Reincarnation Of The Strongest Sword God - ตอนที่ 2680
ตอนที่ 2680 เมืองปีกสีเงิน
จักรวรรดิมังกรไฟ เมืองมังกรไฟ ร้านอาหารสกอร์ชชิ่งเฟรม :
ทันทีที่โคลท์ชาโด้วกลับเข้าสู่เกม เธอก็ได้รับการต้อนรับจากสายตาของหญิงสาวรูปร่างสูงและสวยงามที่ยืนอยู่ตรงหน้าของเธอ ซึ่งผู้หญิงคนนี้ก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากไวท์เฟเธอร์ที่พึ่งกลับเข้าสู่เกมเมื่อไม่นานมานี้เช่นกัน
อย่างไรก็ตามตอนนี้ไวท์เฟเธอร์กับมีสีหน้าเศร้าหมองและกังวลอย่างสุดจะพรรณนา
“มีบางอย่างเกิดขึ้นงั้นหรอ ?” โคลท์ชาโด้วถาม ขณะที่ดวงตาสีเงินของเธอเริ่มปรา
กฎแววสับสนขึ้นมา
“เราพึ่งได้รับข่าวมาว่าเมืองปีกสีเงินของสภาสิบแปดปีกนั้นถูกอัพเกรดเป็นเมืองขนาดใหญ่ขั้นพื้นฐานแล้ว ซึ่งมันทำให้มหาอำนาจหลายกลุ่มที่ปฎิบัติการอยู่โดยรอบจักรวรรดิออร์คนั้นล้วนกำลังมุ่งหน้าไปยังเมืองปีกสีเงิน โดยพวกเขาทั้งหมดต่างวางแผนที่จะสร้างความร่วมมือระยะยาวกับสภาสิบแปดปีก ขณะที่กิลชั้นยอดและซุเปอร์กิลบางแห่งก็เริ่มพิจารณาจะทำแบบนั้นเช่นเดียวกัน ….” ไวท์เฟเธอร์รายงานด้วยน้ำเสียงสงบ
“เมืองปีกสีเงินได้รับการอัพเกรดเป็นเมืองขนาดใหญ่ขั้นพื้นฐานแล้วงั้นหรอ ?” โคลท์ชาโด้วรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เมื่อได้ยินรายงานของไวท์เฟเธอร์ ก่อนที่เธอจะยิ้มบางๆออกมา และกล่าวว่า “ไม่แปลกใจเลยที่เขาทำการปฎิเสธข้อเสนอของฉันโดยไม่ลังเล ดูเหมือนว่านี่คือสาเหตุที่ทำให้เขามั่นใจจะทำแบบนั้น”
“รองหัวหน้ากิล ถ้าสภาสิบแปดปีกได้รับการปกป้องจากมหาอำนาจอื่นๆอีกมากมาย เราจะมีช่วงเวลาที่ยากลำบากขึ้นในการรับเอาวิธีการฝึกที่จะทำให้เข้าถึงขอบเขตจิตวิญญาณได้ ทำไมเราไม่ติดต่อไปยังมือแห่งนักบุญให้แจ้งเตือนไปยังมหาอำนาจต่างๆพวกนั้นล่ะ ?” ไวท์เฟเธอร์แนะนำอย่างเป็นห่วง
หัวหน้าของพวกเขานั้นมอบหมายหน้าที่มาให้พวกเขาเพียงอย่างเดียวที่สำคัญที่สุดก็คือ การรับเอาวิธีการฝึกที่จะทำให้เข้าถึงขอบเขตจิตวิญญาณได้ มาให้ได้ ส่วนอย่างอื่นเป็นเรื่องรอง ซึ่งหากสภาสิบแปดปีกได้รับการปกป้องจากมหาอำนาจหลายกลุ่มในโลกแห่งความจริง มหาอำนาจใดๆที่ต้องการจะกำหนดเป้าหมายมายังสภาสิบแปดปีกอย่างลับๆก็จะมีช่วงเวลาที่ยากลำบากขึ้นในการทำเช่นนั้น
“นั่นไม่จำเป็นเลย มหาอำนาจเหล่านั้นจะร่วมมือกันปกป้องสภาสิบแปดปีกแล้วยังไงละ ?” โคลท์ชาโด้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม ขณะที่เธออ่านรายงานที่ไวท์เฟเธอร์ส่งต่อมาให้เธอ “ตอนนี้ตัวตนของแบล๊คเฟรมได้ถูกเปิดเผยออกมาแล้ว ซึ่งสตาร์ลิ้งจะไม่ปล่อยโอกาสนี้ไปแน่นอน ก่อนที่ฉันจะกลับเข้าสู่ God domain ฉันได้รับข่าวมาว่าเพื่อนเก่าผู้อยู่เบื้องหลังลู่ชิงหลัวนั้นหมดความอดทน และกำลังวางแผนจะลบรากฐานของสภาสิบแปดปีกทั้งหมดในเมืองเฟิงหลิน ซึ่งด้วยกำลังคนในปัจจุบันของสภาสิบแปดปีก พวกเขาจะไม่สามารถทนได้นานนัก ดังนั้นสิ่งที่เราต้องทำก็คือรอเท่านั้น ….”
