Reincarnation Of The Strongest Sword God - ตอนที่ 2689
ตอนที่ 2689 โฮลี่ดีวอร์แบบง่ายๆ
ในขณะที่ซือเฟิงเหวี่ยง Abyssal Blade กลุ่มของเปลวไฟสีแดงที่ลุกโชนก็ได้ห่อหุ้มอาวุธเวทย์มนต์ ซึ่งมันทำให้แม้แต่พื้นที่โดยรอบก็ยังสั่นสะเทือน
ในช่วงเวลาต่อมาเปลวไฟสีแดงที่ลุกโชนนี้ก็ได้กัดกินผนังเบื้องหน้าเขา
ตู้ม !!
พร้อมกับเสียงระเบิดที่ดังขึ้น เศษหินและหินก็ปลิวว่อนไปทั่ว ในตอนแรกพื้นที่ซึ่งเป็นถ้ำที่ซือเฟิงขุดและสร้างขึ้นมาเพื่อตัวเองนั้นมีขนาดเท่ากับห้องเล็กๆเท่านั้น อย่างไรก็ตามตอนนี้ถ้ำนี้ได้เติบโตขึ้นจนมีขนาดเท่ากับบ้านหลังเล็กๆ ยิ่งไปกว่านั้นผนังของมันยังเรียบเนียนราวกับถูกขัดเงา
แข็งแกร่งมากๆ !!
ความประหลาดใจปรากฎขึ้นในดวงตาของซือเฟิง ขณะที่เขาตรงลึกเข้าไปในถ้ำตรงหน้าของเขาต่อ
เขาเพียงแค่พยายามจะลองใช้โฮลี่ดีวอร์เท่านั้น แต่เขาก็ไม่คิดเลยว่ามันจะประสบความสำเร็จในครั้งแรก แม้ว่าดาบที่สองโฮลี่ดีวอร์ที่เขาใช้นั้นมันจะอ่อนแอกว่าที่ควรจะเป็นมาก และอาจจะเป็นรุ่นไม่สมบูรณ์ แต่พลังในการโจมตีของมันที่เขาใช้ออกมาได้ มันก็เกือบจะอยู่ในขั้นสูง ของขั้นสี่แล้ว
ซึ่งด้วยพลังในการทำลายล้างเช่นนี้ ประสิทธิภาพในการเปิดเส้นทางไปยังเศษชิ้นส่วนมรดกของเขาก็ควรจะดีขึ้นหลายสิบเท่า
อย่างไรก็ตามในระหว่างที่ซือเฟิงคิดจะใช้โฮลี่ดีวอร์อีกครั้ง สติของเขาก็เริ่มสั่นคลอนและเจ็บปวดที่เสียดแทงเข้ามาโจมตีสมองของเขา
แน่นอนว่ามันยังคงมากเกินไปสำหรับตัวฉันในปัจจุบันที่จะใช้โฮลี่ดีวอร์ติดๆกันได้ ซือเฟิงอดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างขมขื่นออกมาให้กับสถานการณ์นี้
เมื่อครู่ เขาประสบความสำเร็จในการใช้งานโฮลี่ดีวอร์ก็จริง อย่างไรก็ตามปริมาณการใช้ค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจของเขาที่ใช้โฮลี่ดีวอร์ไปครั้งเดียวนั้น มันเทียบเท่ากับการที่เขาใช้เทคนิคการต่อสู้ระดับทองแดงไปมากกว่าสิบครั้งเลย ซึ่งอัตราการผลาญค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจที่สูงเช่นนี้ ค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจของเขาก็จะหมดลง หลังจากใช้โฮลี่ดีวอร์ไปสามถึงสี่ครั้ง ยิ่งไปกว่านั้นเขาสามารถจะบรรลุผลนี้ได้ก็เนื่องจากมาตราฐานค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจของเขานั้นได้มาถึงขั้นสี่แล้ว หากมาตราฐานค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจของเขายังคงอยู่ในขั้นสาม เขาจะตายลงทันทีแน่นอน เมื่อใช้โฮลี่ดีวอร์ครั้งแรก
อย่างไรก็ตามในขณะที่ซือเฟิงกำลังคิดถึงวิธีที่จะทำให้เขาใช้โฮลี่ดีวอร์ได้อย่างสมบูรณ์ และลดการผลาญค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจลงไปด้วย มันก็เกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงขึ้นในถ้ำ
ก่อนที่เขาจะตอบสนองต่อพัฒนาการที่ไม่คาดคิดนี้ได้ เศษหินที่กระจัดกระจายอยู่รอบถ้ำก็เริ่มมารวมตัวกันกลายเป็นโกเลมมนุษย์ที่สูงเท่าเขา ซึ่งในขณะที่โกเลมเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง มันก็ปล่อยชีพจรที่น่ากลัวซึ่งทำให้มานาที่อยู่รอบๆแข็งตัวทันทีออกมา โดยมันทำให้เขาไม่สามารถจะจัดการกับมานาโดยรอบได้เลย
….
