Reincarnation Of The Strongest Sword God - ตอนที่ 2924 งานเลี้ยงอันรื่นรมย์
**ขออธิบายไว้ล่วงหน้า มันเป็นตอนที่เสวี่ยเหวินโหรวหลอนๆจากประสบการณ์ที่เข้าไปติดอยู่ในโลกพิเศษแปดสิบปีน่ะ ฉะนั้นมันเลยจะออกแนวละครหลังข่าว หลอนๆ ไรแนวนี้นิดนึง // ตอนที่ 2924 งานเลี้ยงอันรื่นรมย์
เสียงล็อคดังขึ้นพร้อมกับประตูห้องนอนที่ปิดลง หญิงสาวที่ดูสง่างามเยือกเย็นราวกับหิมะกำลังเดินผ่านห้องโถงไปยังอีกฟากหนึ่ง โดยในขณะกำลังเดินไป ผมยาวดำสนิทขยับพลิ้วไหวอยู่กลางแผ่นหลังอันบอบบาง ใบหน้าขาวใสนวลเนียนดั่งหยก ภายใต้ชุดกิโมโนสีขาวที่ไม่อาจปิดบังร่างกายที่เห็นส่วนโค้งเว้าชัดเจนดูเย้ายวน นั่นเพราะผ้าไหมซาตินที่เธอสวมใส่อยู่จะเข้ารูปตามรูปร่างของผู้สวมใส่
ชายใดที่ได้เห็นล้วนไม่อาจห้ามใจตนเองได้ ต้องเผลอมองตามจนน้ำลายไหล แต่เมื่อเห็นสายตาที่มืดมนของเธอ พวกเขาต่างก็สั่นสะท้านด้วยความกลัวและหยุดคิดเรื่องสกปรกเหล่านั้น พวกเขาทำท่าทางสงบเสงี่ยมเจียมตัวและเอ่ยทักทายเธอด้วยความเคารพทันที
“รองหัวหน้ากิลด์”
“รองหัวหน้ากิลด์”
สาวงามไม่ได้ตอบรับคำทักทายนั้น และไม่แม้แต่จะชายตามองเสียด้วยซ้ำ ราวกับเธอเป็นดั่งภูตผีสำหรับเขาหรือไม่ก็พวกเขานั่นแหละที่เป็นเหมือนภูตผีสำหรับเธอ เลือนราง ไม่มีความหมาย และไม่มีตัวตน ขณะที่เธอเดินผ่านทางโค้ง ก็ได้ยินเสียงดังขึ้นมาจากห้องอาหารของสำนักงานใหญ่สภาสิบแปดปีกในเมืองเฟิงหลิน สมาชิกภายในนับร้อยกำลังเฉลิมฉลอง ร้องรำทำเพลง และดื่มกินอาหารที่ดีที่สุดที่หาได้นอก Upper Zone อาหารเหล่านั้นประกอบไปด้วย ข้าวผัดทรงเครื่อง, มันฝรั่งย่างปรุงรส, เป็ดย่าง, กวางย่าง, ปลาทอด และอื่นๆอีกมากมาย
เธอหิวจนท้องร้องเลยทีเดียวล่ะ ห้องอาหารถูกตกแต่งอย่างหรูหรา ทั่วทั้งเพดานมีพวงมาลัยสีทองห้อยลงมาจากโคมระย้าคริสตัล เชิงเทียนอันโอ่อ่าวางเรียงรายเป็นทางตรงกลางโต๊ะ แสงไฟอันอบอุ่นและพลิ้วไหวก่อให้เกิดแสงระยิบระยับยามกระทบกับสิ่งของแวววาว ทำให้บรรยากาศในห้องดูเลิศหรูอลังการขึ้นมา
