Reincarnation Of The Strongest Sword God - ตอนที่ 2758
ตอนที่ 2758 พลังที่แท้จริงของไบเบิ้ลแห่งความมืด
เมื่อได้ยินคำพูดของซือเฟิง โซริทารี่ฟรอสต์ ไลฟ์เลสธอร์น และหยานย่าก็หยุดการตรึงและดึงดูดความสนใจของโทเดลย่าทันที และรีบวิ่งไปหาซือเฟิงทันที
พวกเขาเลือกจะวิ่งไปหาผู้บัญชาการของพวกเขาก็เพราะว่ามันจะมีก็แต่เพียงผู้บัญชาการของพวกเขาเท่านั้นที่จะสามารถตรึงหรือผลักดันโทเดลย่ากลับไปได้ หากพวกเขาวิ่งไปทางอื่นโทเดลย่าก็จะไล่พวกเขามา และบดขยี้พวกเขาได้อย่างรวดเร็วแน่นอน
ซึ่งตัวโทเดลย่านั้นก็ค่อยๆเข้าไปบริเวณที่ซือเฟิงอยู่ทีละก้าว ทีละก้าว ….
โดยทุกก้าวที่โทเดลย่าก้าวนั้น ไม่เพียงแต่มันจะทำให้พื้นที่โดยรอบบริเวณสั่นสะเทือนไปทั่ว แต่มันก็ยังส่งการโจมตีทางจิตเข้าใส่ผู้เล่นคนอื่นๆไปด้วยเช่นกัน ซึ่งนี่มันทำให้ผู้เล่นที่พักผ่อนอยู่เช่นบลูเกาน์ถึงกับเริ่มกุมขมับด้วยความเจ็บปวด
นี่เราจะต้องสู้กับมันจริงๆงั้นหรอ ? อิลูซะรี่เวิร์ดอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว เมื่อมองไปยังสถานการณ์ตรงหน้า
เธอนั้นมองไม่เห็นทางใดๆเลยที่ทีมของพวกเขาจะสามารถเอาชนะโทเดลย่าได้ เพราะไม่เพียงแต่โทเดลย่าจะมี HP มากกว่าสองหมื่นล้าน แต่มาตราฐานของมันก็ยังเหนือกว่าผู้เชี่ยวชาญขอบเขตการปรับแต่งทั่วไปด้วย และความเร็วของมันก็เร็วมากจนแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตโดเมนอย่างตัวเธอเองก็แทบจะตามไม่ทันความเร็วของมัน ซึ่งมันไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่ผู้เล่นขั้นสามจะสามารถรับมือได้เลย และแม้แต่ผู้เล่นขั้นสี่อย่างซือเฟิงก็ทำได้ดีที่สุดแค่เทียบกับความเร็วของมันได้เท่านั้น
ยิ่งไปกว่านั้นด้วยความแข็งแกร่งโทเดลย่านั้น มันก็เป็นสิ่งที่มีเพียงแต่แท๊งเกอร์ขั้นสี่เท่านั้นที่จะสามารถแท๊งกับมันได้ หากนักดาบอย่างซือเฟิงพยายามจะแท๊งหนึ่งในการโจมตีของลอร์ดแห่งดินแดนตัวนี้ เขาก็จะต้องตกที่นั่งลำบากแน่นอน
อย่างไรก็ตาม เมื่อโทเดลย่าอยู่ห่างจากซือเฟิงเพียงสามก้าว ….
การเชื่อมต่อเสร็จสิ้นแล้ว !!! ซือเฟิงยิ้มขณะที่เขาปิดไบเบิ้ลแห่งความมืด และมองไปที่โทเดลย่า “มาเริ่มรอบที่สองกันดีกว่า !!!”