[ผู้พิทักษ์เส้นทางชั้นนอก] (สิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่สายธาตุ แกรนลอร์ด)
เลเวล 121
HP 53,500,000/53,500,000
….
สิ่งมีชีวิตที่ไม่สายธาตุ ? ซือเฟิงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เมื่อเขามองเห็นผู้พิทักษ์เส้นทางชั้นนอก
เขาไม่เคยได้ยินเรื่องของสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่สายธาตุมาก่อน และโดยปกติ หากมอนสเตอร์เป็นมอนสเตอร์ที่ไม่ใช่สายธาตุ พวกมันจะถูกระบุว่าเป็นเผ่ายักษ์ เอลฟ์ สัตว์ป่า หรือไม่ก็ออร์คไปเลยเป็นต้น
ก่อนที่ซือเฟิงจะสามารถแยกแยะสถานการณ์นี้ได้อย่างถูกต้อง ผู้พิทักษ์เส้นทางชั้นนอกก็ปรากฎขึ้นตรงหน้าของเขาแล้ว จากนั้นแขนทั้งสองข้างของมันก็แปรเปลี่ยนเป็นใบมีดหินที่คมกริบที่ฟันเขาลงมาด้วยความเร็วในการโจมตีที่เหนือกว่าแกรยลอร์ดทั่วไปมาก ซึ่งมันก็เกือบจะเทียบได้กับมอนสเตอร์ระดับเทพนิยายเลย
อย่างไรก็ตามซือเฟิงนั้นก็ไม่ได้คิดจะถอยเช่นกัน เพราะท้ายที่สุดแล้วด้วยมาตราฐานการต่อสู้ที่ไม่ธรรมดา และค่าสถานะพื้นฐานของเขา แม้แต่มอนสเตอร์ระดับเทพนิยายในเลเวลเดียวกันก็ยังต้องประสบปัญหาในการโจมตีเขาเลย นับประสาอะไรกับแกรนลอร์ดที่แค่มีความเร็วใกล้เคียงกับมอนสเตอร์ระดับเทพนิยาย
ในช่วงเวลาต่อมาซือเฟิงก็ได้ทำการเหวี่ยง Abyssal Blade ของเขาไปรอบๆทันที
วัฎสงสารแห่งดาบ !!!
Peng… Peng… Peng…
ในพริบตาซือเฟิงก็สามารถเบี่ยงเบนการโจมตีหลายสิบครั้งออกไปได้ทันที ก่อนที่เขาจะส่งการโจมตีโต้ตอบผู้พิทักษ์เส้นทางชั้นนอกกลับไป
ในช่วงเวลาต่อมาลำแสงดาบสีดำสนิทก็พุ่งเข้าโจมตีที่ตัวของผู้พิทักษ์เส้นทางชั้นนอก อย่างไรก็ตามซือเฟิงก็ต้องเต็มไปด้วยความประหลาดใจ เมื่อการโจมตีของเขาโดนเข้ากับผู้พิทักษ์เส้นทางชั้นนอก เพราะไม่เพียงแต่การโจมตีของเขาจะล้มเหลวในการสร้างความเสียหายให้กับผู้พิทักษ์เส้นทางชั้นนอก แต่ผลกระทบของการโจมตีนี้มันยังผลักดันให้เขาต้องถอยกลับมาครึ่งก้าว ขณะที่ Abyssal Blade ในมือของเขาก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรงราวกับว่ามันพึ่งชนเข้ากับกำแพงที่ไม่สามารถเข้าถึงได้
นี่มันเป็นมอนสเตอร์แบบไหนกัน ? ซือเฟิงจ้องมองไปที่ผู้พิทักษ์เส้นทางชั้นนอกด้วยความประหลาดใจ
Abyssal Blade มีความสามารถในการจะตัดผ่านแม้แต่หนังของมอนสเตอร์ระดับผู้อาวุโสเทพนิยาย แต่ตอนนี้ไม่เพียงแต่ Abyssal Blade ของเขาจะไม่สามารถสร้างรอยขีดข่วนให้กับร่างกายของผู้พิทักษ์เส้นทางชั้นนอกได้ แต่แกรนลอร์ดยังไม่ได้สูญเสีย HP ไปเลยแม้แต่นิดเดียวจากการโจมตี พลังป้องกันของผู้พิทักษ์เส้นทางชั้นนอกนั้นมันท้าทายสวรรค์อย่างแท้จริง
