Release That Witch ปล่อยแม่มดคนนั้นซะ - ตอนที่ 1096 แนวที่ถนัด
โรแลนด์เดินเข้าไปในโถงรับแขก นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เจอหน้าปรมาจารย์ด้านการแสดงผู้มีชื่อเสียง เส้นผมเกือบครึ่งหัวของเขาเป็นสีขาว ใบหน้ามีหนาวเคราปกคลุม บนร่างสวมใส่ชุดสูทสีดำดูเรียบร้อย ปกเสื้อไม่มีรอยย่นแม่แต่นิดเดียว เรียกได้ว่าเหมือนตัวละครที่เดินออกมาจากในภาพวาดไม่มีผิด เต็มไปด้วยกลิ่นอายของคนในยุคสมัยนี้
ถ้าเอาภาพของเขาไปแขวนไว้บนกำแพงห้องเรียน พร้อมกับมีคำพูดคนดังอีกซักสองประโยคอยู่ด้านล่าง คงจะดูเข้ากันทีเดียว
ถึงแม้อายุจะมากแล้ว แต่สายตาของอีกฝ่ายกลับยังดูเปล่งประกาย หลังก้มตัวทำความเคารพแล้ว สายตาของเขาก็จ้องมองมาที่โรแลนด์โดยไม่มีทีท่าว่าจะหลบสายตาแม้แต่น้อย เห็นได้ว่าว่าสำหรับปรมาจารย์ด้านการแสดงคนนี้แล้ว นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาได้เจอเชื้อพระวงศ์
“ฝ่าบาท เขาคือท่านเคแกน เฟสพ่ะย่ะค่ะ” บารอฟถูมือพูดแนะนำ “เขาเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในด้านการแสดงละครเวทีของเกรย์คาสเซิล ชื่อเสียงของเขาโด่งดังไปทั้งสี่อาณาจักรใหญ่ ตอนที่อยู่เมืองหลวงเก่า กระหม่อมเองก็ไปชมการแสดงของคณะละครเคแกนอยู่บ่อยๆ พ่ะย่ะค่ะ”
ดูเจ้าสิ…โรแลนด์แอบเบะปาก เป็นถึงหัตถ์พระราชาแล้ว สำรวมหน่อยไม่ได้หรือไง
“ถวายบังคมพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาทวิมเบิลดัน” เคแกนพูดพร้อมเอามือขึ้นมาทาบที่หน้าอก “กระหม่อมเหมือนจะรู้ถึงสาเหตุที่พระองค์ไม่ยอมทอดพระเนตรละครเรื่องใหม่ของกระหม่อมแล้วล่ะพ่ะย่ะค่ะ”
“โอ้?” โรแลนด์ดังลงไปบนเก้าอี้ “ไหนลองว่ามาซิ”
“พระองค์….ทรงดูอ่อนเยาว์อย่างมากพ่ะย่ะค่ะ” เคแกนค่อยๆ ตอบ “อ่อนเยาว์จนหม่อมฉันคาดคิดไม่ถึง”
“เจ้าจะบอกว่าคนที่ไม่มีประสบการณ์จะไม่สามารถดูละครที่เจ้าแต่งได้อย่างนั้นเหรอ?” ถ้าเป็นตอนแรกๆ ที่เขากลายเป็นผู้ปกครองเมืองชายแดน บางทีเขาคงจะรู้สึกไม่พอใจที่ได้ยินคำตอบแบบนี้ แต่ตอนนี้เขาอยู่ในตำแหน่งนี้มานานแล้ว คำพูดแบบนี้จึงยากที่จะทำให้โรแลนด์ใส่ใจได้
แต่ว่าน้ำเสียงที่ดูเบาลงยังคงแสดงให้เห็นถึงท่าทีของเขา
บารอฟที่อยู่ข้างๆ แอบส่งสายตาให้เคแกน
“ไม่พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท ที่กระหม่อมบอกว่าอ่อนเยาว์นั้นไม่ได้หมายถึงอายุ หากแต่เป็นจิตใจพ่ะย่ะค่ะ” เคแกน เฟสส่ายหัว “มันไม่ได้เริ่มต้นจากศูนย์ แล้วก็ไม่ได้จบที่หนึ่งร้อย กระหม่อมเคยเจอขุนนางที่กำลังอยู่ในวัยหนุ่มมาเยอะแยะมากมาย แต่จิตใจของพวกเขากลับเชื่องช้าเหมือนคนแก่ ส่วนพวกขุนนางแก่ๆ ก็ไม่แน่ว่าจะต้องมีจิตใจที่แก่เสมอไป” เมื่อพูดถึงตรงนี้เขาก็หัวเราะเยาะตัวเองขึ้นมา “เดิมกระหม่อมคิดว่าตัวเองอ่อนเยาว์มากแล้ว แต่เมื่อได้มาเจอพระองค์ หม่อมฉันถึงได้รู้ว่าที่แท้มันไม่มีขอบเขต”
“ข้าควรจะคิดว่านี่เป็นคำชมใช่ไหม?” โรแลนด์เลิกคิ้วขึ้นมา
“ความอ่อนเยาว์ของจิตใจนั้นไม่สามารถใช้คำว่าดีหรือไม่ดีมาวัดได้พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท” เคแกนไม่ได้พูดรับคำอย่างที่ควรจะเป็น “ความอ่อนเยาว์ของจิตใจจะมาพร้อมกับความทะเยอะทะยาน ความกล้า ความอยากรู้อยากเห็น…มันทำให้คนๆ หนึ่งก้าวต่อไปข้างหน้าได้ แล้วก็ทำให้คนๆ หนึ่งสูญเสียความเป็นตัวเองไปได้เหมือนกัน บางครั้งอาจจะนำเอาภัยพิบัติมาสู่ตัวเองได้ ดังนั้น…”