“ตัวลู่ชิงหลัวเองนั้นไม่ได้มีความสามารถที่โดดเด่นใดๆเลย ในความเป็นจริงเหตุผลส่วนใหญ่ที่กิลสตาร์ลิ้งสามารถพัฒนามาถึงขั้นนี้ได้มันก็เป็นเพราะ เพื่อนเก่าผู้นี้สนับสนุนลู่ชิงหลัวอยู่ ซึ่งแม้ว่ามหาอำนาจหลายกลุ่มจะทำงานร่วมกัน แต่มันก็ไม่เพียงพอจะหยุดเพื่อนเก่าคนนี้ได้แน่นอน และแม้แต่ในไมโทโลจี้มันก็มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จะสามารถต่อกรกับเขาได้”
“ฉันเข้าใจแล้ว งั้นในตอนนี้ฉันจะส่งคนไปจับตาดูสภาสิบแปดปีกไว้ ….” ไวท์เฟเธอร์พูดพลางพยักหน้า
….
ในช่วงเวลาที่โคลท์ชาโด้ว และไวท์เฟเธอร์กำลังพูดคุยกัน ในที่สุดการอัพเกรดของเมืองปีกสีเงินก็ได้เสร็จสิ้นลงแล้ว และเมื่อวงเวทย์ที่ปกคลุมเมืองหายไป เมืองทั่วไปที่เคยตั้งอยู่บนเนินทรายนั้นก็ไม่มีอีกแล้ว มันได้แปรเปลี่ยนกลายเป็นเมืองอันงดงามแทน และไม่ว่าจะเป็นในแง่ของขนาดหรือมาตราฐานการป้องกันเมือง เมืองปีกสีเงินโฉมใหม่นี้ได้แซงหน้าเมืองปีกสีเงินเก่าไปไกลมาก และในตอนนี้แม้ว่าผู้เล่นจะยืนอยู่ที่ด้านนอกของเมือง แต่พวกเขาก็สามารถจะสัมผัสได้อย่างชัดเจนถึงกระแสมานาที่หนาแน่นที่ไหลเข้าสู่สภาพแวดล้อมโดยรอบเมือง
ช่างเป็นมานาที่น่าอัศจรรย์จริงๆ !!! ซือเฟิงรู้สึกประหลาดใจมาก เมื่อเขาสัมผัสได้ถึงการไหลของมานาที่ไหลเข้าเมืองมา
ซึ่งการที่เมืองปีกสีเงินถูกอัพเกรดจากเมืองขั้นสูงให้กลายไปเป็นเมืองขนาดใหญ่ขั้นพื้นฐาน มันก็ทำให้วงเวทย์หลักของเมืองได้รับการปรับปรุงอย่างมากด้วย ด้วยเหตุนี้ เมื่อบวกกับหอคอยเวทย์มนต์อีกห้าแห่งในเมือง เมืองปีกสีเงินจึงสามารถจะเทียบกับเมืองป่าหินได้แล้วในแง่ของความหนาแน่นของมานาในเมือง
หากผู้เล่นได้มาพักผ่อนในเมืองปีกสีเงิน ผลที่พวกเขาจะได้รับอาจไม่ดีเท่ากับสิ่งที่พวกเขาจะได้รับเมื่อพักผ่อนในโรงแรมอิสระของเมืองป่าหิน แต่อย่างไรก็ตามผลลัพธ์มันก็จะยังคงจัดว่ายอดเยี่ยมมาก ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องเกินจริงเลย หากจะบอกว่าเมืองปีกสีเงินได้กลายเป็นดินแดนศักสิทธิ์แห่งใหม่สำหรับผู้เล่นไว้พักผ่อนแล้ว
เนื่องจากการโจมตีของมอนสเตอร์ Faux Saint แผนที่หลายแห่งในจักรวรรดิออร์คจึงได้เปลี่ยนเป็นแผนที่เป็นกลางเลเวลมากกว่าหนึ่งร้อย ซึ่งโดยปกติผู้เล่นจะถือว่านี่เป็นเรื่องที่ควรค่าแก่การเฉลิมฉลอง แต่น่าเสียดายที่แผนที่เป็นกลางเลเวลมากกว่าหนึ่งร้อยเหล่านี้นั้นไม่เพียงแต่จะมีมานาที่เบาบางมากเท่านั้น แต่เนื่องจากสถานการณ์ที่ค่อนข้างพิเศษของจักรวรรดิออร์ค มันจึงทำให้ผู้เล่นไม่สามารถจะใช้อะเม้าท์บินได้ และม้วนคัมภีร์วาร์ปกลับเมืองเดินทางไปมาที่นี่ได้ ยิ่งไปกว่านั้นมันก็ยังมีพลังประหลาดที่มีฤทธิ์สึกกร่อนอยู่ในแผนที่เป็นกลางทั้งหมดนี้ เป็นผลให้ผู้เล่นส่วนใหญ่รู้สึกเบื่อหน่ายกับการปฎิบัติการในแผนที่เป็นกลางที่ถูกสร้างขึ้นใหม่เหล่านี้
