Reincarnation Of The Strongest Sword God - ตอนที่ 2682
ตอนที่ 2682 เมืองปีกสีเงินที่ทำให้เกิดความบ้าคลั่ง
เมื่อผู้เชี่ยวชาญขั้นสามของมหาอำนาจต่างๆและทีมนักผจญภัยเข้ามาในเมืองปีกสีเงิน พวกเขาก็พบว่าถนนที่ใหญ่ขึ้นมากในเมืองนั้นค่อนข้างมีคนพลุกพล่าน
“แน่นอนเลยว่าเมืองนั้นใหญ่ขึ้นมากหลังจากได้รับการอัพเกรด แถมความหนาแน่นของมานาโดยรอบมันก็เพิ่มขึ้นอย่างมากเช่นกัน แต่มันน่าเสียดายที่ค่าเข้าเมืองนั้นสูงเกินไป ถ้าเป็นห้าสักห้าเหรียญเงินต่อคน ผู้เล่นจากประเทศใกล้เคียงจำนวนมากจะหลั่งไหลเข้ามาที่นี่อย่างมหาศาลแน่นอน” เครซบลูถอนหายใจ ขณะที่เขามองไปยังถนนที่เต็มไปด้วย NPC
ถ้าเป็นไปได้เขาก็อยากจะพัฒนาต่อไปในเมืองปีกสีเงิน แต่น่าเสียดายที่ค่าเข้าเมืองสิบเหรียญเงินต่อคนนั้นมันแพงเกินไป แม้ว่าตัวเขาจะสามารถจ่ายได้ แต่มันก็ไม่ใช่สำหรับผู้เชี่ยวชาญขั้นสองทั่วไป
เพราะท้ายที่สุดผู้เล่นหลายคนมักจะเข้าสู่เมืองปีกสีเงินหลายครั้งต่อวัน เนื่องจากผู้เล่นขั้นสองนั้นไม่สามารถจะต้านทานสภาพแวดล้อมที่รุนแรง พลังงานประหลาดในแผนที่เป็นกลางเลเวลหนึ่งร้อยหรือมากกว่าได้เหมือนกับผู้เล่นขั้นสาม พวกเขาจะสามารถอยู่รอดในแผนที่เป็นกลางเลเวลหนึ่งร้อยหรือมากกว่าได้เพียงไม่กี่ชั่วโมงต่อครั้ง แต่มันก็โชคดีที่ผู้เล่นขั้นสองจะสามารถฟื้นฟูตัวเองจากสภาพแวดล้อมที่รุนแรง และพลังงานประหลาดได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถจะเดินทางเข้าไปในแผนที่เป็นกลางเลเวลหนึ่งร้อยหรือมากกว่าได้สองถึงสามครั้งต่อวัน อย่างไรก็ตามการเดินทางเพิ่มเติมทุกครั้งนี้มันก็หมายความว่าพวกเขาจะต้องจ่ายสิบเหรียญเงินให้กับเมืองปีกสีเงินเพิ่มต่อครั้งตามจำนวนการเดินทางเลย
เดิมทีการหาเงินมันก็เป็นเรื่องที่ทำได้ยากอยู่แล้วในดินแดนของมอนสเตอร์ Faux Saint และการที่ต้องมาจ่ายเงินเพิ่มยี่สิบถึงสามสิบเหรียญเงินต่อวัน มันก็จะนับเป็นเรื่องที่ยากลำบากมากสำหรับผู้เล่นขั้นสอง เพราะท้ายที่สุดผู้เล่นขั้นสองนั้นมีค่าใช้จ่ายอีกมากมายที่พวกเขาจำเป็นต้องใช้ในระหว่างวัน เช่น ค่าที่พัก อาหาร เครื่องดื่ม รวมไปถึงค่าซ่อมแซมอาวุธและอุปกรณ์ …. ยิ่งไปกว่านั้นหากผู้เล่นขั้นสองต้องการจะไปถึงขั้นสามให้ได้ พวกเขายังต้องเก็บรวบรวมเงินเพื่อไว้ซื้อสกิลหรือเวทย์ขั้นสองที่ทรงพลัง พร้อมทั้งอาวุธและอุปกรณ์ที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย
