Reincarnation Of The Strongest Sword God - ตอนที่ 2673
ตอนที่ 2673 ขั้นสี่ที่น่ากลัว
เมื่อซือเฟิงเปิดใช้งานม้วนคัมภีร์อัญเชิญองครักษ์ส่วนตัว ผู้เล่นที่อยู่ใกล้ๆก็รู้สึกได้ถึงความหนาแน่นของมานาโดยรอบพื้นที่ที่เพิ่มขึ้นทันที แถมพวกเขายังรู้สึกว่าพื้นที่รอบตัวของพวกเขาเริ่มเสถียร ซึ่งมันทำให้ความผันผวนของมานาที่อยู่รอบนอกเมืองปีกสีเงินนั้นไม่ได้ส่งผลต่อพวกเขาอีกต่อไปแล้ว
หลังจากนั้นชายวัยกลางคนในชุดเสื้อคลุมหรูหราที่ถือคทาที่ถูกประดับไปด้วยอัญมณีจำนวนมากก็ปรากฎตัวขึ้นตรงหน้าของซือเฟิง
แม้ว่าชายวัยกลางคนนี้ผู้นี้จะไม่ได้มีออร่าที่น่ากลัวมากนัก แต่เมื่อทุกคนตรวจสอบข้อมูลของเขา มันก็ทำให้ทุกคนตกตะลึงมากๆ
ขั้นสี่ !!!
NPC ขั้นสี่อีกหนึ่งคน !!!
“อึก !!! นี่สภาสิบแปดปีกปกปิดความแข็งแกร่งไว้มากแค่ไหนกัน ?!!”
เมื่อสมาชิกของมหาอำนาจต่างๆเห็นแวร์ซาย พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะก้นด่าสาปแช่งออกมา
มันอาจจะโอเคกว่านี้ ถ้าพวกเขายังไม่ได้เห็นความแข็งแกร่งของ NPC ขั้นสี่ แต่หลังจากได้เห็นการแสดงของเคร็ก มิดแลนด์ พวกเขาก็ได้เข้าใจแล้วว่า NPC ขั้นสี่นั้นน่ากลัวมากแค่ไหน ซึ่ง NPC ขั้นสามนั้นไม่สามารถจะเทียบกับ NPC ขั้นสี่ได้เลย NPC ขั้นสี่นั้นสามารถจะเปลี่ยนกระแสของสงครามขนาดใหญ่ได้อย่างแท้จริง
ซึ่งตอนนี้สภาสิบแปดปีกก็ได้เปิดเผยออกมาว่าพวกเขามี NPC ขั้นสี่สองคน ยิ่งไปกว่านั้นทั้งสองคนยังเป็นนักเวทย์ด้วย !!!
ในตอนนี้ทุกคนก็เข้าใจแล้วว่าทำไมตอนนั้นซือเฟิงถึงฆ่าเธ้าซั่นอายและทีมของเขาอย่างไม่ลังเลย
หากกิลของพวกเขามี NPC ขั้นสี่สองคนแบบนี้ กิลของพวกเขาก็จะไม่กลัวมอนสเตอร์ Faux Saint เช่นกัน เพราะท้ายที่สุดช่องว่างระหว่างขั้นสาม กับขั้นสี่นั้นมันมีมากเกินไป ซึ่งมันไม่ใช่อะไรที่จำนวนที่เหนือกว่าจะสามารถชดเชยได้เลย
ในขณะเดียวกันคำพูดของซือเฟิงก็ได้ทำให้สมาชิกของมือแห่งนักบุญที่ซ่อนตัวอยู่ในป่าที่ห่างออกไปหลายพันหลาโกรธเกรี้ยวมากๆ
“ช่างเย่อหยิ่งจริงๆ !!!”
“ถูกต้อง !!! เขาก็มีแค่ NPC ขั้นสี่เพิ่มมาอีกคนเท่านั้น !!! แบล๊คเฟรมจะต้องฝันไปแล้วแน่ๆ หากคิดว่าเขาจะสามารถฆ่าพวกเราทุกคนได้ !!!”
“ปล่อยให้เขาเย่อหยิ่งไปก่อนในตอนนี้ แล้วมาดูกันว่าเขาจะยังคงหยิ่งแบบนี้ต่อไปได้ไหม หลังจากที่พวกมอนสเตอร์ Faux Saint หนีกลับไปพัฒนาตัวเองให้เติบโตมากขึ้น และกลับมาที่นี่อีกครั้ง !!!”
