Reincarnation Of The Strongest Sword God - ตอนที่ 2853
ตอนที่ 2853 จิตที่ได้รับการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพ
“สร้างทะเลจิตวิญญาณขึ้นใหม่ ?”
ซือเฟิงมองไปที่แถบข้อมูลการแสดงผลของระบบด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ และตกตะลึงไปชั่วขณะ ….
เขาไม่ใช่คนแปลกหน้าใดๆเลยสำหรับเรื่องการสร้างทะเลจิตวิญญาณขึ้นใหม่ ซึ่งนี่มันก็เหมือนกับการรับทัณฑ์สายฟ้าเพื่อที่จะเพิ่มพลังของตัวเองขึ้นไปอีกระดับ แบบในนิยายกำลังภายในจีนนั่นเอง
แต่อย่างไรก็ตามเรื่องนี้มันก็ทำให้เขาไม่อยากจะเชื่อมากๆ ….
พูดอย่างตรงไปตรงมาทะเลจิตวิญญาณนั้นก็คือจิตวิญญาณของผู้เล่นนั่นเอง ซึ่งสำหรับผู้เล่นขั้นห้าที่ต้องการจะเลื่อนเป็นขั้นหกนั้น พวกเขาก็มีระดับของสิ่งนี้ที่จะต้องเอาชนะ
ซึ่งนั่นก็คือการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพของจิตวิญญาณ !!!
ใครก็ตามที่ต้องการจะเลื่อนขั้นไปเป็นขั้นหก ขอบเขตพระเจ้านั้นไม่เพียงแต่จะต้องมีร่างกายที่แข็งแกร่งเท่านั้น แต่ยังจะต้องมีวิญญาณที่ทรงพลังด้วย ซึ่งเมื่อมีคุณสมบัติตรงตามมาตราฐานทั้งสองอย่างนี้เท่านั้นจึงจะสามารถเลื่อนไปเป็นขั้นหกได้
โดยในหมู่พวกที่ได้รับการเลื่อนขั้นเป็นขั้นหกในชีวิตที่ผ่านมาของซือเฟิงนั้น พวกเขาล้วนพูดกันว่าวิญญาณที่ทรงพลังคือสิ่งที่ยากจะบรรลุที่สุด เพราะท้ายที่สุดแล้วนี่มันเป็นสิ่งที่ไม่สามารถจะจับต้องได้ และสิ่งเดียวที่พวกเขาจะสามารถทำได้ก็คือการปรับปรุงระดับจิตวิญญาณไปอย่างต่อเนื่องเพื่อที่จะทำให้วิญญาณทรงพลังขึ้นตามธรรมชาติ
แต่อย่างไรก็ตามความเร็วในการปรับปรุงของเรื่องนี้นั้นมันก็ช้าเกินไป เพราะแม้ว่าระดับจิตวิญญาณของคนๆหนึ่งจะขึ้นมาถึงที่จุดสูงสุดของขั้นห้า แต่ท้ายที่สุดแล้วการปรับปรุงมันก็จะเป็นไปอย่างเชื่องช้ามากๆอยู่ดี
โดยหากผู้เล่นต้องการจะให้วิญญาณทรงพลังขึ้นอย่างรวดเร็วจริงๆนั้น ระดับจิตวิญญาณของพวกเขาก็จำเป็นจะต้องขึ้นไปอยู่ที่ขั้นหกซะก่อน !!!
แถมระดับจิตวิญญาณแบบนี้มันยังจะช่วยปรับปรุงทะเลจิตวิญญาณได้อย่างต่อเนื่องด้วยการอาศัยเจตจำนงของตัวเองด้วย ซึ่งนี่มันเทียบไม่ได้เลยกับระดับจิตวิญญาณขั้นห้า
นอกจากนี้มันยังมีอีกหนึ่งวิธีสำหรับเรื่องนี้ที่สามารถจะทำได้เช่นกัน ซึ่งนั่นก็คือการทำลายทะเลจิตวิญญาณเก่าผ่านพลังงานแปลกปลอมบางอย่างและสร้างทะเลจิตวิญญาณขึ้นใหม่ ซึ่งวิธีนี้มันก็คล้ายกับวิธีการที่จะทำให้เข้าถึงระดับจิตวิญญาณขั้นหก เพียงแต่ว่ามันค่อนข้างจะเป็นวิธีที่รุนแรง และต้องทำอย่างระมัดระวังมากๆ เนื่องจากหากพลาดขึ้นมา มันจะจบไม่สวยแน่นอน ….
