Reincarnation Of The Strongest Sword God - ตอนที่ 2807
ตอนที่ 2807 ร้านค้าพ่อค้าเร่ระดับสามดาว
คำพูดของซือเฟิงนั้นมันเปรียบเสมือนกับค้อนขนาดใหญ่ที่ได้ตอกลงกลางใจของทุกคน นี่มันจึงทำให้ทุกคนที่ต้องการจะใช้วิธีอื่นๆในการเจรจากับซือเฟิงเพื่อให้ตัวเองได้รับผลประโยชน์มากมาย พูดอะไรไม่ออกไปชั่วขณะ
แม้แต่ผู้อาวุโสหวู่ซึ่งแต่เดิมเต็มไปด้วยความมั่นใจมากๆก็ยังพูดอะไรไม่ออกไปชั่วขณะ
การเคลื่อนไหวครั้งนี้ของซือเฟิงมันน่าทึ่งมากๆ !!
ความแข็งแกร่งของสภาสิบแปดปีกนั้นอยู่เหนือความคาดหมายของเขามากเกินไป !!
ด้วยผู้เล่นขั้นสี่จำนวนมากขนาดนี้ และผู้เล่นขั้นสามอีกจำนวนมากภายในกิลที่พวกเขาได้มาจากการได้รับมรดกที่สมบูรณ์ขั้นสามนั้น แม้แต่กองกำลัง NPC ก็ยังจะจัดการกับพวกเขาได้ยากมากๆ
จากมุมมองของทุกคน ซือเฟิงนั้นต้องการจะให้โอกาสทุกคน แต่ซือเฟิงเองก็ไม่ได้มีความประหม่าใดๆเช่นกัน
เพราะท้ายที่สุดเขาไม่ว่าง และไม่ได้มีเวลามากนักจริงๆ ….
ในตอนแรก หลังจากที่เข้าสู่เมืองดราก้อนฮาร์ทมาได้แล้ว ดีไวน์ชาโด้วนั้นต้องการจะติดต่อซีเว่ย และพวกระดับสูงคนอื่นๆของฮีฟเว่นเบลดทันที แต่เขาก็ไม่สามารถจะทำได้ ซึ่งมันราวกับว่าซีเว่ยและคนอื่นๆนั้นได้หายตัวไปอย่างลึกลับ โดยนี่มันก็ได้ไปขัดแผนการที่ซือเฟิงคิดเอาไว้หลายอย่าง
แต่โชคดีที่ดีไวน์ชาโด้ว และสมาชิกคนอื่นๆที่เหลือของฮีฟเว่นเบลดนั้นเต็มใจจะเข้ามาเป็นสมาชิกของสภาสิบแปดปีกแบบชั่วคราว ซึ่งมันทำให้พวกเขาเข้ามาอยู่ภายใต้อำนาจของซือเฟิงที่เป็นหัวหน้ากิลสภาสิบแปดปีก
และท้ายที่สุดแล้วหลังจากฮีฟเว่นถูกยุบไป พื้นที่หลายแห่งในหอคอยโลกของพวกเขาก็ถูกแบ่งออกไปโดยกองกำลังขนาดใหญ่ต่างๆบนเกาะดราก้อนฮาร์ท
อย่างไรก็ตามด้วยการล่มสลายของวอร์บลัด มันจึงทำให้พวกเขากลับมามีโอกาสที่จะแข่งขันแย่งชิงทุกสิ่งทุกอย่างของตัวเองกลับมาอีกครั้ง
ดังนั้นซือเฟิงจึงได้ออกคำสั่งให้ดีไวน์ชาโด้วนำทีมของเขาไปปล้น และยึดพื้นที่ต่างๆของวอร์บลัด เพราะท้ายที่สุดแล้วพื้นที่เหล่านี้ของวอร์บลัดเป็นหนึ่งในแหล่งการทำเงินเหรียญโบราณให้กับเขา ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถจะปล่อยให้คนอื่นแย่งชิงมันไปก่อนได้ และผู้ที่เหมาะสมจะทำหน้าที่นี้ให้แก่เขาก็คือฮีฟเว่นเบลดนั่นเอง
นอกจากนี้บรรดาร้านค้าที่มีมากกว่าหนึ่งโหลของฮีฟเว่นเบลดก็มีความสำคัญมากเช่นกัน เพราะร้านค้าเหล่านี้ล้วนตั้งอยู่บนทำเลทองในเมืองดราก้อนฮาร์ททั้งหมด และนอกจากนี้ซือเฟิงก็ยังวางแผนจะนำสินค้าบางส่วนจากบริษัทการค้าแสงเทียนมาขายตามร้านค้าเหล่านี้ด้วย
