Release That Witch ปล่อยแม่มดคนนั้นซะ - ตอนที่ 1072
กระทั่งซีกัลหายไปในขอบฟ้าแล้ว โรแลนด์จึงหันกลับมา
“บางครั้งข้าก็อยากจะสร้างหอบัญชาการเอาไว้ตรงแนวหน้าของสนามรบเลย” เขาพูดเบาๆ “เอามันไปตั้งไว้ในที่ๆ ทุกคนสามารถมองเห็นได้ จะได้เรียกขวัญกำลังใจ แล้วข้าก็จะได้เหมือนเข้าไปรบในสงครามแห่งโชคชะตาด้วยตัวเองด้วย ต่อไปเวลานักประวัติศาสตร์จะบันทึกประวัติศาสตร์ จะได้มีอะไรไว้อวดหน่อย”
“พระองค์สนใจเรื่องนั้นด้วยเหรอเพคะ?” ในอากาศเองก็มีเสียงตอบกลับมาเบาๆ เหมือนกัน “ยิ่งไปกว่านั้นก่อนที่จะได้บันทึกประวัติศาสตร์ พระองค์คงต้องทนฟังเสียงบ่นของเวนดี้กับบุ๊คจนกว่าพระองค์จะยอมรับว่าตัวพระองค์คิดผิดแล้วก็ล้มเลิกความคิดนั้นไปเพคะ หม่อมฉันเคยโดนมาแล้วเพคะ นั่นไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะรับได้เลยเพคะ พระองค์อย่าทำให้พวกนางบ่นดีกว่าเพคะ”
โรแลนด์หลุดยิ้มออกมา “นั่นสินะ”
การต่อสู้กับปีศาจนั้นอาจจะกินเวลาหลายเดือนหรืออาจจะหลายปี เขาเองก็ต้องพยายามปรับตัวเข้ากับสภาพแบบนี้ให้ได้
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เขาจึงมองไปที่องครักษ์ที่อยู่อีกด้านหนึ่ง “เรียกคนอื่นๆ เข้ามา เดี๋ยวข้าจะไปเมืองชายแดนที่สามซักหน่อย”
อีกฝ่ายรีบทำความเคารพทันที “พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท! กระหม่อมจะไปแจ้งหน่วยอารักขาพ่ะย่ะค่ะ!”
เคโม ชูอีลแจ้งมาว่าการวิจัยแมลงยางนั้นมีความคืบหน้าใหม่
ตอนนี้ได้เวลาที่ตรวจสอบดูซักหน่อย
“ไปกันเถอะ” เขาหันไปด้านข้างพร้อมพยักหน้า จากนั้นก็เดินออกไปจากประตูโรงเก็บเครื่องบิน
……
หลังแน่ใจแล้วว่าของเหลวจากแมลงยางนั้นมีประโยชน์อย่างมาก แม่มดทาคิลาจึงทำการเปิดถ้ำใหม่เพื่อใช้สำหรับเลี้ยงพวกมัน อีกทั้งยังรับผิดชอบเป็นคนเลี้ยงดูพวกมันในเวลาว่างด้วย
เพราะการจะหาคนธรรมดาที่ทั้งสามารถเผชิญหน้ากับหนอนกลืนกินและใช้ชีวิตอยู่ในถ้ำแมลงได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย บวกกับการทำงานอยู่ใต้ดินเป็นเวลานานจะทำให้สภาพจิตใจของคนเหล่านั้นมีปัญหาได้ง่าย การเลี้ยงดูแมลงยางทั้งหมดจึงกลายเป็นความรับผิดชอบของทางทาคิลา ส่วนคนงานนั้นรับผิดชอบแค่เรื่องการขนส่งและแปรรูปยางเท่านั้น
เรียกได้ว่านี่เป็นอีกครั้งที่โรแลนด์ประเมินผิด เขาประเมินความอดทนในการทำงานอยู่ในสภาพแวดล้อมที่คับแคบของมนุษย์สูงเกินไป
แมลงยางนั้นเกลียดแสงสว่าง ชื่นชอบความชื้น แล้วก็เคลื่อนไหวตามเสียง ต่อให้ไม่มีความสามารถในการโจมตี แต่การที่ต้องมานั่งฟังเสียงซู่ๆ ซ่าๆ ตลอดทั้งวันก็อาจจะทำให้คนเป็นบ้าได้
