Release That Witch ปล่อยแม่มดคนนั้นซะ - ตอนที่ 1137 ปีศาจระดับสูงที่ถูกขับไล่
ที่ราบลุ่มบริบูรณ์ แนวหน้าของสถานีหมายเลขเก้า
“เป้าหมายอยู่ที่ 6 องศา 4 ลิปดาไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ ระยะทาง 6,500 เมตร พื้นที่หนึ่งตาราง ยิงปูพรมได้”
ซิลเวียหมอบอยู่บนหลังเมซี่พร้อมมองลงยังพื้นที่ด้านหน้าที่อยู่ไม่ไกล บนพื้นมีร่องรอยของต้นหญ้าจำนวนมากที่ถูกดึงขึ้นมาจากดิน เศษโคลนที่กระจัดกระจายก็ยังดูใหม่อย่างมาก มันน่าจะเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อ 2 – 3 วันนี้เอง
“รับทราบ” ในรูนสดับมีเสียงตอบของซาวีดังขึ้นมา “จะเริ่มยิงหลังจากนี้ 5 นาที” หลังจากนั้นซาวีก็พูดเสริมขึ้นมาอีกประโยค “ระวังตัวด้วย”
ซิลเวียมองไปทางทาคิลา ที่ระดับความสูงตอนนี้ เธอพอจะให้ตาเปล่ามองเห็นตำแหน่งของซากเมืองศักดิ์ิสิทธิ์แล้ว ถึงแม้จะอยู่ห่างออกไป 50 เมตร ดูแล้วยังเล็กกว่าเล็บมือเสียอีก แต่เธอกลับรู้สึกเหมือนมันอยู่แค่เอื้อม ซากปรักหักพังของเมืองและต้นไม้ทำให้มันเหมือนเป็นรูปปั้นที่ถูกลืมทิ้งเอาไว้
ถึงแม้ระยะนี้จะอยู่นอกขอบเตการสำรวจของดวงตาเวทมนตร์ แต่เธอก็ยังรับรู้ได้ถึงดวงดาวสีแดงที่ยังคงส่องแสงสว่างวาบๆ ที่อยู่ในเมือง ขอเพียงมันไม่เคลื่อนไหว นั่นก็หมายความว่าพวกเธอยังคงปลอดภัยอยู่
“อื้อ ข้าเข้าใจแล้ว”
เธอเก็บรูนสดับ ก่อนจะตบไปที่ต้นคอของเมซี่ “พวกเราบินขึ้นไปสูงอีกหน่อย”
“อ๊าซซ!”
เมซี่ที่แปลงเป็นอสูรสยองส่งเสียงคำรามออกมา ก่อนจะกางปีกที่ยาวเกือบสิบเมตรพร้อมกับบินขึ้นไป ร่างกายของเธอในตอนนี้มีขนาดประมาณอสูรสยองสองตัวรวมกัน เรียกได้ว่าเป็นขนาดที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาอสูรสยอง ถือได้ว่าพอๆ กับอสูรสยองตัวมหึมาที่คาบราดาบีใช้ขี่ก่อนหน้านี้เลย
หลังบินสูงขึ้นไปประมาณร้อยเมตร ด้านหลังเธอก็มีเสียงปืนใหญ่ดังทึบๆ ขึ้นมา
จากนั้นพื้นที่ด้านหน้าเธอก็มีเสาฝุ่นจำนวนนับไปด้วยพวยพุ่งขึ้นมาทันที เธอมองเห็นคลื่นที่แผ่กระจายออกมาจากรอบๆ เสาฝุ่นเหล่านั้นได้อย่างชัดเจน คลื่นเหล่านั้นกวาดไปถึงตรงนั้น เศษดินเศษหญ้าก็จะกระจุยกระจายขึ้นมา พื้นดินแข็งๆ กลายเป็นเหมือนพื้นน้ำที่ส่องประกายระยิบระยับ ไม่ว่าจะเห็นมาแล้วกี่ครั้ง แต่ภาพแบบนี้ก็ยังทำให้เธอรู้สึกมีความสุขที่ได้เห็นอยู่
