Reincarnation Of The Strongest Sword God - ตอนที่ 2674
ตอนที่ 2674 ข้อความที่ส่งต่อกันมา
ภายในห้องประชุมที่มีขนาดใหญ่และกว้างขวาง :
ทันทีที่โคลท์ชาโด้ว ระบุว่าการประชุมจะเริ่มขึ้นแล้ว ไวท์เฟเธอร์ก็ได้ก้าวไปข้างหน้า และกวาดสายตามองไปยังทุกคนที่อยู่ที่นี่ทั้งหมด
แม้ว่าไวท์เฟเธอร์จะไม่ได้พูดอะไร แต่ทุกคนก็เงียบลงทันที และเพ่งความสนสนใจไปที่เธอ เพราะพวกเขาเข้าใจดีว่าการพูดคุยและหารือเรื่องพันธมิตรจะเริ่มขึ้นแล้ว
“ประการแรก ฉันขอขอบคุณทุกคนในนามของไมโทโลจี้ที่มาเข้าร่วมการพูดคุยและหารือเรื่องพันธมิตรที่เกี่ยวข้องกับพวกมอนสเตอร์ Faux Saint ในครั้งนี้ แม้ว่าตัวแทนที่ได้รับเชิญจากดราก้อนฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยนจะไม่สามารถมาเข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ได้อันเนื่องมาจากสถานการณ์ที่พิเศษ แต่ทางดราก้อนฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยนก็ได้ส่งตัวแทนที่มีความสามารถในการตัดสินใจเรื่องต่างๆของกิลได้มากพอกันมาแทน และฉันเชื่อว่ามันจะไม่ส่งผลกระทบต่อการประชุมในครั้งนี้แน่นอน ทุกคนมั่นใจได้ ….” ไวท์เฟเธอร์กล่าวจากด้านข้างของโคลท์ชาโด้ว
เมื่อได้ยินคำพูดของไวท์เฟเธอร์ บรรดาพวกระดับสูงของมหาอำนาจต่างๆก็เปลี่ยนสายตาไปที่ชายสูงอายุที่สวมชุดขาว ซึ่งเป็นตัวแทนของดราก้อนฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยน
เมื่อมาถึงตรงนี้การหายตัวไปอย่างกระทันหันของสุดยอดปรมาจารย์พาวิลเลี่ยนของดราก้อนฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยน รวมไปทั้งปรมาจารย์พาวิลเลี่ยนทั้งสองคนนั้นนับเป็นเรื่องที่รับรู้โดยทั่วไปของมหาอำนาจต่างๆ อย่างไรก็ตามทุกคนคิดมาตลอดว่านี่เป็นเพราะข้อพิพาทภายในระหว่างปรมาจารย์พาวิลเลี่ยนทั้งสอง และพวกเขาก็น่าจะมาร่วมการประชุมในวันนี้แน่นอน
แต่ตอนนี้ทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ เพราะว่าในการประชุมวันนี้นั้น มันมีความสำคัญสูงสุดต่อการการดำรงอยู่ต่อไปของดราก้อนฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยน แต่ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นสุดยอดปรมาจารย์พาวิลเลี่ยน หรือปรมาจารย์พาวิลเลี่ยนทั้งสองคนก็ไม่มาเข้าร่วมการประชุมเลย มันมีแค่บรรดาผู้อาวุโสจำนวนหนึ่ง และผู้อาวุโสสูงสุดหนึ่งคน ที่เป็นตัวแทนของดราก้อนฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยนเท่านั้นที่มาเข้าร่วมในการประชุมวันนี้ สถานการณ์นี้ทำให้ทุกคนอยากรู้อยากเห็นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับดราก้อนฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยน
“เนื่องจากทุกคนมาพร้อมกันที่นี่แล้ว งั้นฉันจะขอพูดแบบเข้าประเด็นตรงๆเลยแล้วกัน มาพูดถึงหัวข้อหลักของวันนี้กันเลย …” ไวท์เฟเธอร์กล่าว ขณะที่เธอกวาดสายตามองไปยังผู้เล่นตรงหน้าของเธอทั้งหมดอีกครั้ง จากนั้นเธอก็ปรบมือสองครั้ง
แผนที่โฮโลแกรมของทวีปด้านตะวันออกทั้งหมดก็ปรากฎขึ้นตรงกลางโต๊ะกลม
แม้ว่าหลายพื้นที่จะถูกปิดเป็นดินแดนที่ไม่รู้จัก แต่แผนที่ก็รวมทุกสถานที่ที่ผู้เล่นรู้จักในระยะนี้ของเกมเอาไว้ ในความเป็นจริง มันยังแสดงถึงแผนที่เป็นกลางเลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบถึงหนึ่งร้อยสี่สิบบางแห่ง ซึ่งเป็นสถานที่ที่มหาอำนาจส่วนใหญ่ที่เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้นั้นขาดความสามารถในการจะสำรวจโดยละเอียด
“ช่างเป็นแผนที่ที่ละเอียดมากๆ !!!”