โดยไม่ได้คำนึงถึงความประหลาดใจของซือเฟิง ผู้พิทักษ์เส้นทางชั้นนอกนั้นรีบโจมตีเขาต่อครั้งแล้วครั้งเล่าทันที
และแม้ว่าจะต่อสู้ติดต่อกันมาเป็นเวลาหลายนาที แต่ผู้พิทักษ์เส้นทางชั้นนอกก็ไม่ได้แสดงให้เห็นถึงอาการอ่อนแรง หรือมีความเร็วลดลงเลย มันเป็นเหมือนกับเครื่องจักรที่ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย แม้ว่าซือเฟิงจะโจมตีตอบโต้กลับไปมากกว่าหนึ่งร้อยครั้ง แต่เขาก็ล้มเหลวในการจะสร้างความเสียหายใดๆให้กับแกรนลอร์ดตัวนี้ และแม้แต่ไลท์ชาโด้วก็ยังไร้ประโยชน์กับมัน
มันเป็นอมตะงั้นหรอ ?
ซือเฟิงรู้สึกปวดหัวมากๆ ขณะที่เขาทำการเบี่ยงเบนการโจมตีของผู้พิทักษ์เส้นทางชั้นนอกอย่างต่อเนื่อง
ก่อนหน้านี้เขาเริ่มมองเห็นความหวังที่จะได้รับเศษชิ้นส่วนมรดกแล้ว แต่เขาไม่คิดเลยว่ามอนสเตอร์อย่างผู้พิทักษ์เส้นทางชั้นนอกจะปรากฎขึ้นหลังจากที่เขาทำการใช้โฮลี่ดีวอร์ ซึ่งแม้ว่าผู้พิทักษ์เส้นทางชั้นนอกจะมี HP มากกว่าห้าสิบล้านเพียงแค่เล็กน้อย ซึ่งถือว่าต่ำมากในหมู่แกรนลอร์ดเลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบเอ็ด แต่เขาก็ยังล้มเหลวในการจะสร้างความเสียหายให้กับมัน
ซึ่งในอัตรานี้เขาจะตายลงจากความเหนื่อยอ่อน ก่อนที่เขาจะสามารถรับเอาเศษชิ้นส่วนมรดกมาได้สักชิ้น
เวลานั้นผ่านไปอย่างรวดเร็ว และก่อนที่ซือเฟิงจะตระหนักได้ มันก็ได้ผ่านไปกว่าสิบนาทีแล้ว อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะโจมตีจุดอ่อนที่คิดว่าเป็นไปได้ทั้งหมดที่เขาพบบนตัวของผู้พิทักษ์เส้นทางชั้นนอก แต่เขาก็ยังคงไม่สามารถทำความเสียหายให้กับแกรนลอร์ดได้เลย
เพื่อให้เรื่องแย่ลง เมื่อผู้พิทักษ์เส้นทางชั้นนอกทำให้มานาแข็งตัวแบบนี้ อัตราการฟื้นฟูในด้านต่างๆของซือเฟิงตามอัตโมัติที่เขาควรจะได้รับ มันจึงลดลงอย่างมาก และมันก็จะทำให้เขาทรุดลงจากความเหนื่อยล้าในอีกไม่กี่ชั่วโมงนับจากนี้
เวรเอ้ย !! เวรจริงๆ !! ซือเฟิงกัดฟันของเขา ก่อนที่เขาจะกระชับ Abyssal Blade ในมือสองข้างของเขาแน่นและทำการใช้โฮลี่ดีวอร์ใส่ผู้พิทักษ์เส้นทางชั้นนอกทันที หากมันไม่มีทางเลือกอื่นเหลือนับจากนี้ ฉันก็จะใช้สกิลเบอเซิกร์ร่วมด้วย
โฮลี่ดีวอร์นั้นการเคลื่อนไหวที่แข็งแกร่งที่สุดที่เขาสามารถใช้ได้โดยไม่ต้องกลายร่างเป็นราชันมังกรดำ และถ้าแม้แต่โฮลี่ดีวอร์ก็ยังไม่สามารถจะทำอะไรกับผู้พิทักษ์เส้นทางชั้นนอกได้ เขาก็คงจะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องใช้สกิลเบอเซิกร์เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตัวเองมากขึ้น ซึ่งมันเป็นสิ่งที่เขาต้องการจะหลีกเลี่ยง หากสามารถทำได้
ทันใดนั้นเปลวไฟก็ได้พุ่งเข้ากลืนกินผู้พิทักษ์เส้นทางชั้นนอกทันที
ตู้ม !!