ทันทีที่ซือเฟิงปิดไบเบิ้ลแห่งความมืด ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยพายุเหนือหุบเขาก็แตกออกเป็นเสี่ยงๆ และเปลี่ยนเป็นความมืดเข้ามาปกคลุมรัศมีหลายพันหลาแทน
เมื่อมองไปที่ความมืดมิดนี้ ทุกคนในปัจจุบันก็สามารถจะรู้สึกได้อย่างชัดเจนเลยว่ามันไปเชื่อมต่อกับพื้นที่โบราณที่น่ากลัวมากๆแน่นอน เพราะเพียงแค่ออร่าแห่งความมืดที่รั่วไหลออกมา มันก็เพียงพอจะเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมของเทือกเขาบริเวณนี้ได้เลย
วินาทีต่อมาประตูหินขนาดมหึมาที่สูงหลายร้อยเมตรก็ได้ตกลงมาจากความมืดมืดนี้ และเมื่อมันกระแทกลงมากับพื้นดิน มันก็ทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงไปทั่วทั้งบริเวณ และตอนนี้แม้แต่โทเดลย่าก็ยังมองไปยังประตูหินนี้ด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวอย่างชัดเจน
โลกนี้จะมีสิ่งที่น่ากลัวแบบนี้ได้ยังไง ?! อันยีลดิ้งฮาร์ทตกตะลึงมากๆ ขณะที่เขามองไปยังประตูหินขนาดมหึมาเบื้องหน้าเขา
ประตูนี้เป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุดที่เขาเคยเห็นมาใน God domain เลย และเพียงแค่มองไปยังประตูมันก็ทำให้เขาเข้าใจแล้วว่ามันน่ากลัวแค่ไหน เพราะท้ายที่สุดรูปแบบเวทย์มนต์และรูนบนประตูนั้นมันก็มีไว้เพื่อใช้ปิดผนึกพลังของมันนั่นแหละ ….
ไม่ว่าสิ่งมีชีวิตใดจะยืนอยู่หลังประตูนี้ มันจะสามารถฆ่าเขาได้ทันที โดยที่ตัวมันแทบไม่ต้องขยับแน่นอน
ชั่วขณะหนึ่ง เขารู้สึกว่าการเปิดประตูนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของภัยพิบัติทั้งหมด
นี่เขาไม่ได้วางแผนจะเปิดประตูใช่ไหม ? อิลูซะรี่เวิร์ดจ้องมองไปยังประตูหินอย่างประหม่า
ประตูเบื้องหน้าเธอนั้นมันดูเป็นลางร้ายมากเกินไป และแค่การปรากฎขึ้นมาของมันเพียงอย่างเดียวก็ทำให้เธอรู้สึกได้ถึงความเกลียดชัง ความหวาดกลัว และความมืดที่ไม่อาจอธิบายได้แล้ว โดยความรู้สึกทั้งหมดนี้ที่เธอรู้สึกได้จากประตูนั้นมันมากกว่าจากโทเดลย่านับร้อยเท่า
อย่างไรก็ตามก่อนที่อิลูซะรี่เวิร์ดจะทันได้คิดหรือพูดอะไร ประตูมันก็ค่อยๆเปิดออกอย่างช้าๆ
ความมืดมิด ความเงียบสงัด และความสิ้นหวัง !!!
ชั่วขณะหนึ่งมันรู้สึกราวกับว่าอารมณ์เชิงลบทั้งหมดในโลกกำลังหลั่งไหลออกมาจากประตูหินนี้ และแม้แต่ซือเฟิงก็ยังรู้สึกได้ถึงความอึดอีดเช่นกันจากเรื่องนี้ สำหรับคนอื่นๆใบหน้าของพวกเขาก็ซีดเผือด ขณะที่บางก็คนก็คุกเข่าลงกับพื้นอย่างไม่ได้ตั้งใจ แต่ที่แน่ๆเลยคือส่วนใหญ่ไม่มีใครกล้ามองไปที่ประตูหินนี้
“ม … มนุษย์ ?”
“ไม่ … คุณไม่ใช่ ….”
