Reincarnation Of The Strongest Sword God - ตอนที่ 2664
ตอนที่ 2664 สภาสิบแปดปีกในความโกลาหล และแผนของทุกคน
ทั้งเมลานโครอิคสไมล์และมู่หลิงชาต่างก็ตกตะลึง เมื่อได้ยินคำพูดของเหลียงจิง
“คุณติดต่อหัวหน้ากิลได้แล้วงั้นหรอ ?” เมลานโครอิคสไมล์กล่าวถามอย่างตื่นเต้น
สภาสิบแปดปีกในปัจจุบันนั้นถือว่าอยู่ในจุดที่อึดอัดมากๆ เนื่องจากพวกเขาแทบไม่มีนักสู้ชั้นยอดของกิลเหลือเลย เนื่องจากคนเหล่านี้รวมทั้งหัวหน้ากิลของพวกเขาได้เดินทางไปยังทวีปด้านตะวันตก อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่ประเด็นที่สำคัญที่สุด ประเด็นที่สำคัญที่สุดคือขวัญกำลังใจของกิลนั้นลดต่ำลงเป็นประวัติการณ์
ซือเฟิงนั้นเป็นกระดูกสันหลังของสภาสิบแปดปีกมาโดยตลอด การกลับมาของเขาอาจไม่สามารถลากสภาสิบแปดปีกออกจากสถานการณ์ปัจจุบันได้ แต่มันจะสามารถรวมใจของสมาชิกสภาสิบแปดปีกให้กลับมาเป็นหนึ่งเดียวกันได้อีกครั้งแน่นอน
ยิ่งไปกว่านั้นการกลับมาของเขายังจะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับพันธมิตรของสภาสิบแปดปีกอย่างมาก เพราะท้ายที่สุดแล้วเหตุผลหลักที่พันธมิตรเหล่านี้ยินดีจะร่วมมือกับสภาสิบแปดปีกตั้งแต่แรกก็คือ ซือเฟิง
ในตอนนี้นับประสาอะไรกับเมลานโครอิคสไมล์ แม้แต่มู่หลิงชาก็ยังจ้องมองมายัง
เหลียงจิงอย่างกระตือรือร้น และอยากรู้ว่าซือเฟิงกลับมาแล้วจริงๆหรือไม่ ….
หากซือเฟิงกลับมายังทวีปด้านตะวันออกแล้วจริงๆ มหาอำนาจต่างๆจะต้องพิจารณาการตัดสินใจของพวกเขาอีกครั้งแน่นอนในเรื่องการร่วมมือกับสตาร์ลิ้งเพื่อกำหนดเป้าหมายมายังสภาสิบแปดปีก และแม้ว่าพันธมิตรของพวกเขาจะยังอยู่ แต่มันก็จะไม่เป็นปึกแผ่นกันเหมือนแต่ก่อนแน่นอน
“ยังไม่ได้ …” เหลียงจิงกล่าวพลางส่ายหัว “แต่ฉันได้รับรายงานมาว่าขณะนี้หัวหน้า
กิลอยู่ในเมืองปีกสีเงิน”
หลังจากพูดจบเหลียงจิงก็ส่งต่อรายงานนี้ไปให้เมลานโครอิคสไมล์และมู่หลิงชาได้อ่านและตรวจสอบ
อย่างไรก็ตามเมื่อเมลานโครอิคสไมล์ และมู่หลิงชาได้อ่านรายงานที่เหลียงจิงส่งต่อมา ความตื่นเต้นบนใบหน้าของพวกเขาก็หายไป และมันก็ถูกแทนที่ด้วยความหวาดกลัวที่ไม่อาจบรรยายได้แทน
“เป็นไปได้ยังไงกัน ?” เมลานโครอิคสไมล์นั้นอดไม่ได้ที่จะมีคยวามวิตกกังวลเพิ่มขึ้น เมื่อได้อ่านรายงาน “เร็ว !! รีบรวบรวมเหล่าองครักษ์ระดับสูง และติดต่อทีมของเฮลรัชทันที !!! เราต้องมุ่งหน้าไปที่เมืองปีกสีเงินให้ไวที่สุด !!!”