พวกเขานั้นยอมรับว่าพวกเขาไม่สามารถจะต่อกรกับ NPC ขั้นสี่ได้ อย่างไรก็ตามซือเฟิงจะต้องฝันแน่นอน หากเขาคิดว่าเขาจะสามารถฆ่าพวกเขาทุกคนได้ด้วย NPC เพียงสองคน ที่ๆพวกเขาอยู่นั้น มันอยู่ห่างจากเมืองปีกสีเงินหลายพันหลา และเมื่อบวกกับความจริงที่ว่ามีกองทัพมอนสเตอร์ Faux Saint คั่นกลางอยู่ระหว่างพวกเขาทั้งสองฝ่าย ซือเฟิงก็จะต้องใช้เวลานานมากๆกว่าจะเข้าถึงพวกเขาได้
และพูดกันตรงๆการคาดหวังให้พวกเขารอการมาถึงของซือเฟิงอยู่กับที่นี่ มันก็เป็นเพียงความฝันของคนโง่เท่านั้น !!!
ผู้เล่นของเมืองปีกสีเงินเองก็คิดแบบเดียวกัน พวกเขาล้วนคิดว่าซือเฟิงนั้นกำลังโอ้อวดมากเกินไป แม้ว่ากองทัพมอนสเตอร์ Faux Saint จะไม่สามารถตีเมืองปีกสีเงินได้ แต่กองทัพมอนสเตอร์ Faux Saint ก็ยังถือว่าทรงพลัง และมีจำนวนมหาศาลมาก นี่ยังไม่นับรวมเหล่าสมาชิกของมือแห่งนักบุญอีก ซึ่งพวกเขาจะสามารถอยู่และออกไปได้ทุกเมื่อที่ต้องการอยู่แล้ว NPC ขั้นสี่แค่สองคนจะไปหยุดทั้งหมดนี้ได้อย่างไร ?
อย่างไรก็ตามก่อนที่สมาชิกของมือแห่งนักบุญจะพูดจบ แวร์ซายก็ได้โบกคทาของเขา และทันใดนั้นพื้นที่เบื้องหน้าของเขาก็แตกออกเป็นเสี่ยงๆ และก่อตัวเป็นกระแสน้ำวนที่เป็นรอยแยกมิติ
หลังจากนั้นซือเฟิงและแวร์ซายก็ก้าวเข้าไปภายในรอยแยกมิตินี้ และพวกเขาก็ได้มาถึงบริเวณเหนือป่าที่สมาชิกของมือแห่งนักบุญซ่อนตัวอยู่ทันที โดยพวกเขาได้มองไปยังผู้เล่นเหล่านี้ที่กำลังเตรียมจะล่าถอยด้วยสีหน้าสงบ
“เทเลพอร์ต ?! เป็นไปได้ยังไง ?!”
สมาชิกของมือแห่งนักบุญนั้นเต็มไปด้วยความตกตะลึงมากๆ เมื่อได้เห็นแวร์ซายและซือเฟิงลอยอยู่เหนือพวกเขา
“มันเป็นไปได้ด้วยงั้นหรอ ?!”
