Reincarnation Of The Strongest Sword God - ตอนที่ 2635
ตอนที่ 2635 เดินเล่นผ่านสวนหลังหลังบ้าน
เมื่อเห็นสมาชิกสภาสิบแปดปีกพุ่งตรงไปยังมอนสเตอร์จำนวนมากในพื้นที่ทดสอบ สมาชิกของไวโอเล็ทซอร์ดและหอการค้าอาซูก็เต็มไปด้วยความตกตะลึงมากๆ
พวกเขากำลังจะต่อสู้กับมอนสเตอร์หลายพันตัวที่นี่ ยิ่งไปกว่านั้นแม้แต่มอนสเตอร์ที่อ่อนแอที่สุดในนี้ก็ยังเป็นลอร์ดบอสผู้ยิ่งใหญ่เลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบ แต่ซือเฟิงกับดูไม่ได้กังวลใดๆ ในขณะที่เขาบอกแผนการ และมอบหมายหน้าที่ให้แต่ละคนในการรับผิดชอบอย่างสบายๆ นี่เป็นครั้งแรกที่สมาชิกของไวโอเล็ทซอร์ดกับหอการค้าอาซูได้เห็นถึงความเป็นผู้นำแบบนี้ และเพื่อให้เรื่องมันดูแย่ลง สมาชิกสภาสิบแปดปีกทุกคนล้วนปฎิบัติตามคำสั่งของซือเฟิงโดยไม่มีข้อโต้แย้งใดๆเลย
“นี่มันบ้าบิ่นเกินไปแล้ว !!!” ไวน์ไฟเตอร์อดไม่ได้ที่จะรู้สึกกังวลเมื่อเห็นซือเฟิงเริ่มเคลื่อนไหวต่อ โดยไม่สนใจความคิดเห็นใดๆของพวกเขา “มันมีมอนสเตอร์อยู่มากมายหลายพันตัว !!! แม้ว่าพวกเขาจะปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาได้อย่างสมบูรณ์แล้ว และสามารถทนรับการโจมตีได้บ้าง แต่ถ้าพวกเขาพลาดแม้แต่นิดเดียว พวกเขาก็จะตายเลยนะ !!!”
เขายอมรับว่าสมาชิกของสภาสิแปดปีกนั้นมีเลเวลค่อนข้างสูงมาก นอกจากนี้ทุกคนก็ยังมีร่างมานาที่ได้รับการปลดล๊อคศักยภาพหนึ่งร้อยเปอเซ็นต์แล้ว และสมาชิกสภาสิบแปดปีกก็จัดว่ามีข้อได้เปรียบมากกว่าผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดของไวโอเล็ทซอร์ดอย่างมากในแง่ของการต่อสู้กับมอนสเตอร์ในพื้นที่ทดสอบ
อย่างไรก็ตามในตอนนี้นั้นระบบพยายามจะทดสอบมาตราฐานการต่อสู้ของผู้เล่นด้วยอย่างชัดเจน โดยที่มีเรื่องเลเวลและศักยภาพร่างมานาที่ได้รับการปลดล๊อคหนึ่งร้อยเปอเซ็นต์นั้นเป็นเรื่องรอง
และขณะนี้พวกเขาก็มีเวลาจำกัด เนื่องจากการทดสอบในโหมดฮีโร่นี้ให้เวลาพวกเขาเพียงห้าวัน แทนที่จะเป็นเจ็ดวันตามที่คาดการณ์ไว้แต่แรก ซึ่งหากพวกเขาตายลงที่นี่ และสูญเสียเวลาไปหนึ่งวัน พวกเขาก็จะไม่สามารถเคลียร์การทดสอบให้เสร็จสมบูรณ์ได้แน่นอน
“เราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องติดตามพวกเขาไป …” คริมสันสตาร์ถอนหายใจออกมา เมื่อเธอเห็นสมาชิกสภาสิบแปดปีกเข้าใกล้กลุ่มมอนสเตอร์ที่อยู่ใกล้ที่สุดในพื้นที่ทดสอบ “ฉันจะรีบเปิดใช้งานวงเวทย์ของฉันให้เร็วที่สุด ทุกคนให้ความสำคัญกับการโจมตีไทรออลขั้นสูงก่อน ตราบใดที่เราสามารถลดจำนวนพวกมันลงได้ การจะจัดการกับนักรบไทรออลที่เหลือจะง่ายขึ้นมาก”
ซินฟูลเฟรมและสมาชิกคนอื่นๆของหอการค้าอาซูพยักหน้าเห็นด้วยกับแผนการของคริมสันสตาร์ ก่อนที่พวกเขาจะพุ่งเข้าใส่ไทรออลขั้นสูงที่อยู่ใกล้ที่สุดทันที พวกเขาตั้งใจที่จะกำจัดไทรออลขั้นสูงก่อนจำนวนหนึ่ง ในทันทีที่การต่อสู้ระหว่างทั้งสองฝ่ายเริ่มขึ้นเพื่อที่ว่าพวกเขาจะได้ช่วยลดแรงกดดัน และอัตราการบาดเจ็บล้มตายที่สมาชิกสภาสิบแปดปีกต้องเผชิญได้
ทันทีที่สมาชิกของสภาสิบแปดปีกเข้าสู่ช่วงการรับรู้ของมอนสเตอร์ในการทดสอบ นักรบไทรออล และไทรออลขั้นสูงก็เริ่มจัดขบวนรบเหมือนกับกองทัพที่เจนจัดสนามรบอย่างมาก
ในเวลาไม่นาน นักรบไทรออลสี่ร้อยตัวก็กระจายตัวกันออกไปเป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัสล้อมรอบกองทัพหลัก จากนั้นพวกมันก็แทงโล่เหล็กที่พวกมันถือลงไปบนพื้นเพื่อสร้างกำแพงเหล็กเพื่อป้องกันมอนสเตอร์อีกหลายพันตัวที่เป็นพรรคพวกของพวกมัน สำหรับมอนสเตอร์ที่อยู่ภายในรูปสี่เหลี่ยมจตุรัสนี้ พวกมันก็เริ่มนำธนูของตัวเองออกมายิงธนูใส่สมาชิกของสภาสิบแปดปีกเป็นระยะๆ
ฉากนี้ทำให้สมาชิกของไวโอเล็ทซอร์ดและหอการค้าอาซูตกตะลึงไปชั่วขณะ
พวกเขาเคยเห็นมอนสเตอร์ที่โจมตีกันเป็นกลุ่มด้วยความมีระเบียบมาก่อน แต่นี่เป็นครั้งแรกจริงๆที่พวกเขาได้เห็นมอนสเตอร์จำนวนมากทำการโจมตีเหมือนกับกองทัพที่ได้รับการฝึกมาอย่างดี ในความเป็นจริงการประสานงานของมอนสเตอร์ในพื้นที่ทดสอบเหล่านี้มันเทียบได้กับ NPC เลย
ลูกธนูนั้นพุ่งเข้าใส่สมาชิกของสภาสิบแปดปีกอย่างรวดเร็ว โดยการโจมตีด้วยลูกธนูแต่ละระลอกมันก็ประกอบไปด้วยลูกธนูมากกว่าหนึ่งพันดอก ยิ่งไปกว่านั้นช่องว่างระหว่างการโจมตีแต่ละระลอกมันก็สั้นมากๆ มันจึงไม่มีที่ว่างใดๆที่จะทำให้สมาชิกสภาสิบแปดปีกสามารถใช้ประโยชน์ได้เลย
