Reincarnation Of The Strongest Sword God - ตอนที่ 2742
ตอนที่ 2742 อำนาจเกรด 1
Upper Zone ด้านนอกเส้นทางจิต :
เมื่อได้ยินเสียงระฆังที่ไพเราะดังขึ้นทั้งลั่วหานปิง และมู่ฉินต่างก็มีสีหน้าที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ
ผ่านไปไม่ถึงยี่สิบนาที แต่มันกับมีใครคนใดคนหนึ่งผ่านการประเมินแล้วงั้นหรอ ? มู่ฉินนั้นอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจมากจริงๆเมื่อได้ยินเสียงระฆังนี้
เส้นทางจิตนั้นมันเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างไม่น่าเชื่อใน Upper Zone เมื่อใดก็ตามที่มีคนผ่านเส้นทางจิตที่ถูกเปิดใช้งานได้สำเร็จ มันก็จะมีเสียงระฆังดังขึ้นเพื่อแจ้งให้ทุกคนใน Upper Zone ทราบถึงความสำเร็จนี้
เสียงระฆังที่ดังขึ้นนี้มันได้พิสูจน์แล้วว่ามีคนเคลียร์เส้นทางจิตได้แล้ว อย่างไรก็ตามความเร็วที่เคลียร์ได้นั้นมันก็ไม่น่าเชื่อเลย
โดยปกติผู้คนจะใช้เวลามากกว่าสามสิบนาทีกว่าที่จะผ่าน และเคลียร์เส้นทางจิตได้ เพราะท้ายที่สุดแล้วพูดกันตามตรงแม้แต่ความยาวของบันไดลงมามันก็ยังจัดว่าไม่ธรรมดา แม้แต่คนที่เดินตามปกติก็ยังจะต้องใช้เวลาสามสิบนาทีในการลงมา นี่ไม่ต้องพูดถึงทุกขั้นของบันไดที่ผู้เข้าสู่เส้นทางจิตทุกคนก้าวลงไปจะต้องเผชิญกับการทำร้ายจิตใจอย่างรุนแรง ….
ดี ! ดีมาก !! ดูเหมือนว่าพวกระดับสูงจะคิดถูกเกี่ยวกับเด็กคนนั้น !!! เขาเป็นสัตว์ประหลาดจริงๆ !!! ลั่วหานปิงยิ้มด้วยความพึงพอใจ ราคาที่ฉันต้องจ่ายเพื่อให้ตัวเองได้มาเป็นหัวหน้างานการประเมินในครั้งนี้มันคุ้มค่าจริงๆ !!!
ในฐานะหัวหน้างานการประเมิน ยิ่งผู้มาใหม่ที่เขาทำหน้าที่เป็นหัวหน้างานการประเมินมีศักยภาพที่ยอดเยี่ยมมากเท่าไหร่ เขาก็จะยิ่งได้รับการประเมินจากพวกระดับสูงที่อยู่สูงกว่าเขาดีขึ้นเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นในฐานะที่เขามาเป็นหัวหน้างานการประเมิน เขาก็จะมีช่วงเวลาที่ง่ายกว่าคนอื่นๆมากในการรับสมัครผู้มาใหม่ที่มีคุณสมบัติเหมาะสม และหากเขาสามารถรับสมัครอัจฉริยะที่ไม่มีใครเทียบได้อย่างหยานหวู่หมิงให้มาอยู่ฝั่งตัวเองได้ สถานะของเขาใน Upper Zone ของเมืองหยวนเทียนก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมากแน่นอน
ในขณะเดียวกัน มู่ฉินซึ่งรับรู้เรื่องนี้ในทำนองเดียวกันก็เผยให้เห็นการแสดงออกที่บิดเบี้ยวบนใบหน้าของเธอ
ถ้าลั่วหานปิงสามารถรับสมัครสัตว์ประหลาดอย่างหยานหวู่หมิงไปอยู่ฝั่งตัวเองได้ สถานะของเขาใน Upper Zone ก็จะขึ้นไปเหนือกว่าหงซินหยวนอย่างมากแน่นอน
หลังจากนั้นไม่กี่นาทีต่อมา มันก็มีเสียงระฆังของเส้นทางจิตดังขึ้นอีกครั้ง