สมาชิกภายในต่างส่งเสียงเชียร์ดังลั่นขณะที่กำลังถือขวดสารอาหารระดับ S อยู่ ก่อนที่พวกเขาจะดื่มมันเข้าไปราวกับมันเป็นเบียร์ที่ไว้ดื่มกับเพื่อนสนิท พวกเขาหัวเราะเยาะใส่คนที่ดื่มหมดเป็นคนสุดท้าย สมาชิกบางคนก็จับจ้องมองคนรับใช้ นินทาและหัวเราะไปกับเพื่อนๆ คนรับใช้แต่ละคนล้วนแต่หน้าตาสะสวยและน่ารักมากจนสามารถเป็นนางแบบชั้นนำได้เลย แต่หากอยู่ใน God Domain การเป็นคนรับใช้ในกิลด์ระดับสูงก็ไม่ต่างจากการเป็นคนรับใช้ให้กับจักรพรรดิ ไม่รู้สึกละอายที่ต้องมารับใช้ผู้มีสถานะที่ยิ่งใหญ่ นอกจากนี้แล้ว หากพวกเขาสามารถได้ใจของผู้เชี่ยวชาญคนใดไปครอบครอง พวกเขาก็จะรวยได้ง่ายๆเลยทีเดียว แม้จะดูสิ้นคิดไปหน่อย แต่การเป็นคนรับใช้ให้กับกิลด์ที่มีชื่อเสียงนั้นง่ายและทำเงินได้มากกว่าการเป็นนางแบบเสียอีก
งานเลี้ยงดำเนินต่อไปด้วยบรรยากาศที่ครึกครื้น และเต็มไปด้วยเสียงเฮฮา
“ฉิงเฉว ดีใจมากที่เธอมาสักที!” จ้าวเยว่รู่เพื่อนสนิทเอ่ยทักทายพลางควงแขนไป๋ฉิงเฉวทันที พวกเขารู้จักกันมานานก่อนที่จะเข้าร่วมกับอูโรโบรอสเสียอีก จ้าวเยว่รู่สวมชุดกิโมโนเข้ารูป ซึ่งมีลายสีดำแดงตัดกันดูเหมาะมาก แต่เมื่อเทียบกับไป๋ฉิงเฉวแล้ว ร่างกายอันมีเสน่ห์เย้ายวนใจกลับน่าดึงดูดมากกว่า
จ้าวเยว่รู่ยิ้มกว้างจนเห็นฟัน ดูสดใสขึ้นทันตา “ฉันเองก็กลัวว่าปาร์ตี้นี้จะมากไปสำหรับเธอ แต่ฉันก็ดีใจนะที่เธอมาจนได้”
“อะ…อะไรกันน่ะ นี่มันเกิดอะไรขึ้น?” ฉิงเฉว หรือที่รู้จักกันในนาม เสวี่ยเหวินโหรว รองหัวหน้ากิลของสภาสิบแปดปีก เอ่ยถามขึ้นมาด้วยความสับสน คำพูดติดขัดที่หาได้ยากกลับออกมาจากริมฝีปากได้รูปของเธอ
เธอและอควาโรสได้หลุดเข้าไปในโลกพิเศษและผ่านช่วงเวลา 80 ปี ภายในหนึ่งสัปดาห์ เหตุการณ์นั้นทำให้สมองเกิดความเครียดเป็นอย่างมาก และมีโอกาสสูงที่จิตใจกับความทรงจำจะได้รับความเสียหาย แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีอาการใดๆที่น่าเป็นห่วง ทั้งสองล้วนผ่านความเคร่งเครียด กดดัน นอนไม่หลับ และประสบภาวะทางจิตใจมายาวนานเหลือเกิน
แต่วันนี้กลับมีงานเลี้ยงใหญ่โตรออยู่ ซึ่งเธอกลับจำอะไรเกี่ยวกับปาร์ตี้นี้ไม่ได้เลย
ความทรงจำของฉันหายไปใช่ไหม?
ความคิดนั้นทำให้เธอถึงกับหลั่งเหงื่อไปทั่วร่างกาย เสวี่ยเหวินโหรวรู้ดีว่ามีโอกาสสูงที่จะสูญเสียความทรงจำ แต่เธอก็ยังเยาว์วัยเกินไปที่จะต้องมาทรมานกับโรคสมองเสื่อม อาการที่จะเกิดขึ้นหลังจากที่สมองได้รับความเสียหายคืออะไรนะ?
สูญเสียสมาธิ? อัมพฤกษ์อัมพาต?
จ้าวเยว่รู่มองเธออย่างแปลกใจ “นี่เธอลืมได้ยังไงกัน ? วันนี้คือวันฉลองการที่หัวหน้ากิลสามารถก้าวไปถึงขั้นหกได้นะ !!!”