จากนั้นก็เป็นการยิงรอบที่สอง รอบที่สาม…
กองพันปืนใหญ่ที่ผ่านการฝึกซ้อมมาสามารถส่งกระสุนปืนใหญ่เข้าไปในพื้นที่เป้าหมายที่เธอระบุได้อย่างแม่นยำ และเป็นเพราะการจะระบุขนาดพื้นที่เป้าหมายที่จะทำโจมตีจากบนฟ้านั้นทำได้ยาก ดังนั้นเธอจึงมักจะใช้การประมาณแบบคร่าวๆ ในการแจ้งขนาดพื้นที่แทน ซึ่งพื้นที่หนึ่งตารางที่เธอพูดนั้นจะมีขนาดประมาณพื้นที่ปราสาทของเมืองเนเวอร์วินเทอร์ ซึ่งมีขนาดประมาณ 16,400 ตารางเมตร แล้วก็เป็นหนึ่งในสถานที่ที่เธอมีความคุ้นเคยมากที่สุด
หลังปืนใหญ่ระดมยิงไปได้ไม่นาน ซิลเวียก็มองเห็นเศษแขนขากระเด็นลอยตามเสาฝุ่นขึ้นมา
กระสุน 152 มม.เพียงพอที่จะสร้างหลุมกระสุนที่มีความลึกประมาณ 1 เมตรได้ ซึ่งระดับความลึกที่ปีศาจส่วนใหญ่เอาตัวฝังลงไปในดินจะไม่มีทางเกิน 50 เซนติเมตร และนี่ยังเป็นดินที่ถูกหมอกแดงกัดกร่อนด้วย หากเป็นดินธรรมดา อย่างมากพวกมันก็แค่เอาส่วนหัวปักลงไปในดินเท่านั้น ถ้าเกิดกระสุนบังเอิญไปหล่นใส่หัวพวกมันพอดี เกรงว่าแม้แต่ซากศพของพวกมันก็คงไม่เหลือด้วยซ้ำ
แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าต้องให้กระสุนตกใส่พวกมันเท่านั้นถึงจะฆ่าพวกมันได้ คลื่นกระแทกที่กระเพื่อมขึ้นมาวงแล้ววงเล่าต่างหากถึงจะเป็นเพฌฆาตสังหารอย่างแท้จริง โดยเฉพาะพวกเป้าหมายที่เอาตัวฝังลงไปในดิน ร่างกายที่แนบสนิทกับดินโคลนก็หมายความว่าพวกมันไม่มีตัวช่วยรับแรงกระแทกใดๆ ปีศาจที่อยู่ในรัศมี 20 เมตรของจุดตกกระสุนปืนจะถูกแรงกระแทกสังหารจนเสียชีวิต
วิธีการระดมยิงเข้าไปโดยไม่สนใจตำแหน่งของศัตรูว่าอยู่ตรงนั้นแบบนี้ฝ่าบาททรงเรียกมันว่าการกวาดล้าง
หลังผ่านการยิงไปห้ารอย ปีศาจร้อยกว่าตัวที่ฝังตัวอยู่ในดินก็ปืนขึ้นมาจากดินและเริ่มวิ่งหนีไปด้านหลัง
“ศัตรูเผยตัวเอง ยืนยันว่าเป็นปีศาจคุ้มคลั่ง ระดมยิงไปทางมุมเดิม” ซิลเวียรายงาน
“รับทราบ”
ทันใดนั้นเอง ซิลเวียเหมือนรับรู้ได้ถึงอะไรบางอย่าง เธอเงยหน้ามองไปทางทาคิลา จุดสีแสงดวงนั้นเหมือนจะสว่างขึ้นมามากกว่าเดิม และเริ่มบินมาทางแนวรบอย่างรวดเร็ว
เธอรีบหยิบเอารูนสดับออกมา “ไลต์นิ่ง รีบกลับมา! ผู้พิฆาตเวทมนตร์เคลื่อนไหวแล้ว!”
