หน้าซีดเผือด
“เขาบ้าไปแล้ว !!!” คริมสันสตาร์อดไม่ได้ที่จะสาปแช่งออกมา เมื่อเธอเห็นว่าซือเฟิงนั้นพุ่งเข้าใส่หัวหน้าภูมิภาคทั้งสอง และก็อยู่ห่างออกไปประมาณหนึ่งร้อยหลาแล้ว ทันใดนั้นเธอก็หันไปหาคนอื่นๆในทีมและสั่งว่า “ทุกคนถอยกลับไปยังเมืองไวโอเล็ทไลท์พร้อมกับโฟลตติ้งไลท์ !!! ถอยอย่างเดียวอย่าหยุด !!! ส่วนไวน์ไฟเตอร์รีบตามหลังฉันมา !!!”
“เข้าใจแล้ว !!!” ไวน์ไฟเตอร์กล่าว และพยักหน้ารับ ก่อนที่เขาจะชักอาวุธของเขาออกจากฝักด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
ในสถานการณ์เช่นนี้นั้น สมาชิกของไวโอเล็ตซอร์ดก็อดไม่ได้ที่จะเต็มไปด้วยความกังวลมากขึ้น
สำหรับแซนด์สตอร์มและสมาชิกคนอื่นๆของไมโทโลจี้ที่มองจากระยะไกล ดวงตาของพวกเขาแทบจะถลนออกจากเบ้า เมื่อได้เห็นการกระทำของซือเฟิง
“แบล๊คเฟรม ไอ้บ้านั่น !!! เขากำลังพุ่งเข้าใส่หัวหน้าภูมิภาคทั้งสองตัวจริงๆ !!!” แซนด์สตอร์มอดไม่ได้ที่จะก่นด่าสาปแช่งออกมา จากนั้นเขาก็สั่งอย่างเร่งรีบว่า “เร็วเข้า !!! ถอยเร็ว !!!”
ซึ่งทันทีที่แซนด์สตอร์มพูดจบ สมาชิกของไมโทโลจี้ที่เตรียมพร้อมในการถอยอยู่แล้วก็เต็มไปด้วยสีหน้าที่จริงจังมากขึ้น
“แบล๊คเฟรมนั้นบ้าอย่างแท้จริง !!! นี่เขาวางแผนจะลากทุกคนลงไปกับเขาด้วย !!! นี่คนของไวโอเล็ตซอร์ดไม่เตือนเขาเกี่ยวกับหัวหน้าภูมิภาคที่นี่รึไง ?” การ์เดี้ยนไนท์หญิงร่างสูงบ่น และอดไม่ได้ที่จะสาปแช่งซือเฟิงออกมา ในขณะที่เธอกระโดดลงมาจากต้นไม้ที่เธอยืนอยู่
หัวหน้าภูมิภาคของดินแดนลับโบราณนั้นแข็งแกร่งกว่ามอนสเตอร์ระดับเทพนิยายทั่วไปในโลกภายนอกมาก ซึ่งในแง่ของความแข็งแกร่งและความเร็วนั้น พวกที่อยู่ในดินแดนลับโบราณนี้ดีขึ้นอย่างน้อยสามสิบเปอเซ็นต์ และการพยายามต่อสู้กับหัวหน้าภูมิภาคสักตัวด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญขั้นสามสองร้อยคนนั้น มันก็จัดเป็นงานที่ยากอย่างไม่น่าเชื่อแล้ว และมันก็จะส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากมาย และเมื่อรวมกับเรื่องที่ว่าการพยายามทำแบบนี้จะไปดึงดูดมอนสเตอร์ที่อยู่โดยรอบเข้ามา ดังนั้นทีมใดก็ตามที่พยายามท้าทายหัวหน้าภูมิภาคก็จะจบสิ้นแน่นอน
อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้หัวหน้าภูมิภาคของดินแดนลับโบราณรับมือได้ยากอย่างแท้จริงนั้นไม่ใช่ความแข็งแกร่งทางกายภาพของพวกเขา แต่มันเป็นขอบเขตการรับรู้ที่กว้างขวาง เมื่อหัวหน้าภูมิภาคต่อสู้กับผู้เล่น พวกมันจะสามารถใช้มานาตรวจจับการเคลื่อนไหวทั้งหมดในรัศมีห้าพันหลาได้อย่างง่ายดายเลย
กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ เมื่อผู้เล่นเข้าไปปรากฎอยู่ในระยะการรับรู้ของหัวหน้าภูมิภาคแบบพาสซีฟที่รัสมีห้าร้อยหลา หรือเข้าไปต่อสู้กับหัวหน้าภูมิภาค ผู้เล่นทุกคนที่อยู่ในรัศมีห้าพันหลาของหัวหน้าภูมิภาคก็จะตกเป็นเป้าหมายทั้งหมด
