Reincarnation Of The Strongest Sword God - ตอนที่ 2647
ตอนที่ 2647 โซนต้องห้ามของรูปปั้น
ในแต่ละก้าวที่ซือเฟิงก้าวเข้าไปใกล้รูปปั้นอันสง่างามเบื้องหน้าเขา แรงกดดันทางจิตที่เขาได้รับมันก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างไรก็ตาม เขาก็ยังคงก้าวต่อไปโดยไม่ได้รับผลกระทบแม้แต่น้อยราวกับแรงกดดันทางจิตที่เขาต้องเผชิญนั้นมันไม่มีอยู่จริง
แปดสิบหลา ….
เจ็ดสิบหลา ….
หกสิบหลา ….
หลังจากนั้นเพียงครู่เดียว ซือเฟิงก็ได้มาถึงระยะห้าสิบหลา และยืนอยู่ข้างไวโอเล็ตคลาวด์ ในขณะนี้การแสดงออกของเขาดูจริงจังเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าแรงกดดันทางจิตของรูปปั้นเริ่มส่งผลกระทบต่อเขาแล้ว อย่างไรก็ตามทุกคนก็เข้าใจได้อย่างชัดเจนว่านี่มันยังไม่ใช่ขีดจำกัดของเขา
“นี่เขาเป็นสัตว์ประหลาดรึไงกัน ? เขาตามไวโอเล็ตคลาวด์ได้ทันอย่างรวดเร็วมากๆ !!! ยิ่งไปกว่านั้นเขายังไม่ถึงขีดจำกัดด้วย !!!” อี้ลั่วเฟยที่นั่งอยู่ใกล้ๆจ้องมองไปที่ซือเฟิงด้วยความตกตะลึง “นี่เขาไปทำอะไรกันในช่วงที่เขาพักไป ทำไมเขาพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วมากๆ ?”
ผู้เล่นที่ไม่เคยสัมผัสได้ถึงการควบแน่นทางจิตมาก่อน อาจไม่รู้ว่าซือเฟิงได้แสดงออกถึงการปรับปรุงมากเพียงใด อย่างไรก็ตามทุกคนในปัจจุบันที่เริ่มฝึก และเริ่มเข้าใจถึงการควบแน่นทางจิตเพื่อใช้ต่อต้านรูปปั้นเหล่านี้มานานกว่าสิบชั่วโมงแล้วรู้ดีว่าซือเฟิงนั้นพัฒนาไปไกลแค่ไหน
แม้ว่าการที่ซือเฟิงก้าวผ่านระยะแปดสิบห้าหลาไปได้อย่างรวดเร็วมันจะจัดว่าน่าทึ่ง แต่แรงกดดันทางจิตที่เขาต้องเผชิญในระยะแปดสิบห้าหลากับห้าสิบหลานั้นมันเทียบกันไม่ได้เลย ในความเป็นจริงอี้ลั่วเฟยสงสัยด้วยซ้ำว่าซือเฟฟิงสามารถต้านทานแรงกดดันทางจิตในระยะห้าสิบหลาได้ยังไง
สำหรับไวโอเล็ตคลาวด์ พรสวรรค์ของเธอนั้นชัดเจนสำหรับทุกคนที่เห็น พรสวรรค์ของไวโอเล็ตคลาวด์นั้นยอดเยี่ยมมากซะจนแม้แต่อี้ลั่วเฟยก็ยังคิดว่ามันน่าเหลือเชื่อ ดังนั้นเมื่อเธอเห็นมาตราฐานการควบแน่นทางจิตของซือเฟิง และความรวดเร็วในการพัฒนาที่แพ้ไวโอเล็ตคลาวด์ในเรื่องนี้ เธอจึงไม่ได้แปลกใจใดๆเลย ยิ่งไปกว่านั้นไวโอเล็ตคลาวด์ยังเป็นผู้เล่นนักเวทย์ซึ่งทำให้เธอได้เปรียบเหนือผู้เล่นระยะประชิดในเรื่องการควบแน่นทางจิต และประเด็นนี้มันก็ชัดเจนจากผลการฝึกของทุกคนในช่วงที่ผ่านมา
ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องปกติมากที่ซือเฟิงจะด้อยกว่าไวโอเล็ตคลาวด์
อย่างไรก็ตามตอนนี้ซือเฟิงได้ก้าวข้ามไวโอเล็ตคลาวด์ไปแล้วด้วยการทำลายแรงกดดันทางจิตในระยะห้าสิบหลา สถานการณ์นี้มันช่างน่าประหลาดใจจริงๆ
