Release That Witch ปล่อยแม่มดคนนั้นซะ - ตอนที่ 1065
“ดูนั่น นั่นมันท่านแสงอรุณ!” ข้างถนนมีคนตะโกนขึ้นมา
“อยู่ไหนๆ?”
“คนที่วิ่งอยู่ข้างหน้าสุดไง!”
เมื่อเสียงตะโกนเตือนของหญิงสาวคนหนึ่งดังขึ้นมา ในกลุ่มผู้ชมพลันมีเสียงฮือฮาดังขึ้นมาทันที
“ใช่เขาจริงๆ ด้วย! หลังจากที่ไม่ได้เป็นอาจารย์ ข้านึกว่าจะไม่ได้เห็นเขาแล้วซะอีกนะเนี่ย”
“ว้าย เขามองมาทางข้าด้วย!”
“อาจารย์เฟร์ราน สู้ๆ นะเจ้าคะ!”
ผู้ชายหน้าตาหล่อเหล่ารูปร่างสูงใหญ่คนปรากฏตัวขึ้นตรงปลายสุดของถนน ถึงแม้เขาดูแล้วค่อนข้างเหนื่อยล้า แต่ฝีเท้ายังคงก้าวต่อไปเรื่อยๆ ไม่หยุดและครองตำแหน่งอยู่หน้าสุดของขบวนนักวิ่ง สิ่งที่ทำให้ทุกคนรู้สึกชื่นชอบมากกว่านั้นก็คือทุกครั้งที่ส่งเสียงเชียร์ให้เขา เขาจะพยายามหันหน้ากลับมายิ้มให้ เวลาที่เจออดีตนักเรียน เขาก็มักจะโบกมือทักทาย ท่าทีที่อบอุ่นเป็นมิตรเช่นนี้ทำให้เขาได้ใจจากผู้สนับสนุนทุกคนไปทันที
ฮันนี่ที่ตามขบวนนักวิ่งมาด้วยเห็นเหตุการณ์เหล่านี้ทั้งหมด
เฟร์ราน ชิลต์ เกิดในตระกูลอัศวิน เดิมเคยเห็นครูสอนระดับกลาง ต่อมาย้ายเข้าไปอยู่ในหน่วยบัญชาการเสนาธิการทหารใหญ่ มีฉายาว่าแสงอรุณ อืม…ถ้าเขาเป็นผู้ชนะจริงๆ พาดหัวข่าวควรจะเขียนยังไงดี?
“ ‘ตกตะลึง! ชายหนุ่มคนหนึ่งของเมืองเนเวอร์วินเทอร์ทำเอาหญิงสาวนับหมื่นหลงใหลจนถอนตัวไม่ขึ้น’ เจ้าคิดว่ายังไงบ้าง?”
“เอ่อ…ท่านกำลังถามข้าเหรอ?” เวเดอร์ที่กำลังปั่นจักรยานพูดพร้อมหายใจหอบ “ที่บอกว่าจำนวนนับหมื่นมันไม่เยอะไปหน่อยเหรอขอรับ?”
เมื่ออยู่ต่อหน้าหญิงสาวที่นิสัยและหน้าตาดูไม่ต่างอะไรจากเด็กผู้หญิงคนนี้ เวเดอร์ไม่กล้าที่จะดูแคลนเธอแม้แต่น้อย ในฐานะที่เป็นบุคคลสำคัญของกองประชาสัมพันธ์ ผู้บังคับบัญชาเหนือหัวเธอก็คือราชาของเกรย์คาสเซิลที่ขึ้นไปยืนอยู่บนจุดสูงสุดของอำนาจตั้งแต่อายุยังน้อย ยิ่งไปกว่านั้นเขายังได้ยินมาว่าเธอมีความสัมพันธ์ที่สนิทแนบแน่นกับท่านเวนดี้ที่เป็นผู้รับผิดชอบสโมสรแม่มดด้วย ถ้าดูแลคนแบบนี้เหมือนเธอเป็นเด็กน้อยล่ะก็ สุดท้ายคนที่ซวยจะต้องเป็นเขาแน่
เวเดอร์ที่ไต่เต้ามาจากเป็นเจ้าหน้าที่ระดับล่างของหน่วยลาดตระเวนอยู่หลายปีย่อมไม่มีทางทำผิดพลาดเช่นนี้แน่
ด้วยเหตุนี้ในตอนที่อีกฝ่ายมาหาตนและขอซ้อนจักรยานเพื่อจะไปดูการแข่งขันระยะใกล้ๆ เขาจึงรับปากอย่างไม่ลังเล เพราะยังไงซะในเวลาที่คาเตอร์ไม่อยู่ เขาก็จะช่วยดูแลเรื่องการรักษาความปลอดภัยแทน อย่างเช่นงานในการนำขบวนครั้งนี้ การให้อีกคนมาซ้อนจักรยานก็ถือเป็นเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น