มีอีกคนผ่านงั้นหรอ ? มู่ฉินตกตะลึงเมื่อได้ยินเสียงระฆัง ในขณะเดียวกันใบหน้าของเธอก็มืดมนลงไปอีก
เสียงระฆังนี้มันจะดังขึ้นเพียงแค่ไม่กี่ครั้งในแต่ละปี แต่ถึงกระนั้นระฆังกับดังขึ้นสองครั้งแล้วในวันนี้ นี่มันไม่น่าเชื่อเลยจริงๆ
สำหรับลั่วหานปิง ตอนนี้เขามีความสุขกับสถานการณ์นี้มากๆ
“ฮ่าๆๆ !!! ผู้มาใหม่ในครั้งนี้มันช่างน่าทึ่งกันจริงๆ !!!” ลั่วหานปิงหัวเราะออกมาด้วยความพึงพอใจ จากนั้นเขาก็มองไปที่มู่ฉิน และพูดว่า “มู่ฉิน คุณก็เป็นหนึ่งในอัจฉริยะที่มีชื่อเสียงใน Upper Zone ของเมืองหยวนเทียน อนาคตคุณจะไปได้ไม่ไกลนะ ถ้าคุณยังคงติดตามหงซินหยวนต่อไป ดังนั้นทำไมไม่เข้าร่วมกับฉันล่ะ ? คุณอาจจะเพิ่มความแข็งแกร่งทางจิตไปได้อีกมากในอีกหนึ่งถึงสองปีข้างหน้า และในเวลานั้นอำนาจของคุณใน Upper Zone ก็จะถูกยกระดับเป็นเกรด 1 ด้วย”
“ขอบคุณสำหรับข้อเสนอของคุณ หัวหน้างานลั่ว แต่ฉันก็รู้สึกว่าตัวเองไปได้ดีแล้วกับการติดตามลุงหง และฉันก็เชื่อว่าอีกไม่นาน ฉันคงจะได้รับอำนาจเกรด 1 มา” มู่ฉินปฎิเสธข้อเสนอของลั่วหานปิงอย่างไม่ลังเล
ลั่วหานปิงไม่ได้แปลกใจเท่าไหร่นักกับการปฎิเสธของมู่ฉิน เขาพูดอย่างเมินเฉยว่า
“เมื่ออยู่ข้างหลังก็มักจะอยู่ข้างหลังตลอดไป ฉันหวังว่าคุณจะไม่เสียใจกับการตัดสินใจครั้งนี้นะ ….”
สิ่งที่ Upper Zone ให้ความสำคัญมากที่สุดคือความแข็งแกร่งทางจิตใจ ในความเป็นจริงต้องบอกว่าความแจ็งแกร่งทางจิตใจจะกำหนดสถานะของผู้ที่อยู่อาศัยใน Upper Zone ยิ่งมีความแข็งแกร่งทางจิตใจมากเท่าไหร่ คนๆหนึ่งก็จะยิ่งมีอำนาจมากขึ้นเท่านั้นใน Upper Zone และยิ่งมีอำนาจมากเท่าไหร่ การจะได้รับทรัพยากรที่ตัวเองต้องการมา มันก็จะยิ่งทำได้ง่ายขึ้นเท่านั้น
อย่างไรก็ตามการจะพัฒนาความแข็งแกร่งทางจิตใจของคนๆหนึ่ง มันก็เป็นเรื่องที่ยากอย่างไม่น่าเชื่อ ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อมีอายุมากขึ้น การพัฒนาในเรื่องนี้ก็จะยิ่งช้าลง และเป็นไปอย่างยากลำบากมากขึ้น
ยกตัวอย่างเช่น มู่ฉิน ที่เธอได้รับการพิจารณามีความแข็งแกร่งทางจิต เกรดสูง อย่างไรก็ตามเนื่องจากเธอไม่ได้เป็นสมาชิกภายในของบริษัทกรีนก๊อด เธอจึงได้รับเพียงอำนาจเกรด 2 เท่านั้น ซึ่งต่ำกว่าสมาชิกภายในที่อยู่ในมาตราฐานเดียวกันกับเธอหนึ่งขั้น
และในตอนนั้นคนอื่นๆที่ไม่เกี่ยวข้องกับบริษัทกรีนก๊อดที่ได้ผ่านเส้นทางจิตได้ก็ได้รับแค่อำนาจเกรด 3 เท่านั้นด้วย
น่าเสียดายที่แม้ว่าจะผ่านเวลามาประมาณหนึ่งแล้ว แต่ความแข็งแกร่งทางจิตใจ
ของมู่ฉินก็ยังไม่ได้ดีขึ้นมากนัก เป็นผลให้เธอยังเป็นเพียงผู้มีอำนาจเกรด 2 เท่านั้น