อย่างไรก็ตามตัวซือเฟิงในตอนนี้นั้นเขาไม่ได้คิดว่าเขาจะได้รับโอกาสเลื่อนขั้นขึ้นเป็นขั้นห้าในเร็วๆนี้ ดังนั้นเขาจึงไม่คิดเลยว่าเขาจะได้รับโอกาสนี้
หลังจากที่เงียบไปชั่วครู่หนึ่ง ซือเฟิงก็เลือกที่จะยอมรับพรจากโลกเพื่อสร้างทะเลจิตวิญญาณขึ้นใหม่
ระบบ : พรจากโลกจะเริ่มใน 30 วินาที ผู้เล่นควรเตรียมตัวให้พร้อม และยิ่งผู้เล่นทำให้มีอัตราความสำเร็จสูงได้เท่าไหร่ ทะเลจิตวิญญาณของผู้เล่นก็จะทรงพลังมากขึ้นเท่านั้น
“ยิ่งทำให้มีอัตราความสำเร็จสูงเท่าไหร่จะยิ่งดีงั้นหรอ ?”
เมื่อได้ยินดังนี้ ซือเฟิงก็ไม่กล้าที่จะประมาทใดๆเลย เขาได้จัดการทำให้สะพานหักนั้นมั่นคงที่สุดเพื่อที่ทำให้ตัวเองสามารถจะได้รับพรจากโลกได้อย่างเต็มที่
หลังจากสามสิบวินาทีผ่านไป ซือเฟิงก็รู้สึกเจ็บปวดมากๆราวกับจิตวิญญาณของเขากำลังถูกฉีกออกจากกัน ซึ่งหากเปลวไฟลึกลับขั้นสี่ของเขาไม่ได้ช่วยบรรเทาในเรื่องนี้ เขาก็คงไม่สามารถจะทนได้แน่นอน ….
แต่หลังจากผ่านไปมากกว่าสิบวินาที ความเจ็บปวดก็ได้หายไปอย่างสมบูรณ์ ตอนนี้แม้แต่ตัวซือเฟิงเองก็รู้สึกได้ว่าสมองของเขาดูเหมือนจะว่างเปล่าและเหลือเพียงแค่เศษจิตวิญญาณที่กระจายออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยนับไม่ถ้วนเท่านั้น
และหลังจากที่ซือเฟิงได้ลืมตาขึ้นมานั้น เขาก็ได้รับข้อมูลที่เป็นภาพของวงเวทย์ที่ซับซ้อนจำนวนมากที่ถูกส่งเข้ามาในหัวของเขาโดยตรง ซึ่งความซับซ้อนของวงเวทย์ทั้งหมดนั้นมันทำให้แม้แต่ครึ่งก้าวก่อนเข้าสู่ขอบเขตสุดยอดปรมาจารย์วงเวทย์อย่างซือเฟิงก็ยังตกตะลึง เนื่องจากเท่าที่ซือเฟิงเห็นมันมีวงเวทย์ระดับปรมาจารย์นับร้อยวงเลย โดยวงเวทย์ทั้งหมดนี้ก็จะมาก่อตัวรวมกันเป็นวงเวทย์วิญญาณขนาดใหญ่
ระบบ : ผู้เล่นมีเวลาทั้งสิ้นสี่ชั่วโมง และหลังจากสี่ชั่วโมงผ่านไปพรจากโลกก็จะสิ้นสุดลงอย่างสมบูรณ์ และหากอัตราความสำเร็จของทะเลจิตวิญญาณไม่ถึงสี่สิบเปอเซ็นต์ ทะเลจิตวิญญาณใหม่ก็จะไม่ถูกสร้างขึ้นมา และผู้เล่นก็จะได้รับเอฟเฟคสะท้อนกลับจากเรื่องนี้ ซึ่งมันจะทำให้ผู้เล่นติดสถานะอ่อนแอเป็นเวลายี่สิบวันตามธรรมชาติ
“ยี่สิบวันตามธรรมชาติงั้นหรอ ?”