ความจริงที่ว่าซือเฟิงสามารถจะฆ่า Faux Saint Devourer ซึ่งเป็นมอนสเตอร์ระดับเทพนิยายได้นั้น มันน่าประหลาดใจมากๆ และข่าวที่น่าตื่นเต้นเช่นนี้ก็จะช่วยเพิ่มขวัญกำลังใจแน่นอน
อย่างไรก็ตามการที่จะต้องเผชิญหน้ากับการตอบโต้ของกองทัพมอนสเตอร์ Faux Saint นับล้านมันก็ไม่ใช่เรื่องตลก นี่ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องของมือแห่งนักบุญที่พวกเขาจะไม่ยอมนั่งนิ่งๆแน่นอน หลังจากได้รับความอัปยศอดสูไป
ในเวลานั้นเมืองสภาสิบแปดปีกจะต้องต่อสู้กับกองทัพมอนสเตอร์ Faux Saint หลายล้านตัว รวมไปถึงบรรดาผู้เชี่ยวชาญของมือแห่งนักบุญ และด้วยการป้องกันของเมืองปีกสีเงิน การจะหยุดกองกำลังแบบนี้มันก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
ในขณะเดียวกันถ้าซือเฟิงต้องลงเอยด้วยการถูกมอนสเตอร์ Faux Saint กลืนกิน ผลที่ตามมามันก็จะเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับสภาสิบแปดปีก
“อย่าพึ่งตื่นตระหนกไป มอนสเตอร์ Faux Saint และมือแห่งนักบุญจะไม่ดำเนินการในเร็วๆนี้แน่นอน พวกเขาจะต้องใช้เวลาในการรวบรวมกองกำลังของพวกเขา ฉันจะติดต่อกับอันยีลดิ้งฮาร์ท และให้เขานำทีมไปที่เมืองปีกสีเงินทันที” มู่หลิงชากล่าวปลอบเมลานโครอิคสไมล์
“ขอบคุณ ….” เมลานโครอิคสไมล์กล่าวขณะที่เธอพยักหน้าด้วยความขอบคุณ จากนั้นเธอก็สูดหายใจเข้าลึกๆเพื่อสงบสติอารมณ์ ก่อนที่จะจัดเตรียมกำลังคนอย่างเป็นระบบเพื่อส่งมายังเมืองปีกสีเงิน
….
ในขณะที่เมลานโครอิคสไมล์ และคนอื่นๆกำลังนำกองทัพไปยังเมืองปีกสีเงิน มหาอำนาจต่างๆก็รู้สึกหดหู่จากการกลับมาของซือเฟิง
พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าซือเฟิงจะปรากฎตัวขึ้นอีกครั้ง หลังจากหายไปเป็นเวลานาน
หรือจะพูดอีกอย่างก็คือ สัตว์ประหลาดเก่าแก่ที่เป็นราชันดาบ ขั้นสามได้กลับมาแล้ว !!
ยิ่งไปกว่านั้นพลังการต่อสู้ของซือเฟิงยังเพิ่มสูงขึ้นจนราวกับเป็นคนละคน และเมื่อเขากลายร่างเป็นมังกรดำ มันก็ทำให้เขาสามารถฆ่ามอนสเตอร์ระดับเทพนิยายอย่าง Faux Saint Devourer ลงได้อย่างง่ายดาย ราชันดาบผู้นี้นั้นน่ากลัวกว่าเมื่อก่อนมาก และการเปลี่ยนแปลงที่น่าอัศจรรย์นี้ของเขาจะทำให้สภาสิบแปดปีกรับมือได้ยากขึ้นมาก”
แถมเมื่อเทียบกันกับกิลที่มีขวัญกำลังใจอ่อนแอและมีความคิดเห็นที่แตกแยกแล้ว กิลที่เป็นหนึ่งเดียวกัน มีขวัญกำลังใจสูงส่ง นั้นจะแข็งแกร่งกว่าและสามารถแสดงพลังในการต่อสู้ออกมาได้มากกว่าแน่นอน
….
จักรวรรดิมังกรไฟ เมืองมังกรไฟ ร้านสกอร์ชชิ่งเฟรม :
ร้านอาหารสกอร์ชชิ่งเฟรมนั้นเป็นอาคารที่สูงมากกว่าสามสิบชั้น และตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางเมือง ซึ่งในขณะนี้ การ์เดี้ยนไนท์หญิง เลเวลหนึ่งร้อยสิบหกในชุดเกราะสีดำทองก็ได้เดินเข้ามาที่ชั้นบนสุดของร้านอาหาร ซึ่งการ์เดี้ยนไนท์หญิงได้แผ่ออร่าที่น่ากลัวออกมาจนมันสามารถปราบปรามมานารอบตัวเธอได้เลย อย่างไรก็ตามเมื่อการ์เดี้ยนไนท์หญิงคนนี้มาถึงตรงหน้าผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังรับประทานอาหารอยู่ เธอก็โค้งคำนับด้วยความเคารพ
“รองหัวหน้ากิลชาโด้ว แบล๊คเฟรมได้กลับมายังทวีปด้านตะวันออกแล้ว” ไวท์เฟเธอร์ที่เป็นการ์เดี้ยนไนท์หญิงรายงาน ขณะที่เธอวางเอกสารต่อหน้าโคลท์ชาโด้ว จากนั้นเธอก็พูดต่อว่า “อย่างที่เราเดาไว้ เขาแข็งแกร่งขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก เป็นผลให้สภาสิบแปดปีกและพันธมิตรของพวกเขาฟื้นฟูความมั่นใจขึ้นมาได้ และแม้แต่ศาลาลับก็ยังส่งกองกำลังออกมาช่วยปกป้องเมืองป่าหินมากขึ้น และในขณะนี้มหาอำนาจต่างๆก็กำลังถกเถียงเรื่องนี้กันอย่างถึงพริกถึงขิง เราควรจะดำเนินการตามแผนเดิม และจัดการประชุมพูดคุยเกี่ยวกับพันธมิตรต่อไหม ?”