ซึ่งเพื่อจะทำเงินให้ได้ตามจำนวนที่ต้องการ ผู้เล่นขั้นสองบางคนถึงกับทุ่มเวลาส่วนใหญ่เพื่อหาวัสดุในแผนที่เลเวลต่ำ ซึ่งมันก็ทำให้การเก็บเลเวลของพวกเขาล่าช้าไปอีก
ขณะนี้มันมีเพียงผู้เชี่ยวชาญขั้นสามเท่านั้นที่จะสามารถจ่ายค่าเข้าเมืองสิบเหรียญเงินต่อคนของเมืองปีกสีเงินได้ทุกครั้งโดยไม่ต้องคิดมาก อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญขั้นสามนั้นก็หายากมากไม่ใช่รึไง ? นี่ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องความสามารถของผู้เชี่ยวชาญขั้นสาม พวกเขามีความสามารถในการจะเลือกพื้นที่เก็บเลเวล ซึ่งมันไม่จำเป็นต้องอยู่ในจักรวรรดิออร์คเพียงอย่างเดียว
ผู้เชี่ยวชาญขั้นสามคนอื่นๆของบลัดแพ็คพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของเครซบลู พวกเขารู้สึกว่าการที่สภาสิบแปดปีกทำแบบนี้มันจะเป็นการไล่ผู้เล่นออกจากเมืองปีกสีเงินมากกว่า ซึ่งด้วยเรื่องนี้ มันก็จะทำให้เมืองกิลหลายแห่งในจักรวรรดิออร์ครุ่งเรืองขึ้นมา ขณะที่เมืองปีกสีเงินนั้นมันก็จะแทบไม่มีผู้เล่นเข้าเลย
หลังจากพูดคุยกันไประยะหนึ่ง สมาชิกของบลัดแพ็คก็ได้เดินมาถึงบริษัทขนส่งเพื่อส่งมอบเควสที่พวกเขาทำเสร็จสมบูรณ์แล้ว
อย่างไรก็ตามเครซบลูและคนอื่นๆก็ต้องเต็มไปด้วยความตกตะลึงอย่างมาก เมื่อพวกเขาได้เห็นบริษัทขนส่งขนาดใหญ่ซึ่งเทียบเท่ากับสนามกีฬาสี่แห่ง
“เกิดอะไรขึ้น ?”
“นี่สภาสิบแปดปีกทำอะไรไปกัน ?”
บริษัทขนส่งในปัจจุบันนั้นอยู่ในระดับที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง นอกจากนี้ตอนนี้มันยังมี NPC จำนวนมากขึ้นอย่างมากที่เข้าและออกอาคารนี้
ก่อนหน้านี้มันมักจะมี NPC แค่ไม่กี่สิบคนเท่านั้นที่มักจะเข้าและออกจากอาคารนี้ตลอดเวลา อย่างไรก็ตามตอนนี้ไม่เพียงแต่มันจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นเกินสองร้อยคน แต่ NPC เหล่านี้จำนวนมากยังเป็นขุนนาง หรือผู้ที่จากเผ่าพันธุ์ที่เป็นกลางด้วย ซึ่งมันนับเป็นภาพที่หาดูได้ยากมากๆ