เสวี่ยเหวินโหรวรู้สึกสั่นไปทั้งตัว เธอจำได้ว่าซือเฟิงได้ก้าวไปถึงขอบเขตเทพขั้น 6 แล้ว แต่เธอกลับลืมว่าวันนี้คือวันฉลองอย่างนั้นหรือ? เป็นเรื่องปกติที่กิลด์จะจัดปาร์ตี้เมื่อมีสมาชิกสักคนประสบความสำเร็จในการเลื่อนขั้น ในตอนที่มีผู้เล่นหน้าใหม่ก้าวมาถึงขั้น 4 ในซุเปอร์กิลต่างๆ พวกเขาเองก็จัดปาร์ตี้ไปสองสามวันเลย อีกทั้งเมื่อเร็วๆนี้ ห้าซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุดก็ได้จัดงานปาร์ตี้ยาวเป็นสัปดาห์เลยทีเดียวเพื่อฉลองการที่พวกเขาสามารถการันตีตำแหน่งสิบสองกิลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดใน God domain ได้แล้ว
และแน่นอนว่าสำหรับสภาสิบแปดปีกก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น เมื่อสมาชิกทุกคนมาถึงขั้น 4 พวกเขาก็จัดงานเลี้ยงใหญ่โตภายในสำนักงานใหญ่ของกิล และตอนที่เสวี่ยเหวินโหรวกับอควาโรสเลื่อนไปเป็นขั้น 5 พวกเขาก็จัดงานเทศกาลในเมืองเฟิงหลิน เพื่อเพิ่มความนิยม และชื่อเสียงให้กับสภาสิบแปดปีกอีกด้วย ไม่นานหลังจากนั้นกิลก็จัดเทศกาลใหญ่ทั่วทั้งเมืองเพื่อฉลองการเลื่อนเป็นขั้น 5ได้ สำเร็จของ ไฟเออร์แดนซ์, ไวโอเล็ตคลาวด์ และหยานเทียนซิง
แต่กระนั้นเสวี่ยเหวินโหรวก็มักจะพาตัวเองออกไปจากความสนุกสนานและความรื่นเริงเหล่านั้น เนื่องจากมันค่อนข้างทำร้ายจิตใจของเธอ เพราะเธอรู้สึกเสมอว่ามันเปลืองเงิน แต่ซือเฟิงกลับบอกว่ามันคุ้มค่า และท้ายที่สุดแล้ว เขาก็พูดถูกเหมือนเช่นเคย งานเลี้ยงเฉลิมฉลองและเทศกาลเหล่านั้นกลับกลายเป็นวิธีการอันยอดเยี่ยมสำหรับการเพิ่มความนิยมและแรงจูงใจให้กับเหล่าสมาชิกสภาสิบแปดปีก เพื่อให้เกิดความมุ่งมั่นที่จะสร้างผลงาน
ดังนั้นเมื่อซือเฟิงก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดของ God Domain เทพขั้น 6! มันจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีการฉลองให้กับความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ แต่เธอกลับลืมเรื่องสำคัญขนาดนี้ไปได้อย่างไรกันนะ? จ้าวเยว่รู่ลากเธอผ่านโต๊ะต่างๆท่ามกลางเสียงดังจ้อกแจ้กจอแจจนกระทั่งมาถึงด้านหลังของห้องอาหารที่มีโต๊ะกลมขนาดใหญ่ตกแต่งอย่างสวยงาม และบรรดาอาหารที่วางอยู่บนโต๊ะนี้ก็ยังดูน่ากินมากกว่าที่เสิร์ฟให้เหล่าสมาชิกภายในด้วย และมันยังมีโพชั่นแห่งชีวิต วางเรียงรายเป็นร้อยขวดอยู่ตรงกลางโต๊ะอีกด้วย แน่นอนว่าผู้ที่นั่งอยู่รอบๆโต๊ะนี้ล้วนเป็นสมาชิกคนสำคัญที่เป็นเหล่าผู้บริหารระดับสูงของสภาสิบแปดปีกทั้งสิ้น