นอกจากเรื่องคนที่สนับสนุนอยู่เบื้องหลังฮันนี่แล้ว สิ่งที่ทำให้เขากระตือรือร้นแบบนี้ยังมีเรื่องหนึ่ง ถ้าหน่วยรักษาความปลอดภัยอยากจะทำผลงานให้ดีและช่วยหยุดอันตรายที่จะมีต่อฝ่าบาทและอาณาจักรเอาไว้ เขาก็จำเป็นต้องรวบรวมข่าวกรองอย่างละเอียดให้มากที่สุด ซึ่งนี่ก็คือสิ่งที่อีกฝ่ายถนัด
ด้วยเหตุนี้ไม่ว่าจะเป็นในแง่ไหน การผูกมิตรกับแม่มดคนนี้ก็คือสิ่งที่จำเป็น
“ไม่ต้องไปสนใจเรื่องรายละเอียดมาก” ฮันนี่มุ่ยปาก “ถ้าเจ้าเห็นพาดหัวข่าวนี้ เจ้าอยากจะอ่านต่อลงไปไหมล่ะ?”
“อยากขอรับ” เวเดอร์ตอบตามตรง
“อย่างนั้นก็ดี” สาวน้อยผิวปากอย่างอารมณ์ดี
ทันใดนั้นเอง ในกลุ่มคนพลันมีเสียงที่แตกต่างกันไปดังขึ้นมา
“พวกเจ้ารู้สึกบ้างไหมว่าผู้ชายที่ตามอยู่ข้างหลังอาจารย์เฟร์ราน ก็หล่อ…ไม่เบาเลยนะ” หญิงสาวพูดพร้อมอามือป้องปาก
“เจ้าก็เห็นเหรอ? ข้าว่าเขาหล่อกว่าท่านแสงอรุณอีกนะ” คำพูดของเธอทำให้หลายๆ คนเริ่มถกเถียงกันขึ้นมา
“ข้ารู้จักเขา! นั้นมันท่านคาร์เตอร์ แลนนิส หัวหน้าอัศวินของฝ่าบาท! พวกเจ้าดูตราราชวงศ์ที่อยู่บนผ้าคลุมด้านหลังเขานั่น!”
“อย่างนี้นี่เอง สมแล้วที่เป็นท่านหัวหน้าอัศวิน!”
“เจ้าสีหน้าเขาดูเย็นชาไปหน่อยนะ เวลาเขามองมา มันเหมือนกับข้าไปติดเงินเขาไว้อย่างนั้นแหละ…”
“เจ้าอายุยังน้อย คนแบบนี้สิถึงจะมีเสน่ห์!”
“ดูนั่นเร็ว เขาไล่ตามขึ้นมาแล้ว!”
“ท่านอัศวิน สู้ๆ นะเจ้าคะ..”
คาร์เตอร์ แลนนิส โตมาจากตระกูลอัศวินเช่นเดียวกัน ในอดีตเคยอยู่ในกองทัพอัศวินของเมืองหลวง จากนั้นติดตามเจ้าชายลำดับที่สี่มายังเมืองชายแดน เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในกลุ่มคนยุคแรกๆ ของเมืองเนเวอร์วินเทอร์ ฝีมือว่องไวและแข็งแกร่ง มีข่าวลือว่าเขามีความสามารถที่จะสู้กับแม่มดอมนุษย์ได้ แล้วก็เป็นหนึ่งในคนที่บุ๊คมองว่าจะเป็นผู้ชนะการแข่งขัน
ฮันนี่ด้านหนึ่งก็ฟังนกรายงานข่าวให้ฟัง อีกด้านหนึ่งก็จดบันทึกการแข่งขันลงไปในสมุด
คาร์เตอร์เร่งความเร็วขึ้นมาเรื่อยๆ ระยะห่างของทั้งสองคนค่อยๆ หดสั้นลง ไม่นานทั้งคู่ก็วิ่งตีคู่กันขึ้นมา
ส่วนผู้ชมก็เริ่มหันมาส่งเสียงเชียร์ให้กับคาร์เตอร์ จากที่ตอนแรกส่งเสียงให้แต่เฟร์รานเพียงอย่างเดียว
ดูเหมือนพาดหัวข่าวต้องเปลี่ยนอีกแล้ว
ฮันนี่ครุ่นคิดอยู่ครู่ ก่อนจะจรดปากกาลงไปบนสมุดอย่างตื่นเต้น
‘ใครจะเป็นผู้ชนะ? การแข่งขันระหว่างหนุ่มหล่อสองคน’
……..