ก่อนที่เครซบลูและคนอื่นๆจะได้ทันตอบสนองต่อสถานการณ์นี้ได้อย่างเหมาะสม ทีมของผู้เชี่ยวชาญขั้นสามหลายทีมต่างก็เดินออกมาจากบริษัทขนส่ง ซึ่งผู้เล่นทุกคนในทีมเหล่านี้ล้วนแสดงสีหน้าดีใจมากๆออกมา ยิ่งไปกว่านั้นทุกทีมเหล่านี้ก็ยังมี NPC ที่เป็นขุนนาง หรือไม่ก็ NPC จากเผ่าพันธุ์ที่เป็นกลางตามหลังพวกเขามา โดยมันเห็นได้ชัดว่าทีมเหล่านี้ได้รับมอบเควสจาก NPC เหล่านี้
“นี่ฉันฝันไปรึปล่าว ?! ทำไมมันถึงมีเควสมากมายจาก NPC ขุนนาง และ NPC จากเผ่าพันธุ์ที่เป็นกลาง ?!” เครซบลูอดไม่ได้ที่จะขยี้ตาด้วยความสงสัยว่าเขามองอะไรผิดไปรึปล่าว เมื่อเขามองไปยังฉากตรงหน้าของเขา
โดยปกติเคสที่ผู้เล่นจะได้รับมอบจาก NPC ขุนนาง หรือ NPC จากเผ่าพันธุ์ที่เป็นกลางนั้นจะปรากฎขึ้นที่บริษัทขนส่งเพียงวันละครั้ง หรือไม่ก็สองถึงสามวันครั้งเท่านั้น ในขณะเดียวกันเควสทุกเควสเหล่านี้ก็สามารถจะจุดประกายความบ้าคลั่งในหมู่ทีมนักผจญภัยชั้นยอดและกิลขนาดใหญ่ได้
เหตุผลก็คือระดับความยากขั้นต่ำของเควสเหล่านี้นั้นอย่างน้อยมันก็จะอยู่ที่ขั้นสูงระดับสามดาว ซึ่งหากทำเควสแบบนี้ได้สำเร็จ ไม่เพียงแต่ผู้เล่นจะได้รับเหรียญและคะแนนสะสมจำนวนมากจากเควส แต่พวกเขายังจะมีโอกาสที่จะได้รับทั้งอาวุธหรืออุปกรณ์ชั้นยอดเลเวลหนึ่งร้อยหรือมากกว่า และนี่ยังไม่ต้องพูดถึงว่าพวกเขามีโอกาสอีกเล็กน้อยที่จะได้รับหนังสือสกิลหรือเวทย์ขั้นสามด้วย หากโชคดีมากพอ
ยิ่งไปกว่านั้นแม้ว่าผู้เล่นจะโชคไม่ดี และไม่ได้รับไอเทมโบนัสใดๆจากเควส แต่รางวัลที่เควสมอบให้เป็นตัวเงินนั้นมันก็มากเพียงพอสำหรับผู้เล่นในปัจจุบันแล้วที่จะใช้ซื้ออาวุธและอุปกรณ์เลเวลมากกว่าหนึ่งร้อยที่ค่อนข้างดีให้กับตัวเอง ดังนั้นทีมนักผจญภัยรวมไปถึงกิลขนาดใหญ่จึงล้วนต่อสู้เพื่อแย่งชิงกันทำเควสแบบนี้อย่างลับๆเสมอ
อย่างไรก็ตามตอนนี้หลายทีมกับสามารถจะรับเควสแบบนี้ได้ ซึ่งมันทำให้เครซบลูแทบจะไม่เชื่อสายตาตัวเองเลย
“เร็ว !!! เราต้องรีบเข้าไปด้านในเพื่อดูและเช็คเรื่องนี้ !!!” โซลิดวินด์ตะโกนออกคำสั่ง หลังจากที่เธอหายจากอาการตกตะลึง