ในขณะนี้นอกเหนือจากสมาชิกของมือแห่งนักบุญแล้ว สมาชิกของมหาอำนาจต่างๆที่ซ่อนตัวอยู่ในเมืองปีกสีเงินก็เต็มไปด้วยความตกตะลึงเช่นกัน
พลังงานพิเศษที่ห่อหุ้มจักรวรรดิออร์คอยู่นั้นป้องกันการใช้เทเลพอร์ตทุกรูปแบบ ในความเป็นจริง มันไม่มีใครสามารถเรียกอะเม้าท์บินได้ออกมาในจักรวรรดิออร์คได้ด้วยซ้ำ ผู้เล่นสามารถพึ่งพาแค่รถม้า กับอะเม้าท์บนบกเท่านั้นเพื่อนเดินทางไปรอบๆ ซึ่งมันเป็นความรู้โดยทั่วไปสำหรับผู้เล่นที่ปฎิบัติการในจักรวรรดิ
นี่ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้สมาชิกของมือแห่งนักบุญไม่กลัวการข่มขู่ฆ่าของซือเฟิง เพราะท้ายที่สุดแม้ว่า NPC ขั้นสี่จะบินได้ แต่ NPC ขั้นสี่ก็ยังต้องใช้เวลาพอสมควรในการข้ามระยะหลายพันหลา และด้วยจำนวนสมาชิกของมือแห่งนักบุญที่มาเข้าร่วมปฎิบัติการครั้งนี้มากกว่าหนึ่งพันคน ตราบใดที่พวกเขากระจายตัวกันหนีไปในทิศทางต่างกัน มันก็ไม่มีทางเลยที่แวร์ซาย กับเคร็ก มิดแลนด์จะฆ่าพวกเขาได้ทั้งหมด
อย่างไรก็ตามตอนนี้ซือเฟิง และแวร์ซายกับเดินทางข้ามระยะหลายพันหลาได้ในพริบตา นี่มันไม่น่าเชื่อเลย
“เร็ว !! รีบกระจายตัวกันหนี !!!” เธ้าซั่นอายตะโกนออกคำสั่งด้วยความหวาดกลัวอย่างมาก เมื่อเห็นการมาถึงของซือเฟิงและแวร์ซาย
ปัจจุบันพื้นที่ทั้งหมดรอบเมืองปีกสีเงินนั้นอยู่ภายใต้คำสาปทำลายล้างวิญญาณ และผู้เล่นทุกคนที่ตายภายในพื้นที่ปิดผนึกนี้จะถูกคำสาป และโดยธรรมชาติแล้ว สมาชิกของมือแห่งนักบุญก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น
เพื่อให้แน่ใจว่าจะสามารถพิชิตเมืองปีกสีเงินได้ ไม่เพียงแต่มือแห่งนักบุญเลือกจะสังเวยชีวิตถาวรของผู้เชี่ยวชาญขั้นสอง เลเวลมากกว่าหนึ่งร้อย หนึ่งพันคน กับผู้เชี่ยวชาญขั้นสาม หนึ่งร้อยคน แต่พวกเขายังส่งผู้เชี่ยวชาญขั้นสามมากกว่าห้าร้อยคน และผู้เชี่ยวชาญขั้นสองมากกว่าหนึ่งพันคนที่สามารถดูดซับความแข็งแกร่งของมอนสเตอร์ Faux Saint Destroyers ได้ มาร่วมปฎิบัติการครั้งนี้ด้วย ซึ่งหากผู้เล่นเหล่านี้ทุกคนถูกฆ่าลงที่นี่ มือแห่งนักบุญก็จะได้รับความเสียหายที่ไม่อาจจินตนาการได้เลย
ทันทีที่เธ้าซั่นอายตะโกนออกคำสั่งของเขาเสร็จ เขาก็รีบหยิบม้วนคัมภีร์เวทย์บิน ขั้นสามออกมาจากกระเป๋าของเขาทันที นี่คือไอเทมที่ทำให้ผู้เล่นสามารถบินได้เป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ และโบนัสความเาร็วในการเคลื่อนที่ที่มันมอบให้นั้นก็มากกว่าอะเม้าท์บนบกหลายเท่า ม้วนคัมภีร์เวทย์นี้เป็นหนึ่งในเครื่องมือช่วยชีวิตที่สำคัญที่สุดของเขา
สำหรับสมาชิกของมือแห่งนักบุญคนอื่นๆ พวกเขาหายจากอาการตกตะลึงทันที เมื่อได้ยินคำเตือนของเธ้าซั่นอาย และพวกเขาก็รีบกระจายกันหนีไปทุกทิศทางด้วยความตื่นตระหนก
หากพวกเขาตายลงในตอนนี้ ไม่เพียงแต่พวกเขาจะได้รับโทษจากการตายที่รุนแรงขึ้นสองเท่า แต่วิญญาณของพวกเขายังจะติดสถานะอ่อนแอเป็นเวลาสิบห้าวัน ซึ่งแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญขั้นสามก็ไม่สามารถทนรับราคานี้ได้ เพราะท้ายที่สุดแล้วใน God domain ตอนนี้ แค่ถูกกำจัดออกจากแนวหน้าไปแค่ไม่กี่วัน มันก็จะเดือดร้อนมากแล้ว ดังนั้นก็ไม่ต้องพูดถึงสิบห้าวันเลย
“ตอนนี้พวกคุณยังคิดว่าจะหนีได้อีกงั้นหรอ ?” ซือเฟิงเย้ยหยัน สีหน้าของเขายังคงสงบและเฉยเมย แม้จะเห็นสมาชิกของมือแห่งนักบุญกระจายตัวหนีไปทุกทิศทาง
ทันทีที่ซือเฟิงพูดจบ มันก็มีการกระเพื่อมของมานากระจายออกมาจากร่างกายของแวร์ซาย และโอบล้อมสมาชิกของมือแห่งนักบุญทั้งหมดไว้ รวมทั้งจำกัดการเคลื่อนไหวของพวกเขาในทันที ซึ่งในพริบตาสมาชิกของมือแห่งนักบุญทั้งหมดก็พบว่าตัวเองถูกตรึงไว้
“นี่ … เป็นไปได้ยังไงกัน ?!”