คาเตอร์รู้สึกในปอดร้อนเหมือนกำลังมีไฟแผดเผา
เพื่อที่จะทำให้เมย์จำตนได้ เขาจึงเอาสายสะพายสีสันสดใสและผ้าคลุมห้อยไว้บนตัว แต่เครื่องประดับที่เดิมเบาหวิว ตอนนี้กลับหนักขึ้นมาเหมือนภูเขา โดยเฉพาะในตอนที่วิ่งโต้ลม เขารู้สึกเหมือนผ้าคลุมเหล่านี้กำลังดึงเขาเอาไว้อย่างนั้น
แต่เขาก็ไม่ยอมถอดมันออก
เพราะว่านี่เป็นผ้าที่เมย์เย็บขึ้นมาให้เขา
คาร์เตอร์อยากจะใส่มันวิ่งแซงเฟร์รานไปเข้าเส้นชัย
ถึงแม้เมย์จะไม่เคยพูดกับเขามาก่อน แต่เขากลับได้ยินเรื่องราวในอดีตบางเรื่องมาจากสมาชิกในคณะละครเวที ตอนที่ฝ่าบาทโรแลนด์ยังไม่เสด็จมายังดินแดนตะวันตก เฟร์รานเคยมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วลองซอง ตอนนั้นแสงอรุณกับดวงดาวแห่งตะวันตกแทบจะถูกมองว่าเป็นคู่ที่เหมาะสมกัน ไม่ว่าใครต่างก็คิดว่าสุดท้ายแล้วพวกเขาคงต้องลงเอยด้วยกัน ส่วนภรรยาของเขาเองก็เหมือนจะเคยแอบชอบเฟร์รานอยู่ช่วงหนึ่งเหมือนกัน แต่ผลสุดท้ายกลับไม่เป็นเหมือนอย่างที่หลายๆ คนคิด เพราะคนที่เฟร์รานชอบนั้นกลับเป็นเอรินที่เป็นสมาชิกใหม่ของคณะละครเวที
ถึงแม้เมย์จะไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้ แต่ภายในใจคาร์เตอร์ก็ยังแอบรู้สึกคับข้องใจอยู่
เป็นแสงอรุณแล้วยังไง
ที่เธอชอบอีกฝ่าย ก็เป็นเพราะว่าตัวเองซึ่งยอดเยี่ยมกว่ายังไม่ปรากฏตัวเท่านั้น
เขาอยากจะพิสูจน์ให้คนเหล่านั้นเห็นว่าเขาต่างหากคือคนที่เหมาะสมกับเมย์!
และสิ่งแรกที่เขาต้องทำก็คือเอาชนะเฟร์ราน ชิลต์ที่เป็นอัศวินเหมือนกัน
คาร์เตอร์เค้นเรี่ยวแรงออกมา สายตาจ้องมองไปยังคู่แข่งที่อยู่ห่างจากตัวเองไปไม่ถึงครึ่งช่วงตัว ก่อนจะเร่งความเร็วฝีเท้า
อัฒจันทร์ตรงเส้นชัยค่อยๆ ปรากฏขึ้นในสายตา
ถึงเวลาที่ต้องตัดสินแพ้ชนะแล้ว!
ทันใดนั้นเอง ด้านหลังเขาพลันมีเสียงฝีเท้าที่ดูเร่งรีบดังขึ้นมา
หรือว่าตอนนี้ยังมีคนไล่ตามขึ้นมาได้อยู่?
เป็นไปได้ยังไง! เพราะตอนที่การแข่งขันผ่านไปหนึ่งชั่วโมง เขากับเฟร์รานก็ทิ้งทุกคนไว้ข้างหลังตั้งไกลแล้ว ต่อให้คนเหล่านั้นอยากจะเก็บแรงไว้ ก็ไม่น่ารอให้ถึงตอนนี้แล้วค่อยเร่งความเร็ว
เพราะแรงที่ต้องใช้เร่งความเร็วนั้นมากกว่าการวิ่งด้วยความเร็วคงที่มาก!