ทันใดนั้นคำพูดที่พูดด้วยภาษาปีศาจก็พรั่งพรูออกมาจากประตู แม้ว่าจะไม่มีผู้เล่นคนใดในปัจจุบันที่มีความรู้เกี่ยวกับภาษาปีศาจ แต่พวกเขาก็รู้สึกได้ว่าพวกเขาเข้าใจในคำพูดที่พรั่งพรูออกมา ซึ่งนี่มันทำให้พวกเขาเต็มไปด้วยความสับสน
“ฉันไม่คิดเลยว่า หลังจากผ่านไปหลายปี สิ่งมีชีวิตแบบคุณจะเป็นผู้อัญเชิญประตูนี้ออกมา”
หลังจากพูดจบ ปีศาจรูปร่างคล้ายมนุษย์ที่มีสามตาและสูงสิบเมตรพร้อมทั้งสวมชุดเกราะสีดำก็เดินออกมาจากประตูหิน
ทันทีที่โทเดลย่าเห็นปีศาจตัวนี้ ใบหน้าของมันก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัว ราวกับมันพึ่งพบเข้ากับความตาย
จริงๆแล้วซือเฟิงเองก็รู้สึกหวาดกลัวกับการปรากฎตัวของปีศาจตนนี้เช่นกัน
เขาไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะไปสุ่มโดนเรียกปีศาจตนนี้ออกมา
Dark Abyss นั้นมีเจ้าชายปีศาจทั้งหมดหนึ่งร้อยแปดตัว ซึ่งยืนอยู่ในจุดสูงของเหล่าปีศาจผู้ยิ่งใหญ่ โดยพวกมันทั้งหมดเป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่รองลงมาจากราชันปีศาจ และอาจถือได้ว่าเป็นขอบเขตครึ่งก้าวก่อนก้าวเข้าสู่สถานะราชันปีศาจเต็มตัว ในขณะเดียวกันปีศาจที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาก็คือ โฟร์เบโร่ ที่เป็นเจ้าแห่งความตาย โดยมันแข็งแกร่งเป็นอันดับที่ยี่สิบเอ็ดในหมู่เจ้าชายปีศาจ
“อ่อนแอ !!! ช่างอ่อนแอมากจริงๆ !!!” โฟร์เบโร่พึมพำขณะมองดูตัวเองด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ จากนั้นมันก็เหลือบไปมองซือเฟิงที่ถือไบเบิ้ลแห่งความมืดอยู่ และพูดอย่างเย็นชาว่า “คุณน่าจะรู้ว่าคุณได้ทำอะไรลงไป สิ่งนี้มันไม่ใช่สิ่งที่คุณจะสามารถครอบครองได้เลย ดังนั้นมอบให้ฉันมันเป็นทางออกเดียวของคุณ ไม่เช่นนั้นสิ่งที่รอคุณอยู่มันจะแต่เพียงความตายชั่วนิรันดร์เท่านั้น !!!”
ทันทีที่โฟร์เบโร่พูดจบ แรงกดดันที่ทรงพลังของมันก็พุ่งเข้าใส่ซือเฟิงจนทำให้ซือ
เฟิงมีสีหน้าบิดเบี้ยว
ตามที่คาดไว้จากหนึ่งในหนึ่งร้อยแปดเจ้าชายปีศาจ แรงกดดันที่มันแผ่ออกมาอยู่ในระดับเดียวกับตัวตนขั้นห้าทั่วไปเลย ซือเฟิงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา เมื่อเขาประเมินถึงสถานการณ์นี้
