Release That Witch ปล่อยแม่มดคนนั้นซะ - ตอนที่ 1151 แผนซุ่มโจมตี (2)
โรแลนด์ย่อมต้องรู้ว่าเอดิธส์หมายถึงอะไร
การผลิตกระสุนหินอาญาสิทธิ์นั้นเจอปัญหาทางด้านเทคนิคหลายอย่าง อย่างเช่นขนาดของกระสุน หรือเรื่องการใช้กระสุนร่วมกับปืน…เนื่องจากความแข็งของหินอาญาสิทธิ์นั้นขึ้นอยู่กับขนาดของมัน ด้วยเหตุนี้เขาจึงต้องพยายามผลิตมันให้มีขนาดที่ใหญ่มากที่สุด แต่หินอาญาสิทธิ์ที่มีขนาดใหญ่ก็จะทำให้ขอบเขตของสนามพลังปิดกั้นเวทมนตร์มีขนาดใหญ่ขึ้นตาม บวกกับน้ำหนักของปืนที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก มันทำให้เกิดปัญหาในด้านการซุ่มโจมตี การขนส่งและการใช้งานได้
ในช่วงเวลาหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา อันนา อกาธา ลูเซียและแอนเดรียต่างทำการทดสอบร่วมกันเกือบร้อยครั้ง จนในที่สุดก็ได้ตัวเลขอย่างที่ต้องการออกมา
เพื่อที่จะทำให้กระสุนสามารถทนต่อการกระแทกในเวลาที่ยิงได้ หินอาญาสิทธิ์จึงถูกสกัดให้เป็นทรงกระบอกกว้าง 30 มิลลิเมตร ด้านนอกหุ้มด้วยแผ่นทองแดงอีกชั้นกลายเป็นกระสุนหุ้มเกราะปลายแหลม ด้วยเหตุนี้ขนาดของกระสุนที่ทำขึ้นมาเป็นพิเศษเพื่อจัดการกับผู้พิฆาตเวทมนตร์โดยเฉพาะนี้จึงมีขนาดใหญ่ถึง 35 มิลลิเมตร เวลาที่ถืออยู่ในมือแล้วคล้ายกับกระสุนปืนใหญ่ขนาดย่อมๆ เลยก็ว่าได้
แล้วก็มีแต่ต้องทำให้มีขนาดใหญ่เท่านี้ถึงจะทำให้กระสุนหินอาญาสิทธิ์มีความแข็งพอที่จะรับแรงกระแทกจากการยิงได้โดยไม่แตก
ส่วน ‘หลุมดำทึบ’ ที่เกิดขึ้นจากหินอาญาสิทธิ์ก็มีขนาดเกือบ 1.5 เมตร นี่หมายความว่าขนาดของตัวปืนต้องยาวมากกว่า 2 เมตร เมื่อรวมกับลำกล้องปืนเข้าไปเรียกได้ว่านี่เป็นปืนที่มีขนาดใหญ่อย่างมาก ไม่มีทางที่จะขนไปทางเรืออาร์คเวทมนตร์เหมือนเวลาปกติได้เลย ดังนั้นจึงจำเป็นต้องออกแบบให้มันถอดประกอบได้
ขณะเดียวกันขนาดลำกล้องปืนที่ใหญ่ขึ้นก็ทำให้ปืนมีแรงถีบที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก การจะใช้งานมันจึงไม่สามารถใช้แรงคนมารับแรงถีบได้เหมือนอย่างก่อนหน้านี้ มันจำเป็นต้องมีการติดตั้งขาตั้งที่ทำขึ้นมาเฉพาะถึงจะสามารถยิงได้
สุดท้ายสิ่งที่บรรยายมาด้านบนก็ทำให้ปืนกระบอกนี้มีรูปร่างที่แปลกประหลาดอย่างมาก คนยิงไม่สามารถเอื้อมมือไปจับก้านลูกเลื่อนได้ แล้วก็ไม่สามารถบรรจุกระสุนเข้ารังเพลิงด้วยแรงตัวเองได้ น้ำหนักของตัวปืนเวลาที่ประกอบเสร็จเรียบร้อยแล้วหนักเกือบจะเท่ากับผู้ใหญ่สองคน นอกจากนี้ต่อให้ใช้ muzzle brake กับตัวลดแรงกระแทกที่ท้ายปืน แต่แรงรีคอยล์ก็ยังรุนแรงจนอาจทำให้คนยิงได้รับบาดเจ็บอยู่ดี