เขาไม่สามารถจัดหาอุปกรณ์สื่อสารและอุปกรณ์ให้แสงสว่าง ไม่สามารถตั้งกฎการเปลี่ยนเวรอย่างละเอียด แล้วก็จัดทำคู่มือการทำให้จิตใจสงบสำหรับคนงานทุกคนได้ ไม่ใช่ว่าเขาทำไม่ได้ แต่เป็นเพราะประสิทธิภาพที่ได้กลับมามันไม่คุ้มกับเงินที่เสียไป โรงงานจำนวนมากที่อยู่ด้านนอกนั้นต้องการแรงงานคน ดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นต้องเอาแรงงานจำนวนมากมาเสียไปกับการเลี้ยงแมลงยางเพียงเพื่อที่จะทำให้การเลี้ยงแมลงยางอยู่ในรูปแบบที่ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาแม่มด ด้วยเหตุนี้เขาจึงให้แรงงานคนธรรมดาไปทำงานสนับสนุนที่สบายขึ้นหน่อย
ส่วนไพรซ์ ดีซาเองก็ไม่ได้ว่าง เขาเขียนคู่มือเลี้ยงดูและคู่มือผลิตยางออกมาในเวลาว่าง ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับยางของเมืองเนเวอร์วินเทอร์ที่ผุดขึ้นมาเยอะแยะเหมือนดอกเห็ดก็เป็นความดีความชอบของเขาเหมือนกัน
ขนาดของปศุสัตว์ที่ใหญ่ขึ้นทำให้มีตัวอย่างในการทดสอบน้ำยางเพิ่มมากขึ้น แล้วก็เป็นเพราะฐานการวิจัยเหล่านี้ โรแลนด์จึงตัดสินใจให้เคโม ชูอีลเข้ามามีส่วนร่วมเพื่อดำเนินแผนการขั้นต่อไป
หลังลงมาใต้ดิน พาซาร์ก็เข้ามาต้อนรับ ‘ถวายบังคมเพคะ ฝ่าบาท คนของพระองค์ตอนนี้อยู่ในห้องทดลองแมลงยางเพคะ ให้หม่อมฉันไปแจ้งพวกเขาไหมเพคะ?’
“ไม่ต้อง เจ้าพาข้าไปก็พอ” โรแลนด์พูดยิ้มๆ “เออใช่ ข้าได้ยินว่าเซลีนสร้างลานเลี้ยงแมลงขึ้นมาใหม่ แถมยังใหญ่กว่าเดิมใช่ไหม?”
‘ใช่เพคะ มันอยู่ตรงข้ามกับห้องทดลองเพคะ’ พาซาร์ผงกหนวดหลัก ‘มันเป็นการประยุกต์มาจากผลการศึกษาล่าสุดของสถาบันค้นคว้าศาสตร์ลึกลับ แล้วก็ยืมแนวคิดมาจากโลกแห่งความฝันด้วยเพคะ พระองค์อยากจะทอดพระเนตรมันหน่อยไหมเพคะ?’
“โอ้?” เขาตื่นเต้นขึ้นมาทันที “เอาสิ”
‘อย่างนั้นเชิญเสด็จตามหม่อมฉันมาเลยเพคะ’
หลังเดินทะลุอุโมงค์ยาวเส้นหนึ่งมา พาซาร์ก็พาโรแลนด์มายืนอยู่ตรงหน้าถ้ำขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง
ตรงปากถ้ำมีรั้วเหล็กติดตั้งเอาไว้ เห็นได้ชัดว่าเพื่อป้องกันไม่ให้แมลงหลบหนีออกมา หลังเดินผ่านประตูเล็กบานหนึ่งเข้าไปในถ้ำ เขาก็ต้องตกตะลึงไปเล็กน้อย สภาพแวดล้อมภายในถ้ำเหมือนลอกแบบมาจากโบราณสถานในภูเขาหิมะเลย มีทั้งพืชเรืองแสง ระบบน้ำและเห็ดขนาดยักษ์ แต่ว่าทั้งสามสิ่งนั้นถูกจัดให้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย พืชเรืองแสงตั้งเรียงไปตามผนังถ้ำและสายน้ำกลายเป็นเหมือนไฟถนน ส่วนเห็ดที่เป็นอาหารหลักของพวกแมลงนั้นเป็นพืชที่มีจำนวนเยอะที่สุด ดอกเห็ดขนาดใหญ่แทบจะปิดพื้นเอาไว้จนมิด แมลงยางจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังปีนป่ายไปบนเห็ด ภายใต้แสงสลัวๆ เขามองเห็นแค่ร่างกายสีขาวที่กำลังขยับเขยื้อนไปมา พวกมันกำลังกัดกินเห็ดอย่างมีความสุข เสียงกัดที่ดังระงมทำเอาโรแลนด์นึกถึงหนอนไหมที่เขาเลี้ยงไว้ในสมัยเด็ก