ซือเฟิงนั้นไม่ได้แปลกใจนักสำหรับเรื่องบทลงโทษจากความล้มเหลว เพราะท้ายที่สุดแล้วนี่มันนับเป็นโอกาสที่มีค่ามากๆ และถ้าเหล่านักบุญขั้นห้าในชีวิตที่ผ่านมาของซือเฟิงได้เจอกับโอกาสแบบนี้ พวกเขาทุกคนก็จะกระโจนเข้าใส่ทันทีแน่นอน
หลังจากนั้นซือเฟิงก็เลิกคิดเรื่องอื่น ก่อนที่เขาจะเริ่มวาดวงเวทย์ในทะเลจิตวิญญาณของเขา ….
ในเวลานี้ซือเฟิงก็ไม่รู้ว่าเขาควรจะรู้สึกว่าตัวเองโชคดีหรือโชคร้ายกันแน่ ….
ที่ซือเฟิงคิดแบบนี้นั่นเป็น เพราะความโชคดีของเขามันก็หมายถึงการที่เขาได้รับพรจากโลก แถมยังบังเอิญได้มาอยู่ในสถานที่ที่เต็มไปด้วยหมอกนิรันดร์ ซึ่งมันช่วยเขาในเรื่องการวาดวงเวทย์อย่างมาก แต่สำหรับโชคร้ายนั่นก็คือ หากซือเฟิงโฟกัสทุกอย่างมาที่การวาดวงเวทย์ในทะเลจิตวิญญาณของเขา เขาก็จะไม่มีพลังมากพอที่จะคงสะพานไว้แบบเดิมอย่างแน่นอน
กล่าวอีกนัยหนึ่งคือเขามีเวลาไม่ถึงสี่ชั่วโมงในการจะสร้างทะเลจิตวิญญาณให้เสร็จ ….
ซึ่งนี่มันทำให้ซือเฟิงนั้นต้องเร่งความเร็วของเขาในการวาดวงเวทย์ต่างๆขึ้นอย่างมาก
1%3%7%
ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง ซือเฟิงก็ทำมาได้ถึงอัตราความสำเร็จสิบหกเปอเซ็นต์ และเท่าที่ซือเฟิงคำณวนนั้น เขาน่าจะสามารไปถึงอัตราความสำเร็จสี่สิบเปอเซ็นต์ได้ก่อนสี่ชั่วโมงแน่นอน แม้ว่าต่อไปมันจะมีวงเวทย์บางอันที่เขาวาดได้อย่างยากลำบากก็ตาม
หลังจากนั้นในเวลาอีกไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงครึ่งต่อมา อัตราความสำเร็จที่ซือเฟิงทำได้ก็มาถึงสามสิบห้าเปอเซ็นต์แล้ว ซึ่งการที่เขาสามารถทำได้ด้วยความเร็วแบบนี้นั้นมันจัดว่าน่ากลัวมากๆ และแม้แต่ตัวซือเฟิงเองก็ยังตกใจเลย
ซึ่งถ้าเป็นไปได้ ซือเฟิงก็อยากจะวาดวงเวทย์ทั้งหมดเพื่อเสริมพลังให้กับทะเลจิตวิญญาณของเขาให้ได้มากที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ อย่างไรก็ตามเขาไม่มีเวลามากขนาดนั้น เพราะท้ายที่สุดแล้วเมื่อปราศจากพลังของเขานั้น สะพานนี้ทั้งหมดจะพังลงในสามชั่วโมง และหากนับเวลาที่ผ่านมาตอนนี้เขาก็เหลือไม่ถึงยี่สิบนาทีแล้ว ….
