Reincarnation Of The Strongest Sword God - ตอนที่ 2656
ตอนที่ 2656 มอนสเตอร์ที่น่ากลัว
เมืองปีกสีเงิน บาร์บลูโรส :
ในฐานะที่เป็นหนึ่งในบาร์ชั้นสูงไม่กี่แห่งในเมืองปีกสีเงิน ไม่เพียงแต่มันจะเป็นสถานที่แลกเปลี่ยนข้อมูลกันของผู้เชี่ยวชาญ แต่มันยังจัดเป็นสถานที่ศักสิทธิ์สำหรับทีมนักผจญภัยที่มีชื่อเสียงต่างๆที่จะมาเพื่อเฉลิมฉลองการเก็บเกี่ยวของพวกเขา ดังนั้นโดยทั่วไปแล้วบาร์บลูโรสจึงเต็มไปด้วยผู้เล่นทุกวัน
อย่างไรก็ตามในขณะนี้มันมีคนเพียงไม่กี่สิบคนเท่านั้นที่จับจองพื้นที่อยู่บนชั้นสามของบาร์
และในบรรดาคนเหล่านี้นั้น แม้แต่ผู้ที่มีเลเวลต่ำสุดก็ยังมีเลเวลหนึ่งร้อยสิบสี่ และผู้เล่นที่มีเลเวลสูงที่สุดก็มีเลเวลหนึ่งร้อยสิบห้า โดยผู้เล่นเหล่านี้ก็ยังสวมใส่อุปกรณ์ที่ยอดเยี่ยมมากๆด้วย และที่อ่อนแอที่สุดในหมู่อุปกรณ์ของพวกเขานั้นมันก็ยังอยู่ในระดับดาร์คโกล เลเวลหนึ่งร้อยสิบ สำหรับอุปกรณ์ระดับอีปิคเลเวลมากกว่าหนึ่งร้อยที่สามารถทำให้ผู้เชี่ยวชาญในปัจจุบันน้ำลายไหลด้วยความอยากได้ ได้นั้น คนเหล่านี้มีกันอย่างน้อยคนละสองชิ้น ขณะที่ผู้ที่มีมากที่สุดในหมู่พวกเขามีถึงสี่ชิ้น
อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับเลเวล อาวุธ และอุปกรณ์ของพวกเขาแล้ว ตัวตนของคนเหล่านี้นั้นคือสิ่งที่น่าประหลาดใจอย่างแท้จริง ผู้เล่นเหล่านี้นั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญชั้นยอด และผู้เชี่ยวชาญระดับสัตว์ประหลาดของจักรพรรดิคริมสัน ซึ่งเป็น
กิลที่เกือบทุกคนในประเทศโดยรอบล้วนรู้จักดี ในขณะเดียวกันผู้ที่เป็นหัวหน้าของผู้เล่นทีมนี้ก็คือ อิลูซะรี่เวิร์ด หนึ่งในรองหัวหน้ากิลของจักรพรรดิคริมสัน
“แน่นอนเลยว่ามันเป็นเช่นเดียวกับที่สายลับของเราในมือแห่งนักบุญรายงานมา Faux Saint Devourer ซึ่งเป็นมอนสเตอร์ระดับเทพนิยายที่พึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนของพวกนั้นในการโจมตีเมืองปีกสีเงิน” ชายที่มีท่าทางดุร้ายกล่าวขึ้น ขณะที่เขามองภาพบนกระจกเวทย์มนต์ที่อยู่กลางโต๊ะของห้อง ก่อนที่ชายคนนั้นจะถอนหายใจออกมา และกล่าวต่อว่า “อีกไม่นาน พวก Faux Saint Devourer ก็จะปรากฎตัวออกมามากขึ้น และด้วยเหตุนี้เมืองปีกสีเงินจะล่มสลายในอีกไม่กี่วันแน่นอน ซึ่งในเวลานั้นมันก็จะไร้ประโยชน์แล้ว แม้ว่าแบล๊คเฟรม และแกนหลักที่ติดตามเขาไปจะปรากฎตัวขึ้นก็ตาม”
เมื่อได้ยินคำพูดของชายคนนี้ สมาชิกคนอื่นๆของจักรพรรดิคริมสันก็เงียบลง
