Reincarnation Of The Strongest Sword God - ตอนที่ 2885
แอดแปลผิดนิดหน่อยตอนที่แล้ว ที่ฟางฉีหานถามซือเฟิงมันต้องเป็น * “เราไปหาที่เงียบๆคุยกันดีๆสองคนได้ไหม ?” ขออภัยครับ
ตอนที่ 2885 น่ารำคาญ
ซือเฟิงนั้นอดไม่ได้ที่จะมองไปยังฟางฉีหานที่ยืนอยู่ตรงหน้าของเขาอย่างประหลาดใจ
ในตอนนี้ใบหน้าของฟางฉีหานนั้นดูซีดเซียวกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด และมันไม่ได้ดูแข็งแกร่งเหมือนเมื่อก่อน แต่อย่างไรก็ตามสายตาของเธอก็ยังคงเต็มไปด้วยความทะเยอทะยาน
“แค่เราสองคนงั้นหรอ ?”
ซือเฟิงอดไม่ได้ที่จะมองไปยังชายร่างสูง แม๊ต และชายชราที่ยืนอยู่ข้างฟางฉีหานอีกคนที่แผ่ออร่าแห่งชีวิตที่แข็งแกร่งมากๆออกมา ซึ่งนี่มันแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนเลยว่าชายชราผู้นี้นั้นเป็นสุดยอดปรมาจารย์ที่แท้จริงแน่นอน และเขาก็เห็นว่าแม๊ตนั้นให้ความเคารพกับชายชราคนนี้มากๆ ดังนั้นนี่มันจึงเป็นข้อพิสูจน์เลยว่าสถานะของชายชราผู้นี้ในไมโทโลจี้นั้นไม่ต่ำแน่นอน และบางทีเขาก็น่าจะเป็นระดับผู้อาวุโสของกิลเลย
แต่ในตอนนี้ฟางฉีหานกับเลือกจะขอคุยกับเขาแบบส่วนตัวสองคน ซึ่งไม่จำเป็นต้องพูด ซือเฟิงก็สามารถเข้าใจได้เลยว่าฟางฉีหานจะต้องมีแนวคิดบางอย่างเป็นของตัวเองที่ไม่สอดคล้องกับการดำเนินงานของไมโทโลจี้แน่นอน โดยสิ่งนี้จะสามารถเห็นได้จากการขอซื้อข้อมูลเควสเลื่อนขั้น ขั้นสี่กับซือเฟิงในครั้งล่าสุด
“ใช่ แค่เราสองคน ….” ฟางฉีหานพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะมองไปยังชายผมยาวที่ยืนอยู่ด้านข้างของซือเฟิงด้วยรอยยิ้ม “แน่นอนว่าคุณสามารถเลือกจะพาคนอื่นไปด้วยก็ได้ แต่หากในอนาคตความสัมพันธ์ของพวกเราถูกเปิดเผย ฉันจะไม่ขอรับผิดชอบใดๆนะ …”
เมื่อชายผมยาวได้ยินคำพูดของฟางฉีหาน เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกทั้งแปลกใจ และประหลาดใจ
ฟางฉีหานนั้นเป็นลูกสาวคนโตของตระกูลฟาง แถมเธอยังเป็นหนึ่งในรองหัวหน้ากิลของไมโทโลจี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในห้าซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุดด้วย นอกเหนือจากนี้แล้วเธอก็ยังเป็นผู้ที่อยู่อาศัยใน Upper Zone และด้วยสถานะทั้งหมดของเธอนี้ มันก็ทำให้เธอเป็นคนที่ทรงอิทธิพลมากๆ และคนอย่างเธอนั้นก็ไม่เคยจะสนใจใครเลย โดยแม้แต่ผู้บริหารระดับสูงของสภาสิบแปดปีกบางคนก็ยังไม่อยู่ในสายตาเธอด้วยซ้ำ
แต่ในตอนนี้เธอกับริเริ่มที่จะเข้าหาซือเฟิงอย่างเป็นมิตร ซึ่งสิ่งนี้นั้นมันไม่ได้ทำให้เขาแค่คนเดียวที่ประหลาดใจ มันทำให้คนอื่นๆที่เฝ้าดูอยู่โดยรอบนั้นประหลาดใจด้วยเช่นกัน
“นี่คุณเป็นใครกันแน่ ?”