อย่างไรก็ตามด้วยการปรากฎขึ้นของเมืองปีกสีเงินที่เป็นเมืองขนาดใหญ่ขั้นพื้นฐานในจักรวรรดิออร์ค มันจะสามารถช่วยแก้ไขปัญหาได้มากมาย ซึ่งอย่างน้อยที่สุดผู้เล่นก็จะไม่ต้องเดินทางไปยังเมือง NPC ที่อยู่ห่างไกลเพื่อฟื้นฟูอีกต่อไป และในความเป็นจริง ผู้เล่นจะได้รับอัตราการฟื้นฟูตัวเองที่เร็วกว่าในเมืองของ NPC ทั่วไปด้วยซ้ำ เมื่อมาพักผ่อนในเมืองปีกสีเงิน
อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้ซือเฟิงตื่นเต้นอย่างแท้จริงนั้นไม่ใช่ความเปลี่ยนแปลงของความหนาแน่นของมานาภายในเมือง แต่เป็นสนามบินของเมือง
เดิมสนามบินของเมืองปีกสีเงินนั้นมีขนาดเท่ากับสนามกีฬาเท่านั้น อย่างไรก็ตามหลังจากการอัพเกรดครั้งนี้ของเมืองปีกสีเงิน สนามบินก็ได้รับการปรับปรุงครั้งใหญ่เช่นกัน ตอนนี้สนามบินไม่เพียงแต่จะมีขนาดใหญ่ขึ้นสามเท่า แต่จำนวนท่าจอดเรือเหาะที่มีอยู่มันก็ยังเพิ่มขึ้นหลายเท่าด้วย
ตอนนี้เมืองปีกสีเงินได้กลายเป็นเมืองขนาดใหญ่ขั้นพื้นฐานแล้ว ดังนั้สิ่งที่ฉันต้องทำตอนนี้ก็แค่จ่ายเงินเพื่อเปิดเส้นทางการบินเพิ่มขึ้นไปยังเมืองหลวงของอาณาจักรต่างๆ ซึ่งเมื่อทุกอย่างเรียบร้อย ผู้เล่นจากอาณาจักรต่างๆก็จะสามารถเดินทางเข้ามายังเมืองปีกสีเงินได้โดยตรงเช่นกัน และในเวลานั้นรายได้จากการจัดเก็บค่าธรรมเนียม และค่าบริการเรือเหาะ ก็น่าจะเทียบได้กับรายได้ของโรงแรมอิสระ ซึ่งนี่มันทำให้ซือเฟิงเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความคาดหวัง ในขณะที่เขามองไปยังสนามบินที่อยู่ห่างไกล
ในชีวิตที่ผ่านมาของเขา สนามบินนั้นเป็นหนึ่งในแหล่งรายได้หลักของเมืองกิล เพราะท้ายที่สุด มันไม่ใช่ว่าผู้เล่นทุกคนจะมีอะเม้าท์บินได้ หรือบ้านส่วนตัวอยู่ในเมืองกิลต่างๆ ดังนั้นเรือเหาะจึงได้กลายเป็นหนึ่งในรูปแบบการเดินทางและขนส่งขั้นพื้นฐานของผู้เล่นใน God domain ตอนนั้น
ก่อยหน้านี้สนามบินของเมืองปีกสีเงินได้รับอนุญาติให้มีเส้นทางการบินเพียงเส้นเดียวเท่านั้น อย่างไรก็ตามตอนนี้หลังจากที่เมืองปีกสีเงินได้รับการอัพเกรดเป็นเมืองขนาดใหญ่ขั้นพื้นฐานแล้ว สนามบินก็สามารถจะมีเส้นทางการบินได้ถึงห้าเส้นทาง และจำนวนนี้ก็จะเพิ่มขึ้นไปอีกเช่นกันเมื่อมีการอัพเกรดเมืองหรือสนามบินในอนาคต
ก่อนที่ซือเฟิงจะทันได้หายจากอาการที่เต็มไปด้วยความสุขที่มีต่อการเปลี่ยนแปลงของสนามบิน เสียงการแจ้งเตือนของระบบก็ได้ดังขึ้นมาที่หูของเขา
….