สำหรับที่ดินรอบๆหอคอยโลกนั้น เนื่องจากพวกเขามีกำลังไม่มากพอ ดังนั้นดีไวน์ชาโด้วจึงได้เลือกที่จะเข้ายึดที่ดินขนาดกลางเท่านั้น และหลังจากยึดมาได้ดีไวน์ชาโด้วก็มอบสิทการควบคุมที่ดินทั้งหมดให้เป็นของซือเฟิง เพียงแค่เขาขอให้แบ่งผลกำไรทุกอย่างที่ทำได้จากที่ดินนี้คนละครึ่ง หลังจากที่เขาสามารถรวบรวมสมาชิกของฮีฟเว่นเบลดกลับมาได้ครบแล้ว
ซือเฟิงนั้นไม่ได้มีปัญหาอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะท้ายที่สุดการที่เขาได้รับสิทในการควบคุมและดำเนินงานที่ดินขนาดกลาง มันก็จัดว่าโอเคมากแล้วสำหรับเขา และเรื่องนี้มันก็ทำให้เขามีความสุขมากๆ ซึ่งในอนาคตเมื่อสมาชิกสภาสิบแปดปีกเริ่มทำการสำรวจชั้นใต้ดินชั้นที่สี่นั้น เขาก็จะสามารถสร้างโรงแรมขึ้นบนที่ดินนี้เพื่อใช้มันเป็นสถานที่พักผ่อนให้กับสมาชิกสภาสิบแปดปีกของเขาได้
แต่อย่างไรก็ตามก่อนหน้านั้นเขาก็ต้องคิดก่อนว่า เขาจะสร้างโรงแรมแบบไหนบนที่ดินนี้ ….
นอกจากนี้มันก็มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้ซือเฟิงประหลาดใจที่สุดนั่นก็คือ ร้านค้าพ่อค้าเร่นั้นสามารถจะเลื่อนขั้นเป็นร้านค้าระดับสามดาวได้จริงๆ ในตอนแรกเขาเข้ามาที่ร้านค้าพ่อค้าเร่เพียงเพื่อรับเอาวัสดุระดับอีปิคบางชิ้นเท่านั้น โดยวัสดุพวกนี้นั้นมันเป็นวัสดุล้ำค่าที่ไว้ใช้ในการสร้างป้อมปราการเคลื่อนที่ขนาดเล็ก
แต่อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้คิดเลยว่าหลังจากที่เขาไม่ได้เห็นร้านค้าพ่อค้าเร่มาระยะหนึ่ง มันจะเลื่อนขั้นเป็นร้านค้าระดับสามดาวแล้ว
เมื่อร้านค้าใดๆก็ตามไปถึงระดับสามดาว พวกมันจะได้รับการเปลี่ยนเชิงคุณภาพ ดังนั้นเรื่องนี้มันจึงทำให้ซือเฟิงมีความสุขมากๆ
อย่างไรก็ตามก่อนที่ซือเฟิงจะทันได้มีเวลามาศึกษาสิ่งใหม่ๆของร้านค้าพ่อค้าเร่ระดับสามดาว กองกำลังต่างๆบนเกาะดราก้อนฮาร์ทก็เริ่มเข้ามาติดต่อเขาอย่างรวดเร็ว โดยที่หวังว่าตัวเองจะได้รับส่วนแบ่งจากการล่มสลายของวอร์บลัดจากการร่วมมือกับสภาสิบแปดปีก
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ทั้งห้องโถงเงียบไปชั่วครู่หนึ่ง ตัวแทนของกิลสี่นักบุญ และเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ่นใหญ่ของกิลสี่นักบุญอย่างหมิงเทียนจางชุ่ยก็ก้าวมาข้างหน้า
“หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม ฉันรู้มาว่าคุณตั้งใจจะสร้างกองกำลังร่วมระหว่างสภาสิบแปด