เพราะท้ายที่สุดแล้วซือเฟิงได้ออกไปฝึกและพักอยู่ในระยะห่างมากกว่าหนึ่งร้อยหลาจากรูปปั้นเป็นเวลานาน ซึ่งการพยายามฝึกในระยะนั้นมันยากกว่ามาก เขาไม่ควรจะมาได้ไกลขนาดนี้เลย
อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะอยู่ในสถานการณ์แบบนั้น แต่ซือเฟิงก็ยังคงสามารถจะเอาชะไวโอเล็ตคลาวด์ได้ สิ่งที่เขามีนั้นมันไม่น่าเรียกว่าพรสวรรค์แล้ว นี่มันเป็นความเหนือมนุษย์ชัดๆ
ในขณะที่อี้ลั่วเฟยกำลังเต็มไปด้วยความงุนงง ซือเฟิงก็ได้มาถึงระยะสามสิบหลาห่างจากรูปปั้นแล้ว และเมื่อตอบโต้แรงกดดันทางจิตในระยะนี้ เขาก็ถูกบังคับให้ถอยไปหนึ่งก้าว ก่อนที่ใบหน้าของเขาจะซีดเซียวลงมากๆ
ดูเหมือนว่าการเข้าใกล้กว่านี้จะเป็นเรื่องยาก พลังของแรงกดดันทางจิตในระยะนี้นั้น มันมากกว่าในระยะห้าสิบหลายเท่าเลย ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมในชีวิตที่ผ่านมาของฉัน หลายๆคนถึงไม่สามารถจะเข้าถึงและข้ามระยะสามสิบหลาได้ เมื่อซือเฟิงพยายามตอบโต้แรงกดดันทางจิตในระยะสามสิบหลา เขาก็สูญเสียค่าความแข็งแกร่งทางจิตหนึ่งในสิบห้าของเขาไปทันที ซึ่งนี่มันไม่ใช่อะไรที่เขาจะสามารถทนได้มากนักอีกต่อไป
ในชีวิตที่ผ่านมาของเขาพื้นที่ภายในระยะสามสิบหลาของรูปปั้นที่แผ่ออร่าดีไวน์วิล
ออกมานั้นถือเป็นโซนต้องห้าม ตามข่าวลือใครก็ตามที่สามารถเข้าไปฝึกในโซนนี้ได้จะได้รู้สึกถึงการก้าวกระโดดเชิงคุณภาพของตัวเองในเรื่องการควบแน่นทางจิต
แม้ว่าการปรับปรุงนี้จะไม่ช่วยให้ผู้เล่นได้รับพลังในการต่อสู้เพิ่มมากขึ้น แต่มันก็จะช่วยเพิ่มการรับรู้ของพวกเขาเกี่ยวกับมานาไปสู่ระดับที่เหนือมนุษย์อย่างสิ้นเชิง แถมมันยังจะช่วยอำนวยความสะดวกในการสร้างโดเมนเวทย์มนต์ของผู้เล่น เมื่อพวกเขาไปถึงขั้นสี่ได้ แถมมันยังมีข่าวลือด้วยว่าการสามารถทะลุเข้าไปฝึกในโซนต้องห้ามได้นั้น มันจะสามารถให้ความช่วยเหลือที่สำคัญเมื่อท้าทายเควสเลื่อนขั้น ขั้นห้าได้
ในขณะเดียวกันเมื่อเห็นซือเฟิงไม่สามารถก้าวต่อไปได้แล้ว อควาโรสและคนอื่นๆก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เพราะท้ายที่สุดถ้าซือเฟิงสามารถเข้าใกล้รูปปั้นได้มากกว่านี้ พวกเขาคงจะเริ่มสงสัยในตัวเองว่าพวกเขาด้อยความสามารถมาก
แม้ว่าฉันจะไม่สามารถฝึกที่ระยะสามสิบหลาได้ แต่การฝึกที่ระยะสามสิบห้าหลาก็ไม่ใช่ตัวเลือกที่แย่เช่นกัน ด้วยเรื่องนี้ ฉันก็ไม่น่าจะใช้เวลาถึงสองวันในการเพิ่มค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจของตัวเองขึ้นไปที่มาตราฐานของขั้นสี่