Faux Saint Destroyers ที่เป็มอนสเตอร์ระดับแกรนลอร์ดมันก็จัดว่าแข็งแกร่งมากแล้ว แต่ตอนี้มันกับมีมอนสเตอร์ระดับเทพนิยายอย่าง Faux Saint Devourer ปรากฎตัวขึ้นอีก และความแข็งแกร่งกับมาตราฐานการต่อสู้ที่ Faux Saint Devourer ได้แสดงออกมาจนถึงตอนนี้มันก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ผู้เชี่ยวชาญชั้นยอด และผู้เชี่ยวชาญระดับสัตว์ประหลาดอย่างพวกเขาขนลุก มันเป็นไปได้มากว่าแม้ทีมของพวกเขาจะร่วมมือกับกองทัพของกิลขนาดใหญ่อื่นๆโจมตีมัน แต่ทุกคนก็ยังจะต้องจบลงด้วยความตายทั้งหมด ในขณะเดียวกัน เมื่อจำนวนของ Faux Saint Devourer เพิ่มขึ้นเป็นยี่สิบถึงสามสิบตัว พวกมันก็น่าจะสามารถทำลายเมืองกิลได้
“แล้วหัวหน้ากิลตอบสนองต่อเรื่องนี้อย่างไร ?” อิลูซะรี่เวิร์ดถามชายที่มีท่าทางดุร้าย เมื่อเธอเห็น Faux Saint Devourer ที่กำลังอาละวาดอย่างไม่อาจหยุดยั้งได้ผ่านกระจกเวทย์มนต์ เธอก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเช่นกัน
“หัวหน้ากิลสั่งให้เราถอนตัวโดยสมบูรณ์ เขาบอกว่าเราไม่จำเป็นจะต้องร่วมมือกับสภาสิบแปดปีกเพื่อต่อสู้กับมอนสเตอร์เหล่านี้จนตายกันไปข้าง …” ชายที่มีท่าทางดุร้ายตอบ
“ถอนตัวโดยสมบูรณ์ ?” อิลูซะรี่เวิร์ดรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยกับคำตอบที่เธอได้รับ
ก่อนหน้านี้หัวหน้ากิลของพวกเขาได้ส่งผู้เชี่ยวชาญของจักรพรรดิคริมสันมาเป็นการส่วนตัวเพื่อช่วยปกป้องเมืองปีกสีเงิน ซึ่งสิ่งนี้บ่งชี้ว่าเขาสนับสนุนการเป็นหุ้นส่วนระหว่างจักรพรรดิคริมสันกับสภาสิบแปดปีกอย่างมาก อย่างไรก็ตามในตอนนี้ก่อนที่ผู้เชี่ยวชาญของจักรพรรดิคริมสันจะได้เริ่มต่อสู้ เขากับสั่งให้ถอนตัวแล้ว อิลูซะรี่เวิร์ดนั้นไม่อยากจะเชื่อในสถานการณ์นี้เลย
“ถูกต้องหัวหน้ากิลสั่งมาอย่างนั้นจริงๆ God domain ในปัจจุบันนั้นไม่เหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป และแค่ในจักรวรรดิรัตติกาลเพียงอย่างเดียวก็มีเรื่องมากมายที่ต้องจัดการแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้ที่การพัฒนาของสตาร์ลิ้งกำลังดีขึ้นอย่างรวดเร็ว และในตอนนี้สตาร์ลิ้งก็ได้เริ่มเล็งเป้ามาที่เมืองกิลของเราบางส่วนแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นสถานการณ์ที่นี่มันก็ดูสิ้นหวังอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นมันจะเป็นการดีกว่าหากเราถอนตัวกลับไปป้องกันสิ่งที่ป้องกันได้ ไม่ใช่มามัวแต่อยู่ในอะไรที่สิ้นหวังแบบนี้ อันยีลดิ้งโซลเองก็น่าจะทำเช่นเดียวกัน” ชายที่มีท่าทางดุร้ายกล่าวตอบ
“แล้วมีข้อมูลใหม่เกี่ยวกับแบล๊คเฟรม และแกนหลักของสภาสิบแปดปีกที่ติดตามเขาไปบ้างไหม ?”
“ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลใหม่เพิ่มเติม ฉันได้ยินมาว่าพวกระดับสูงและแกนหลักของสภาสิบแปดปีกที่เหลือยังคงพยายามติดต่อกับแบล๊คเฟรม และคนอื่นๆที่ติดตามเขาไป แต่ห้องเกมเคบินของพวกเขาทั้งหมดก็ยังคงถูกปิดกั้น ซึ่งหากพวกเขาตัดระบบห้องเกมเคบินไปเลย มันก็มีโอกาสสูงมากที่แบล๊คเฟรมและคนอื่นๆจะเข้าสู่อาการโคม่า ดังนั้นสิ่งที่พวกเขาทำได้คือรอเท่านั้น” ชายที่มีท่าทางดุร้ายกล่าวพลางส่ายหัว “อย่างไรก็ตามในสถานการณ์ปัจจุบัน มันไม่น่าจะมีโอกาสที่สภาสิบแปดปีกจะสามารถกู้สถานการณ์กลับมาได้แล้ว นอกเหนือจากการคุกคามของสตาร์ลิ้งและโลกแห่งความมืดแล้ว สภาสิบแปดปีกก็จะต้องเจอกับปัญหาหนักมากในการจะปกป้องสำนักงานใหญ่หลักของตัวเองในอาณาจักรสตาร์มูน แม้ว่าแบล๊คเฟรมกับคนอื่นๆที่ติดตามเขาไปจะกลับมา แต่สถานการณ์ก็คงไม่เปลี่ยนแปลงใดๆ ความแตกต่างระหว่างกำลังรบของทั้งสองฝ่ายมันมีมากเกินไป นอกจากนี้มือแห่งนักบุญก็กำลังเล็งตำแหน่งของสภาสิบแปดปีกในอาณาจักรสตาร์มูนด้วย”
“ต้นกำเนิดของมือแห่งนักบุญนั้นลึกลับและไม่ธรรมดาอย่างยิ่ง แม้แต่ซวนหวู่ ชิชา ผู้ยิ่งใหญ่แห่งแบล๊ควอเตอร์ก็ยังหวาดกลัวพวกเขา ไม่งั้นด้วยบุคลิกของเธอ เธอจะไม่ยอมแพ้ในจักรวรรดิออร์คแน่นอน”
“ฉันเข้าใจ อย่างไรก็ตามในอัตราการเกิดของ Faux Saint Devourers ตอนนี้นั้น ตราบเท่าที่เราร่วมมือกับกิลขนาดใหญ่อื่นๆป้องกันเมือง เราก็น่าจะสามารถยื้อเวลาออกไปได้อีกราวสองสัปดาห์หรือมากกว่านั้นนิดหน่อย …. การถอนตัวอย่างรวดเร็วเลย ฉันว่ามันคง …” แม้ว่าอิลูซะรี่เวิร์ดจะเข้าใจในสิ่งที่ชายที่มีท่าทางดุร้ายพยายามจะสื่อ แต่เธอก็ยังไม่อยากจะยอมแพ้ในเรื่องนี้
“สองสัปดาห์ ?” ชายที่มีท่าทางดุร้ายยิ้มอย่างขมขื่นออกมา เมื่อได้ยินคำพูดของอิลูซะรี่เวิร์ด “ถ้าเราสามารถทนอีกสองสัปดาห์ได้ หัวหน้ากิลคงไม่สั่งให้เราถอนตัวอย่างสมบูรณ์ทันที”
“คุณหมายถึงอะไร ?” อิลูซะรี่เวิร์ดกล่าวถามอย่างสงสัย
แม้ว่ามอนสเตอร์ที่มีมาตราฐานการต่อสู้ในขั้นสี่จะทรงพลังอย่างมากในระยะนี้ของเกม แต่เมื่อมันเข้าโจมตีสถานที่ที่เต็มไปด้วยโครงสร้างการป้องกันที่หนาแน่นของเมืองปีกสีเงินนั้น มันก็ควรจะต้องใช้เวลานานพอดูในการจะยึดเมืองให้ได้ ต่อให้มันมีจำนวนยี่สิบถึงสามสิบตัวก็ตาม