“NPC นั่นมันอะไรกัน ?!”
ผู้เล่นของเมืองปีกสีเงินต่างเต็มไปด้วยความตกตะลึง เมื่อพวกเขาได้เห็นฉากที่แสดงบนกระจกเวทย์มนต์ขนาดมหึมาเหนือเมืองปีกสีเงิน
การแสดงก่อนหน้านี้ของเคร็ก มิดแลนด์นั้นน่าทึ่งมากๆ อย่างไรก็ตามตอนนี้ดูเหมือนว่าการแสดงของแวร์ซายจะน่าทึ่งกว่าเคร็ก มิดแลนด์ซะอีก
นั่นคือผู้เล่นระดับผู้เชี่ยวชาญมากกว่าหนึ่งพันคนที่พวกเขากำลังพูดถึง !!!
ยิ่งไปกว่านั้นหลายคนก็ยังเป็นผู้เชี่ยวชาญขั้นสามด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตามแวร์ซายกับทำให้พวกเขาทั้งหมดไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เลยด้วย โดเมนมานาของเขา
“นั่นเป็นแค่ NPC ขั้นสี่จริงๆงั้นหรอ ?!”
ความคิดของอิลูซะรี่เวิร์ดล้วนหมุนวนไปหมด ในขณะที่เธอมองไปยังแวร์ซาย
ความจริงที่ว่าเคร็ก มิดแลนด์สามารถจะทำให้ Faux Saint Devourers แปดตัวบาดเจ็บสาหัสได้ มันก็จัดว่าน่าทึ่งมากแล้ว แต่ตอนนี้แวร์ซายกับทำสิ่งที่น่าทึ่งกว่าอีก เพราะเพียงแค่เขาปลดปล่อยโดเมนมานาของเขาออกมา NPC ก็สามารถปราบปรามผู้เล่นระดับผู้เชี่ยวชาญมากกว่าพันคนได้อย่างอยู่หมัด และควบคุมชีวิตของพวกเขาไว้ในมือ
นี่จะเรียกว่าเป็นการต่อสู้ได้อย่างไร ?…. มันเป็นการสังหารหมู่ด้านเดียวชัดๆ !!!
สิ่งที่อิลูซะรี่เวิร์ด และคนอื่นๆไม่รู้ก็คือแวร์ซายนั้นไม่ใช่จอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ ขั้นสี่ทั่วไป แต่เขาเป็นจอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ ขั้นสี่ที่เขาถึงขอบเขตการสร้างโลกแล้ว เขาสามารถจะสร้างโลกของตัวเองขึ้นมาได้ภายในโดเมนมานาของเขา และถ้าไม่มีใครอยู่ในมาตราฐานของขั้นสี่ พวกเขาจะไม่สามารถต้านทานพลังนี้ของแวร์ซายได้เลย
ในช่วงเวลาต่อมาแวร์ซายก็โบกคทาโดยเล็งไปยังสมาชิกของมือแห่งนักบุญที่อยู่เบื้องล่าง หลังจากนั้นวงเวทย์สีแดงเข้มที่มีรัศมีสองร้อยหลาก็ปรากฎขึ้นในอากาศ ซึ่งมันได้ดึงดูดมานาประเภทไฟทั้งหมดที่อยู่ใกล้ๆเข้ามารวมตัวกันจนกลายเป็นบอลไฟขนาดยักษ์
และเมื่อบอลไฟขนาดยักษ์ตกลงมานั้น มันก็ค่อยๆขยายตัวไปอีกเรื่อยๆจนมีขนาดเท่าภูเขา ซึ่งนี่มันทำให้สมาชิกของมือแห่งนักบุญ และผู้เล่นในเมืองปีกสีเงินทั้งหมดเงียบลงขณะที่พวกเขามองไปที่บอลไฟขนาดยักษ์นี้ ชั่วครู่หนึ่ง มันราวกับว่าเวลาโดยรอบบริเวณทั้งหมดถูกแช่แข็ง
“แบล๊ค … เฟรม !!! แค่รอ !!! รอก่อนเถอะ !!! คุณไม่สามารถจะหยุดกองทัพมอนสเตอร์ Faux Saint ได้หรอก !!! มันเป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้นก่อนที่กองทัพมอนสเตอร์ Faux Saint จะทำลายสภาสิบแปดปีกได้ !!!”