แต่สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกแปลกใจมากกว่านั้นก็คือขนาดของถ้ำ
เมื่อดูจากพืชเรืองแสงที่เรียงยาวจนมองไม่เห็นว่าปลายสุดอยู่ตรงไหนแล้ว เกรงว่าที่นี่คงมีขนาดใหญ่กว่าโถงหลักของเมืองชายแดนที่สามเสียอีก เดิมเขาคิดว่าสถานที่เลี้ยงแมลงยางแห่งใหม่นั้นจะเป็นแค่ถ้ำไม่กี่ถ้ำที่เชื่อมต่อถึงกัน แต่ตอนนี้ดูเหมือนมันจะไม่ใช่แบบนั้นเสียแล้ว จุดแสงสีน้ำเงินที่ตั้งเรียงเป็นระเบียบและระบบน้ำที่เหมือนบ่อน้ำทำให้เขารู้สึกเหมือนที่นี่เป็นโรงงานขนาดใหญ่
‘ที่นี่ตั้งอยู่ตรงริมเทือกเขาสิ้นวิถีพอดีเพคะ ความลึกของมันอยู่ในระนาบเดียวกับพื้นของเมืองเนเวอร์วินเทอร์เพคะ’ พาซาร์เอ่ยปากอธิบาย ‘ถ้าเปิดถ้ำจากทางทิศใต้ มันก็ห่างจากถนนหลักของอาณาจักรเพียงแค่ 1,000 เมตรเท่านั้นเพคะ’
นี่หมายความว่าลานเลี้ยงแมลงที่สร้างขึ้นมาใหม่นี้ห่างจากเมืองเนเวอร์วินเทอร์เพียงแค่กำแพงกั้นเท่านั้นเหรอ ถ้าเขาจำไม่ผิดล่ะก็ จากระยะทางที่เดินมาเมื่อครู่นี้ ที่นี่น่าจะห่างจากเขตเมืองไม่ถึงสองกิโลเมตร ด้านนอกกำแพงถ้ำน่าจะเป็นเขตที่อยู่อาศัยชั่วคราวของผู้อพยพพอดี
โรแลนด์ถามออกมาเหมือนกำลังคิดถึงอะไรบางอย่าง “เพื่อสะดวกในการขนส่งของเหลวเหรอ?”
‘ใช่เพคะ’ พาซาร์ยกหนวดหลักขึ้นมา ‘ฝ่าบาท เชิญพระองค์ทอดพระเนตรทางใต้เพคะ’
เขาหันมองไปตามที่อีกฝ่ายชี้ ก่อนจะเห็นทางด้านล่างของผนังเหมือนจะมีรางน้ำขนาดใหญ่อยู่เส้นหนึ่ง เหมือนกับเป็นเส้นทางหนีที่จงใจทิ้งเอาไว้ให้แมลงยางอย่างไรอย่างนั้น
“มันคืออะไร?”
‘พื้นที่สำหรับสกัดน้ำยางเพคะ’ พาซาร์อธิบาย ‘เซลีนใช้ประโยชน์จากจุดเด่นของพวกแมลงที่มักจะวิ่งเข้าหาเสียง นางขุดอุโมงค์ที่แคบลงเรื่อยๆ ขึ้นมาเส้นหนึ่ง ขอเพียงส่งเสียงจากปลายอีกด้านหนึ่งของอุโมงค์ พวกมันก็จะมุดตามเสียงเข้าไปเพคะ แต่ด้วยความกว้างของอุโมงค์ พอถึงตรงปลายอีกด้านหนึ่งมันก็จะโผล่ออกมาได้แค่หัว ส่วนลำตัวของมันจะติดอยู่ในอุโมงค์เพคะ’
“จากนั้นล่ะ?” ไนติงเกลที่ยืนอยู่ข้างๆ ถามขึ้นมา
‘หลังจากนั้นพวกเราก็จะเปิดแกนเวทมนตร์ที่ถูกติดตั้งอยู่ตรงปลายอีกด้านหนึ่งของอุโมงค์’ พาซาร์พูดอธิบาย ‘มันถูกปรับให้กลายเป็นรูปแบบใบมีด ปกติพายุใบมีดนี้จะถูกใช้ในการป้องกันศัตรูในพื้นที่แคบๆ แกนเวทมนตร์จะปล่อยลำแสงเวทมนตร์ออกมาจนเต็มพื้นที่อุโมงค์ แล้วก็ฉีกทุกอย่างที่ขวางหน้าเป็นชิ้นๆ ซึ่งอุโมงค์ยาวเส้นนั้นก็คือทางที่ลำแสงเวทมนตร์วิ่งผ่าน’