คาร์เตอร์มองไปด้านหลังอย่างตกใจ
เดี๋ยวๆ….นั่นมันอะไร?
เขาเห็นชายต่างถิ่นที่แต่งตัวแปลกๆ คนหนึ่งกำลังวิ่งเข้ามาทางเขาด้วยความเร็ว ระยะห่างระหว่างเขากับอีกฝ่ายนั้นกำลังหดสั้นลงอย่างรวดเร็ว เมื่อดูจากผิวหนังและรอยสักบนตัวแล้ว เขาน่าจะเป็นชาวโมเกน แต่…ไอหูยาวๆ ที่อยู่บนหัวกับหางที่แกว่งอยู่ด้านหลังนั่นมันอะไรกัน?
หรือว่าอีกฝ่ายใช้การแต่งตัวเหมือนสัตว์ป่านี้เพื่อรับพลัง?
ภาพอันน่าตกตะลึงนี้ทำเอาคาร์เตอร์ตัวสั่นขึ้นมา เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกอะไรบางอย่างที่น่ากลัวจับจ้องอยู่อย่างไรอย่างนั้น เขากัดฟันแล้ววิ่งตรงไปยังเส้นชัย!
ท่ามกลางเสียงตะโกนเชียร์ของผู้ชม ทั้งสามคนแทบวิ่งข้ามเส้นชัยไปพร้อมๆ กัน
ชนะ…ชนะแล้วเหรอ?
หัวหน้าอัศวินหายใจหอบพร้อมวิ่งต่อไปอีกสิบกว่าเมตรก่อนจะหยุดลง เขาไม่ได้สนใจดูคู่แข่ง หากแต่มองตรงไปยังอัฒจันทร์
ฝ่าบาทโรแลนด์ วิมเบิลดันเองก็กำลังยืนขึ้นมา
“ยินดีกับพวกเจ้าด้วย ทุกคนไม่เพียงแต่จะเข้าเส้นชัยได้อย่างราบรื่น แต่ยังสามารถทำผลงานได้ยอดเยี่ยมอย่างมากด้วย!” เสียงของเขาดังไปทั่วทั้งถนนหลวงทันที “ถึงแม้การแข่งขันยังไม่จบลง แต่ผู้ชนะสามอันดับแรกก็ได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว! ทั้งสามอันดับได้แก่….”
คาเตอร์กลืนน้ำลาย
“อันดับสาม คาร์เตอร์ แลนนิส”
เมื่อได้ยินผลที่ประกาศออกมา หัวหน้าอัศวินหลับตาลงอย่างเจ็บใจ บ้าเอ้ย สุดท้ายก็ยังช้าไปก้าวนึง…
“อันดับสอง โรฮาน เบิร์นเฟลม…ชายชาวโมเกน!”
โรแลนด์ชะงักไปเล็กน้อย เสียงพูดคุยของชาวบ้านดังขึ้นมา
“ส่วนคนที่เข้าเส้นชัยเป็นคนแรกคือซันฟลาวเวอร์จากเขตลองซอง! ปรบมือเป็นกำลังใจให้พวกเขาด้วย!”
เอ่อ…นางเป็นใคร?
ท่ามกลางเสียงโห่ร้องของทุกคน คาร์เตอร์กับอีกสองคนต่างกำลังยืนตกตะลึงอยู่กับที่
อีกด้านหนึ่ง ฮันนี่ปิดสมุดลง ก่อนจะกระโดดลงมาจากด้านหลังรถจักรยาน “รายงานข่าวของวันนี้เสร็จเรียบร้อย ขอบคุณเจ้ามากนะ”
“พวดหัวข่าวท่านคิดได้แล้วเหรอขอรับ?” เวเดอร์ถามอย่างสงสัย
“อื้อ ได้แล้ว” เธอยิ้มเล็กน้อย “ก็เขียนผลการแข่งขันลงไปก็พอ”
เพราะแค่นั้นก็เพียงพอจะดึงดูดความสนใจจากทุกคนได้แล้ว
‘งานแข่งขันกีฬาวันฉลองชัยสมัยแรกปิดฉากลงอย่างสมบูรณ์ ผู้ชนะคือซันฟลาวเวอร์สาวน้อยวัย 12 ปี’