โชคดีที่เขาคิดจะใช้อาวุธใหม่นี้เพียงแค่ครั้งเดียว ดังนั้นนี่จึงเป็นข้อเสียที่สามารถยอมรับได้
แต่ลำกล้องปืนขนาดใหญ่ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีข้อดี
ข้อดีที่เห็นได้ชัดมากที่สุดก็คือระยะยิ่งที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ปกติระยะยิงของปืนจะหมายถึงระยะยิงที่หวังผลได้ ความจริงแล้วหากกระสุนเลยระยะยิงนี้ไปมันก็ยังมีพลังทำลายในการสร้างความเสียหายอยู่ แต่เนื่องจากกระสุนมันส่ายไปส่ายมา ทำให้ไม่สามารถกำหนดจุดตกได้ จนทำให้ไม่สามารถใช้งานได้จริงในการสู้รบ แต่สำหรับแอนเดรียแล้ว ระยะยิงที่ไกลที่สุดของปืนก็คือระยะยิงที่หวังผลได้ ขอเพียงมีโอกาสที่เหรียญจะตั้งขึ้น เธอก็สามารถยิงกระสุนให้ถูกเป้าหมายได้ นี่ทำให้อาวุธใหม่นี้สามารถยิงได้ไกลมากกว่า 10 กิโลเมตร
ตัวโรแลนด์เองก็ยิ่งเข้าใจแล้วว่าทำไมเอดิธส์ถึงเลือกพื้นที่พุ่มไม้เป็นจุดซุ่มยิง
เมื่อเทียบกับปืนไรเฟิลซุ่มยิงสำหรับต่อต้านปีศาจที่แค่ให้แอชเชสแบกให้ก็ยิงได้ก่อนหน้านี้ อาวุธที่แทบจะเรียกได้ว่าเป็นปืนใหญ่กระบอกนี้จำเป็นต้องทำการประกอบก่อนถึงจะใช้งานได้ ซึ่งทำให้กินเวลาอย่างมาก ถ้าหากไม่เลือกพื้นที่ที่มีที่ซ่อนที่มิดชิด ความเสี่ยงของแผนการก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก
“สุดท้ายก็คือเส้นทางสำหรับถอย” เอดิธส์ชี้ไปบนแผนที่พร้อมพูดต่อว่า “หลังเปิดฉากยิงใส่เมืองทาคิลาแล้ว กองทัพที่หนึ่งจะส่งทหารหน่วยหนึ่งเข้าไปทางปีกขวาประมาณ 5 – 6 กิโลเมตรเพื่อรอรับหน่วยจู่โจมพิเศษกลับมา ส่วนการซุ่มโจมตีจะเริ่มขึ้นเมื่อไร นั่นก็ขึ้นอยู่กับระดับการป้องกันของศัตรู และที่ว่ามาก็คือรายละเอียดคร่าวๆ ของแผนการนี้”
ไม่นานแผนที่ถกกันมาเกือบหนึ่งอาทิตย์ก็ได้รับการเห็นด้วยจากทุกคน หลังผ่านการคัดเลือก สมาชิกของทั้งสองหน่วยก็ถูกกำหนดตัวออกมา
หน่วยสไนเปอร์มี 5 คน ได้แก่ซิลเวีย แอนเดรีย คามิล่า แม็กกี้และแอชเชส สี่คนแรกนั้นเรียกได้ว่าเป็นคนที่จำเป็นต้องมีสำหรับการซุ่มยิง ส่วนคนที่จะเป็นคนคุ้มครองคนสุดท้ายก็มีแต่พลังของแอชเชสเท่านั้นที่มีความสมดุลมากที่สุด ส่วนคนที่จะช่วยเรื่องการสอดแนมก็คือไลต์นิ่ง เมื่อเทียบกับเมซี่แล้ว ความได้เปรียบขอเธอก็คือเธอสามารถขนส่งกระสุนหินอาญาสิทธิ์ได้ แค่ใช้เชือกห้อยลงมา หินอาญาสิทธิ์ก็ไม่สามารถส่งผลกระทบมาถึงเธอได้