ในช่วงเวลาหนึ่งตัวแทนหลายคนต่างก็อ้าปากค้างด้วยความตกใจให้กับข้อมูลในแผนที่
แผนที่ที่ละเอียดแบบนี้ใน God domain อาจไม่ใช่ของหายาก แต่การรวบรวมแผนที่ทั้งหมดมารวมกันให้เป็นภาพรวมของแผนที่ทวีปเดียวนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับบรรดาแผนที่เป็นกลางเลเวลหนึ่งร้อยหรือมากกว่านั้น รวมไปถึงดินแดนต้องห้าม ซึ่งมหาอำนาจต่างๆก็ถือว่าข้อมูลของแผนที่เหล่านี้นั้นเป็นความลับสุดยอด และไม่ค่อยแบ่งปันให้กับผู้อื่น
แต่ตอนนี้ไมโทโลจี้กับเลือกจะแบ่งปันข้อมูลของแผนที่นี้ซึ่งจัดว่ามีค่ามากกับมหาอำนาจอื่นๆที่อยู่ที่นี่อย่างไม่ลังเล ซึ่งนี่มันนับว่าพวกเขาใจดีอย่างไม่น่าเชื่อ
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ทุกคนใช้เวลาศึกษาแผนที่แล้ว พวกเขาก็สังเกตเห็นจุดที่น่าแปลกใจเล็กน้อย
สถานที่บางแห่งบนแผนที่นั้นถูกทำเครื่องหมายด้วยสีเทาหม่น และสีขาว ซึ่งสถานที่เหล่านี้ก็ไม่ใช่อะไรอื่นนอกจากดินแดน NPC ของกองกำลังสายความมืด และดินแดนของมอนสเตอร์ Faux Saint ที่พึ่งจะปรากฎตัว
ข้อมูลทั้งหมดบนแผนที่ที่ไมโทโลจี้มีนั้น ส่วนใหญ่ก็เหมือนกับที่มหาอำนาจต่างๆที่อยู่ที่นี่มี อย่างไรก็ตามอาณาเขตของมอนสเตอร์ Faux Saint ที่ปรากฎขึ้นบนแผนที่ของไมโทโลจี้นั้นทำให้ทุกคนสงสัยว่าสายตาของพวกเขามองผิดพลาดรึปล่าว
“นี่อาณาเขตของมอนสเตอร์ Faux Saint ขยายใหญ่ขนาดนี้ได้ยังไง ?!” แอสซาซินในชุดสีเทาที่มีตราสัญลักษณ์กิลของจักรวรรดิชาโด้วเลสอุทานออกมา
ตามข้อมูลของพวกเขา อาณาเขตของมอนสเตอร์ Faux Saint ควรครอบคลุม
เฉพาะอาณาจักรเพอเพิ้ลธอร์น อาณาจักรสตาร์มูน และจักรวรรดิออร์คเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ตามแผนที่ของไมโทโลจี้ มอนสเตอร์ Faux Saint กำลังจะขยายขอบเขตการเข้าถึงไปยังประเทศอื่นๆอีกทั้งหมดสิบสี่ประเทศ ซึ่งนี่รวมไปถึงจักรวรรดิมังกรดำ และจักรวรรดิรัตติกาลด้วย
นี่มันน่าเหลือเชื่อมากๆ !!
“นี่คือดินแดน และขอบเขตการเข้าถึงของมอนสเตอร์ Faux Saint ในตอนนี้จริงๆหรอ ? มันมีความผิดพลาดอะไรรึปล่าว ?”