“แน่นอนสิ แม้ว่าเขาจะฆ่า Faux Saint Devourer ไปได้หนึ่งตัว แต่ภาพใหญ่ก็จะยังคงเหมือนเดิม ดำเนินการไปตามแผน” โคลท์ชาโด้วกล่าวด้วยรอยยิ้มเย้ายวนที่ปรากฎขึ้นบนใบหน้าของเธอ “มหาอำนาจเหล่านั้นก็ไม่ใช่พวกโง่เช่นกัน พวกเขาน่าจะเข้าใจดีว่าเวลามีการเปลี่ยนแปลง หากพวกเขาต้องการจะอยู่รอดในยุคใหม่ ทางเลือกเดียวของพวกเขาคือการปล้นทรัพยากรเพิ่มเติมมาไว้ใช้หล่อเลี้ยงตัวเอง !! นี่ไม่ต้องพูดถึงทั้งแบล๊คเฟรมและเมืองปีกสีเงินเลย ยังไงซะทั้งเขาและเมืองของเขาก็จะอยู่รอดต่อไปได้อีกไม่นานนักแน่นอน !!”
แม้ว่าการกลับมาของซือเฟิงจะสร้างความตกตะลึงให้กับมหาอำนาจต่างๆ
แต่ท้ายที่สุดแล้วไม่ว่าจะเป็นใครในตอนนี้ก็จะมีปัญหาในการจะพยายามปรับตัวกับสถานการณ์ของทวีปด้านตะวันออกที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้นอกเหนือจากเรื่องของแพ๊คเสริมใหม่กลียุคของเทพปีศาจแล้ว มันยังมีเรื่องการระบาดของกองทัพมอนสเตอร์ Faux Saint ด้วย
ขณะเดียวกันทวีปด้านตะวันออกก่อนที่ซือเฟิงจะจากไป กับตอนที่ซือเฟิงกลับมานั้น มันก็แตกต่างกันอย่างมาก เวลาของซือเฟิงได้ผ่านไปแล้ว ภัยคุกคามที่เขามีต่อมหาอำนาจต่างๆนั้นไม่ได้ยิ่งใหญ่เหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป
ใน God domain ปัจจุบัน ผู้เล่นขั้นสามไม่ได้หายากเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป แม้แต่ทีมนักผจญภัยชั้นยอดต่างๆก็ยังมีผู้เล่นขั้นสามภายใต้การบังคับบัญชาของตัวเองมากกว่าหนึ่งร้อยคน นี่ไม่ต้องพูดถึงบรรดากิลชั้นสูงหรือเหนือกว่านั้นเลย ดังนั้นตอนนี้มันจึงเป็นเรื่องยากสำหรับตัวตนอย่างซือเฟิงที่จะทำอะไรที่เป็นปาฎิหาริย์ได้แบบเมื่อก่อน แถมองครักษ์ส่วนตัวขั้นสามก็ไม่ได้เป็นภัยคุกคามมากเท่ากับเมื่อก่อนอีกต่อไป
“เข้าใจแล้ว ฉันจะแจ้งให้มหาอำนาจต่างๆทราบทันที !!!” ไวท์เฟเธอร์พยักหน้า ก่อนจะเดินออกไปจากร้านอาหารสกอร์ชชิ่งเฟรม
….