ดังนั้นนี่มันจึงทำให้ซือเฟิงต้องเร่งมือ และเร่งความเร็วขึ้นไปอีก ก่อนที่ท้ายที่สุดแล้วเขาก็จะสามารถทำมันได้สำเร็จที่อัตราความสำเร็จสี่สิบเอ็ดเปอเซ็นต์ ซึ่งนับว่าผ่านแบบเฉียดฉิวเลย
หลังจากนั้นเสียงแจ้งเตือนของระบบก็ดังขึ้นมาที่หูของซือเฟิง ….
ระบบ : อัตราความสำเร็จของวงเวทย์ทั้งหมดอยู่ที่สี่สิบเอ็ดเปอเซ็นต์ ซึ่งตรงตามความต้องการขั้นพื้นฐานที่ระบบกำหนด ทะเลจิตวิญญาณจะเริ่มรวมตัวกันใหม่ตามวงเวทย์ที่ถูกสร้างขึ้น ผู้เล่นต้องการจะเริ่มให้มันรวมตัวเลยไหม ?”
“เริ่มเลย !!!”
ซือเฟิงนั้นเลือกอย่างไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย แม้ว่าเขาจะยังเหลือเวลาอยู่อีกราวหนึ่งชั่วโมงก็ตาม เพราะท้ายที่สุดถ้าสะพานนี้พังลงมา นั่นมันจะเป็นการสูญเสียร้ายแรงกว่าสำหรับเขา
ซึ่งเมื่อซือเฟิงเลือกแบบนี้นั้น ทะเลจิตวิญญาณก็ได้เริ่มรวมตัวกันใหม่ตามวงเวทย์ที่เขาสร้างขึ้นทันที ….
และเมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นนั้น ซือเฟิงก็รู้สึกว่าสมองของเขาสดชื่นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แถมความคิดและความเร็วในการตอบสนองทางจิตของเขาก็ยังดีขึ้นมากๆ โดยมันก็เห็นได้ชัดเลยว่ามันดีขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก
หลังจากผ่านไปอีกราวยี่สิบวินาที ซือเฟิงก็พบว่าทะเลจิตวิญญาณของเขานั้นมีรูปร่างชัดขึ้นมาอย่างมาก จากแต่เดิมที่มันเป็นแค่ภาพเลือนรางเหมือนภาพหลอน ….
โดยนี่มันก็ทำให้พลังของซือเฟิงได้รับการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพอย่างมาก และตอนนี้เขาก็รู้สึกว่าหากเขาใช้พลังเต็มที่ต่อสู้ เขาก็จะสามารถมองเห็นสิ่งต่างๆรอบตัวเขาดูช้าลงไปราวสามเท่าจากปกติได้เลย
“แข็งแกร่งมากๆ !!” ซือเฟิงมองไปที่ทะเลจิตวิญญาณที่ถูกสร้างขึ้นใหม่ของเขาพลางเดาะลิ้น “ฉันเข้าใจแล้วว่าทำไมผู้เล่นขั้นห้าในอดีตถึงบ้ากับการสร้างทะเลจิตวิญญาณขึ้นใหม่กันนัก ยิ่งทะเลจิตวิญญาณแข็งแกร่งขึ้นมากเท่าไหร่ การพัฒนาทางจิต และวิญญาณก็จะยิ่งเป็นไปอย่างรวดเร็วมากขึ้นด้วยนี่เอง ….”
ตอนนี้ผลจากเรื่องนี้มันทำให้วิญญาณของซือเฟิงนั้นแข็งแกร่งเท่ากับวิญญาณของผู้ที่อยู่ในจุดสูงสุดของขั้นห้าแล้ว ….
และเมื่อซือเฟิงลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง เขาก็ได้พบว่าทุกอย่างรอบตัวของเขาเปลี่ยนไป ….