เมื่อเห็นการโจมตีนี้ใกล้เข้ามา และรู้ตัวว่าเขาไม่สามารถจะหนีได้แล้ว เธ้าซั่นอายก็หันมาจ้องมองและกล่าวกับซือเฟิงเหมือนคนบ้าคลั่ง ในเวลาเดียวกันเขาก็ยังคงยิ้มอย่างเยาะเย้ยซือเฟิง เพราะซือฟิงประเมินตัวเองสูงเกินไป
“กองทัพมอนสเตอร์ Faux Saint จะต้องเติบโตให้ได้ก่อนนะถึงจะทำแบบนั้นได้ !!!” ซือเฟิงตอบโต้อย่างไม่ไยดีให้กับเสียงหัวเราะของเธ้าซั่นอาย
ทันทีที่ซือเฟิงกล่าวจบ บอลไฟขนาดยักษ์ก็ตกลงมาและระเบิดออก
ตู้ม !!!
เปลวไฟที่ดูเหมือนจะไม่มีที่สิ้นสุดกระจายไปทั่วป่า และเผาสมาชิกของมือแห่งนักบุญทั้งหมดไปทันที
นอกเหนือจากการตายของสมาชิกมือแห่งนักบุญทั้งหมดแล้ว กองทัพมอนสเตอร์ Faux Saint ที่ถอยกลับก็เริ่มเข้าสู่สถานะเบอเซิกร์ทั้งหมด และด้วยดวงตาที่แดงก่ำ มอนสเตอร์ Faux Saint ทุกตัวในสนามรบก็พุ่งเข้าใส่ซือเฟิง
“กลับกันเถอะ …” ซือเฟิงกล่าวกับแวร์ซาย
แวร์ซายพยักหน้าตอบรับด้วยความเคารพ จากนั้นเขาก็เปิดกระแสน้ำวนที่เป็นรอยแยกมิติขึ้นอีกครั้ง และเทเลพอร์ตกลับไปยังเมืองปีกสีเงินพร้อมกับซือเฟิง
หลังจากที่ซือเฟิงกลับมาถึงที่ประตูหลักของเมืองปีกสีเงิน ผู้เล่นหลายคนก็เริ่มหายจากอาการตกตะลึง แต่พวกเขาก็ยังอดไม่ได้ที่จะจ้องมองไปยังซือเฟิงอย่างประหลาดใจ หวาดกลัว และชื่นชมอยู่ดี ….
“เขาเคลียร์ทุกอย่างเรียบร้อย ทั้งๆแบบนั้นเลยงั้นหรอ ?”
เมื่อมองไปที่ท่าทีที่สงบของซือเฟิง มันดูเหมือนกับว่าเขาพึ่งจะเดินผ่านสวนหลังบ้านของเขามา
คนเหล่านั้นล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญทั้งหมด และมีจำนวนมากกว่าหนึ่งพันคนเลยนะ !!!
อย่างไรก็ตามซือเฟิงได้เหยียบย่ำคนเหล่านั้นทั้งหมดราวกับเป็นมดปลวก และด้วยความแข็งแกร่งดังกล่าว ในความเข้าใจของพวกเขา แม้ว่าผู้เชี่ยวชาญขั้นสามของมหาอำนาจต่างๆจะรวมตัวกัน แต่พวกเขาก็หมดหนทางที่จะทำอะไรกับสภาสิบแปดปีกได้แน่นอน
กองทัพมอนสเตอร์ Faux Saint งั้นหรอ ?