แม้ว่าเขาจะรู้มานานแล้วว่าช่องว่างระหว่างขั้นสี่กับขั้นห้านั้นมันยิ่งใหญ่มากๆ แต่เขาก็ยังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกไร้พลัง และไม่สามารถจะทำอะไรได้จริงๆ เมื่อเขาได้มาประสบพบเจอกับพลังของเจ้าชายปีศาจ
โชคดีที่ซือเฟิงได้ใช้ไบเบิ้ลแห่งความมืดอยู่ ซึ่งมันจำกัดวิธีการทั้งหมดที่โฟร์เบโร่จะสามารถกำหนดเป้าหมายมายังเขาได้ ไม่งั้นเจ้าชายปีศาจคงจะฆ่าเขาในทันที
ทันใดนั้นโซ่ก็ปรากฎขึ้นรอบๆตัวของโฟร์เบโร่ ในตอนที่โฟร์เบโร่ปล่อยแรงกดดันพุ่งเข้าใส่ซือเฟิงนั้น ไบเบิ้ลแห่งความมืดก็รับรู้ได้ถึงเรื่องนี้เช่นกัน
ซึ่งทันทีที่โซ่เหล่านี้ปรากฎขึ้น แรงกดดันของโฟร์เบโร่ก็อ่อนแอลงไปอย่างมาก ตอนนี้แรงกดดันของมันไม่ได้เป็นภัยคุกคามของซือเฟฟิงอีกต่อไป
“ไอ้สัญญาเวรนี่ !!! ฉันจะหลุดพ้นจากการผูดมัดนี้ให้ได้ในวันใดหนึ่ง และได้รับอิสรภาพที่แท้จริง !!!” โฟร์เบโร่ตะโกนกู่ร้องออกมาด้วยความโกรธ ขณะที่มันจ้องมองไปยังโซ่สีดำสนิทที่เริ่มพันรอบตัวมัน จากนั้นมันก็มองไปยังซือเฟิง และพูดอย่างเย็นชาว่า “แม้ว่าเจ้านี่มันจะป้องกันไม่ให้ฉันสามารถทำอะไรกับคุณได้ แต่คุณก็อย่าคิดว่าคุณจะมีโอกาสควบคุมฉันและใช้พลังของฉันได้อย่างเต็มที่ !!! ฉันสามารถบอกได้เลยว่าคุณเหลือเวลาไม่มากแล้ว เมื่อมองจากคำสาปผูกมัดที่อยู่บนร่างกายของคุณ และสิ่งนี้มันจะไม่สามารถช่วยคุณได้แน่นอน มีเพียงแต่ฉันเท่านั้นที่จะสามารถช่วยคุณได้ !!!”
“นั่นไม่จำเป็น ถ้าฉันเชื่อคุณ ฉันจะกลายเป็นหุ่นเชิดของคุณแน่นอน ….” ซือเฟิง
กล่าวพลางส่ายหัว และแสยะยิ้มอย่างดูถูก หลังจากเขามาถึงขั้นสี่ เขาก็ได้เข้าใจถึงคำสาปผูกมัดที่เขาโดนอยู่กับวิญญาณของเขามากขึ้น ในตอนแรกเขาคิดว่าด้วยผลประโยชน์ที่เขาจะได้รับจากการเลื่อนขั้น มันจะทำให้ปัญหาที่เขาต้องเผชิญนั้นคงที่ ไม่ได้มีอันตรายอะไรเพิ่มเติม อย่างไรก็ตามมันกลับไม่เป็นเช่นนั้นเลย ปัญหาที่เขาต้องเผชิญมันกับมีจำนวนมากมายขึ้นและไม่คงที่อย่างที่คิด แถมยังอันตรายขึ้นมาก ความรู้สึกนี้มันยิ่งมาชัดเจนขึ้นมาก หลังจากเขาใช้ไบเบิ้ลแห่งความมืด
ไบเบิ้ลแห่งความมืดนั้นได้ทำการกัดกร่อนวิญญาณของเขาอยู่อย่างลับๆตลอดเวลา !!