ตอนนี้ช่องทางการรับรู้ทางจิตของเขาได้ขยายออกไปมากกว่าห้าร้อยหลาแล้ว จากแต่เดิมที่หลายร้อยหลาเท่านั้น และประสาทสัมผัสทั้งห้าของเขาก็ได้รับการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพอย่างมาก แถมเขายังรู้สึกได้ว่าร่างกายของเขานั้นยืดหยุ่นและเฉียบคมอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ในตอนนี้แม้ว่าซือเฟิงจะไม่ได้สนใจสะพานหักตรงหน้าของเขาเลย แต่สะพานมันก็ได้เสถียร และไม่พังลงมาแล้ว ….
ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจของเขามันก็ยังได้รับการฟื้นฟูกลับมาอย่างรวดเร็วด้วย และค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจที่จุดสูงสุดนั้นมันก็จัดว่าเพิ่มขึ้นอย่างมากด้วย
“ดูเหมือนว่าตอนนี้ ฉันจะสามารถผ่านการทดสอบนี้ไปได้อย่างไม่มีปัญหาแล้ว …” ซือเฟิงมองไปยังสะพานตรงหน้าพลางหัวเราะ
หลังจากนั้นซือเฟิงก็ได้เริ่มสร้างสะพานต่อทันที และเขาก็สามารถทำมันได้เร็วกว่าก่อนหน้านี้อย่างมาก ….
ภายในเวลาไม่ถึงสามวัน ซือเฟิงก็สามารถสร้างสะพานขึ้นใหม่ไปได้หนึ่งในสาม ซึ่งตรงตามความต้องการพื้นฐานในการจะผ่านการทดสอบนี้
อย่างไรก็ตามซือเฟิงก็ยังไม่ได้ตั้งใจจะหยุด เพราะท้ายที่สุดแล้วพื้นที่พิเศษแห่งนี้ที่เต็มไปด้วยหมอกนิรันดร์นั้นมันดีสำหรับการฝึกในเรื่องนี้ของเขามากๆ ดังนั้นเขาจึงยังคงสร้างสะพานต่อไปเรื่อยๆเพื่อขัดเกลาเรื่องมานา องค์ประกอบธาตุเวทย์มนต์ รวมไปถึงทำความคุ้นเคยกับทะเลจิตวิญญาณใหม่ของเขา ….
แต่อย่างไรก็ตามเมื่อซือเฟิงเริ่มมาได้ไกลเพิ่มขึ้นอีกเรื่อยๆ เขาก็ได้ตระหนักว่าการจะสร้างสะพานหักนี้ขึ้นใหม่นั้นมันจำเป็นจะต้องได้รับการขัดเกลามากขึ้นเรื่อยๆ ไม่งั้นมันจะเป็นการยากมากๆที่จะรักษามันไว้ในพื้นที่แห่งนี้
หลังจากเดินมาเกือบสี่วัน ซือเฟิงก็พบว่าเขาไม่สามารถจะไปต่อได้แล้ว หลังจากที่เขาเดินมาจนเกินระยะทางมากกว่าครึ่งหนึ่ง
“ดูเหมือนว่าฉันจะมาได้แค่นี้เท่านั้น …” ซือเฟิงพึมพำขณะที่มองไปยังผืนดินด้านหน้าที่เขาเริ่มเห็นชัดขึ้นแล้วด้วยความเสียหาย
โดยเขารู้สึกว่าตราบใดที่เขาไปถึงที่นั่นได้มันน่าจะช่วยเขาได้มากเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามการที่จะขัดเกลาและสร้างสะพานเพื่อให้ไปถึงที่นั่นได้นั้นมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ และมันก็ไม่ใช่สิ่งที่เขาจะสามารถทำให้สำเร็จได้ในหนึ่งหรือสองเดือนเลย
หลังจากนั้นซือเฟิงก็ได้เลือกที่จะออกจากพื้นที่พิเศษนี้ ….