นอกจากรองหัวหน้ากิลของจักรวรรดิชาโด้วเลสแล้ว ตัวแทนของซุเปอร์กิลอย่าง จักรวรรดิไพรน์ สกายดราก้อนเฮ้าท์ Sacred Temple และ Nine Heavens Pavilion รวมถึงตัวแทนของมหาอำนาจอื่นๆล้วนแทบพูดไม่ออก เมื่อได้เห็นแผนที่ของไมโทโลจี้
แม้ว่าพวกเขาจะรู้มานานแล้วว่ามอนสเตอร์ Faux Saint ไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่ง่าย และแน่นอนว่ามันจะสร้างปัญหาใหญ่ให้กับทวีปด้านตะวันออกได้แน่นอน แต่พวกเขาก็ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าความเร็วในการพัฒนาของมอนสเตอร์ Faux Saint จะรวดเร็วขนาดนี้
“ทุกคนไม่ต้องสงสัยในความถูกต้องของแผนที่นี้เลย เพราะมันเกิดขึ้นมาได้จากการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับซุเปอร์กิลหลายๆกิล ยิ่งไปกว่านั้นนี่ก็พึ่งถูกรวบรวมเสร็จมาได้แค่หนึ่งวันเท่านั้น” โคลท์ชาโด้วกล่าว “ฉันรู้ว่าพวกคุณหลายคนคิดว่าสิ่งนี้มันน่าเหลือเชื่อ แต่มันเป็นความจริง นี่เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ฉันเชิญทุกคนมาเข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้”
รองหัวหน้ากิลของซุเปอร์กิล สี่กิลพยักหน้ารับ เป็นเชิงยอมรับว่ากิลของพวกเขาแลกเปลี่ยนข้อมูลกับไมโทโลจี้จริงๆ
“หนึ่งวัน ? นั่นไม่ได้หมายความว่าตอนนี้อาณาเขตของมอนสเตอร์ Faux Saint จะยิ่งใหญ่ขึ้นไปกว่านี้งั้นหรอ ?” ดรูอิดหญิง เลเวลหนึ่งร้อยสิบหกที่มาจากโลกเทพแห่งจันทรา และสังกัดกิล Dark Pursuit เอ่ยถาม
“ถูกต้อง ด้วยความเร็วในการพัฒนาของพวกมัน พวกมันน่าจะเข้าประชิดชายแดนของประเทศเหล่านี้ไปเรียบร้อยแล้ว” โคลท์ชาโด้วกล่าวตอบพลางพยักหน้า “ฉันกลัวว่าอีกไม่นานอาณาเขตของพวกมันจะแผ่ขยายไปจนกลืนกินครึ่งหนึ่งของทวีปด้านตะวันออกทั้งหมด และในเวลานั้นทุกคนในปัจจุบันจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงการต้องปะทะและติดต่อกับมอนสเตอร์ Faux Saint เหล่านี้ได้”
ตัวแทนที่มีท่าทีค่อนข้างผ่อนคลายก่อนหน้านี้อดไม่ได้ที่จะมีความกังวลใจเพิ่มขึ้น เมื่อได้ยินคำพูดของโคลท์ชาโด้ว แต่เดิมพวกเขามาที่การประชุมนี้เพียงเพื่อจะดูว่ามีประโยชน์อะไรหรือไม่ เพราะท้ายที่สุดพวกเขาทุกคนเชื่อว่าการประชุมครั้งนี้มีเป้าหมายที่สภาสิบแปดปีก และในความเห็ของพวกเขาการสร้างพันธมิตรเพื่อต่อต้าน มอนสเตอร์ Faux Saint นั้นเป็นเพียงแค่ข้ออ้างเท่านั้น
“รองหัวหน้ากิลชาโด้ว เนื่องจากคุณรวบรวมพวกเรามาที่นี่ นั่นหมายความว่าคุณมีแผนที่จะป้องกันไม่ให้สถานการณ์ที่เลวร้ายเกิดขึ้นใช่ไหม ?” ผู้อาวุโสในชุดขาว