หากผู้เล่นล้มเหลวในการจะฆ่าหัวหน้าภูมิภาค เมื่อตัดสินใจไปแบบนี้แล้ว พวกเขาก็จะไม่สามารถสกัดการไล่ตามทั้งหมดได้เลย ดังนั้นไมโทโลจี้และไวโอเล็ตซอร์ดจึงค่อนข้างระวังมากๆ เมื่อเข้ามาเจอหัวหน้าภูมิภาคเหล่านี้ในดินแดนลับโบราณ
โดยปกติทีมที่เจอหัวหน้าภูมิภาคแค่หนึ่งตัวนั้นก็ยังถือว่าพอรับได้ เพราะท้ายที่สุด พวกเขาจะสามารถทำการหนีอย่างสุดชีวิต และเอาชีวิตรอดไปได้ อย่างไรก็ตามมันแทบจะมีเพียงแต่การทำลายล้างเท่านั้นที่รออยู่ เมื่อทีมๆหนึ่งไปเจอหัวหน้าภูมิภาคสองตัวพร้อมกัน
ก่อนที่การ์เดี้ยนไนท์หญิงร่างสูงจะทันได้พูดจบ สมาชิกของไมโทโลจี้ก็หันหลังกลับ และวิ่งหนีไปแล้ว
อย่างไรก็ตามหลังจากที่ทุกคนก้าวไปได้แค่เพียงไม่กี่ก้าว มานาที่อยู่รอบตัวพวกเขาก็เริ่มปั่นป่วน ในเวลาเดียวกันพวกเขาก็รู้สึกราวกับว่ามีสายตาคู่หนึ่ง กำลังมองมาที่พวกเขาอย่างชัดเจน ซึ่งมันเห็นได้ชัดเลยว่าหัวหน้าภูมิภาคสองตังนั้นได้ล๊อคเป้าพวกเขาไว้แล้ว
“แม่งเอ้ย !!! ทุกคนกระจายตัวกันถอยหนี !!! ผู้รอดชีวิตทุกคนมีค่า !!!” แซนด์สตอร์มตะโกน เมื่อเขามองไปยังร่างที่อยู่ห่างไกลของซือเฟิง เขาก็รู้สึกราวกับว่าตัวเองกำลังจะบ้า ครู่หนึ่งเขาเริ่มสงสัยแล้วว่าซือเฟิงจงใจยั่วยุหัวหน้าภูมิภาคทั้งสองหรือปล่าว ….
ในขณะเดียวกันเมื่อคริมสันสตาร์ และคนอื่นๆมองไปยังหัวหน้าภูมิภาคทั้งสองอีกครั้ง พวกมันก็หยุดต่อสู้กันทันที ก่อนที่พวกมันจะพุ่งมายังทิศทางของพวกเขาอย่างรวดเร็ว ซึ่งนี่มันทำให้ใบหน้าของพวกเขาซีดเผือด โดยห่างพวกเขาไม่ได้เว้นระยะห่างระหว่างพวกเขากับบอสออกมาได้แล้วราวห้าพันหลา พวกเขาก็จะไม่มีความหวังในการจะหลบหนีไปได้เลย
ระยะห้าพันหลา !!!
แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญขั้นสามเช่นตัวพวกเขาเองก็ยังต้องใช้เวลาพอสมควรในการข้ามผ่านระยะห้าพันหลา ยิ่งไปกว่านั้นเครื่องมือก็ยังใช้ไม่ได้ผลในดินแดนลับโบราณ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถจะเทเลพอร์ตหรือเร่งความเร็วในการถอยออกจากสนามรบได้
“แม่งเอ้ย !! ไอ้บ้านั่นจะทำเราตายทั้งหมด !!” โฟลตติ้งไลท์ซึ่งกำลังถอยหนีอยู่แล้วอดไม่ได้ที่จะสาปแช่งออกมา เมื่อรู้สึกได้ว่าหัวหน้าภูมิภาคทั้งสองนั้นล๊อคเป้าใส่ออร่าชีวิตของเขาแล้ว
แม้ว่าผู้เล่นจะไม่เสียเลเวลจากการตายในดินแดนลับโบราณ แต่จำนวน EXP ที่พวกเขาจะต้องเสียจากการตายนั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย เพราะท้ายที่สุดแล้วแค่เลเวลเดียวของพวกเขาในตอนนี้ มันก็ต้องใช้ EXP มหาศาลแล้วในการจะเก็บไปให้เลื่อนแต่ละเลเวล ดังนั้นค่า EXP ของพวกเขาที่จะต้องเสียจากเรื่องนี้ มันอาจเทียบเท่ากับการทำงานหนักหนึ่งถึงสองวันเลย