ระบบ : ยินดีด้วย !!! เมืองปีกสีเงินได้รับการอัพเกรดให้เป็นเมืองขนาดใหญ่ขั้นพื้นฐานแล้ว !!! และบริษัทขนส่งในเมืองปีกสีเงินก็มีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดสำหรับการเลื่อนเป็นระดับทองแดงแล้ว คุณต้องการจะอัพเกรดบริษัทขนส่งไหม ?
….
มันไปถึงระดับทองแดงแล้ว ? ซือเฟิงตกตะลึงเมื่อได้อ่านการแจ้งเตือนของระบบ
บริษัทขนส่งนั้นเป็นสิ่งก่อสร้างที่ค่อนข้างพิเศษมาก และระบบการอัพเกรดของมันก็แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับสิ่งก่อสร้างทั่วไป
เพราะแทนที่มันจะต้องใช้เงินหรือป้ายอัพเกรดเพื่ออัพเกรดมัน มันแค่ต้องปฎิบัติตามเงื่อนไขพิเศษบางอย่างเท่านั้นจึงจะสามารถอัพเกรดได้
และเท่าที่ซือเฟิงรู้นั้น ในชีวิตที่ผ่านมาของเขา มหาอำนาจหลายกลุ่มประสบความสำเร็จในการอัพเกรดบริษัทขนส่งขึ้นไปเป็นระดับทองแดงก็หลังจากที่เมืองของพวกเขากลายเป็นเมืองขนาดใหญ่ขั้นกลางแล้วเท่านั้น
แต่ตอนนี้เมืองปีกสีเงินที่พึ่งจะได้รับการอัพเกรดเป็นเมืองขนาดใหญ่ขั้นพื้นฐาน กับมีสิทจะได้อัพเกรดบริษัทขนส่งให้เป็นระดับทองแดงแล้ว ดังนั้นโดยธรรมชาติ ซือเฟิงจึงรู้สึกประหลาดใจมากๆ
เมื่อบริษัทขนส่งได้อัพเกรดไปเป็นระดับทองแดงนั้น มันก็จะมีความสามารถในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของเมืองกิลอย่างแท้จริง
หลังจากบริษัทขนส่งถูกอัพเกรดไปเป็นระดับทองแดงแล้ว บริษัทก็จะไม่จำกัดธุรกิจของตนให้อยู่แค่ในเฉพาะประเทศบ้านเกิดของตนอีกต่อไป บริษัทจะเริ่มขยายการดำเนินงานออกไปนอกพรหมแดน และกลายเป็นศูนย์กลางที่เชื่อมต่อประเทศต่างๆเข้าด้วยกัน ซึ่งแม้แต่ NPC ในเผ่าพันธุ์ที่เป็นกลางก็จะเริ่มใช้มันเป็นศูนย์กลาง
กล่าวอีกนัยหนึ่งไม่เพียงแต่มันจะมีความเป็นไปได้ที่จะค้นพบสินค้าจากเผ่าพันธุ์ที่เป็นกลางในบริษัทขนส่ง แต่บริษัทขนส่งเองก็ยังจะกลายเป็นสถานที่ที่พ่อค้า NPC สามารถพัฒนาธุรกิจของตนได้
พูดง่ายๆก็คือตราบใดที่เมืองกิลขนาดใหญ่มีบริษัทขนส่งระดับทองแดงอยู่ กิลผู้ที่ปกครองของเมืองก็จะมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก และเมืองกิลที่มีบริษัทขนส่งแบบนี้ก็จะมีช่วงเวลาที่ง่ายขึ้นมากในการกลายเป็นเมืองหลัก
ในขณะเดียวกันหลังจากมองไปที่การแจ้งเตือนของระบบล่าสุด ซือเฟิงก็ได้เลือกจะอัพเกรดบริษัทขนส่งอย่างไม่ลังเล