จากดราก้อนฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยนถามด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
การหายตัวไปอย่างกระทันหันของสุดยอดปรมาจารย์พาวิลเลี่ยน และปรมาจารย์พาวิลเลี่ยนทั้งสองได้สร้างความเสียหายครั้งใหญ่ให้กับดราก้อนฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยน แถมตอนนี้ยังมีการคุกคามของมอนสเตอร์ Faux Saint อีก ซึ่งนี่มันนับเป็นฝันร้ายสำหรับดราก้อนฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยนเลย
เขาได้เห็นมาแล้วว่ามอนสเตอร์ Faux Saint ทำลายเมืองชายแดนของอาณาจักรสตาร์มูนได้อย่างไร และแม้ว่าจักรวรรดิมังกรดำจะแข็งแกร่งกว่าอาณาจักรสตาร์มูน แต่พวกมอนสเตอร์ Faux Saint นั้นก็แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆในแต่ละวัน และหลังจากที่พวกมันกลืนกินอาณาจักรสตาร์มูนได้ มันก็จะเป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้นก่อนที่พวกมันจะทำแบบเดียวกันกับจักรวรรดิมังกรดำได้
เมื่อได้ยินคำพูดของผู้อาวุโสในชุดขาว ตัวแทนคนอื่นๆก็หันไปหาโคลท์ชาโด้วทันที พวกเขาทุกคนนั้นอยากรู้เหตุผลที่โคลท์ชาโด้วเชิญพวกเขาทั้งหมดมาในวันนี้
“แน่นอน ไม่งั้นฉันคงไม่เชิญทุกคนมา” โคลท์ชาโด้วกล่าวพลางพยักหน้า ก่อนที่เธอจะยิ้มและพูดขึ้นว่า “ฉันเชื่อว่าตอนนี้ทุกคนที่นี่ล้วนรู้ดีว่าพวกมอนสเตอร์ Faux Saint ทรงพลังมากขนาดไหน และมันเป็นไปไม่ได้เลยที่เราจะหยุดมอนสเตอร์เหล่านี้ไม่ให้แผ่อิทธิพล ดังนั้นก่อนการประชุมวันนี้ ฉันจึงได้ไปสร้างความร่วมมือเป็นพันธมิตรกับหัวหน้ากิลของมือแห่งนักบุญ และกิลของเขาเรียบร้อยแล้ว”
“พันธมิตร ?”
ทุกคนต่างประหลาดใจกับคำพูดของโคลท์ชาโด้ว
กิลที่ถูกเรียกว่ามือแห่งนักบุญนั้น ไม่ได้เป็นอะไรที่แปลกใหม่สำหรับผู้เล่นในปัจจุบันอีกต่อไป แถมพวกเขาก็ยังรู้อย่างชัดเจนว่า มือแห่งนักบุญนั้นมีเครื่องมือที่ช่วยป้องกัไม่ให้มอนสเตอร์ Faux Saint โจมตีผู้เล่น ในความเป็นจริงกิลๆนี้ยังมีเครื่องมือที่สามารถป้องกันมอนสเตอร์ Faux Saint จากการโจมตีเมืองกิลได้ด้วย อย่างไรก็ตามจนถึงตอนนี้นั้น มือแห่งนักบุญไม่เคยแสดงความเต็มใจที่จะเป็นพันธมิตรกับมหาอำนาจอื่นๆเลย และสิ่งที่พวกเขาเต็มใจจะทำมากที่สุดก็มีเพียงแค่ การขายเครื่องมือเหล่านี้ให้กับผู้ที่ต้องการมันในราคาที่สูงมากๆ
“เงื่อนไขของการเป็นพันธมิตรนั้นก็ง่ายมาก สิ่งที่เราต้องทำคือ ร่วมมือกันโจมตีและยึดเมืองป่าหินให้ได้ ในเวลานั้นไม่เพียงแต่มือแห่งนักบุญจะยอมขายเครื่องมือป้องกันมอนสเตอร์ Faux Saint ของพวกเขาให้เราในราคาที่สมเหตุสมผล แต่ทุกคนที่อยู่ที่นี่ในปัจจุบันยังจะได้รับส่วนแบ่งของเมืองป่าหิน และจำนวนห้องพักในโรงแรมอิสระด้วยเช่นกัน ….” โคลท์ชาโด้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม
เมื่อโคลท์ชาโด้วพูดจบ ดวงตาของมหาอำนาจหลายกลุ่มก็เปล่งประกาย
แม้ว่าโคลท์ชาโดวจะไม่ได้กล่าวถึงการเป็นพันธมิตรเพื่อเข้าโจมตีและยึดเมืองป่าหิน แต่พวกเขาก็มีแผนที่จะทำเช่นนั้นอยู่แล้ว เพราะท้ายที่สุดเมืองป่าหินนั้นมันน่ามหัศจรรย์และน่าทึ่งเกินไป
สิ่งที่ทำให้เมืองป่าหินน่าทึ่ง มันไม่ใช่สถานที่ตั้งของมันที่อยู่ในแผนที่เป็นกลาง เลเวลหนึ่งร้อย แต่เป็นโรงแรมอิสระของเมือง
หลังจากที่ได้สัมผัสกับเอฟเฟคที่โรงแรมอิสระมอบให้ ผู้เชี่ยวชาญของมหาอำนาจต่างๆทุกคนล้วนอยากมีห้องเป็นของตัวเองที่นั่น ซึ่งด้วยวิธีนี้ ไม่เพียงแต่พวกเขาจะสามารถสะสมดับเบิ้ลบัฟ EXP ได้อย่างรวดเร็ว แต่พวกเขายังจะสามารถขับพลังสึกกร่อนจากสภาพแวดล้อมที่รุนแรงในแผนที่เป็นกลางเลเวลหนึ่งร้อยหรือมากกว่านั้นออกไปได้อย่างรวดเร็วด้วย ด้วยเหตุนี้เองการมีห้องเป็นของตัวเองที่นั่นจึงจะช่วยเพิ่มความเร็วในการเก็บเลเวลของเขาได้อย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้นบางอย่างก็ขึ้นอยู่กับสภาพห้องพักในโรงแรมอิสระด้วย หากได้ห้องพักดีๆ ผู้เล่นจะสามารถฝึกในนั้นและได้รับผลลัพธ์ที่ไม่ธรรมดาได้
ณ จุดนี้ สาเหตุหลักที่เมืองป่าหินยังคงสามารถเฟื่องฟูต่อไปได้ในมือของสภาสิบแปดปีกนั่นก็เป็นเพราะ โรงแรมอิสระ ไม่งั้นเมืองนี้คงจะล่มสลายไปนานแล้ว เนื่องจากการคุกคามอย่างต่อเนื่องของสตาร์ลิ้งและมหาอำนาจต่างๆ
หากพวกเขาสามารถยึดเมืองป่าหินมาเป็นของตัวเองได้ ไม่เพียงแต่พวกเขาจะมีความมั่นใจมากขึ้นในการรับมือกับมอนสเตอร์ Faux Saint แต่พวกเขายังจะได้รับห้องพักในโรงแรมอิสระมาเป็นของตัวเองด้วย นี่มันเป็นการฆ่านกสองตัวด้วยหินก้อนเดียวจริงๆ
“อย่างไรก็ตาม การจะเข้ายึดเมืองป่าหินให้ได้นั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย นอกเหนือจากกองอัศวิน NPC แล้ว มันยังมีมหาอำนาจอีกจำนวนหนึ่งที่เป็นพันธมิตรกับสภาสิบแปดปีกด้วย และแม้ว่าเราที่นี่ทั้งหมดจะรวมตัวกัน แต่ฉันก็กลัวว่าการเข้ายึดเมืองป่าหินก็จะยังเป็นเรื่องยากอยู่ดี”
“ถูกต้อง แถมเมืองป่าหินก็ยังมีเรือเหาะคอยลาดตระเวนอยู่รอบเมือง ถ้าต้องต่อสู้กันจริงๆ ฉันกลัวว่าจำนวนผู้เชี่ยวชาญขั้นสามที่เรามีอยู่จะไม่เพียงพอในการใช้ยึดเมืองป่าหิน การบุกที่ล้มเหลวของโลกแห่งความมืดได้พิสูจน์สิ่งนี้มาแล้ว”
“ยิ่งไปกว่านั้น ฉันได้ยินมาว่าแบล๊คเฟรมกลับมาแล้ว และความแข็งแกร่งส่วนตัวของเขาก็พัฒนาขึ้นไปจนถึงระดับที่น่ากลัวอีกขั้น ….”