เมื่อได้ยินคำสั่งของโซลิดวินด์ สมาชิกบลัดแพ็คคนอื่นๆก็พยักหน้าและรีบพุ่งเข้าไปในอาคารทันที ในตอนนี้พวกเขาอยากรู้มากว่าเกิดอะไรขึ้นที่บริษัทขนส่ง ทำไมมันถึงมีเควสขั้นสูงระดับสามดาวหรือมากกว่าออกมามากมายขนาดนี้
เมื่อโซลิดวินด์และคนอื่นๆเข้ามาในบริษัทขนส่ง พวกเขาก็ต้องเต็มไปด้วยความตกตะลึงกับฉากที่พวกเขาได้เห็นตรงหน้า
ภายในล๊อบบี้ที่กว้างขวางของบริษัทขนส่ง มันมีพ่อค้า NPC ต่อแถวรอคิวยาวเหยียดอยู่หน้าโต๊ะประชาสัมพันธ์ ซึ่งเมื่อประมาณการด้วยสายตาคร่าวๆแล้ว NPC ทั้งหมดนี้น่าจะมีจำนวนมากกว่าห้าพันคนเลย ยิ่งไปกว่านั้น NPC จำนวนมากในหมู่ NPC เหล่านี้ยังเป็นขุนนาง และ NPC จากเผ่าพันธุ์ที่เป็นกลางด้วย
ขณะเดียวกันคริสตัลเควสโปร่งแสงขนาดมหึมาที่ลอยอยู่ตรงกลางล๊อบบี้ก็แสดงให้เห็นถึงเควสขั้นสูงระดับสามดาวมากมาย และมันก็มีจำนวนหนึ่งที่เป็นเควสขั้นสูงระดับสี่ดาว ซึ่งพวกเขาหลายคนไม่เคยเห็นมาก่อนด้วย
….
เควสการขนส่งไปยังป้อมปราการชายแดนของจักรวรรดิมังกรดำ : ความยากระดับสี่ดาว ความต้องการ : ขั้นสาม ซึ่งทีมจะต้องมีอย่างน้อยหนึ่งคนที่สามารถทำเควสขั้นสูงระดับสามดาวสำเร็จได้สิบเควสหรือมากกว่า และเคยทำเควสขั้นสูงระดับสามดาวมาแล้วไม่ต่ำกว่ายี่สิบเควส สำหรับสมาชิกคนอื่นๆจะต้องเคยทำเควสขั้นสูงสามระดับสามดาวสำเร็จมาอย่างน้อยสิบครั้ง รางวัล : เงินห้าสิบเหรียญทอง คะแนนสะสมสามพันแต้ม ไม่ทราบรางวัลเพิ่มเติม รับสมัคร : ห้าสิบคน
เควสการขนส่งไปยังพื้นที่ที่เป็นกลาง เมืองไซเร้น : ความยากระดับสี่ดาว ความต้องการ : ขั้นสาม ซึ่งทีมจะต้องมีอย่างน้อยหนึ่งคนที่สามารถทำเควสขั้นสูงระดับสามดาวสำเร็จได้สิบสองเควสหรือมากกว่า สำหรับสมาชิกคนอื่นๆจะต้องเคยทำเควสขั้นสูงสามระดับสามดาวสำเร็จมาอย่างน้อยห้าครั้ง รางวัล : เงินหกสิบเหรียญทอง คะแนนสะสมสองพันแต้ม และของขวัญจากเอลฟ์ (มีโอกาสสิบห้าเปอเซ็นต์ที่จะทำให้ได้รับไอเทมระดับดาร์คโกลในเลเวลเดียวกัน แล้วก็มีโอกาสยี่สิบห้าเปอเซ็นต์ที่จะทำให้ได้รับไอเทมระดับไฟน์โกลในเลเวลเดียวกัน) รับสมัคร : หนึ่งร้อยคน
….