‘แมลงจะถูกตัดเป็นชิ้นๆ ของเหลวที่อยู่ในท้องของมันจะไหลผ่านรางน้ำไปรวมกัน เช่นนี้เราก็ไม่จำเป็นต้องไปไล่ฆ่ามันทีละตัว เราสามารถรวบรวมของเหลวเป็นจำนวนมากได้ด้วยการฆ่าเพียงครั้งเดียว’ เธอชะงักไปเล็กน้อย ‘ระยะทาง 1,000 เมตรที่เหลือทิ้งเอาไว้ก็เพื่อใช้ในการรวบรวมของเหลว จากที่เซลีนคิดเอาไว้ คนงานจะสามารถเดินจากนอกภูเขาเข้ามาในพื้นที่สำหรับสกัดน้ำยางได้ แต่นอกจากรางน้ำกับแอ่งน้ำที่ใช้รวบรวมของเหลวแล้ว พวกเขาจะไม่เห็นอะไรอย่างอื่น เช่นนี้จะทำให้สะดวกในการเก็บรวบรวมน้ำยาง แล้วก็ไม่ทำให้พวกเขาหวาดกลัวด้วย’
“……”
โรแลนด์พูดไม่ออกไปทันที
เขาไม่มีอะไรจะเสริมอีก
ด้วยเทคโนโลยีที่มีอยู่ในตอนนี้ วิธีนี้เรียกได้ว่าสมบูรณ์อย่างมาก เมื่อคิดถึงกระบวนการตั้งแต่การเลี้ยงดูไปจนถึงการเก็บรวบรวมน้ำยาง ถ้าเขาสร้างโรงงานยางเอาไว้ที่ด้านนอกภูเขาขึ้นมาอีก นั่นก็เท่าเป็นการรวมการผลิตและการแปรรูปเข้าไว้ด้วยกัน โดยเฉพาะรูปแบบการฆ่าที่ดูเหมือนโรงเชือดในยุคสมัยปัจจุบัน ไม่เสียทีที่ไปเรียนรู้แนวคิดมาจากโลกแห่งความฝัน
เพียงแต่การเอาแกนเวทมนตร์อันล้ำค่ากับผลงานการวิจัยทั้งชีวิตของเซลีนมาใช้เป็นมีดเพื่อฆ่าสัตว์แบบนี้มันจะเป็นการขี่ช้างจับตั๊กแตนหรือเปล่า
ต่อให้หาผู้ถูกเลือกไม่เจอแล้วก็ไม่สามารถกระตุ้นทัณฑ์สวรรค์ได้ พวกเจ้าก็ไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้นี่นา…
ไม่สิ โรแลนด์พลันพบปัญหาบางอย่าง
“ลานเลี้ยงแมลงนี้สามารถรองรับแมลงได้กี่ตัว?”
‘ประมาณหมื่นตัวเพคะ แต่ว่าด้วยความเร็วในการขยายพันธ์ของมัน คาดว่าต้องใช้เวลาประมาณหนึ่งปีถึงจะสามารถขยายพันธ์ได้จนเต็มลานเลี้ยงแห่งนี้เพคะ’
“อย่างนั้นศพแมลงหลังจากที่เอาของเหลวออกมาแล้วล่ะ?” เขาถามคำถาม “พวกเจ้าคิดจะขนมันไปไว้ที่ไหน?”
นี่เป็นปัญหาที่ค่อนข้างใหญ่ทีเดียว โรแลนด์เคยดูสารคดี ฟาร์มเลี้ยงไก่ในยุคสมัยปัจจุบันจะผลิตมูลไก่ออกมาวันละหลายร้อยตัน ถ้าจัดการไม่ดี ก็จะทำให้เกิดมลพิษทางน้ำอย่างรุนแรงได้ ทันทีที่ขนาดของฟาร์มใหญ่ขึ้น รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ล้วนแต่สามารถสร้างปัญหาขนาดใหญ่ได้
ตอนนี้ยังสามารถใช้แม่มดอาญาสิทธิ์มาขนซากของพวกแมลงได้ แต่เมื่อไรที่แมลงมีจำนวนเป็นหมื่นตัว การจะฆ่ามันนั้นเป็นเรื่องง่าย แต่มันจะเกิดปัญหาในตอนที่จัดการเก็บกวาด ถ้าไม่สามารถจัดการซากศพได้ทันเวลา การเอามันกองไว้ในถ้ำนั้นจะต้องส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงแน่
‘วางพระทัยได้เพคะ ฝ่าบาท’ พาซาร์ยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย ‘พวกฟรานจัดการได้เพคะ ความจริงหนอนกลืนกินสามตัวใช้พลังไปเยอะมากตอนที่ขุดถ้ำขึ้นมาใหม่เพคะ’
“อ็อก…” หลังจากเข้าใจคำพูดนี้ ไนติงเกลพลันส่งเสียงคลื่นไส้ออกมาทันที
เอ่อ…โอเค
ในที่สุดตอนนี้โรแลนด์เข้าใจแล้วว่าทำไมตรงทางเข้าถึงต้องติดตั้งรั้วขนาดใหญ่เอาไว้ทั้งๆ ที่มีประตูเล็กอยู่
เหมือนมันจะเอาไว้ให้แม่มดทั้งสามเข้ามากินอาหารสินะ
…………………………………………………………….