“ตามข้อมูลที่เรารวบรวมมาได้จากมือแห่งนักบุญ เมื่อมอนสเตอร์ Faux Saint ไปถึงระดับเทพนิยาย ไม่เพียงแต่ค่าสถานะพื้นฐาน และพลังการต่อสู้ของพวกมันจะได้รับการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพ แต่สติปัญญาของพวกมันยังจะเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน …” ชายที่มีท่าทางดุร้ายกล่าวด้วยสีหน้ามืดมน ขณะที่เขามองไปยัง Faux Saint Devourer ผ่านกระจกเวทย์มนต์
“มันไม่ใช่เรื่องปกติหรอที่เมื่อเป็นแบบนี้ พวกมันจะได้รับการอัพเกรดสติปัญญาให้เพิ่มขึ้น ?” อิลูซะรี่เวิร์ดกล่าวถามชายที่มีท่าทางดุร้ายด้วยแววตาสงสัย
“มันจะไม่เป็นปัญหาใดๆเลย หากมอนสเตอร์พวกนี้ได้รับการอัพเกรดสติปัญญาให้เพิ่มขึ้นแบบปกติ อย่างไรก็ตามจากข้อมูลของมือแห่งนักบุญ มอนสเตอร์ Faux Saint เหล่านี้จะได้รับความสามารถในการเรียนรู้ที่สูงมากมา เมื่อพวกมันไปถึงระดับเทพนิยาย และเพียงไม่กี่นาทีหลังจากที่พวกมันมาถึงระดับเทพนิยาย พวกมันก็สามารถจะเลียนแบบเทคนิคการต่อสู้ที่ผู้เล่นใช้ได้ พวกมันจัดเป็นมอนสเตอร์ที่น่ากลัวอย่างแท้จริงเลยล่ะ !!!” ชายที่มีท่าทางดุร้ายอธิบาย
“เป็นไปได้ยังไงกัน ? นี่ไม่ได้หมายความว่านอกเหนือจาก NPC แล้ว มันก็จะไม่มีใครสามารถปราบปราม Faux Saint Devourers เหล่านี้ได้เลยงั้นหรอ ?” อิลูซะรี่เวิร์ดอดไม่ได้ที่จะตื่นตระหนก และแวบหนึ่งเธอคิดว่าชายที่มีท่าทางดุร้ายกำลังล้อเล่นกับเธอด้วยซ้ำ
การเรียนรู้เทคนิคการต่อสู้นั้นพูดง่ายกว่าทำ และแม้จะได้รับคำแนะนำจากไอเทมมรดกบางอย่างที่สมบูรณ์ แต่ผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดก็ยังต้องใช้เวลาหลายสิบชั่วโมงในการเรียนรู้เทคนิคการต่อสู้ แต่ถ้าหากไม่มีคำแนะนำใดๆ ผู้เล่นก็จะไม่สามารถเรียนรู้เทคนิคการต่อสู้ได้ด้วยซ้ำ แม้ว่าจะผ่านไปหนึ่งถึงสองเดือน ดังนั้นมอนสเตอร์ระดับเทพนิยายทั่วไปจะสามารถเรียนรู้เทคนิคการต่อสู้ได้ในเวลาไม่กี่นาทีได้ยังไง ?
“ฉันเองก็ไม่อยากจะเชื่อข้อมูลนี้เหมือนกัน …” ชายที่มีท่าทางดุร้ายกล่าวด้วยรอยยิ้มขมขื่น จากนั้นเขาก็ส่งบันทึกวีดีโอบางอย่างไปให้อิลูซะรี่เวิร์ด “ลองดูด้วยตัวคุณเองเถอะ …”
เมื่ออิลูซะรี่เวิร์ดรับวีดีโอมาจากชายที่มีท่าทางดุร้าย และเปิดดูมัน เธอก็เต็มไปด้วยความตกตะลึงมากๆ เพราะท้ายที่สุดแล้ว Faux Saint Devourers ในบันทึกวีดีโอนี้นั้น ได้ใช้เทคนิคสเต็ปเท้าขั้นพื้นฐานฆ่าผู้เชี่ยวชาญขอบเขตอนันต์ได้อย่างรวดเร็ว และเมื่อผู้เชี่ยวชาญขอบเขตอนันต์ตายลง ศพของเขาก็ได้กลายเป็นมอนสเตอร์ Faux Saint ทันที ….
“เป็นไปได้ยังไงกัน ?”