ควายน้ำกับไฟเออร์แดนซ์นั่งติดกัน จิบโพชั่นแห่งชีวิต รำลึกถึงการต่อสู้และชีวิตของพวกเขาก่อนจะเข้ามาเล่น God Domain โคล่ากับฟลายอิ้งอิ้งชาโดว์กำลังกระซิบกระซาบกันด้วยท่าทางเขินอาย ขณะที่แบล็คกี้กำลังคุยอยู่กับคนรับใช้ที่งดงามคนหนึ่ง เทอเทิลโดฟกับชาโด้วซอร์ด คู่หูศิลปะการต่อสู้ต่างหัวเราะขณะมองดูทุกคน ยู่หลาน เหลียงจิง และเมลานโครอิคสไมล์เพิ่งจะทานอาหารเสร็จ โดยพวกเธอนั่งอยู่ในมุมเงียบๆพร้อมกับลิ้มรสเครื่องดื่มขณะสนทนาอย่างคนมีอารยะ โคลด์ชาโด้วอดีตรองหัวหน้ากิลด์ไมโทโลจี้ และบลูฟรอสต์ ซึ่งทำงานในเขตหนึ่งของ Dark Den กำลังเล่นไพ่อยู่ สังเกตจากสีหน้าบูดบึ้งของเธอแล้ว ดูเหมือนว่าเธอกำลังจะแพ้แน่ๆ บลูแบมบูกับต๊อดฟูลเรนก็อยู่ด้วย สมาชิกกิลด์ทั้งสองคนนี้มักจะออกไปผจญภัยอยู่เสมอ
นอกจากนี้เพื่อนที่ซื่อสัตย์จากอูโรโบรอส ปัจจุบันกลายเป็นผู้บริหารของสภาสิบแปดปีกสาขาย่อยในจักรวรรดิแบล็คดราก้อน กำลังนั่งผิวปากอยู่ที่โต๊ะใหญ่ เฟียซสเน็คกำลังงัดข้ออยู่กับเนกาทีฟไลฟ์ เสี่ยวเยว่เอ๋อผู้ขี้อายกำลังมองพวกเขาด้วยแก้มที่แดงเปล่งปลั่ง ขณะโพชั่นแห่งชีวิตผสมเหล้าจนเมาแล้ว วินมิล ไวน์โบน และคนอื่นๆกำลังเล่นเกมดื่มต่างๆ หยานเทียนซิง อี้ลั่วเฟย โยวจื่อผิง ไมเนอร์วินด์ เย่หวูเหมียน แรมแพนท์เบลด ซูเฉียนลิ่ว เรมแนนท์คลาวด์ สตับบอร์นโบน เซเว่นไลท์ แฮปปี้วินด์ สมาชิกคนสำคัญของสภาสิบแปดปีกต่างก็นั่งๆยืนๆอยู่รอบๆโต๊ะ สนุกไปกับงานเลี้ยงนี้
แม้แต่อควาโรสผู้ที่ได้รับความเสียหายเช่นเดียวกับเธอก็กำลังสนทนาอย่างลึกซึ้งกับเพื่อนเก่าอย่าง Alluring summer ในที่สุดเธอก็ยิ้มแล้ว ซึ่งก็เป็นสิ่งที่โหยหามาตลอดหลายสิบปี ทุกคนต่างก็มีรอยยิ้ม ทุกคนต่างก็อยู่ที่นี่ ไม่มีใครรู้สึกว่าตนเองโดนทอดทิ้ง ยกเว้นเสวี่ยเหวินโหรว เธอรู้สึกโดดเดี่ยวเดียวดายยิ่งนัก พวกเขาลืมเธอไปหรือเปล่า? เธอได้รับเชิญให้มาที่นี่หรือเปล่านะ? หรือเธอลืมปาร์ตี้ที่มหัศจรรย์เช่นนี้จริงๆ ?
เสวี่ยเหวินโหรวพยายามกลั้นน้ำตาที่กำลังไหลออกมา แต่ดวงตาสวยที่แสนเย็นชานั้นกลับเปียกชื้นไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหนก็ตาม เมื่อหันไปมองที่นั่งของซือเฟิง เธอแทบไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เห็น เสวี่ยเหวินโหรวปาดน้ำตาออกไป
ไวโอเล็ตคลาวด์ที่สวมใส่ชุดเดรสสีชมพูดำตัดกัน กำลังนั่งบนตักพิงไปกับหน้าอกของซือเฟิง เธอหัวเราะคิกคักขณะป้อนองุ่นม่วงให้เขาอย่างมีจริตจะก้าน
“ยัยนี่ …” เสวี่ยเหวินโหรวพึมพำภายใต้ลมหายใจอันโกรธกรุ่น พลางมองไปด้วยสายตาอันเย็นชาและพยายามดึงแขนตัวเองออกไปจากจ้าวเยว่รู่
“ฉิงเฉว ใจเย็นหน่อย มันไม่มีอะไรหรอก …. ” จ้าวเยว่รู่พยายามจับแขนเธอไว้แน่น