ในขณะที่มหาอำนาจต่างๆของทวีปด้านตะวันออกกำลังหารือและพูดคุยเกี่ยวกับการ
กลับมาของซือเฟิง ซือเฟิงก็ได้ตรงไปที่สถานที่พักกิลสภาสิบแปดปีกในเมืองปีกสีเงินเพื่อพักผ่อน
“หัวหน้ากิล ตามคำสั่งของหัวหน้า เราได้ทำการถ่ายโอน NPC พิการ และพวกองครักษ์ระดับสูงมาอย่างลับๆแล้ว มันก็คงจะใช้เวลาไม่นานนักก่อนที่พวกเขาจะมาถึงเมือง นอกจากนี้เราก็ได้มอบหมายให้คนที่ไว้ใจได้จับตาดูห้องเกมเคบินของรองหัวหน้ากิลและคนอื่นๆไว้แล้ว หากพวกเขาออกมาจากพื้นที่พิเศษ เราก็จะรู้เรื่องนี้ทันที” ยู่หลานรายงานไปยังซือเฟิง ซึ่งกำลังเช็คข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับสถานการณ์ในทวีปด้านตะวันออก
“อืมมม พวกเขาน่าจะออกจากที่นั่นได้ในอีกไม่กี่วันนี้ หากพวกเขาไปถึงดินแดนของ
มอนสเตอร์ Faux Saint เมื่อไหร่ ก็ให้ส่งทีมไปช่วยพวกเขาทันที” ซือเฟิงกล่าวพลางพยักหน้า
แม้ว่าเขาจะคิดว่าสมาชิกกองกำลังหลักของสภาสิบแปดปีกจะไม่มีปัญหาในการจัดการกับพวกมอนสเตอร์ Faux Saint แต่ถ้าพวกเขาถูกล้อมรอบไปด้วย Faux Saint Destroyers จำนวนมาก หรือ Faux Saint Devourer พวกเขาก็จะยังมีโอกาสสูงที่จะถูกฆ่าได้ ในขณะเดียวกันโทษจากการตายที่ผู้เล่นจะได้รับจากมอนสเตอร์ Faux Saint นั้นเป็นสิ่งที่เขาไม่ต้องการจะให้สมาชิกกองกำลังหลักของสภาสิบแปดปีกได้รับ
“หัวหน้ากิล ว่าแต่ดูจากสภาพปัจจุบันนี้ของหัวหน้า มันแปลว่าหัวหน้าสบายดีใช่ไหม ?” ยู่หลานถามอย่างเป็นห่วง
ซือเฟิงไม่เพียงแต่จะสูญเสียการติดต่อกับโลกภายนอกไปเป็นเวลานาน แต่เขายังใช้เวลาทั้งหมดนี้ของเขาอยู่ในห้องเกมเคบิน โดยอาศัยแค่สารอาหารเหลวของห้องเกมเคบินเพื่อเติมเต็มให้กับตัวเองเท่านั้น แถมเขายังพึ่งผ่านการต่อสู้อันรุนแรงมา พร้อมกับได้รับตราประทับวิญญาณมาอีก ซึ่งการที่เขาจะรู้สึกไม่สบายหรือทรุดลงไปทันทีมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ยู่หลานจึงต้องลองถามดูเพื่อความแน่ใจ
“ผ่อนคลายน่า ฉันสบายดีไม่มีปัญหาอะไร ….” ซือเฟิงพูดพลางหัวเราะเบาๆ “ที่จริงตอนนี้จิตใจของฉันอยู่ในสภาพที่ดีเป็นพิเศษ ความคิดใหม่ๆผุดขึ้นมาในใจฉันเป็นระยะๆ และพวกมันก็ทำให้ฉันกระตือรือร้นจะเริ่มฝึกอีกด้วยซ้ำ”
“มันเป็นเรื่องดีที่หัวหน้าสบายดี แต่ถ้าหัวหน้ารู้สึกไม่สบาย หัวหน้าต้องรีบล๊อคเอ้าท์ออกไปพักผ่อนทันที หัวหน้าสามารถฝากเรื่องพวกนี้ไว้กับเราก่อนได้” ยู่หลานกล่าวบอกซือเฟิงด้วยรอยยิ้มบางๆ ก่อนที่เธอจะเดินออกไป
ในขณะเดียวกัน หลังจากที่ยู่หลานจากไป ซือเฟิงก็หยุดเช็คข่าวสารเรื่องสถานการณ์ในทวีปด้านตะวันออก ก่อนจะหันมามุ่งเน้นไปที่หมอกจาก Faux Saint Devourer ที่ถูกส่งเข้ามาในร่างกายของเขา
นี่มันไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาได้รับตราประทับวิญญาณ
โดยปกติผู้เล่นจะไม่รู้สึกถึงตราประทับวิญญาณที่รบกวนพวกเขา อย่างไรก็ตามพวกเขาจะสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนผ่านจิตใจของพวกเขา ซึ่งนี่ก็รวมไปถึงซือ
เฟิงด้วย เขาสามารถสัมผัสได้ถึงหมอกสีขาวที่วนเวียนอยู่ในจิตใจของเขาอย่างชัดเจน โดยสถานการณ์นี้ทำให้เขาตกตะลึงมากๆ
หลังจากนั้นซือเฟิงก็ได้พุ่งความสนใจไปที่หมอกหลายๆเส้นที่เคลื่อนผ่านจิตใจของเขา และการแสดงออกของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างกระทันหัน
ไม่ นี่มันไม่ถูกต้อง !!! นี่ไม่ใช่ตราประทับวิญญาณ แต่เป็นวงเวทย์วิญญาณ !!!