แม้ว่าตัวแทนหลายคนในปัจจุบันจะแสดงความสนใจในแผนของโคลท์ชาโด้ว แต่ตัวแทนบางคนก็ส่ายหัว และแสดงความกังวลออกมา
ความจริงที่ว่ามหาอำนาจต่างๆต้องการเมืองป่าหินนั้นนับเป็นข่าวเก่า อย่างไรก็ตามเนื่องจากพวกเขาไม่สามารถจะจัดการกองอัศวินของสภาสิบแปดปีกได้ พวกเขาจึงเลือกจะโจมตีทางเศรษฐกิจแบบลับๆต่อเมืองแทนที่จะดำเนินการโดยตรง
แม้ว่าโคลท์ชาโด้วจะยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดคุย แต่ปมปัญหาเดิมมันก็ยังไม่ได้เปลี่ยนแปลง
“การกลับมาของแบล๊คเฟรมนั้นไม่ได้เป็นปัญหาใดๆเลย เพราะตอนนี้แบล๊คเฟรมก็มีปัญหาในการที่จะต้องปกป้องตัวเองแล้ว ฉันเชื่อว่าพวกคุณทุกคนรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ ยิ่งไปกว่านั้น นอกเหนือจากเราแล้ว มหาอำนาจต่างๆส่วนใหญ่ของโลกแห่งความมืดก็จะเคลื่อนไหวเช่นกัน เพราะท้ายที่สุดความเกลียดชังที่พวกเขามีต่อสภาสิบแปดปีกไม่เคยลดลงเลย พวกเขาขาดเพียงโอกาสจะลงมือทำเท่านั้น เมื่อเวลามาถึง ฝ่ายของโลกแห่งความมืดจะโจมตีประตูเทเลพอร์ตอย่างเต็มกำลังเพื่อล่อให้กองอัศวินของสภาสิบแปดปีกออกไปรับมือ ในขณะที่ฝ่ายเราก็จะเริ่มการโจมตีเมืองป่าหิน แม้ว่ากองอัศวินจะทรงพลัง แต่พวกเขาก็ไม่สามารถจะป้องกันสถานที่สองแห่งพร้อมกันได้แน่นอน” โคลท์ชาโด้วกล่าว “ยิ่งไปกว่านั้นมือแห่งนักบุญจะมีส่วนร่วมในการโจมตีด้วย พวกเขาจะนำมอนสเตอร์ Faux Saint จำนวนหนึ่งมาช่วยเรา กองอัศวินของสภาสิบแปดปีกอาจทรงพลังมากเมื่อใช้ต่อสู้กับผู้เล่น แต่ประสิทธิภาพของพวกเขาจะลดลงแน่นอน เมื่อต้องต่อสู้กับมอนสเตอร์ Faux Saint”
เมื่อโคลท์ชาโด้วกล่าวถึงมอนสเตอร์ Faux Saint ตัวแทนหลายคนก็อดไม่ได้ที่จะสูดหายใจเข้าลึกๆ
ในเวลานี้ ความแข็งแกร่งของมอนสเตอร์ Faux Saint ได้ฝังลึกลงไปในจิตใจของทุกคนแล้ว มอนสเตอร์เหล่านี้นั้นไม่ใช่ฝ่ายตรงข้ามที่ผู้เล่นจะสามารถจัดการได้ง่ายๆเลย และหากกองทัพมอนสเตอร์ Faux Saint โจมตี แม้แต่เมือง NPC ก็จะต้องล่มสลายลง นับประสาอะไรกับเมืองกิล
ยิ่งไปกว่านั้น มันได้มีมอนสเตอร์ระดับเทพนิยาย Faux Saint Devourers เกิดขึ้นมาท่ามกลางมอนสเตอร์ Faux Saint แล้ว และเมื่อ Faux Saint Devourers เพิ่มจำนวนขึ้นจนถึงในระดับหนึ่งแล้ว การโจมตีและทำลายเมือง NPC ก็จะเป็นเรื่องง่ายเลย ไม่ต้องพูดถึงเมืองกิล
อย่างไรก็ตามทันใดนั้นตัวแทนหลายคนก็ได้รับข้อความบางอย่างมา ซึ่งเมื่อพวกเขาเปิดอ่านนั้น สถานที่ที่ตอนแรกเต็มไปด้วยความตื่นเต้นก็เงียบลงอย่างกระทันหัน
“เฟเธอร์ มันเกิดอะไรขึ้น ?”
เมื่อโคลท์ชาโด้วเห็นท่าทีของทุกคน เธอก็หันไปหาไวท์เฟเธอร์โดยอัตโนมัติเพื่อถามถึงข้อมูล เธอต้องการจะรู้ว่าอะไรกันที่ทำให้ทุกคนตกตะลึง และเงียบลงไปทันทีแบบนี้
“พวกเขาแพ้ !! กองทัพมอนสเตอร์ Faux Saint และกองกำลังที่เข้าไปโจมตีเมืองปีกสีเงินแพ้ !!!” ไวท์เฟเธอร์อุทานออกมาด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความตกตะลึง และหวาดกลัว ขณะที่เธอมองไปยังโคลท์ชาโด้ว “ยิ่งไปกว่านั้น มันยังจัดเป็นความพ่ายแพ้ที่น่าอนาถ มอนสเตอร์ Faux Saint ทุกตัว และสมาชิกของมือแห่งนักบุญที่ไปที่เมืองปีกสีเงินล้วนตายทั้งหมด !!!”