ชายผมยาวมองไปที่ซือเฟิงพร้อมกับคำถามในใจ แต่หลังจากที่สมองของเขาเริ่มประมวลผลหลายสิ่งได้ เขาก็มองไปยังซือเฟิงราวกับมองพี่ใหญ่คนหนึ่งของตัวเอง และแววตาของเขาก็บ่งบอกชัดเจนเลยว่าเขาคาดหวังให้ซือเฟิงพาเขาไปด้วย
ในตอนนี้ฟางฉีหาน และเหล่าผู้ทรงอิทธิพลของไมโทโลจี้นั้นอยู่ใกล้กับเขามากๆ และหากเขาได้ติดตามซือเฟิงไปพูดคุยในครั้งนี้นั้น เขาก็จะสามารถโม้เรื่องนี้กับคนภายนอกไปได้ตลอดชีวิตแน่นอน
“เอาแค่เราสองคนนั่นแหละ …” ซือเฟิงพยักหน้าอย่างไม่สนใจความคาดหวังของชายผมยาว
“ตามนั้นเลย …” ฟางฉีหานไม่ได้แปลกใจนักกับคำตอบของซือเฟิง และหลังจากนั้นเธอก็ได้ชี้ไปที่รถสุดหรูที่จอดอยู่ไม่ไกล และกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ถ้าอย่างนั้นก็ไปคุยกันในรถของฉันดีกว่า มันจะได้ไม่มีคนนอกมากวนคุณได้ …”
การต่อสู้ของสภาสิบแปดปีกที่เมืองสภาสิบแปดปีกนั้นได้สร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่วทั้ง God domain และมันก็นับเป็นความสำเร็จที่ท้าทายสวรรค์อย่างมาก
ซึ่งสิ่งนี้มันก็สร้างความตกตะลึงให้กับมหาอำนาจต่างๆอย่างถึงที่สุด แถมนี่ยังไม่นับรวมเรื่องการเปิดเมืองสภาสิบแปดปีกให้สาธารณชนทั่วไปได้เข้าชมอีก และในตอนนี้ผลประโยชน์กับทรัพยากรต่างๆที่เมืองสภาสิบแปดปีกมีมันก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของคริสตัลเจ็ดลูมินาลี่ที่ตอนนี้มันเป็นที่ต้องการมากๆในหมู่กองกำลังต่างๆใน Upper Zone รวมไปถึงห้าซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุดด้วย ดังนั้นก็ไม่ต้องพูดถึงตัวเธอเลย
ในตอนนี้สภาสิบแปดปีกนั้นไม่เต็มใจที่จะร่วมมือกับมหาอำนาจต่างๆอย่างสิ้นเชิง โดยหากสภาสิบแปดปีกยังคงยืนยันคำเดิม และต้องการจะผูกขาดผลประโยชน์ของเมืองสภาสิบแปดปีกไว้ทั้งหมด มหาอำนาจต่างๆก็จะไม่มีทางทำอะไรกับพวกเขาได้แน่นอน
แม้ว่ามหาอำนาจต่างๆจะไม่สามารถทำอะไรได้ แต่เธอก็มั่นใจว่าเธอจะสามารถโน้มน้าวให้สภาสิบแปดปีกตกลงที่จะร่วมมือกับตระกูลของเธอที่อยู่ใน Upper Zone ได้แน่นอน เพราะด้วยสถานะและทรัพยากรของตระกูลเธอนั้น มันก็น่าจะสามารถช่วยแก้ไขปัญหามากมายที่ซือเฟิงเจออยู่ใน Upper Zone ตอนนี้ได้
เนื่องจากการไปยั่วยุปรมาจารย์ทางจิต แม้ว่าซือเฟิงจะอาศัยอยู่ใน Upper Zone แต่ปรมาจารย์ทางจิตก็จะสามารถหาวิธีจัดการกับซือเฟิงได้แน่นอน โดยผู้ที่จะสามารถช่วยเหลือซือเฟิงในเรื่องนี้ได้นั้น มันก็นับได้ด้วยสองมือเท่านั้น ซึ่งตระกูลของเธอก็เป็นหนึ่งในนั้น
ซือเฟิงมองไปยังรถสุดหรูของฟางฉีหานด้วยแววตาประหลาดใจเล็กน้อย เพราะรถรุ่นนี้มันเป็นรถรุ่นที่ผลิตออกมาอย่างจำกัดมากๆ โดยทั้งคันนั้นมันทำจากวัสดุที่ใช้ทำยานอวกาศทั้งหมด ซึ่งไม่เพียงแต่มันจะฉนวนกันเสียงที่ยอดเยี่ยม แต่แม้แต่การโจมตีด้วยมิสไซล์ก็ยังจะแทบไม่สามารถทำอะไรกับมันได้เลย รถแบบนี้นั้นเป็นรถที่เขาต้องการจะซื้อมาใช้ในกิจการของสภาสิบแปดปีกมาโดยตลอด แต่น่าเสียที่รถแบบนี้แค่มีเงินอย่างเดียวมันซื้อไม่ได้ ….