“อะแฮ่มๆ ท่านเคแกน..!” บารอฟพูดตัดบท
“เอ่อ ขอประทานอภัยพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมเพียงแค่พูดไปเรื่อยเท่านั้น” ปรมาจารย์ด้านการแสดงได้สติคืนนี้ “อายุมาก เจอคนมามาก ก็มักจะมีความคิดแปลกๆ ปรากฏขึ้นมา ขอพระองค์ได้โปรดอภัยให้กระหม่อมด้วยพ่ะย่ะค่ะ”
“ไม่เป็นไร” โรแลนด์โบกมือ ภายในใจเริ่มรู้สึกประทับใจเคแกนขึ้นมาหน่อย “กลับมาเข้าเรื่องกันดีกว่า ข้าได้ยินบารอฟบอกว่าเจ้าคิดจะรับแสดงละครที่ข้าเขียน หรือไม่ก็เข้าไปอยู่ในคณะละครสตาร์ฟลาวเวอร์อย่างนั้นเหรอ? ทำไมล่ะ?”
เคแกนตอบออกมาตรงๆ ว่า “กระหม่อมอยากจะทำความเข้าใจหนังเวทมนตร์ให้มากขึ้นพ่ะย่ะค่ะ”
อย่างนี้นี่เอง หลังถูกตัวเองปฏิเสธกลับไป เขาก็คิดจะใช้วิธีนี้มาทำให้เป้าหมายของตัวเองเป็นจริงอย่างนั้นเหรอ
“ต่อให้ต้องแสดงละครที่เจ้าดูถูกพวกนั้นน่ะเหรอ?”
“กระหม่อมไม่ได้ดูถูกละครเหล่านั้นพ่ะย่ะค่ะ..” เขาอธิบาย “กระหม่อมเพียงแต่รู้สึกว่าการแสดงละครนั้นจำเป็นต้องเตรียมตัวให้พร้อมทั้งกายและใจ นักแสดงถึงจะสามารถก้าวหน้าไปได้โดยไม่หยุด ไม่เช่นนี้มันก็จะสิ้นเปลืองเวลาและความสามารถ แล้วก็เป็นการทำให้ผู้ชมผิดหวังด้วยพ่ะย่ะค่ะ”
“แต่ผู้ชมที่จะมาดูเจ้าแสดงนั้นไม่ใช่ขุนนาง ข้าเองก็ไม่มีเวลาที่จะเจ้าฝึกซ้อมนานขนาดนั้น ถ้าเข้าไปอยู่ในคณะละครสตาร์ฟลาวเวอร์ เจ้าก็อาจจะถูกบีบให้แสดงละครที่เจ้าบอกว่าไม่สมบูรณ์ แบบนี้ชื่อเสียงของปรมาจารย์ด้านการแสดงก็จะเสียไปทันที ถึงแม้จะเช่นนี้เจ้าก็ยังยินดีที่จะขึ้นแสดงเหรอ?”
“ฝ่าบาท กระหม่อม…”
“ดังนั้นเรื่องที่จะเข้าไปอยู่ในคณะละครสตาร์ฟลาวเวอร์ข้าว่าอย่าดีกว่า” โรแลนด์ย่อมไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายได้มีโอกาสพูดว่ายินดี “ส่วนละครที่ข้าจะให้ขึ้นแสดงหลังจากนี้ก็ต้องการฐานผู้ชมจำนวนหนึ่ง นั่นจึงจำเป็นต้องให้ทางคณะละครสตาร์ฟลาวเวอร์เป็นคนแสดง ข้าเกรงว่าในระยะเวลาสั้นๆ แค่นี้คงจะไม่มีบทที่เหมาะจะให้เจ้าแสดงได้”
ครั้งนี้กลายเป็นบารอฟที่ส่งสายตาให้โรแลนด์
“แต่ว่า…” เขาทำเป็นมองไม่เป็นสายตาของหัวหน้าสำนักบริหาร “มันก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสเลย”
“เชิญพระองค์ตรัสมาได้เลยพ่ะย่ะค่ะ” ร่างกายของเคแกนโน้มลงมาข้างหน้าเล็กน้อย
“ความจริงแล้ว ข้าวางแผนที่จะเขียนบทละครที่เกี่ยวกับความรักขึ้นมาเรื่องหนึ่ง โดยมันจะสะท้อนให้เห็นถึงดอกไม้แห่งความรักที่เกิดขึ้นในยุคสมัยอันมืดมิด ซึ่งจะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ศาสนจักรกำลังทำให้สังคมที่วุ่นวายกลับสู่ความสงบอีกครั้ง” โรแลนด์อธิบายความคิดเขาอย่างช้าๆ “ได้ยินว่าเจ้าถนัดเรื่องละครเกี่ยวกับความรักกับการกอบกู้ช่วยเหลือมากที่สุด ดังนั้นก็ถือว่าละครเรื่องนี้เป็นการทดสอบเจ้าก็แล้วกัน ถ้าเจ้าสามารถทำให้มันประสบความสำเร็จได้ อย่างนั้นตอนที่ถ่ายหนังเวทมนตร์ครั้งต่อไป ข้าอาจจะตอบรับคำขอของเจ้าก็ได้ ว่ายังไง?”