มันไม่ได้เป็นอะไรเลยนอกไปจากเรื่องตลก !!!
ในขณะเดียวกันหลังจากที่ซือเฟิงกลับมาถึงที่เมืองปีกสีเงินแล้ว นอกเหนือจาก Faux Saint Devourers แปดตัวที่บาดเจ็บสาหัส และยังคงพยายามหลบหนีต่อ มอนสเตอร์ Faux Saint ตัวอื่นได้หันกลับมาโจมตีเมืองปีกสีเงินอย่างบ้าคลั่ง
อย่างไรก็ตามในเวลานี้ทุกคนเข้าใจดีว่า สภาสิบแปดปีกจะทำลายกองทัพมอนสเตอร์ Faux Saint ทั้งหมดลงได้แน่นอนในท้ายที่สุด และแม้ว่า Faux Saint Devourers ทั้งแปดตัวจะสามารถหลบหนีจากเคร็ก มิดแลนด์ไปได้ แต่พวกมันก็ไม่สามารถจะหลบหนีจากแวร์ซายได้แน่นอน สำหรับมอนสเตอร์ Faux Saint ตัวอื่นๆ พวกมันก็ไม่ต่างจากเป้าซ้อมมือขององครักษ์ส่วนตัว ป้อมปราการ และหอคอยเวทย์มนต์ในเมืองปีกสีเงินของสภาสิบแปดปีก
….
จักรวรรดิมังกรไฟ เมืองมังกรไฟ บ้านประมูลมังกรไฟ :
ขณะนี้พวกระดับสูงของมหาอำนาจเกือบยี่สิบกลุ่มได้มารวมตัวกันภายในบ้านประมูลมังกรไฟ ซึ่งนี่มันนับเป็นการรวมตัวกันขนาดใหญ่แบบที่ไม่เคยมีมาก่อนเลยในจักรวรรดิมังกรไฟทั้งหมด
และในขณะนี้ผู้เชี่ยวชาญขั้นสามของมหาอำนาจต่างๆเหล่านี้ก็ได้ทำการปิดล้อมบ้านประมูลไว้ทั้งหมดเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้เล่นที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาในอาคาร อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะเป็นแบบนี้นั้น แต่ผู้เล่นจำนวนมาก รวมไปถึงพวกระดับสูงของกิลชั้นสูง และทีมนักผจญภัยชั้นยอดก็ยังคงรออยู่ที่ด้านนอกอาคาร ผู้เล่นทุกคนเหล่านี้ล้วนกังวลมากเกี่ยวกับผลลัพธ์ของการหารือในเรื่องพันธมิตรครั้งนี้
เพราะท้ายที่สุดแล้วการพูดคุย และหารือเรื่องพันธมิตรในครั้งนี้ มันจะสามารถเปลี่ยนโครงสร้างอำนาจของทวีปด้านตะวันออกไปได้เลย และหากพวกเขาไม่ใส่ใจผลของการพูดคุยหารือครั้งนี้ พวกเขาอาจถูกกำจัดออกจาก God domain ไปโดยไม่ทราบเหตุผลเลย
ในขณะเดียวกันภายในห้องประชุมที่ชั้นบนสุดของบ้านประมูลมังกรไฟ
ขณะนี้มันมีผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดหรือสูงกว่านั้นจำนวนมากกว่าหนึ่งร้อยคนนั่งอยู่ที่โต๊ะกลม และออร่าที่ผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้ทั้งหมดแผ่ออกมานั้นจะสามารถปราบปรามได้แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตโดเมนด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ผู้เชี่ยวชาญทั้งหมดล้วนกำลังมองไปยังหญิงสาวที่นั่งหัวโต๊ะด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเคารพ
หลังจากนั้นไม่นานนัก ไวท์เฟเธอร์ที่ยืนอยู่ข้างหญิงสาวที่เป็นประธานในการประชุมครั้งนี้ก็กระซิบกับหญิงสาวเบาๆว่า “รองหัวหน้ากิล พวกระดับสูงของมหาอำนาจต่างๆมากันครบแล้ว ….”
ในการตอบสนองโคลท์ชาโด้ว พยักหน้าและพูดว่า “เอาล่ะ มาเริ่มกันเลย !!”