“โอเค ไปที่รถกันเถอะ …” ซือเฟิงพยักหน้า
“ถ้าอย่างนั้นก็ตามฉันมาเลย หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม …”
ฟางฉีหานกล่าวด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่เธอจะเริ่มนำทางซือเฟิงไปยังรถของเธอ …. ขณะเดียวกันนั้นคำพูดล่าสุดของเธอมันก็ทำให้ชายผมยาวตกตะลึง
“เขา … คือ … หัวหน้ากิลงั้นหรอ ?”
ชายผมยาวมองไปยังซือเฟิง และเริ่มนึกถึงตอนที่เขาเคยเรียกซือเฟิงว่าน้องชาย ซึ่งเมื่อนึกถึงนั้น มันก็ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะตัวสั่น
หากไม่ใช่พวกหน้าใหม่จริงๆที่พึ่งเล่น God domain นั้น ทุกคนจะต้องเคยได้ยินชื่อแบล๊คเฟรมมาก่อนอย่างแน่นอน โดยชายผู้นี้นั้นเป็นดั่งเทพสังหารแห่งสภาสิบแปดปีกที่ไม่มีผู้ใดจะสามารถหยุดเขาได้ เขาทั้งกล้าและบ้าบิ่นอย่างถึงที่สุด และสิ่งที่เขาทำสำเร็จหลายสิ่งมันก็เป็นดั่งตำนานใน God domain
ในเวลานี้นอกเหนือจากชายผมยาวแล้ว ชายและหญิงสาวหลายคนที่ต่อแถวรอเข้ารับการทดสอบอยู่ที่ได้ยินคำพูดล่าสุดของฟางฉีหานก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงเช่นกัน
“หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม ?”
“ไม่มีทางน่า !! เขาคือนักบุญแห่งดาบแบล๊คเฟรมงั้นหรอ ?!!”
“มันมีข่าวลือว่าหัวหน้ากิลแบล๊คเฟรมเป็นชายในวัยสามสิบไม่ใช่หรอ ? แต่ชายคนนี้เต็มที่ก็น่าจะมีอายุแค่ยี่สิบสองถึงยี่สิบสามเท่านั้นเองนะอย่างมากที่สุด …”
สำหรับตัวตนและรูปลักษณ์ที่แท้จริงของแบล๊คเฟรมนั้น นอกเหนือจากเหล่าผู้บริหารระดับสูงของสภาสิบแปดปีกแล้ว มันก็มีแต่เหล่าผู้บริหารระดับสูงของมหาอำนาจต่างๆเท่านั้นที่รู้ ในส่วนของผู้เล่นทั่วไปนั้น พวกเขายังไม่ได้รู้ถึงตัวตนและรูปลักษณ์ที่แท้จริงของแบล๊คเฟรมกันแม้แต่นิดเดียวเลย
“หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม คุณนี่เป็นพวกชอบรักษาโปรไฟล์ตัวเองให้ต่ำไว้จริงๆเลยนะ …. แม้แต่สมาชิกกิลของคุณส่วนใหญ่ก็ยังไม่รู้เลยว่าคุณเป็นใคร ….” ฟางฉีหานมองไปยังชายผมยาวที่ยืนหน้าซีดอยู่ด้านหลังของเธอแล้วก็อดไม่ได้ที่จะยิ้ม “ฉันคิดว่าเหตุการณ์นี้จะทำให้ชายผมยาวนั่นนอนไม่หลับไปหลายวันเลยทีเดียว”
ซือเฟิงนั้นเพียงแค่พยักหน้าให้กับคำพูดของฟางฉีหานเท่านั้น ….