เมื่อสายตาของโซลิดวินด์และสมาชิกบลัดแพ็คคนอื่นๆจับจ้องไปที่เควสขั้นสูงระดับสี่ดาว พวกเขาก็หวังว่าพวกเขาจะสามารถรับเควสเหล่านี้ได้ทันที
นอกเหนือจากรางวัลเพิ่มเติมแล้ว เพียงแค่เหรียญและคะแนนสะสมที่ได้รับจาเควสเหล่านี้มันก็มากเพียงพอแล้วที่จะทำให้ผู้เชี่ยวชาญขั้นสามแบบพวกเขาบ้าคลั่ง
“บลู รีบล๊อคเอ้าท์กลับออกไปและติดต่อผู้บัญชาการด่วน !!! ให้ผู้บัญชาการไปเจรจากับทีมนักผจญภัยอื่นๆ !!! เราจำเป็นต้องรับเควสขั้นสูงระดับสี่ดาวพวกนี้มาให้ได้ทั้งหมดก่อนที่คนอื่นจะรู้เรื่องนี้ !!!” โซลิดวินด์กล่าวอย่างเร่งด่วน
มันเป็นไปไม่ได้เลยที่ทีมนักผจญภัยแต่ละทีมจะสามารถทำเควสขั้นสูงระดับสี่ดาวได้ด้วยตัวเอง พวกเขาจำเป็นจะต้องมีทีมนักผจญภัยอีกทีมมาเป็นพันธมิตรและคอยช่วยกัน และหากพวกเขาสามารถทำเควสขั้นสูงระดับสี่ดาวแบบนี้ได้สำเร็จ พวกเขาก็จะสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งโดยรวมของบลัดแพ็คขึ้นได้เล็กน้อย
“โอเค ฉันจะรีบล๊อคเอ้าท์ไปจัดการทันที !!!” เครซบลูกล่าวขณะที่เขารีบเปิดอิน
เตอร์เฟซขึ้นมาและกดล๊อคเอ้าท์
สำหรับโซลิดวินด์และคนอื่นๆ พวกเขารีบติดต่อสมาชิกของบลัดแพ็คที่อยู่นอกเมือง และสั่งให้พวกเขารีบเข้ามาในเมืองและเข้ามาในบริษัทขนส่งทันที ซึ่งความตื่นเต้นที่สมาชิกบลัดแพ็คคนอื่นๆแสดงออกมานั้น ผู้เล่นที่อยู่รอบๆตัวพวกเขามันก็เห็นได้อย่างชัดเจนเลย
อย่างไรก็ตามผู้เล่นส่วนใหญ่ที่ล้อมรอบบลัดแพ็คอยู่ก็ไม่ได้คิดว่าปฎิกิริยาของพวกเขาน่าประหลาดใจเลย เพราะท้ายที่สุดบลัดแพ็คไม่ใช่แค่กลุ่มเดียวที่มุ่เป้าไปที่เควสขั้นสูงระดับสี่ดาว สมาชิกของทีมนักผจญภัยรวมทั้งกิลอื่นๆที่ได้ไปเยี่ยมชมบริษัทขนส่งมาก่อนหน้านี้แล้วก็ล้วนมีปฎิกิริยาในลักษณะเดียวกัน พวกเขารีบแจ้งไปที่พรรคพวกของเขาทันที เพื่อให้ระดมคนเข้ามาที่บริษัทขนส่งของเมืองปีกสีเงินให้มากที่สุด
ในช่วงเวลาหนึ่งผู้เล่นขั้นสองจำนวนมากที่ตั้งเต๊นท์อยู่นอกเมืองปีกสีเงินก็ได้รีบทยอยกันเข้ามาต่อแถวรอเข้าเมืองปีกสีเงินด้วยดวงตาที่แดงก่ำ และในพริบตาบริเวณประตูหลักมันก็เต็มไปด้วยผู้เล่น และถ้าไม่ใช่เพราะทุกคนกลัวองครักษ์ส่วนตัวที่เฝ้าบริเวณนี้อยู่ พวกเขาจะต่อสู้เพื่อแย่งชิงกันเข้าเมืองไปแล้ว
ในขณะเดียวกันเมื่อซัมมอนเนอร์หญิงในชุดเสื้อคลุมสีดำจากฟรอสต์ฮีฟเว่นที่เข้ามาในเมืองแล้ว เห็นความวุ่นวายปะทุขึ้นที่บริเวณประตูหลักของเมือง เธอก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึง
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน ?”