หลังจากที่ยึดเมืองศักดิ์สิทธิ์เก่าได้ เมืองเนเวอร์วินเทอร์ก็ป่าวประกาศออกไปว่าคนที่อยู่เบื้องหลังความวุ่นวายทั้งหมดนั้นคือพระสันตปาปาตัวปลอม ส่วนพระสันตะปาปาตัวจริงนั้นถูกฆ่าตายไปนานแล้ว ตอนนี้ผู้รักษาการณ์แทนพระสันตะปาปาคนใหม่สนับสนุนเกรย์คาสเซิลอย่างเต็มที่เพื่อช่วยกันหยุดยั้งสงครามแห่งโชคชะตาที่จะมาถึง
หลังป่าวประกาศไปหนึ่งปีกว่า ประวัติศาสตร์ที่เขียนขึ้นมาใหม่นี้ก็กลายเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่ยอมรับกัน ตอนนี้ถึงเวลาที่ต้องขยับขึ้นไปอีกขั้น นั่นก็คือเปิดเผยสงครามแห่งความเชื่อและจุดกำเนิดของศาสนจักร เมื่อถึงตอนนั้นศาสนจักรที่กำเนิดขึ้นมาใหม่ก็จะแตกต่างไปจากศาสนจักรที่คอยทำร้ายแม่มดเหมือนอย่างในอดีต และกลายเป็นส่วนหนึ่งในอำนาจทางการเมืองของเนเวอร์วินเทอร์
“พระองค์หมายความว่าละครเรื่องนี้เป็นละครที่ดัดแปลงมาจากเรื่องจริงหรือพ่ะย่ะค่ะ?” เคแกนพูดงึมงำขึ้นมา “กระหม่อมขอเจอหน้าสองคนที่อยู่ในเรื่องนี้ได้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”
“ตอนนี้พวกเขายังอยู่ที่อาณาจักรดอว์น ทีมช่วยเหลือยังไม่ได้ออกเดินทางไปช่วยเหลือพวกเขาเลย” โรแลน์ยักไหล่ “แล้วก็ข้าคิดว่าเจ้าน่าจะเข้าใจถึงความหมายของคำว่าดัดแปลงนะ…”
“แน่นอนพ่ะย่ะค่ะ” เคแกนพยักหน้า “บทละครที่กระหม่อมเขียนขึ้นมาก็ล้วนแต่เขียนขึ้นมาจากเรื่องเล่าของราชวงศ์ นอกจากนี้ยังมีการปรับเปลี่ยนชื่อตระกูลและชื่อนามสกุลของตัวละครด้วย แต่ว่า…”
“แต่ว่าอะไร?”
เคแกนลังเลเล็กน้อย แต่หลังจากนั้นก็เหมือนตัดสินใจได้ “ฝ่าบาท สำหรับกระหม่อมแล้วนี่เป็นสิ่งที่กระหม่อมยังไม่เคยลองทำมาก่อน ถ้าหากเป็นไปได้ กระหม่อมอยากจะเข้าร่วมทีมช่วยเหลือของพระองค์เพื่อเก็บข้อมูลปฏิบัติการครั้งนี้ทั้งหมดตลอดการเดินทาง ซึ่งนั่นจะเป็นประโยชน์ต่อการซ้อมการแสดงอย่างมากพ่ะย่ะค่ะ”
“ถึงแม้ต้องไปวูล์ฟฮาร์ทน่ะเหรอ?”
“กระหม่อมไม่คิดว่าตัวเองจะสามารถคิดรายละเอียดต่างๆ ออกมาโดยที่ไม่มีข้อมูลอยู่ในหัวได้ แล้วก็ไม่อยากทำให้โอกาสที่พระองค์พระราชทานมาให้ต้องสูญเปล่าไปด้วย” เคแกนพูดตรง “ขอพระองค์โปรดวางพระทัย ร่างกายของกระหม่อมยังแข็งแรงอยู่พ่ะย่ะค่ะ แล้วก็ยังมีลูกศิษย์ที่ติดตามกระหม่อมมาด้วย กระหม่อมไม่ไปถ่วงการทำงานของทีมช่วยเหลือแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”
………………………………………………………………………