สำหรับชายผมยาวนั้น ซือเฟิงก็คิดจะเปิดเผยตัวตนของตัวเองให้ชายผู้นี้รู้ตั้งแต่ฟางฉีหานเดินเข้ามาแล้ว เพราะเขาต้องการจะแก้ความเข้าใจผิดของชายผู้นี้
อย่างไรก็ตามในตอนที่ซือเฟิง และฟางฉีหานเหลือระยะห่างจากรถของฟางฉีหานราวยี่สิบก้าวนั้น ซือเฟิงก็ได้หยุดลง และมองไปยังฝูงชนในจตุรัสเล็กๆ
“หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม ?”
ฟางฉีหานมองไปยังซือเฟิงที่หยุดลงอย่างกระทันหันอย่างแปลกๆ ก่อนที่เธอจะหันไปมองทิศทางที่ซือเฟิงมองไป
แม้ว่าตอนนี้มันจะมีคนหลายพันคนยืนอยู่บริเวณจตุรัสเล็กๆ แต่เธอก็สามารถสัมผัสได้ถึงเจตนาฆ่าบางๆที่แผ่ออกมาจากคนมากกว่าหนึ่งโหลอย่างชัดเจน
อย่างไรก็ตามเจตนาฆ่านี้มันก็บางมากๆซะจน ถ้าไม่ได้อยู่ในระดับครึ่งก้าวสุดยอดปรมาจารย์เป็นอย่างน้อยก็น่าจะไม่มีทางตรวจจับได้เลย
“ไม่จริงน่า !!! นี่พวกเขาเคลื่อนไหวกันเร็วขนาดนี้เลยงั้นหรอ ?!!” ฟางฉีหานนั้นอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเล็กน้อย เมื่อเธอสัมผัสได้ถึงเรื่องนี้ และคนๆเดียวที่จะสามารถสั่งระดมผู้เชี่ยวชาญที่มีความสามารถจำนวนมากขนาดนี้มาได้ มันก็จะมีแต่ปรมาจารย์ทางจิตที่ซือเฟิงไปมีปัญหาด้วยแน่นอน “หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม พวกเขาน่าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ปรมาจารย์ทางจิตส่งมา ซึ่งด้วยจำนวนของพวกเขาที่มีมากขนาดนี้นั้น พวกเราควรจะทำเป็นไม่สนใจ ทำให้เหมือนเราไม่ได้ค้นพบตัวตนของพวกเขา และรีบหนีเข้าไปซ่อนในรถของฉัน โดยเมื่อเราเข้าไปในรถของฉันได้นั้น ต่อให้คนเหล่านี้รวมตัวกันโจมตี พวกเขาก็จะไม่สามารถทำอะไรได้แน่นอน”
แม้ว่าผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้จะอยู่ในระดับครึ่งก้าวสุดยอดปรมาจารย์หรือเหนือกว่าทั้งหมด แต่พวกเขาก็จะไม่สามารถทำอะไรกับรถของเธอได้แน่นอน นี่คือเหตุผลที่มหาอำนาจต่างๆจำนวนมากล้วนต้องการซื้อมัน แต่อย่างไรก็ตามมันก็มีผู้ที่ซื้อได้จริงๆนั้นน้อยมาก ….
“ไม่ต้อง เรื่องนั้นไม่จำเป็นหรอก …” ซือเฟิงส่ายหัวก่อนที่เขาจะเดินอย่างช้าๆ “เดิมทีฉันต้องการจะทำเป็นไม่สนใจพวกเขา และปล่อยพวกเขาไว้อย่างนี้ แต่ตอนนี้พวกเขากับตามฉันมาถึงที่นี่ และทำตัวเหมือนแมลงวันที่น่ารำคาญมากๆ ดังนั้นฉันคงจะต้องสอนบทเรียนให้กับพวกเขาสักหน่อย !!!”