ปีกกับฮีฟเว่นเบลดเพื่อจะทำการโจมตี ยึดครอง และกลืนกินทรัพยากรของวอร์บลัดทั้งหมด ในระหว่างที่ผู้นำคนปัจจุบันของวอร์บลัดอย่างบลัดโอ๊ทถูกจับขังคุก เพราะท้ายที่สุดตอนนี้เมื่อปราศจากผู้นำนั้นวอร์บลัดก็ตกอยู่ในความสับสนวุ่นวายมากๆ แต่อย่างไรก็ตามมือลับที่คอยสนับสนุนวอร์บลัดอยู่ก็ไม่ควรถูกมองข้าม และแม้แต่ดินแดนทรัพยากรสิบเจ็ดแห่งที่ชั้นใต้ดินชั้นที่สี่ที่ถูกครอบครองโดยวอร์บลัดนั้นมันก็ไม่ได้ง่ายเลยที่จะยึดครองมาเป็นของตัวเองให้ได้”
“อย่างไรก็ตาม ฉันก็ต้องยอมรับเลยว่าหัวหน้ากิลแบล๊คเฟรมนั้นทรงพลังมากๆ และท้ายที่สุดแล้วคุณจะสามารถโจมตีและยึดครองดินแดนทรัพยากรทั้งสิบเจ็ดแห่งได้แน่นอน อย่างไรก็ตามการปกป้องดินทรัพยากรสิบเจ็ดแห่งนั้นจะต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญจำนวนมาก มันไม่สามารถพึ่งพาผู้เล่นขั้นสี่แค่ไม่กี่คนได้ ดังนั้นกิลสี่นักบุญของเราจึงต้องการจะร่วมมือกับสภาสิบแปดปีกเพื่อจัดการกับวอร์บลัด และมือลับที่อยู่เบื้องหลังวอร์บลัด” หมิงเทียนจางชุ่ยกล่าวอย่างมั่นใจ “เมื่อทั้งสองฝ่ายของเราร่วมมือกันในการต่อสู้ที่กำลังจะเกิดขึ้นที่ชั้นใต้ดินชั้นที่สี่ของหอคอยโลกนี้จนประสบความสำเร็จ เราสามารถจะแบ่งทุกอย่างที่ได้รับมากันคนละครึ่งได้ ทางสี่นักบุญเราไม่มีปัญหาใดๆ เพราะท้ายที่สุดเราไม่ได้คิดจะเอาเปรียบสภาสิบแปดปีกอยู่แล้ว”
หลังจากหมิงเทียนจางชุ่ยพูดจบ เขาก็หยิบใบอนุญาติสร้างเมืองออกมาจากกระเป๋าของตัวเอง
“แล้วก็สี่นักบุญของเรารู้ดีว่าตอนนี้คุณกำลังพยายามจะป้องกันและผูกขาดหอคอยแห่งพันธสัญญาลับอยู่ ดังนั้นถ้าคุณมีใบอนุญาติการสร้างเมืองนี้ มันก็จะทำให้คุณสามารถสร้างเมืองกิลใกล้ๆหอคอยแห่งพันธสัญญาลับได้ทันที ซึ่งเมื่อคุณมีเมืองกิลเป็นฐานสนับสนุน มหาอำนาจที่ต้องการจะจัดการกับคุณก็จะทำทุกอย่างได้ยากขึ้นมากๆ”
“นอกเหนือจากนี้สี่นักบุญของเราก็ยินดีจะซื้อขายแลกเปลี่ยนวัสดุหายาก อาวุธและอุปกรณ์ระดับลึกลับขั้นเงิน เลเวลหนึ่งร้อยสิบหรือสูงกว่ากับกิลของคุณในราคาตลาดด้วย คุณคิดว่ายังไง ?”
ใบอนุญาติสร้างเมืองที่หมิงเทียนจางชุ่ยนำออกมานั้นมันทำให้กองกำลังจำนวนมากที่ต้องการจะร่วมมือกับสภาสิบแปดปีกพูดไม่ออกเลย ขณะที่บางกองกำลังรู้สึกหมดหวังไปเลยก็มี
สี่นักบุญนั้นเป็นซุเปอร์กิล ซึ่งทรัพยากรและกำลังคนทั้งหมดของพวกเขานั้นก็เหนือกว่ามหาอำนาจทั่วไปมากๆ นี่ยังไม่นับรวมเรื่องที่พวกเขาบรรจุใบอนุญาติสร้างเมืองเข้ามาในเงื่อนไขอีก
เพราะสิ่งนี้มันเป็นสิ่งที่สภาสิบแปดปีกต้องการมากที่สุดในตอนนี้ !!!
ขณะเดียวกันผู้อาวุโสหวู่ที่ยืนเฝ้าดูฉากนี้อยู่ก็มีใบหน้าที่บิดเบี้ยว เขาไม่นึกเลยว่าสี่นักบุญจะมีใบอนุญาติสร้างเมืองด้วย เมื่อเป็นแบบนี้การแข่งขันครั้งนี้มันจะเพิ่มขึ้นอย่างมากแบบไม่ต้องสงสัย
อย่างไรก็ตามในช่วงเวลาที่กองกำลังอื่นๆล้วนเงียบและพูดไม่ออกกันนี้ ….