“มันจบแล้ว …. แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดก็ยังป้องกันหรือหลบหลีกการโจมตีด้วยลูกธนูแบบนี้ได้ยากมาก และด้วยมาตราฐานการต่อสู้ของสมาชิกสภาสิบแปดปีกส่วนใหญ่ แค่ห่าธนูไม่กี่ระลอกก็น่าจะเพียงพอที่จะทำลายล้างพวกเขาได้แล้ว” ใบหน้าของไวน์ไฟเตอร์มืดมนลงอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเขาเห็นลูกธนูจำนวนมหาศาลกำลังพุ่งเข้าใส่สมาชิกสภาสิบแปดปีก
หากต้องต่อต้านการโจมตีที่ประสานกันและแม่นยำแบบนี้ ไม่ต้องพูดถึงสมาชิกสภาสิบแปดปีกเลย แม้แต่กลุ่มผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดก็ยังยากจะทำได้
แม้ว่ารูปแบบการโจมตีที่โจมตีเข้ามา มันจะดูจำเจและซ้ำซาก แต่ลูกธนูมันก็พุ่งมาอย่างรวดเร็วด้วยความเร็วที่ไม่น่าเชื่อ ซึ่งในสถานที่ที่มีพื้นที่ไม่มากแบบนี้ แถมพวกเขายังถูกปราบปรามอย่างหนักในหลายๆด้าน เผลอๆแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตโดเมนก็ยังจะไม่มีพลังในการต่อต้านลูกธนูพวกนี้ได้เลย และทำได้แค่ดูตัวเองถูกฆ่าเท่านั้น
แม้ว่าลูกธนูเหล่านี้จะไม่ได้มีพลังมากนัก แต่พวกมันก็มีจำนวนมากเกินกว่าที่ผู้เล่นในปัจจุบันจะสามารถรับและทนได้
ในตอนนี้สมาชิกของสภาสิบแปดปีกทุกคนจะต้องรับมือกับลูกธนูกันคนละอย่างน้อยสิบดอกพร้อมกัน โดยที่หากบางคนโชคร้าย พวกเขาก็อาจจะต้องรับมือกัลูกธนูถึงยี่สิบดอก และเมื่อคำณวนด้วยความเร็วของลูกธนูเหล่านี้แล้ว มันก็เห็นได้ชัดว่า จำนวนขนาดนี้มันเกินกว่าขีดจำกัดของผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดขั้นสามด้วยซ้ำ ซึ่งมันก็จะมีแค่เฉพาะผู้เชี่ยวชาญขอบเขตโดเมนเท่านั้นที่จะสามารถระบุวิถีของลูกธนูเหล่านี้ได้อย่างแม่นยำ และตอบสนองต่อพวกมันได้ทันเวลา
เมื่อลูกธนูระลอกกำลังจะโจมตีโดนสมาชิกสภาสิบแปดปีก มันก็มีเสียงปรากฎขึ้นในแชททีม
“รองผู้บัญชาการคริมสัน เปิดใช้งานวงเวทย์ป้องกันของคุณเดี๋ยวนี้ !!!” ซือเฟิงออกคำสั่ง
“รับทราบ !!”
เมื่อได้ยินคำสั่งของซือเฟิง คริมสันสตาร์ก็หายจากอาการตกตะลึงของเธอ และเธอก็รีบโบกคทาของเธอเพื่อเปิดใช้งานวงเวทย์ที่เธอเตรียมไว้ล่วงหน้าทันที
ทันใดนั้นบาเรียสีเงินก็ปรากฎขึ้นใจกลางกลุ่มของสภาสิบแปดปีก และมันก็ขยายออกไปทันทีจนปกคลุมรัศมีสองร้อยหลา โดยมันได้โอบล้อมสมาชิกของสภาสิบแปดปีกทั้งหมดไว้ภายใน
คำสาปขั้นสาม Aerial Defense!