ซือเฟิงนั้นอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา เมื่อเขามองไปยังโซนต้องห้ามตรงหน้าเขา อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่ได้รู้สึกผิดหวังมากนัก
ในสถานะปัจจุบันนั้น ดีไวน์เช้งของเขายังไม่สมบูรณ์
เดิมทีเขาคิดว่าเขาจะสามารถฝึกได้แค่ในระยะห้าสิบหลาด้วยซ้ำ เนื่องจากเทคนิคดีไวน์เช้งในตอนนี้นั้นทำให้เขาออกแรงกล้ามเนื้อไปยังทิศทางเดียวกันได้สิบห้าเปอเซ็นต์จากกล้ามเนื้อทั้งหมดเท่านั้น นอกนั้นเขายังไม่สามารถจะเพิ่มเปอเซ็นต์ขึ้นไปได้ ดังนั้นเมื่อเจอกับผลลัพธ์ในปัจจุบันของเขา ซือเฟิงจึงค่อนข้างพอใจ
สำหรับการเข้าสู่โซนต้องห้ามของรูปปั้นที่แผ่ออร่าดีไวน์วิลออกมา เขาจะสามารถทำได้แน่นอน เมื่อเขาทำให้ดีไวน์เช้งสมบูรณ์ได้
หลังจากที่ซือเฟิงกลับไปที่ระยะสามสิบห้าหลา และเริ่มดูดซับดีไวน์วิล มันก็ทำให้ค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ซึ่งในระหว่างที่ซือเฟิงดูดซับดีไวน์วิลอย่างต่อเนื่องเพื่อเข้ามาเพิ่มความแข็งแกร่งทางจิตใจของตัวเอง มันก็เริ่มมีผู้เล่นที่ฟื้นคืนชีพและเข้าสู่เมืองไลท์ฟอร์จมากขึ้น
เมื่อสมาชิกหลายคนของไวโอเล็ตซอร์ด และของหอการค้าอาซูเห็นซือเฟิงและสมาชิกสภาสิบแปดปีกคนอื่นๆนั่งอยู่หน้ารูปปั้นบนกำแพงเมือง พวกเขาก็เต็มไปด้วยความตกตะลึง
….
“ฉันล่ะคิดไม่ออกเลยจริงๆว่าผู้เล่นจากสภาสิบแปดปีกกำลังพยายามทำอะไร พวกเขานั้นเอาแต่เสียเวลานั่งอยู่ต่อหน้ารูปปั้นเหล่านั้นจริงๆ นี่พวกเขาไม่ได้รู้เลยรึไงว่าความสงบสุขในโลกภายนอกได้สลายไปหมดแล้ว ?” คริมสันสตาร์นั้นอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วด้วยความสงสัย เมื่อเธอได้รับรายงานจากลูกน้องของเธอถึงกิจกรรมของสภาสิบแปดปีกในช่วงนี้
สมาชิกของไวโอเล็ตซอร์ด และหอการค้าอาซูต่างพยายามอย่างเต็มที่เพื่อปรับปรุงพลังการต่อสู้ของตัวเองในเมืองไลท์ฟอร์จ
ในทางกลับกันสมาชิกสภาสิบแปดปีกทั้งหมดกับเสียเวลาไปสองวันโดยไม่ได้ทำอะไรเลย นอกเหนือจากการออกจากตำแหน่งที่พวกเขานั่งหน้ารูปปั้นเพื่อไปรับประทานอาหารในร้านอาหารของเมืองไลท์ฟอร์จเป็นครั้งคราวแล้ว พวกเขาก็ไม่ทำอย่างอื่นเลย และแทนที่จะใช้เวลาที่มาที่นี่เพื่อฝึกฝน สมาชิกของสภาสิบแปดปีกกับดูเหมือนว่าจะมาพักร้อนมากกว่า
“สภาสิบแปดปีกอาจมีข้อที่ต้องคิดและพิจารณาของตัวเอง เพราะท้ายที่สุดแล้ว เมื่อพูดถึงผู้เชี่ยวชาญชั้นยอด กิลก็มีเหนือกว่ามหาอำนาจทั่วไปแล้ว” ไวน์ไฟเตอร์กล่าว “ยิ่งไปกว่านั้น หลังจากการร่วมมือกันในครั้งนี้ ฉันได้ยินมาว่าหอการค้าอาซูนั้นมีแผนที่จะกระชับความสัมพันธ์กับสภาสิบแปดปีกในฐานะพันมิตรให้เพิ่มมากขึ้นอีก หลังจากนี้สภาสิบแปดปีกจะมีเส้นทางที่ราบรื่นกว่าเดิมแน่นอน”