แต่ถ้ามู่ฉินสามารถปรับปรุงตัวเอง และเข้าถึงสถานะของผู้มีอำนาจเกรด 1 สถานะของเธอใน Upper Zone ก็จะได้รับการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพอย่างมาก
มันมีคนน้อยกว่าสองร้อยคนที่มีอำนาจเกรด 1 ใน Upper Zone ของเมืองหยวนเทียน และแม้แต่ลั่วหานปิงซึ่งเป็นหัวหน้างานก็ยังเป็นเพียงผู้มีอำนาจขั้นสูง ซึ่งอยู่เหนือกว่าผู้มีอำนาจเกรด 1 เพียงขั้นเดียวเท่านั้น
หลังจากได้พูดคุยเรื่องนี้กันไปกับมู่ฉิน ลั่วหานปิงก็ได้เลือกจะเงียบและไม่พูดอะไรอีก
ในความคิดของลั่วหานปิง มู่ฉินนั้นเป็นดั่งไม้ที่ตายซาก ด้วยทรัพยากรที่ตอนนี้เหลือน้อยแล้วของหงซินหยวน การจะยกระดับความแข็งแกร่งทางจิตใจของมู่ฉินให้เพิ่มขึ้นนั้นมันก็ยากมากๆ
ทำไมยังไม่กลับมากันอีก ? มีอะไรเกิดขึ้นกับเครุยรึปล่าว ? มู่ฉินมองเวลาอย่างประหม่า
แม้ว่าเครุยจะไม่ได้มีภูมิคุ้มกันต่อการทำร้ายจิตใจที่แข็งแกร่ง แต่จากประสบการณ์ที่ผ่านมาของเธอ เธอก็ไม่น่าจะมีปัญหาในเรื่องรับมือกับการทำร้ายจิตใจอีกต่อไป ความเจ็บปวดที่เกิดจากการทำรายจิตใจ มันน่าจะอยู่ในขอบเขตที่เธอสามารถยอมรับได้
“มันเกือบชั่วโมงแล้ว แต่พวกเขาก็ยังไม่ออกมา พวกเขาน่าจะเจออุบัติเหตุแน่นอน”
ลั่วหานปิงกล่าว ขณะที่เขาเหลือบมองไปที่นาฬิกาของเขา ก่อนที่เขาจะกล่าวต่อว่า “ฉันเตือนเขาแล้วว่าเขาจะได้เข้าโรงพยาบาลแน่ๆถ้าไม่ระวัง เด็กๆในปัจจุบันนี่ช่างไม่รู้ถึงวิธีการรับฟังคำแนะนำจริงๆ แล้วก็โชคร้ายที่พวกเขาน่าจะต้องอยู่ที่ไปอีกพักหนึ่งเลย”
มันมีอะไรเกิดขึ้นจริงๆงั้นหรอ ? ใบหน้าของมู่ฉินเปลี่ยนเป็นซีดเผือด
การจะเปิดและปิดใช้งานเส้นทางจิตนั้นทำได้ยากมากๆ แม้แต่คนที่มีสิทธิพิเศษก็ยังจะต้องใช้เวลาสองถึงสามชั่วโมงในการปิดมัน
ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเครุยและซือเฟิงภายในนั้นจริงๆ พวกเขาก็จะต้องอยู่ในนั้นจนกว่าเครื่องจะถูกปิด และเมื่อคำณวนจากเวลาที่นานขนาดนั้น พวกเขาก็จะโชคดีมากแล้ว หากต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาลราวหนึ่งเดือน แต่หากอาการของพวกเขาย่ำแย่ บางทีมันอาจจะส่งผลกระทบถึงอนาคตของพวกเขาได้เลย
ในระหว่างที่ความตื่นตระหนกกำลังเข้าท่วมท้นจิตใจของมู่ฉิน นาฬิกาควอนตัมบนข้อมือของเธอก็ดังขึ้นเพื่อแจ้งให้เธอทราบว่ามีคนโทรเข้ามา ในขณะเดียวกันผู้โทรเข้ามาก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเครุย
“เครุย สถานการณ์ด้านเธอเป็นยังไงบ้าง ?” มู่ฉินอดไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธ เมื่อได้เห็นใบหน้าของเครุยบนหน้าจอ “ทำไมเธอยังไม่ออกมา ?”