Aerial Defense นั้นเป็นคำสาปที่จะช่วยให้การโจมตีทางอากาศที่เข้ามาแบบนี้ผิดระยะไป ซึ่งเมื่อคริมสันสตาร์ใช้มัน ในช่วงเวลาต่อมาลูกธนูมากกว่ายี่สิบเปอเซ็นต์ก็ตกลงสู่พื้น และตอนนี้มันก็มีลูกธนูเหลือแค่ประมาณเก้าร้อยดอกเท่านั้นที่กำลังพุ่งเข้าหาสมาชิกสภาสิบแปดปีก
ถึงอย่างนั้นสมาชิกของไวโอเล็ทซอร์ดและหอการค้าอาซูก็ยังแสดงสีหน้าที่เต็มไปด้วยความจริงจังออกมาอยู่
แม้ว่าจำนวนลูกธนูจะลดลงจนเหลือประมาณเก้าร้อยดอก แต่จำนวนการโจมตีจากลูกธนูพวกนี้ที่สมาชิกของสภาสิบแปดปีกแต่ละคนต้องเผชิญ มันก็ยังคงเกินขีดจำกัดอยู่ดี และแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดในขอบเขตอนันต์ก็ยังรับมือกับเรื่องนี้ยากมาก ดังนั้นก็ไม่ต้องพูดถึงผู้เชี่ยวชาญขอบเขตการปรับแต่งเลย
ในขณะที่สมาชิกของไวโอเล็ทซอร์ด และหอการค้าอาซูกำลังส่ายหัวและถอนหายใจออกมา สมาชิกของสภาสิบแปดปีกทั้งหมดก็ทำการหลบหลีกลูกธนูพวกนี้อย่างง่ายดายราวกับว่าพวกเขารู้ถึงวิถีของลูกธนูพวกนี้มานานแล้ว และเมื่อมองจากระยะไกล มันก็ดูเหมือนว่าสมาชิกของสภาสิบแปดปีกกำลังเต้นรำท่ามกลางสายฝน
เมื่อกรโจมตีระลอกแรกสิ้นสุดลง สมาชิกของสภาสิบแปดปีกส่วนใหญ่ก็แทบไม่ได้รับผลกระทบใดๆเลย ขณะที่มีก็แค่จำนวนหนึ่งเท่านั้นที่มี HP ลดลงไปหนึ่งในสี่ แต่นั่นมันก็เป็นเพราะพวกเขาพยายามจะป้องกันลูกธนูที่โจมตีมาจากไทรออลขั้นสูงตรงๆ และเหล่าฮีลเลอร์ก็สามารถจะเติมเต็ม HP ส่วนที่ขาดหายไปของพวกเขาได้ทันที ….
“เป็นไปได้ยังไง ?!” ดวงตาของโฟลตติ้งไลท์แทบจะถลนออกจากเบ้าเมื่อได้เห็นฉากนี้
แม้แต่ตัวเขาก็จะไม่สามารถรับมือกับการระดมโจมตีด้วยลูกธนูจำนวนมหาศาลแบบนี้ไดง่ายนัก แต่สภาสิบแปดปีกนั้นกับทำได้ และมันก็ดูเหมือนว่าพวกเขาทำได้อย่างสบายมากด้วยราวกับว่าพวกเขากำลังเดินเล่นในสวนหลังบ้าน
ในขณะนี้มันไม่ใช่แค่โฟลตติ้งไลท์ แม้แต่หยานเซี่ยวเฉียน และโซริทารี่ฟรอสต์ที่ฝึกฝนกับสมาชิกสภาสิบแปดปีกในช่วงสองถึงสามวันมานี้ก็ยังอดไม่ได้ที่จะต้องประหลาดใจกับฉากนี้
แม้ว่าสมาชิกของสภาสิบแปดปีกส่วนใหญ่จะอยู่ในขอบเขตการปรับแต่งเท่านั้น แต่พวกเขาก็รับมือกับการโจมตีที่เข้ามาเมื่อครู่ได้อย่างง่ายดาย ซึ่งแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดก็ยังจะมีปัญหาในการทำบบนี้ นี่มันเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อเลย