“ฉันไม่คิดแบบนั้นนะ ด้วยสถานการณ์ในปัจจุบัน แม้แต่ซุเปอร์กิลบางกิลก็ยังไม่สามารถจะรับมือกับสถานการณ์ในปัจจุบันได้ แล้วหอการค้าอาซูจะทำได้ยังไง ? นี่ยังไม่ต้องพูดถึงว่าพวกเขาจะเอาเวลาไหนไปช่วยสภาสิบแปดปีกในสถานการณ์แบบนี้ ?” คริมสันสตาร์กล่าวด้วยรอยยิ้มบางๆ “นอกจากนี้ผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดยังไม่ได้มีประสิทธิภาพเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป เพราะท้ายที่สุดตอนนี้มหาอำนาจต่างๆได้ทำการวิจัยอาวุธสงคราม และทำการผลิตมันออกมามากมายแล้ว และปัจจุบันกลยุทธ์ที่เน้นปริมาณเข้าว่าก็ได้เข้ามาครองสนามรบอีกครั้ง”
เนื่องจากเมืองกิลต่างๆนั้นไม่ได้รับความคุ้มครองจากทหาร NPC อีกต่อไป หลายกิลจึงสูญเสียความมั่นใจของตัวเองไปมาก เพราะท้ายที่สุดตอนนี้ผู้เล่นที่คิดจะก่อปัญหาในเมืองนั้นจะไม่ต้องกังวลเรื่องทหาร NPC ที่ทรงพลังมากเกินไปแล้ว นี่ยังไม่นับรวมพวกกองกำลังสายความมืดต่างๆ รวมไปถึงพวก NPC ผู้เล่น และกิลอีกจำนวนมาก ซึ่งพวกเขานั้นจะไม่ถูกจำกัดให้ต้องปฎิบัติการในขอบเขตที่จำกัดอีกต่อไป
ในความเป็นจริงเครือข่ายข่าวกรองของไวโอเล็ตซอร์ดนั้นระบุมาอย่างชัดเจนเลยว่า ตอนนี้มีเมืองกิลมากกว่าสองร้องแห่งแล้วในทวีปด้านตะวันตกที่เปลี่ยนเจ้าของ นับตั้งแต่ที่แพ๊คเสริมใหม่ กลียุคของเทพปีศาจถูกเปิดใช้งาน สำหรับมหาอำนาจต่างๆพวกเขายังคงไม่ได้รับความเสียหายใดๆจากแพ๊คเสริมใหม่นี้ เพราะจำนวนผู้เชี่ยวชาญขั้นสาม และผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดที่พวกเขามีอยู่ อย่างไรก็ตามสภาสิบแปดปีกนั้นมีความด้อยกว่ามหาอำนาจต่างๆในเรื่องนี้
“นี่มันไม่ใช่สิ่งที่เราจะต้องมากังวลอะไรด้วยเลย เราควรห่วงเรื่องของตัวเองมากกว่า ผู้ฝึกสอนทอร์เร้นเพิ่งจะส่งข่าวมาว่า มหาอำนาจที่พัฒนาอย่างลับๆมาตลอดบางส่วนเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว ดังนั้นเขาจึงต้องการให้เราส่งกองกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดของกิลสองกองกำลังเข้าไปประจำการในเมืองกิลสองเมืองที่อยู่ใกล้กับแผนที่เป็นกลาง เลเวลหนึ่งร้อย เพื่อเป็นหลักประกัน …” ไวน์ไฟเตอร์กล่าว
“ฉันเข้าใจ เมื่อถึงเวลาที่เราต้องออกจากที่นี่ ฉันจะรีบดำเนินการทันที” คริมสันสตาร์กล่าวพลางพยักหน้า
….
ในขณะที่คริมสันสตาร์และไวน์ไฟเตอร์กำลังนั่งพูดคุยกัน ซือเฟิงซึ่งนั่งอยู่เงียบๆหน้ารูปปั้นที่แผ่ออร่าดีไวน์วิลออกมาก็ได้ลืมตาขึ้น ในเวลาเดียวกันระลอกคลื่นที่มองไม่เห็นก็ได้แผ่ออกมาจากร่างกายของเขา ซึ่งมันทำให้ออร่าดีไวน์วิลรอบเขานั้นอ่อนแอลงไปอีก
“สำเร็จ !!!”