“คนอื่นๆมีอะไรจะพูดอีกหรือปล่าว ? ถ้าไม่ ก็ได้โปรดกลับไป ฉันมีเรื่องที่จะคุยโดยละเอียดแบบส่วนตัวกับคุณหมิงเทียนจางชุ่ย …” ซือเฟิงกล่าวขึ้นมาอย่างสบายๆ แต่มันก็เห็นได้ชัดจากคำพูดของเขาว่าเขาสนใจหมิงเทียนจางชุ่ย
เมื่อได้ยินคำพูดของซือเฟิง หมิงเทียนจางชุ่ยก็ยิ้มออกมา ในตอนนี้เขามั่นใจมากๆว่ากิลของเขาจะได้ร่วมมือกับสภาสิบแปดปีก สำหรับกองกำลังอื่นๆ พูดกันตามตรงเขาไม่สนใจมาตั้งแต่แรกแล้วด้วยซ้ำ
“ผู้อาวุโสหวู่ พวกเราควรจะทำยังไงกันดี ?” เฉียนเหม่ยกล่าวถามด้วยความกังวล
ชั้นใต้ดินชั้นที่สี่ของหอคอยโลกนั้นเป็นโลกใบใหญ่ที่มีมรดกขั้นสี่ดรอปอยู่ด้วย แม้ว่ามรดกที่ดรอปมันจะไม่สมบูรณ์และเทียบไม่ได้กับมรดกที่สมบูรณ์ขั้นสามของหอคอยแห่งพันธสัญญาลับ แต่อิทธิพลที่ผู้เล่นขั้นสี่จะสามารถทำทุกๆอย่างได้นั้นมันมากกว่าผู้เล่นขั้นสามมาก การที่กิลมีผู้เล่นขั้นสี่มาเพิ่มเติมสักคน มันจะช่วยเพิ่มพลังของกิลได้มาก แถมเหล่าผู้เล่นขั้นสี่ก็ยังนับเป็นกุญแจสำคัญที่กิลจะต้องใช้ต่อสู้กับกองกำลัง NPC ด้วย
ทุกคนนั้นน่าจะรู้ดีว่าในปัจจุบันสำหรับซุเปอร์กิลนั้น ผู้เล่นขั้นสามไม่ใช่สิ่งที่หายากอีกแล้ว เพราะท้ายที่สุดพวกเขาไม่ได้ขาดแคลนมรดก หรือไม่มีวิธีเลี้ยงดูผู้เล่นขั้นสามขึ้นมาอีกต่อไป และมันก็เป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้นก่อนที่พวกเขาจะมีผู้เล่นขั้นสามหลายแสน ไปจนถึงหลายล้านคน อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ที่อ่อนแอกว่าพวกเขานั้น บางกิลก็ยังไม่มีวิธีการหรือมรดกใดๆเลยในการจะทำให้ผู้เล่นเลื่อนขั้นเป็นขั้นสามได้ง่ายๆ ดังนั้นพวกเขาจึงล้วนสนใจมรดกที่สมบูรณ์ขั้นสามกัน
ซึ่งนี่ก็เป็นสาเหตุที่ว่าทำไมถึงมีแต่มหาอำนาจระดับกิลชั้นยอดเท่านั้น …. ไม่มีซุเปอร์กิลเลยที่เข้าไปยุ่งเรื่องหอคอยแห่งพันธสัญญาลับ
อย่างไรก็ตามแหล่งมรดกขั้นสี่ที่ชั้นใต้ดินชั้นที่สี่ของหอคอยโลกนั้นมันแตกต่างออกไป อย่างที่กล่าวไปข้างต้น ผู้เล่นขั้นสี่นั้นสามารถทำอะไรได้มากกว่าผู้เล่นขั้นสามอย่างมาก และแม้ว่ามรดกขั้นสี่ที่ถูกพบในชั้นใต้ดินชั้นที่สี่ของหอคอยโลกจะไม่สมบูรณ์ แต่มันก็ยังอาจจะช่วยผู้เล่นเรื่องการเลื่อนขั้นไปเป็นขั้นสี่ได้อย่างมาก นี่ยังไม่นับรวมเรื่องที่ว่าหอคอยโลกนั้นมีชั้นใต้ดินชั้นที่ห้าด้วย ซึ่งมันจะอันตรายกว่าชั้นใต้ดินชั้นที่สี่มาก แต่มันก็จะมาพร้อมกับโอกาสและหลายอย่างที่ดีกว่าแน่นอน
ในขณะที่กองกำลังต่างๆกำลังเตรียมจะหันหลัง และเดินกลับไป มันก็มีเสียงทุ้มต่ำดังขึ้นมาในหูของทุกคน
“เดี๋ยวก่อน !! หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม !!!” ผู้อาวุโสหวู่ได้กล่าวขึ้นมาอย่างกระทันหัน “สิบสามบัลลังก์ของเราก็ตั้งใจจะร่วมมือกับสภาสิบแปดปีกเช่นกัน และเงื่อนไขของเราก็จะไม่แย่ไปกว่าสี่นักบุญแน่นอน”
เมื่อผู้อาวุโสหวู่กล่าวจบ เขาก็หยิบใบอนุญาติสร้างเมืองออกมา
“อึก !! นี่สิบสามบัลลังก์ก็มีใบอนุญาติสร้างเมืองงั้นหรอ ?!”