ในช่วงเวลาต่อมา ร่างกายของผู้พิทักษ์เส้นทางชั้นนอกก็ปลิวกระเด็นไปราวกับกระสุนปืนใหญ่ไปกระแทกเข้ากับผนังที่ด้านหนึ่งของถ้ำ และรอยแตกก็เกิดขึ้นรอบร่างกายที่ดูเหมือนจะเป็นอมตะของมัน ในขณะที่ HP ของมันก็ลดลงไปมากกว่าสามล้านเจ็ดแสน
มันได้ผล ? ซือเฟิงรู้สึกประหลาดใจ เมื่อมองไปยังฉากตรงหน้าของเขา
ก่อนหน้านี้แม้แต่ไลท์ชาโด้วก็ยังล้มเหลวในการจะสร้างความเสียหายให้กับผู้พิทักษ์เส้นทางชั้นนอก อย่างไรก็ตามโฮลี่ดีวอร์กับสามารถทำได้ และมันก็ให้ผลเกินความคาดหมายของเขาด้วย
“นี่ฉันทลายขีดจำกัดพลังป้องกันของมันได้แล้วงั้นหรอ ? ซือเฟิงสงสัย อย่างไรก็ตามเขาส่ายหัวอย่างรวดเร็วและปฎิเสธความคิดนั้น ไม่ใช่สิ นี่มันไม่ถูกต้อง !!! แม้ว่าการโจมตีของฉันจะทลายขีดจำกัดพลังป้องกันของมันได้ แต่มันก็ไม่ควรจะให้ผลลัพธ์ที่ดีมากขนาดนี้
เขานั้นมีประสบการณ์มากมายในการโจมตีเพื่อทลายขีดจำกัดพลังป้องกันของมอนสเตอร์ ดังนั้นเขาจึงรู้ดีว่าการที่สามารถทลายขีดจำกัดพลังป้องกันของมอนสเตอร์ได้ มันจะไม่ได้ให้ผลที่ดีมากขนาดนี้ เพราะท้ายที่สุดแม้ว่าจะทลายขีดจำกัดพลังป้องกันของมอนสเตอร์ได้ แต่มอนสเตอร์ก็ไม่ควรจะได้รับความเสียหายมากขนาดนี้จากการโจมตีของเขรา
ซือเฟิงครุ่นคิดถึงความเป็นไปได้ทุกอย่างที่เขาคิดออกอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่เขาเฝ้ามองผู้พิทักษ์เส้นทางชั้นนอกยืนขึ้น
แม้ว่าเขาจะสามารถทลายขีดจำกัดพลังป้องกันของผู้พิทักษ์เส้นทางชั้นนอกได้สำเร็จแล้ว แต่ด้วยสถานะปัจจุบันของเขา เขาจะสามารถใช้โฮลี่ดีวอร์ได้อีกแค่หนึ่งถึงสองครั้งเท่านั้น ดังนั้นสถานการณ์ของเขาจึงจัดว่ายังคงเลวร้ายมาก และมันก็จำเป็นสำหรับเขามากตอนนี้ที่เขาจะต้องระบุให้ได้ว่ามันเป็นเพราะอะไรที่เขาสามารถสร้างความเสียหายอย่างมหาศาลให้กับผู้พิทักษ์เส้นทางชั้นนอกได้ ไม่งั้นแม้ว่าจะเปิดใช้งานสกิลเบอเซิกร์ของตัวเอง แต่เขาก็จะยังต้องตายลงที่นี่แน่นอน
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ซือเฟิงก็ได้มาปรากฎตัวขึ้นตรงหน้าของผู้พิทักษ์เส้นทางชั้นนอก และลองใช้ไลท์ชาโด้วใส่มันอีกครั้ง อย่างไรก็ตามผลลัพธ์ที่ได้ก็ยังคงเหมือนเดิม