เมซี่เองก็หันหัวกลับและบินหนีออกไปอย่างรวดเร็ว
หลังจากนั้นไม่กี่นาที ทั้งสามคนก็กลับมาถึงแนวป้องกันของกองทัพที่หนึ่ง ผู้พิฆาตเวทมนตร์เองก็เข้ามาอยู่ในขอบเขตการมองเห็นของดวงตาเวทมนตร์ ซิลเวียมองเห็นปีศาจผิวสีน้ำเงินที่มีรูปร่างคล้ายคนกำลังบินวนอยู่เหนือพื้นที่ที่ถูกปืนใหญ่ระดมยิง จากนั้นมันจึงจ้องมาทางทั้งสามคนด้วยสีหน้าที่อาฆาตแค้น
และในระหว่างนี้กองพันปืนใหญ่ก็ไม่ได้หยุดยิง
ถึงแม้มันจะโกรธแค้น แต่มันกลับทำอะไรไม่ได้ ซิลเวียรู้ว่าแม้จะเป็นผู้พิฆาตเวทมนตร์ที่แข็งแกร่งก็ไม่สามารถหยุดยังการสังหารของกระสุนปืนใหญ่ได้
สุดท้ายมันถึงได้แต่ต้องทิ้งเหล่าปีศาจที่กำลังวิ่งหนีกันอย่างชุลมุนแล้วบินกลับ
ซิลเวียรู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันที
“มันไปแล้วอ๊าซ พวกเราจะสอดแนมดูอีกรอบไหม?” เมซี่ตะโกนออกมา
เธอมองดูไลต์นิ่งที่ยืนกำหมัดแน่น สุดท้ายเธอจึงส่ายหน้าออกมา “วันนี้พอเท่านี้ก่อน ข้ายังต้องเก็บพลังเวทมนตร์เอาไว้สำหรับตอนเย็นอีก ยิ่งไปกว่านั้นพื้นที่รอบๆ ระยะ 5 – 6 กิโลเมตรพวกเราก็ตรวจดูหมดแล้ว แค่นี้พอจะรับประกันความปลอดภัยให้กับทีมก่อสร้างในระยะเวลา 2 – 3 วันนี้ได้แล้วล่ะ”
…..
หลังกลับมาถึงฐานบัญชาการใต้ดินของสถานีหมายเลขเก้า ซิลเวียก็ระบายสีเขียวลงไปบนพื้นที่หนึ่งบนแผนที่ นั่นคือพื้นที่ที่ถูกทำการกวาดล้างไปในวันนี้
และพื้นที่สีเขียวแบบนี้ก็แทบจะล้อมรอบทางรถไฟหมดแล้ว
“ลำบากเจ้าหน่อยนะ” เฟร์รานยกชาแดงแก้วหนึ่งเดินเข้ามา “ดูเหมือนแผนขับไล่ของท่านเอดิธส์จะได้ผลอย่างที่คาดไว้นะเนี่ย”
ซิลเวียรับเอาน้ำชามาพร้อมพูดยิ้มๆ “อื้อ ตอนนี้เหมือนจะเป็นอย่างนั้น”
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอเจออะไรแบบนี้
ความจริงนับตั้งแต่บีบเข้าไปใกล้จนถึงระยะ 1 กิโลเมตรห่างทาคิลา ระดับความอันตรายในการสอดแนมของเธอก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก เวลาที่เธอใช้ดวงตาแห่งเวทมนตร์สำรวจลงไปใต้ดินจะทำให้เธอไม่ทันระวังการโจมตีจากบนอากาศ และในระยะทางเท่านี้ ปีศาจสามารถพกถังหมอกแดงขึ้นมาเป็นจำนวนมากและอยู่บนอากาศเป็นเวลานานได้