กองกำลังที่เฝ้าดูเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่นั้นอดไม่ได้ที่จะตกตะลึง
ใบอนุญาติสร้างเมืองนั้นมันเป็นสิ่งที่หายากมากๆ และความหายากของมันก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าเศษชิ้นส่วนไอเทมระดับตำนานเลย พูดกันตามตรงมูลค่าของมันนั้นมีมากกว่าเศษชิ้นส่วนไอเทมระดับตำนานด้วยซ้ำ เพราะท้ายที่สุดเรากำลังพูดกันถึง
เมืองกิลทั้งเมือง ไม่ใช่เศษชิ้นส่วนไอเทมระดับตำนานแค่ชิ้นเดียว
เมื่อเห็นใบอนุญาติสร้างเมืองในมือของผู้อาวุโสหวู่ หลายคนก็เริ่มจะอยากรู้อยากเห็นมากว่าสภาสิบแปดปีกจะตัดสินใจยังไง
“นี่มันชักจะน่าสนใจแล้ว !!! แต่เดิมซุเปอร์กิลทั้งสองคงคิดว่าตัวเองเป็นผู้เลือกสภาสิบแปดปีก อย่างไรก็ตามตอนนี้มันกลายเป็นว่าทุกอย่างนั้นกลับตาลปัตรแล้ว เมื่อเป็นการแข่งขันสองด้านแบบนี้ สภาสิบแปดปีกก็จะมีสิทเลือกซุเปอร์กิลที่พวกเขาอยากจะร่วมมือด้วย”
“ฉันเดาไม่ออกเลยว่าแบล๊คเฟรมจะตัดสินใจยังไง ทั้งสองฝ่ายต่างก็เป็นซุเปอร์กิลซึ่งมีข้อดีเป็นของตัวเอง ….”
สมาชิกของกองกำลังต่างๆในปัจจุบันอดไม่ได้ที่จะมองไปยังซือเฟิงด้วยความสงสัยว่าเขาจะตัดสินใจอย่างไร
ตอนนี้สิบสามบัลลังก์และสี่นักบุญนั้นเข้าใจตรงกันอย่างชัดเจนอยู่เรื่องหนึ่งว่า พวกเขาจะต้องหาวิธีที่ทำให้กิลตัวเองได้ร่วมมือ และได้รับผลประโยชน์สูงสุดจากสภาสิบแปดปีกให้ได้ ดังนั้นผู้อาวุโสหวู่จึงเพียงกล่าวออกไปว่า เงื่อนไขของเราก็จะไม่แย่ไปกว่าสี่นักบุญแน่นอน เพื่อเป็นการประกาศกร้าวขู่อีกฝ่าย และปล่อยให้ซือเฟิงเป็นผู้เลือก
เกี่ยวกับเรื่องนี้นั้นหมิงเทียนจางชุ่ยเดาเจตนาของผู้อาวุโสหวู่ออกในทันที ดังนั้นเขาจึงได้เงียบลงไป และมองไปยังซือเฟิงเช่นเดียวกับผู้อาวุโสหวู่
“ใบอนุญาติสร้างเมือง สองใบ ?” ซือเฟิงมองไปที่ใบอนุญาติสร้างเมืองที่อยู่ในมือทั้งสองคนด้วยรอยยิ้ม “ดูเหมือนว่าพวกคุณทั้งสองนั้นจริงใจมากที่จะร่วมมือกับสภาสิบแปดปีก แต่น่าเสียดายที่ฉันไม่สามารถจะยอมรับเงื่อนไขของคุณได้ ….”