เขานั้นอดไม่ได้ที่จะต้องยอมรับเลยว่าไอเทมของเหล่าทวยเทพนี้มันไม่สามารถจะควบคุมได้อย่างง่ายดายจริงๆ แถมพูดกันตามตรงมันก็อันตรายกว่าอาวุธเวทย์มนต์อย่างมาก อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่สามารถจะทิ้งไบเบิ้ลแห่งความมืดไปได้
หนทางในการจะขึ้นไปสู่ขั้นที่สูงขึ้นนั้นยากมาก และเขาก็ต้องทำความเข้าใจกับทุกโอกาสที่เขามีอยู่เพื่อที่เขาจะได้ขึ้นไปเป็นขั้นหก ขอบเขตพระเจ้าได้ ไม่งั้นทุกอย่างที่เขาทำมามันจะไร้ประโยชน์
ตัวอย่างเช่น ตราประทับวิญญาณที่เขาได้นับมาจากการฆ่า Faux Saint Devourer ได้เมื่อไม่นานมานี้ เมื่อเขาดูดซับมันเข้าไป มันก็ช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับวิญญาณของเขาอย่างมาก และในทางกลับกัน มันก็ช่วยเพิ่มค่าความต้านทานของเขาให้แข็งแกร่งมากขึ้นที่จะใช้รับมือกับคำสาปวิญญาณของ NPC ลึกลับนั่นได้
ไม่งั้นเขาคงจะไม่รอดชีวิตมาจนถึงตอนนี้ ….
ซือเฟิงมองไปที่โฟร์เบโร่และพูดว่า “ฉันอาจจะไม่สามารถควบคุมและใช้พลังของคุณได้ทั้งหมด แต่คุณควรรู้ว่าในฐานะผู้อัญเชิญ ฉันจะสามารถใช้พลังส่วนหนึ่งของคุณได้แน่นอน”
ไบเบิ้ลแห่งความมืดนั้นเป็นหลักประกันที่ดีที่สุดของเขาในการเข้ามาสำรวจที่เทือกเขาที่ถูกทำลาย เพราะท้ายที่สุดการจะมาที่นี่โดยปราศจากอะไรแบบนี้นั้นมันเป็นไปไม่ได้เลย และแค่โทเดลย่าในพื้นที่ชั้นนอกมันก็เพียงพอจะต้องทำให้เขาวิ่งหนีไปแล้ว ….
“คุณจะต้องเสียใจกับเรื่องนี้ !! การควบคุมพลังปีศาจนั้นมันยังเกินความสามารถของคุณไปมาก !!! ยิ่งคุณใช้มันมากเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งจมลึกลงไป จนในที่สุดวิญญาณของคุณก็จะถูกเผาผลาญจนหมด !!!”
“ขอบคุณสำหรับคำเตือน แต่อย่าคิดว่าปีศาจแบบคุณจะมากลืนกินฉันได้ง่ายๆเลย ….”
หลังจากพูดจบ ซือเฟิงก็ได้ใช้ไบเบิ้ลแห่งความมืดในการลบล้างจิตสำนึกของโฟร์เบโร่ และเข้าควบคุมส่วนหนึ่งของมันไว้เพื่อใช้ความแข็งแกร่งของมัน
เจ้าชายปีศาจ เลเวลหนึ่งร้อยสามสิบห้า !!!
แม้เขาจะสามารถใช้ความแข็งแกร่งของโฟร์เบโร่ได้แค่เจ็ดสิบเปอเซ็นต์จากทั้งหมด แต่นี่มันก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เขาสามารถท่องไปทั่วพื้นที่ชั้นนอกของเทือกเขาที่ถูกทำลายได้โดยไม่ต้องกังวลใดๆ
การพูดคุยของซือเฟิงและโฟร์เบโร่นั้นดำเนินไปเป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆเท่านั้น ดังนั้นโทเดลย่าที่ตกตะลึงจากการปรากฎขึ้นของประตูหิน และเจ้าแห่งความตายจึงยังคงยืนนิ่งเฉยอยู่
อย่างไรก็ตามหลังจากซือเฟิงเข้าควบคุมร่างของโฟร์เบโร่ได้แล้ว โทเดลย่าก็สังเกตเห็นบางอย่างที่ผิดปกติทันที แม้ว่าออร่าและแรงกดดันที่เจ้าชายปีศาจผู้นี้แผ่ออกมาจากอ่อนแอลงไป แต่มันก็แสดงความเป็นศัตรูกับโทเดลย่าอย่างชัดเจนขึ้นมาก
หลังจากตระหนักได้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้น โทเดลย่าก็รีบพุ่งเข้าหาซือเฟิง และใช้กรงเล็บขนาดใหญ่ของมันโจมตีเข้าใส่มนุษย์ตัวเล็กอย่างไร้ความปราณีทันที
ซือเฟิงนั้นรู้สึกได้ถึงความรุนแรงของสกิลทันที โดยมันทำให้พื้นที่โดยรอบบิดเบี้ยวไป และทำให้ร่างกายของเขาหนักมากๆ
สกิลขั้นสี่โดยกำเนิด Sundering Earth!