ด้วยเหตุนี้ทางทีมที่ปรึกษาจึงได้วาง ‘แผนการขับไล่’ ขึ้นมา โดยจะแบ่งพื้นที่สอดแนมออกเป็นชั้นๆ ระยะ 0 – 2 กิโลเมตรจะเป็นพื้นที่ที่มีความปลอดภัย โดยภายในพื้นที่นี้จะถูกดวงตาเวทมนตร์กวาดตาดูทุกซอกทุกมุม หลังจากนั้นก็อยู่ภายใต้การดูแลของสถานีตลอดเวลา โอกาสที่จะถูกลอบโจมตีมีไม่สูงนัก ภายในระยะนี้ หน่วยป้องกันทางอากาศสามารถออกมาจากหลุมเพลาะและขยายขอบเขตในการคุ้มครองให้กว้างขึ้นได้
ระยะ 2 – 10 กิโลเมตรนั้นเป็นพื้นที่ตรวจสอบ พื้นที่นี้จะอยู่ภายในระยะยิงของปืนใหญ่ป้อม แล้วก็เป็นพื้นที่ทางอากาศที่ซิลเวียกับเมซี่บินตรวจสอบเป็นหลัก หลังผ่านการกวาดล้างจนมั่นใจว่ามีความปลอดภัยแล้ว เธอก็จะใช้สีเขียวทำเครื่องหมายเอาไว้บนแผนที่
ระยะ 10 – 50 กิโลเมตรเป็นพื้นที่อันตราย มีเพียงไลต์นิ่งคนเดียวที่เข้าไปสอดแนม เป้าหมายก็คือหาศัตรูที่แอบซ่อนอยู่ในเมฆและแจ้งเตือนล่วงหน้า เท่ากับเป็นการซื้อเวลาถอยให้กับซิลเวียและเมซี่ แล้วก็มีเพียงไลต์นิ่งเท่านั้นมีจะสลัดหลุดการไล่ล่าของศัตรูในระยะนี้ได้ในพริบตา ต่อให้อีกฝ่ายเป็นผู้พิฆาตเวทมนตร์ มันก็ไม่มีทางที่จะไล่ตามแม่มดที่บินด้วยความเร็วเสียงได้
และความจริงก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าแผนขับไล่นั้นค่อนข้างได้ผลทีเดียว หน่วยสอดแนมสามารถกำหนดได้ว่าจะโจมตีตอนไหน ส่วนศัตรูก็ทำได้แต่อีกตั้งรับ ถ้าไม่มีกองทัพภาคพื้นดินคอยสนับสนุนด้วย อาศัยเพียงอสูรสยองเพียงอย่างเดียวก็ยากจะทำอะไรรถไฟหุ้มเกราะได้
ทำให้พื้นที่ตรวจสอบกลายเป็นพื้นที่ปลอดภัย ถอนเอาหอสังเกตการณ์ของพวกปีศาจออกไป ขณะเดียวกันก็ขับไล่ผู้พิฆาตเวทมนตร์ที่น่ากลัวที่สุดให้ออกไปอยู่นอกสนามรบ ทำให้มันไม่สามารถไล่ตามหน่วยสอดแนมได้ นี่คือหัวใจสำคัญของแผนการนี้ ถ้าสามารถทำให้อีกฝ่ายโมโหจนพุ่งเข้ามาปะทะกับแนวป้องกันแบบตรงๆ ได้ อย่างนั้นก็จะยิ่งเป็นที่ดีต่อกองทัพที่หนึ่งอย่างมาก
แต่สิ่งเดียวที่น่าเสียใจก็คือ จนถึงตอนนี้ผู้พิฆาตเวทมนตร์ยังไม่มีทีท่าว่าจะหลงกลเลย
“เออใช่” ซิลเวียมองไปรอบๆ “แล้วคุณเอดิธส์ล่ะ?”
“นางได้รับคำสั่งจากฝ่าบาท ตอนนี้นั่งซีกัลป์กลับไปเมืองเนเวอร์วินเทอร์กับท่านขวานเหล็กแล้ว” เฟร์รานตอบยิ้มๆ “ข้าคิดว่าน่าจะถึงเวลาแล้วล่ะ”
การประชุมศึกครั้งสุดท้ายเพื่อพูดคุยเรื่องแผนการรบ!
…………………………………………………………………………..