ขณะที่โฟลตติ่งไลท์กำลังกำลังนำเหล่าสมาชิกของไวโอเล็ทซอร์ดล่าถอย เขาก็สังเกตเห็นว่าสมาชิกของสภาสิบแปดปีกกับสมาชิกของหอการค้าอาซูยังคงยืนอยู่ในตำแหน่งเดิม ราวกับว่าพวกเขาไม่ได้ยินคำสั่งของคริมสันสตาร์เลย
“พวกเขากำลังทำอะไร ? นี่พวกเขาวางแผนจะตายไปด้วยกันกับแบล๊คเฟรมงั้นหรอ ?” โฟลตติ้งไลท์รู้สึกงุนงงมากๆ โดยเฉพาะเมื่อพวกเขาจ้องมองไปยังโซริทารี่
ฟรอสต์ และหยานเซี่ยวเฉียน
สำหรับเรื่องคนอื่นที่จะไม่เชื่อฟังนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกเท่าไหร่ แต่สำหรับโซริทารี่
ฟรอสต์ และหยานเซี่ยวเฉียน ผู้ซึ่งคริมสันสตาร์ได้รับมอบหมายจากผู้ฝึกสอนทอร์เร้นให้คอยดูแลพวกเขาโดยตรงนั้น พวกเขาก็น่าจะได้เห็นแล้วว่าคริมสันสตาร์นั้นมีความสามารถและทรงพลังมากขนาดไหน
การที่คริมสันสตาร์ออกคำสั่งให้ล่าถอยนั้น พวกเขาก็น่าจะรู้ได้ดีว่าสถานการณ์ในปัจจุบันนั้นมันอันตรายแค่ไหน แต่โซริทารี่ฟรอสต์และหยานเซี่ยวเฉียนกับไม่เชื่อฟังคำสั่ง และยังคงยืนอยู่ในตำแหน่งเดิม ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังแสดงออกถึงความสงบมากๆ โดยปฎิกิริยาของพวกเขานั้นมันดูเหมือนว่าไม่มีอะไรที่ร้ายแรงเกิดขึ้นเลย
“รองผู้บัญชาการ รีบถอยเร็วๆเถอะ !!! นี่เป็นปัญหาของสภาสิบแปดปีกหอการค้าอาซูแล้ว ผู้ฝึกสอนไวน์ไฟเตอร์กับผู้ฝึกสอนคริมสันสตาร์คงจะไม่สามารถตรึงหัวหน้าภูมิภาคสองตัวได้นานนักหรอก !!!” แอสซาซินขั้นสามที่ถอยห่างออกมาพอสมควรแล้วกล่าวกระตุ้น เมื่อเห็นว่าโฟลตติ้งไลท์หยุดชะงักลงไปชั่วครู่
“ฉันก็คิดงั้น …” โฟลตติ้งไลท์กล่าวพลางพยักหน้าก่อนที่จะรีบถอยต่อ ในเวลาเดียวกัน เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสารหยานเซี่ยวเฉียนและโซริทารี่ฟรอสต์
เดิมทีด้วยพรสวรรค์ของหยานเซี่ยวเฉียน และโซริทารี่ฟรอสต์ พวกเขาน่าจะสามารถเปล่งประกายใน God domain ได้ไม่ยาก อย่างไรก็ตามตอนนี้อนาคตของพวกเขากับกำลังจะพังพินาศเพราะหอการค้าอาซูเลือกให้พวกเขามาติดตามผู้บัญชาการที่บ้าคลั่งของสภาสิบแปดปีกอย่างซือเฟิง
อย่างไรก็ตามโฟลตติ้งไลท์ได้ก้าวไปข้างหน้าต่อแค่เพียงไม่กี่ก้าวเท่านั้น ก่อนที่เสียงคำรามของหมีเขาเดียวจะดังขึ้นมาจากทางด้านหลังของเขา ซึ่งจริงๆต้องบอกว่ามันดังก้องไปทั่วป่าจนทำให้ป่าสั่นสะเทือนเลย หลังจากนั้นลำแสงมานาก็พุ่งผ่านพื้นที่ข้างกลุ่มของโฟลตติ้งไลท์ โดยทิ้งร่องลึกขนาดใหญ่ไว้บนพื้นดินที่มันผ่านไป และมองจากระยะไกลนั้น พื้นดินก็ดูเหมือนกับพุดดิ้งที่ถูกช้อนขูดออกไป
“การต่อสู้เริ่มขึ้นแล้วงั้นหรอ ?” ใบหน้าของโฟลตติ้งไลท์มืดมนลง เมื่อเขาเห็นร่องลึกขนาดใหญ่ที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล
นี่คือพลังของมอนสเตอร์ระดับเทพนิยายในดินแดนลับโบราณ การโจมตีใดๆแบบสุ่มของพวกมันนั้นจะสามารถเปลี่ยนสภาพภูมิประเทศได้อย่างง่ายดายเลย นับประสาอะไรกับคนๆเดียว แม้แต่ทีมผู้เชี่ยวชาญขั้นสามหนึ่งร้อยคนก็จะไม่ต่างวัชพืชรายทางเลยต่อหน้าการโจมตีแบบนี้ของหัวหน้าภูมิภาค
หากต้องการจะปะทะกับหัวหน้าภูมิภาคจริงๆ พวกเขาจะต้องมีทีมผู้เชี่ยวชาญขั้นสาม อย่างน้อยสองร้อยคน ยิ่งไปกว่านั้นทีมก็ยังจะต้องใช้แท๊งเกอร์ขอบเขตโดเมนสองถึงสามคนในการช่วยกันแท๊งบอส ไม่งั้นพวกเขาจะไม่สามารถหยุดการโจมตีของบอสได้แบบเบ็ดเสร็จเลย และในความเป็นจริง ความผิดพลาดเพียงครั้งเดียวของพวกเขาอาจส่งผลกระทบให้ทั้งทีมถูกทำลายล้างเลย
หลังจากกลุ่มของโฟลตติ้งไลท์วิ่งไปได้อีกประมาณห้าสิบหลา ทันใดนั้นสายฟ้าก็พุ่งผ่านพวกเขาไปในระยะทางด้านหนึ่งซึ่งมันก็ตามมาด้วยเสียงร้องของฟ้าผ่าที่ดังขึ้นอย่างชัดเจน และเมื่อสายฟ้าหายไป ท้องฟ้าเบื้องบนก็มืดลงในทันที
ในช่วงเวลาต่อมาลิงหกตาที่สูงสองร้อยเมตรก็ปลิวกระเด็นไป และไปกระแทกเข้ากับพื้นอย่างรุนแรง โดยพื้นดินในระยะไม่กี่ร้อยหลาข้างหน้าของพวกมันนั้นก็แตกออกเป็นเสี่ยงๆ เมื่อเจอกับผลกระทบนี้ สำหรับลิงหกตานั้นกว่ามันจะลุกกลับมาตั้งตัวได้อีกครั้งก็ใช้เวลาชั่วครู่หนึ่งเลยทีเดียว และหลังจากตั้งตัวได้แล้วลิงหกตาก็ส่งเสียงคำรามอันรุนแรงออกมา จากนั้นมันก็พุ่งไปข้างหน้าโดยไม่สนใจโฟลตติ้งไลท์และสมาชิกคนอื่นๆของไวโอเล็ตซอร์ดที่ยืนอยู่ไม่ห่างจากมันเลย
“นี่ … เกิดอะไรขึ้น ?” โฟลตติ้งไลท์รู้สึกสับสนกับสถานการณ์นี้
ผู้เชี่ยวชาญของไวโอเล็ตซอร์ดที่ได้เห็นฉากนี้ก็อดไม่ได้ที่จะขยี้ตา เมื่อพวกเขาได้เห็นฉากนี้ เพราะท้ายที่สุดตอนนี้พวกเขาคิดว่าพวกเขากำลังหลอน อย่างไรก็ตามไม่ว่าพวกเขาจะขยี้ตามากแค่ไหน ฉากตรงหน้าของพวกเขาก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเลย
ก่อนที่โฟลตติ้งไลท์และคนอื่นๆจะทันได้ตอบสนองต่อการพัฒนาที่ไม่คาดคิดนี้ เสียงตูม นั้นก็ดังขึ้นอีกครั้ง และเสียงต้นไม้หักก็ดังก้องเข้ามาที่หูของพวกเขาอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตามเสียงเหล่านี้มันมาจากระยะไกล และเป้าหมายของเสียงนี้ก็ดูเหมือนจะไม่ใช่ลิงหกตาด้วย แต่เป็นบอสอีกตัว
ซึ่งเมื่อโฟลตติ้งไลท์และคนอื่นๆสังเกตเห็นถึงผู้ที่ก่อให้เกิดฉากนี้ที่ยืนอยู่บนต้นไม้ และถือดาบอย่างละเล่มอยู่ในมือซ้ายและขวานั้น พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะเต็มไปด้วยความตกตะลึง เนื่องจากตอนนี้มันเห็นได้อย่างชัดเจนผ่านดวงตาของบอสทั้งเลยว่า พวกมันกำลังจ้องมองไปยังมนุษย์ผู้นี้อย่างโกรธแค้นและหวาดกลัวไปพร้อมกัน