นี่เป็นครั้งแรกที่โทเดลย่าเลือกจะใช้สกิลในการต่อสู้ครั้งนี้ ในตอนที่ต่อสู้กับไลฟ์เลส
ธอร์นที่มันมองว่าเป็นแค่มด มันแทบไม่ขยับใดๆและไม่ได้ใช้สกิลเลยด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตามสิ่งเดียวที่อยู่ในใจของมันตอนนี้คือการต้องฆ่าซือเฟิงให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
อย่างไรก็ตามซือเฟิงนั้นก็ไม่ได้หวาดกลัวใดๆ เขามองไปที่โทเดลย่าและยิ้ม ก่อนจะกล่าวว่า “มันสายเกินไปแล้ว !!!”
ก่อนที่ซือเฟิงจะพูดจบ โฟร์เบโร่ที่ยืนอยู่ตรงหน้าของเขาก็โบกมือของตัวเอง และหอกเปลวไฟสีดำสนิทก็ปรากฎขึ้นในมือของมัน ก่อนที่มันจะใช้หอกนี้เขวี้ยงเข้าใส่โทเดลย่า
แม้ว่าหอกของโฟร์เบโร่จะทำมาจากเปลวไฟ แต่มันก็ไม่ได้ให้ความรู้สึกร้อน หรือแผดเผาใดๆเลย ในทางกลับกันมันกับให้ความรู้สึกหนาวเย็นอย่างรุนแรง และทำให้พื้นที่โดยรอบที่มันเคลื่อนผ่านแข็งตัวไปชั่วขณะ
ตู้ม !
พื้นที่นั้นแตกออกเป็นเสี่ยงๆ และเหลือแต่เพียงว่างเปล่า
ผลของการปะทะกันระหว่างการโจมตีทั้งสองนั้นมันทำให้พื้นดินจมลงไป ขณะที่คนอื่นๆก็ปลิวกระเด็นไปหลายร้อยหลา และได้รับความเสียหายหลายหมื่นไปถึงหลายแสน ยกเว้นก็แต่ซือเฟิง ….
สำหรับโทเดลย่าร่างกายขนาดใหญ่ของมันก็ปลิวกระเด็นไปด้านหลังกว่าหนึ่งร้อยหลา และร่างของมันก็เปลี่ยนแปลงภูมิประเทศโดยรอบที่มันปลิวกระเด็นผ่านในทุกๆที่เลย
ช่วงเวลาต่อมา อิลูซะรี่เวิร์ด อันยีลดิ้งฮาร์ท และคนอื่นๆก็ได้อ้าปากค้าง เมื่อได้เห็นความเสียหายที่ปรากฎขึ้นเหนือหัวของโทเดลย่า
-49,454,423!
ความเสียหายเกือบห้าสิบล้านปรากฎขึ้นเหนือหัวของผู้ขับกล่อมวิญญาณจริงๆ ช่องว่างระหว่างพลังของโทเดลย่า และโฟร์เบโร่นั้น มันสามารถบอกได้ถึงความแตกต่างอย่างชัดเจนเลย หลังจากการปะทะกันเพียงครั้งเดียว ทั้งสองนั้นอยู่ในระดับที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง …..
อธิบายไว้เพื่อบางคนไม่เข้าใจ ป.ล. เจ้าชายปีศาจ คือปีศาจที่แบบเหลือครึ่งก้าวก่อนจะกลายเป็นราชันปีศาจอะ ยังคงอยู่ในสถานะปีศาจผู้ยิ่งใหญ่ขั้นสี่ แต่แข็งแกร่งกว่าปีศาจผู้ยิ่งใหญ่ขั้นสี่ทั่วไป ….