ขนของอิลูซะรี่เวิร์ดนั้นลุกไปทั่วร่าง เมื่อเธอดูวีดีโอนี้จนจบ
ปฎิกิริยาของเธอนั้นเป็นเพราะเธอจำผู้เชี่ยวชาญขอบเขตอนันต์ที่ต่อสู้กับ Faux Saint Devourers ในวีดีโอได้ เขาคือฮันเดรดอาร์ม ผู้บัญชาการของทีมนักผจญภัยคริมสันวูล์ฟ ซึ่งเป็นทีมนักผจญภัยชั้นยอดในจักรวรรดิมังกรดำ ซึ่งฮันเดรดอาร์มนั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ห่างจากขอบเขตโดเมนเพียงครึ่งก้าวเท่านั้น
อย่างไรก็ตามแม้ว่าฮันเดรดอาร์มจะมีมาตราฐานการต่อสู้ที่สูงเช่นนี้ แต่ Faux Saint Devourers ก็ยังฆ่าเขาได้อย่างรวดเร็วเมื่อมันต้องการ ยิ่งไปกว่านั้น Faux Saint Devourers ยังใช้เสต็ปเท้าเดียวกับที่ฮันเดรดอาร์มใช้ต่อสู้กับมันฆ่าเขาด้วย
“ก็ตามที่เห็นนั่นแหละ Faux Saint Devourers เรียนรู้เทคนิคสเต็ปเท้าที่ฮันเดรดอาร์มใช้ ได้อย่างรวดเร็ว แถมมันยังมีสติปัญญาที่สูงมาก มันหลอกล่อให้ฮันเดรดอาร์ทใช้ทุกอย่างที่เขามีออกมาจนหมดก่อนเพื่อให้มันได้เรียนรู้ พอมันเรียนรู้เรียบร้อย มันก็จัดการฆ่าเขาทันที ซึ่งสถานการณ์นั้นมันก็คล้ายคลึงกับเพอเพิ้ลอายในตอนนี้เลย” ชายที่มีท่าทางดุร้ายกล่าวพลางถอนหายใจออกมา ขณะที่เขามองดูเพอเพิ้ลอายปะทะกับ Faux Saint Devourers ผ่านกระจกเวทย์มนต์
“ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมหัวหน้ากิลถึงต้องการให้เราล่าถอยทันที ใครจะสามารถต่อกรกับมอนสเตอร์พวกนี้ได้กัน ?” อิลูซะรี่เวิร์ดพึมพำอย่างตกตะลึงกับเรื่องสติปัญญาของ Faux Saint Devourers
ด้วยความแข็งแกร่งและสติปัญญาแบบนี้ Faux Saint Devourers นั้นไม่ใช่สิ่งที่ผู้เล่นในปัจจุบันจะสามารถรับมือได้เลย มันมีเพียงแต่ NPC เท่านั้นที่สามารถจะฆ่ามอน
สเตอร์ตัวนี้ได้
ระหว่างที่อิลูซะรี่เวิร์ดกำลังจะสั่งให้ทีมของจักรพรรดคริมสันถอยออกจากเมืองปีกสีเงิน รูปแบบการเคลื่อนไหวของ Faux Saint Devourers ก็เปลี่ยน มันได้ไปปรากฎตัวขึ้นด้านหลังของเพอเพิ้ลอายอย่างรวดเร็ว และในพริบตามันก็ทำการแทงหอกเข้าใส่เพอเพิ้ลอายโดยทำให้หอกกลายเป็นภาพติดตามากกว่ายี่สิบเล่ม
การเคลื่อนไหวนี้ของ Faux Saint Devourers นั้นก็เป็นสิ่งที่อิลูซะรี่เวิร์ดคุ้นเคยเช่นกัน มันเป็นหนึ่งในเครื่องหมายการค้าของฮันเดรดอาร์ม เทคนิคการต่อสู้ขั้นสูง ฟอลเลนลีฟ ซึ่งเมื่อเห็นการเคลื่อนไหวนี้ถูกใช้ออกมา อิลูซะรี่เวิร์ดก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา
เมื่อฮันเดรดอาร์มใช้เทคนิคนี้ แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตโดเมนก็ยังไม่สามารถจะหยุดมันได้ทั้งหมด แต่ตอนนี้ Faux Saint Devourers กับเป็นผู้ใช้มัน และใช้มันออกมาอย่างสมบูรณ์แบบกว่า ดังนั้นก็ไม่ต้องพูดถึงสภาพของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตรวดเร็วดั่งสายน้ำอย่างเพอเพิ้ลอายเลย
อย่างไรก็ตามในขณะที่อิลูซะรี่เวิร์ดกำลังจะหันหลังกลับ ไม่ดูกระจกเวทย์มนต์อีกต่อไป ลำแสงหนึ่งก็ปรากฎขึ้นในกระจก
ในช่วงเวลาต่อมากำแพงสีดำสนิทก็ปรากฎขึ้นระหว่างเพอเพิ้ลอาย และภาพของหอกมากกว่ายี่สิบเล่มก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย เมื่อปะทะเข้ากับกำแพงสีดำสนิท