“พี่สาว !!! ช่างเรื่องนั้นก่อน ตอนนี้มันมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นที่เส้นทางจิต !!!” เครุยกล่าวอย่างตื่นเต้น
“เหตุการณ์สำคัญ ? เหตุการณ์อะไรกัน ? เธอกำลังพูดถึงสองคนที่ผ่านเส้นทางจิตไปได้ก่อนหน้านี้งั้นหรอ ?” มู่ฉินอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหงุดหงิดกับคำพูดของเครุย เธอไม่อยากเชื่อเลยว่าน้องสาวของเธอจะยังมีอารมณ์มาสนใจเรื่องแบบนี้ด้วย
“ใช่แล้ว ซือเฟิงผ่านเส้นทางจิตได้จริงๆ !!!” เครุยกล่าวด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น “ทุกคนในห้องโถงนั้นเต็มไปด้วยความตกตะลึงมากๆ !!! และนี่มันก็ทำให้ฉันต้องเร่งเข้ามาในพื้นที่บริเวณที่สามารถติดต่อสื่อสารได้ ซึ่งมันทำให้ฉันเหนื่อยแทบตายเลย ….”
“ซือเฟิง …. ผ่านเส้นทางจิต ?” จู่มู่ฉินก็รู้สึกว่าสมองของเธอประมวลผลอะไรไม่ออกขึ้นมาชั่วขณะ
ซือเฟิงนั้นมีอายุมากกว่ายี่สิบปีอย่างไม่ต้องสงสัย และในประวัติศาสตร์ของ Upper Zone ของเมืองหยวนเทียน มันก็ไม่มีใครที่มีอายุเกินยี่สิบปี แต่ต่ำกว่ายี่สิบห้าปี สามารถเคลียร์และผ่านเส้นทางจิตได้เลย
“ฮี่ๆ ฉันคิดไว้แล้วว่าพี่จะต้องไม่เชื่อฉัน งั้นก็ลองดูด้วยตาพี่เองเลย เขาอยู่ที่นี่กับฉัน ….” เครุยกล่าวขณะที่เธอปรับมุมกล้องให้ไปจับภาพซือเฟิง โดยในภาพนั้นซือเฟิงก็ยังคงมีท่าทีสบายๆอยู่ ส่วนหยานหวู่หมิงก็จ้องมองมายังเขาด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ “บ๊ายบาย เราขอเข้าสู่ Upper Zone ไปก่อนนะ ฮี่ๆ”
หลังจากเครุยพูดจบ เธอก็ตัดสายไปทันที และปล่อยให้พี่สาวของเธอยังคงยืนตกตะลึงอยู่
เป็นไปไม่ได้ !! ลั่วหานปิงตกตะลึงเมื่อเขาได้ยินการพูดคุยกันของมู่ฉินกับเครุย เด็กคนนั้นอายุมากกว่ายี่สิบแล้วนะ !! เขาผ่านเส้นทางจิตไปได้ยังไงกัน ?!!
ไม่นานหลังจากที่ลั่วหานปิงกำลังครุ่นคิดถึงเรื่องนี้อยู่ การแจ้งเตือนก็ปรากฎขึ้นบนนาฬิกาควอนตัมของเขา
วินาทีต่อมา นาฬินาควอนตัมของเขาก็ฉายตารางโฮโลแกรมข้อมูลของผู้ที่ผ่านเส้นทางจิตในครั้งนี้
1st – ซือเฟิง
เวลาที่ใช้ในการเคลียร์ : 13 นาที 41 วินาที
อายุ : ต่ำกว่า 25 ปี
สังกัด : ไม่ใช่สมาชิก
ความแข็งแกร่งทางจิต : เกรดพิเศษ
อำนาจใน Upper Zone : เกรด 1
2nd – หยานหวู่หมิง
เวลาที่ใช้ในการเคลียร์ : 18 นาที 33 วินาที
อายุ : ต่ำกว่า 20 ปี
สังกัด : สมาชิกภายใน
ความแข็งแกร่งทางจิต : เกรดสูง
อำนาจใน Upper Zone : เกรด 1
เกรดพิเศษ ?!
มู่ฉินเต็มไปด้วยความตกตะลึงมากๆ เมื่อได้เห็นข้อมูลนี้
แม้ว่าการแสดงของซือเฟิงใน God domain มันจะน่าประหลาดใจมาก แต่เธอก็ไม่เคยคิดเลยว่าความแข็งแกร่งทางจิตใจของเขามันจะน่าประหลาดใจมากเช่นกัน
เกรดพิเศษ !