“พวกเขาสามารถป้องกัน และหลบการโจมตีแบบนั้นได้อย่างง่ายดายขนาดนั้นเลยหรอ ? นี่ปกติแล้วพวกเขาฝึกแบบไหนกันเนี่ย ?!!!” หัวใจของหยานเซี่ยวเฉียนเต็มไปด้วยความสับสนและวุ่นวาย ขณะที่เธอมองไปที่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตการปรับแต่งของสภาสิบแปดปีก
สิ่งที่หยานเี่ยวเฉียนและคนอื่นๆไม่รู้นั่นก็คือแกนหลักของสภาสิบแปดปีกนั้นคุ้นเคยกับการโจมตีในรูปแบบนี้มานานแล้ว และหากให้พูดกันตรงๆ ให้พวเขามารับมือการโจมตีแบบนี้มันยังง่ายกว่าการไปฝึกในหอคอยพิเศษชั้นหนึ่งเลย ในความเห็นของสมาชิกสภาสิบแปดปีก พวกเขาจะสามารถทำทั้งหมดได้โดยไม่ต้องได้รับการสนับสนุนจากคำสาปขั้นสามของคริมสันสตาร์ด้วยซ้ำ
หลังจากที่รับมือกับการโจมตีของธนูมาหลายระลอก ซือเฟิงก็สังเกตเห็นว่ามอนสเตอร์ในการทดสอบส่วนใหญ่เริ่มจะหันมาสนใจสมาชิกสภาสิบแปดปีกทั้งหมดแล้ว จากนั้นเขาก็ออกคำสั่งผ่านแชททีมว่า “ค่าความโกรธของพวกมันเสถียรแล้ว !!! ทุกคนเริ่มโจมตีได้ !!!”
เมื่อได้ยินคำสั่งของซือเฟิง สมาชิกของไวโอเล็ทซอร์ดและของหอการค้าอาซูก็หายจากอาการตกตะลึง และเริ่มโจมตีใส่มอนสเตอร์ในการทดสอบนี้พร้อมกับสมาชิกสภาสิบแปดปีก
เนื่องจากสมาชิกของสภาสิบแปดปีกดึงดูดค่าความโกรธของมอนสเตอร์ไว้กับตัวเองกันอย่างเสถียรแล้ว ดังนั้นคนอื่นๆจึงสามารถจะโจมตีได้อย่างอิสระโดยไม่ต้องกังวลว่าจะถูกโจมตี เป็นผลให้มอนสเตอร์ในการทดสอบนั้นค่อยๆถูกฆ่าลงไปอย่างรวดเร็วมากๆทีละตัวๆ
ในขณะเดียวกันทุกคนก็ได้ค้นพบว่ามอนสเตอร์เหล่านี้นั้นให้ EXP อย่างมหาศาล โดยมันให้ EXP มากกว่ามอนสเตอร์ปกติในเลเวลเดียวกันของโลกภายนอกถึงสามเท่า ซึ่งจากการค้นพบนี้มันก็ทำให้สมาชิกของไวโอเล็ทซอร์ดและหอการค้าอาซูนั้นเต็มไปด้วยความสุขมากขึ้น
สิ่งเดียวที่น่าผิดหวังสำหรับมอนสเตอร์ในการทดสอบนี้คือ พวกมันไม่ได้ดรอปไอเทมใดๆไว้
หลังจากทั้งทีมทำการโจมตีและล่ามอนสเตอร์พวกนี้มานานกว่าครึ่งวัน มันก็มีบางอย่างแปลกๆเกิดขึ้น หนึ่งในไทรออลขั้นสูงนั้นจู่ๆก็ไฟลุกขึ้น และกลายเป็นศิลาจารึกที่แผ่ความผันผวนของมานาจำนวนมากออกมาขณะที่มันลอยอยู่ในบริเวณที่ไทรออลขั้นสูงหายไป
ศิลาจารึกมรดกโบราณ ?!
เมื่อซือเฟิงเห็นศิลาจารึกนี้ ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างด้วยความตกตะลึง และเขาก็อดจะสงสัยไม่ได้ว่าเขากำลังหลอนรึปล่าว