“ไม่มีอะไรเนี่ยนะ?! เธอตาบอดหรือไง?” เสวี่ยเหวินโหรวตะโกนเกรี้ยวกราดใส่ ก่อนจะสลัดหลุดออกมาจากจ้าวเยว่รู่ได้เสียที
“ฉิงเฉว รอเดี๋ยวก่อ….” จ้าวเยว่รู่ยังคงพยายามทำให้เธอใจเย็นก่อนจะถูกขัดจังหวะด้วยเสียงตะโกนที่ดังจนแสบแก้วหู
“ไวโอเล็ต เธอกำลังทำบ้าอะไรอยู่?! เธอละเมิดข้อตกลงระหว่างเรานะ!” เสวี่ยเหวินโหรวตะเบ็งเสียงใส่ด้วยลมหายใจทั้งหมดที่มี แต่ไวโอเล็ตคลาวด์ก็ไม่แม้แต่จะกะพริบตาทั้งยังดึงองุ่นออกจากพวง ถูมันกับหน้าอกอันราบเรียบของเธอ
“ไวโอเล็ต!” เสวี่ยเหวินโหรวยังคงตะโกนใส่ ไวโอเล็ตคลาวด์แสยะยิ้มอย่างชั่วร้าย ขณะที่จับคางของซือเฟิงด้วยมือเรียวบาง โดยไม่หันไปมองเสวี่ยเหวินโหรวเลย
“พี่สาวฉิงเฉว พี่อย่าอิจฉาไปเลย เธอไม่เคยได้ยินสำนวนที่ว่า ‘มาก่อนได้ก่อน’ หรอกหรือ?” ไวโอเล็ตคลาวด์พูดด้วยรอยยิ้มขณะที่ริมฝีปากของเธองับองุ่นไว้แล้วจูบซือเฟิงก่อนจะส่งมันเข้าไปในปากของเขา
“ยัยนี่ ! อ๊า…!” เสวี่ยเหวินโหรวตะโกนใส่ แต่แล้วก็ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เธอเอื้อมมือไปข้างหลัง พลันพบว่ามือเธอเต็มไปด้วยเลือด เลือดของเธอ ม่านตาเธอหดลง ขณะมองไปยังจ้าวเยว่รู่ที่กำลังถือมีดสั้นพร้อมกับมองเธอด้วยสายตาอาฆาตแค้น มีดสั้นนั้นชุ่มโชกไปด้วยเลือดของเธอเอง
“จ้าวเยว่รู่ ทำไมกัน?”
“เธอทรยศฉัน” จ้าวเยว่รู่เอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา
ทันใดนั้นเสวี่ยเหวินโหรวก็รู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือนในอากาศ เธอหลบโดยสัญชาตญาณ และพบว่าไวโอเล็ตคลาวด์กำลังแทงเธอจากข้างหลัง แต่กลับพลาดไป
“ไม่ ไม่ ไม่นะ ทำไมทุกคนถึงทำกับฉันแบบนี้? ฉันไปทำอะไรให้?!” เสวี่ยเหวินโหรวร้องไห้ออกมาด้วยความตื่นตระหนก จากนั้นเธอก็รู้สึกถึงความเจ็บปวดอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ กลับมีมีดเปื้อนเลือดอยู่ตรงหน้าอกของเธอ ความรู้สึกของเธอค่อยๆหายไปพร้อมกับที่ร่างกายค่อยๆหงายหลัง ร่วงลงไปกองกับพื้น ร่างที่ไร้การเคลื่อนไหวกำลังจับจ้องมองเพดาน และมองไปยังคนที่โจมตีครั้งสุดท้าย
เลือดค่อยๆไหลซึมเข้าไปในชุดกิโมโนสีขาว ไหลออกจากร่างของเธอ ดวงตาเริ่มพร่ามัว จนไม่อาจมองเห็นรายละเอียดใดๆอีกแล้ว คนที่ใช้มีดแทงทะลุหัวใจ มีผิวขาวซีด ผมสีดำ และใส่ชุดสีดำ เหมือนกันกับซือเฟิง ….
ซือเฟิงเหรอ? ทำไมเขาถึงทำแบบนี้กับฉัน? ทำไมเขาถึงต้องการฆ่าฉัน? ฉันไม่เคยทำอะไรให้เขาเลยนะ ฉันมีแต่มอบความภักดีให้เขา ….
จากนั้นผู้โจมตีก็หมอบลงข้างๆร่างที่ไร้การขยับเขยื้อน มองดูเธอค่อยๆจากโลกใบนี้ไป แต่เมื่อใบหน้านั้นเข้ามาใกล้ ในที่สุดเธอก็มองเห็นแล้ว
เกาเชิงฮั่ว