นี่คือความแข็งแกร่งทางจิตใจที่เธอได้พยามอย่างยิ่งเพื่อจะบรรลุให้ได้ อย่างไรก็ตามไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน เธอก็ยังคงห่างไกลจากการเข้าให้ถึงมาตราฐานนี้ และในบางช่วง เธอกระทั่งท้อและหมดหวังในการจะพัฒนาตัวเองด้วยซ้ำ
แม่งเอ้ย !!! นี่มันเป็นไปได้ยังไง ?!! ใบหน้าของลั่วหานปิงเปลี่ยนเป็นซีดเผือด เหมือนเขาเห็นผลลัพธ์ของการประเมินครั้งนี้ เขาได้ทำให้สัตว์ประหลาดที่น่ากลัวขุ่นเคืองโดยไม่ได้ตั้งใจ ยิ่งไปกว่านั้นซือเฟิงยังมีความสัมพันธ์อย่างลึกซึ้งกับหงซินหยวนด้วย
ในขณะเดียวกันภายในส่วนด้านในสุดของเส้นทางจิต ซือเฟิงและคนอื่นๆก็กำลังยืนอยู่บนแพลตฟอร์มที่ค่อยๆเลื่อนลงไปที่พื้น
“แรงโน้มถ่วงที่นี่มันเพิ่มขึ้นงั้นหรอ ?”
ซือเฟิงค้นพบว่า เมื่อเขาเข้าไปในอุโมงค์ลึกลงไป แรงโน้มถ่วงที่ร่างกายของเขาต้องเผชิญ มันก็ทวีความรุนแรงขึ้นมากๆ และภายในเวลาไม่ถึงสิบนาที หลังจากที่เขามายืนอยู่บนแพลตฟอร์มนี้ เขาก็พบว่าแรงโน้มถ่วงมันเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมสองเท่าแล้ว
หลังจากนั้นเมื่อแพลตฟอร์มค่อยๆเลื่อนออกมาจากอุโมงค์ ซือเฟิงก็เต็มไปด้วยความตกตะลึงมากๆ
อย่างไรก็ตามที่เขาตกตะลึงนั้นมันไม่ใช่แค่เพราะว่าที่นี่มีแรงโน้มถ่วงมากกว่าโลกภายนอกถึงสามเท่า ….
แต่มันเป็นเพราะมันมีภูเขาลอยอยู่เหนืออุโมงค์ และรัศมีของภูเขานี้มันก็เกินกว่าสิบกิโลเมตร โดยมันก็มีบันไดเลื่อนหลายตัวที่จะนำไปสู่ภูเขานี้
มันมีอาคารสูงจำนวนมากตั้งตระหง่านอยู่บนภูเขาที่ลอยอยู่ ขณะเดียวกันมันก็มีเมฆและหมอกปกคลุมยอดเขา ซึ่งทำให้ไม่มีใครที่อยู่บริเวณเดียวกับซือเฟิงสามารถมองเห็นมันได้อย่างชัดเจน โดยรวมแล้วภูเขานี้มันดูเหมือนสวรรค์บนโลกมากๆ
“ตกตะลึงใช่ไหมล่ะ ?!” สีหน้าตกตะลึงบนใบหน้าของซือเฟิงทำให้เครุยพึงพอใจ “ใครก็ตามที่ได้มาเยือน Upper Zone เป็นครั้งแรก คงไม่คิดหรอกว่า Upper Zone จะอยู่ใต้ดิน และมีพื้นที่ที่มีขนาดใหญ่อย่างไม่น่าเชื่อ”
“ก็ใช่แหละ นี่มันน่าเหลือเชื่อมากจริงๆ” ซือเฟิงกล่าวยอมรับตรงๆ เขาไม่เคยได้เห็นพื้นที่ของ Upper Zone จริงๆมาก่อนจนมาถึงวันนี้ ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมหลายคนถึงดิ้นรนกันอย่างหนักเพื่อจะให้ตัวเองได้เข้ามาอยู่ที่นี่ Upper Zone นั้นมันพิเศษมากจริงๆ และแค่สูดอากาศที่นี่เข้าไปมันก็ทำให้เขารู้สึกสดชื่นแล้ว หากเขาสามารถอยู่ที่นี่ได้ในระยะยาว การมีชีวิตที่ยืนยาวมันก็จะไม่ใช่ความฝันอีกต่อไป
เมื่อเครุยเห็นว่าแฟลตฟอร์มหยุดลงแล้ว เธอก็เปิดประตูและเดินออกไปทันที
อย่างไรก็ตามเมื่อเธอเห็นว่าซือเฟิงยังคงมีท่าทีตกตะลึง และยืนอยู่ที่เดิม เธอก็กระตุ้นเขาอย่างตื่นเต้นว่า “เร็วเถอะ !!! คุณมีอำนาจเกรด 1 แล้ว !!! ไปที่สำนักงานทะเบียนและตรวจสอบกัน มันอาจจะมีรางวัลดีๆรอคุณอยู่ !!!”