เนื่องจากไลท์ชาโด้วใช้ไม่ได้ผล ฉันจึงจำเป็นที่จะต้องใช้วิธีอื่น
เมื่อเห็นผู้พิทักษ์เส้นทางชั้นนอกโจมตีเข้าใส่เขาอีกครั้ง ซือเฟิงก็เลือกจะเบี่ยงเบนการโจมตีและหลบไปด้านหลังของผู้พิทักษ์เส้นทางชั้นนอก และทีนี้เขาก็ได้ลองรวบรวมมานาให้ออกมาเป็นรูปร่างและใช้มันเข้าโจมตีผู้พิทักษ์เส้นทางชั้นนอกทันที
ซึ่งผลปรากฎว่าผู้พิทักษ์เส้นทางชั้นนอกนั้นได้รับความเสียหายมากกว่าหนึ่งล้านหกแสนในทันที ซือเฟิงจึงรู้ได้ทันทีว่าอะไรคือสิ่งที่เขาจะสามารถใช้โจมตีและสร้างความเสียหายให้กับมันได้ โดยมันก็คือมานาที่เป็นรูปร่างนั่นเอง !!! และหากพูดให้ง่ายๆก็คือ การทำแบบนี้มันก็เหมือนการใช้โฮลี่ดีวอร์แบบง่ายๆนั่นเอง
เนื่องจากรู้ดังนี้แล้ว ซือเฟิงจึงเริ่มระดมโจมตีผู้พิทักษ์เส้นทางชั้นนอกด้วยวิธีนี้ทันที
และภายในเวลาไม่ถึงสองนาที ซือเฟิงก็สามารถที่จะจัดการผู้พิทักษ์เส้นทางชั้นนอกลงได้
ในขณะเดียวกันการตายของผู้พิทักษ์เส้นทางชั้นนอกนั้นไม่เพียงแต่จะทำให้แถบ EXP ของซือเฟิงเพิ่มขึ้นอย่างมาก แต่มันยังมีหมอกสีดำสนิทที่เหลือจากร่างของมันที่ค่อยๆไหลเข้ามาในหัวใจของเขาด้วย และในช่วงเวลาต่อมาภาพที่กระจัดกระจายจำนวนมากก็ปรากฎขึ้นต่อหน้าของเขาทีละภาพ พร้อมกันนั้นเสียงแจ้งเตือนของระบบก็ดังขึ้นมาที่หูของเขาเช่นกัน
….
ระบบ : คุณได้รับพลังมรดก 5 แต้ม อัตราความสำเร็จของมรดกขั้นสี่อยู่ที่ 0.5 เปอ
เซ็นต์ เมื่ออัตราความสำเร็จมรดกของคุณไปถึงแปดสิบห้าเปอเซ็นต์ คุณจะสามารถเปิดใช้งานมรดกขั้นสี่ของตัวเองได้
….
พลังมรดก ? ซือเฟิงรู้สึกประหลาดใจอย่างมากที่ได้เห็นการแจ้งเตือนของระบบครั้งนี้ เขาไม่เคยคิดเลยว่าการฆ่าผู้พิทักษ์เส้นทางชั้นนอกจะทำให้เขาได้รับพลังมรดก แถมการรวบรวมพลังมรดกด้วยวิธีนี้ มันก็ดูเหมือนจะง่ายกว่าการพยายามลงเหวลึกไปเอาเศษชิ้นส่วนมรดกซะอีก
ในขณะเดียวกัน ไม่นานหลังจากที่ผู้พิทักษ์เส้นทางชั้นนอกตายลง ร่างของมันก็ได้ระเบิดกลายเป็นกลุ่มแสงที่ลอยอยู่กลางอากาศอย่างเงียบๆ และมันก็ได้ขับไล่มานาทั้งหมดในบริเวณโดยรอบออกไปทันที