ไม่อย่างนั้นทุกคนคงต้องเดินเท้าเข้าไปยังด้านหลังของศัตรู
ส่วนทีมซีกัลนั้นมีอยู่ 10 คน คนที่รับผิดชอบเรื่องการสอดแนมคือเมซี่ อีกสิบคนที่อยู่บนเครื่องบินนั้นมีทิลลี เวนดี้และแม่มดอาญาสิทธิ์อีก 8 คน คนนำทีมคือโซอี้ จำนวนสมาชิกของทีมนี้้น้อยกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ในตอนแรก นั่นเป็นเพราะว่าปืนลูกซอง ปืน RPG ต่อต้านปีศาจและชุดเกราะนั้นกินน้ำหนักในการบรรทุกส่วนใหญ่ไป ถึงแม้ฮัมมิ่งเบิร์ดจะช่วยลดน้ำหนักลงไปแล้วครึ่งหนึ่งก็ตาม
ส่วนการปะทะกันแบบซึ่งๆ หน้าของกองทัพที่หนึ่งกับปีศาจบนสนามรบก็ไม่มีอะไรต้องพูดอีก ค่อยๆ สู้ไปตามที่ได้ฝึกซ้อมมาก็พอ
ทรัพยากรทั้งหมดที่ต้องใช้ในแผนการนี้ถูกดึงเอาประสิทธิภาพออกมาใช้จนถึงจดที่สูงที่สุด แล้วก็ทำให้โรแลนด์รับรู้ได้ถึงปัญหาของการขนส่งที่ยังไม่สมบูรณ์ เมื่อไม่มีแม่น้ำกับรางเหล็ก จำนวนทหารที่กองทัพที่หนึ่งสามารถส่งออกไปได้ก็จะมีจำนวนจำกัดอย่างมาก ถ้าหากเขามีหน่วยหุ้มเกราะก็คงจะดีกว่านี้ จะได้วิ่งอ้อมไปด้านหลังเพื่อตัดเส้นทางการขนส่งหมอกแดงของศัตรู แล้วก็ตีกระหนาบหน้าหลังกับกองทัพหลัก หากเป็นแบบนั้นต่อให้ผู้พิฆาตเวทมนตร์คิดหนี สุดท้ายก็คงต้องตายอยู่บนทุ่งหญ้าเพราะมีหมอกแดงไม่พอใช้
หลังจบการประชุม เอดิธส์ลุกขึ้นยืนอีกครั้ง เธอมองมาทางโรแลนด์ด้วยท่าทางลังเล
“มีอะไรอีกหรือเปล่า?” โรแลนด์เลิกคิ้วถาม
“หลังสงครามเริ่มต้นขึ้น หม่อมฉันอยากจะให้พระองค์ไปหลบอยู่ในเมืองชายแดนที่สามเป็นการชั่วคราวเพคะ สำนักงานเมืองเองก็ด้วย” เธอชะงักไปเล็กน้อย “แล้วก็รวมไปถึงแม่มดที่อยู่ในเขตปราสาทด้วยเพคะ”
“นี่หมายความว่าไง?” ในที่สุดบารอฟที่นิ่งเงียบมาตลอดก็หาช่องในการแสดงความเห็นออกมาได้ “นี่เจ้าคิดจะสั่งการฝ่าบาทเหรอ!”
อันนาพูดด้วยสีหน้ากังวลเล็กน้อย “เจ้าคิดว่าปีศาจอาจจะลอบโจมตีเมืองเนเวอร์วินเทอร์เหรอ?”
“ความเป็นไปได้มีไม่มาก แต่เราก็ไม่อาจมองข้ามได้เพคะ” หลังเอดิธส์พูดเปิดประเด็นไปแล้ว สีหน้าเธอกลับดูใจเย็นขึ้น “หมอกแดงนั้นคือข้อจำกัดของพวกปีศาจ แต่เราไม่อาจมองว่ามันเป็นขีดจำกัดของความสามารถของพวกมันได้ อย่างเช่นถังหมอกแดงที่พอให้ปีศาจ 3,000 ตัวใช้ทำสงครามก็เพียงพอที่จะทำให้ปีศาจ 1,000 ตัวใช้ในการเดินทางไกลได้เหมือนกัน ในเมื่อพวกมันเคยมาแล้วครั้งนึง อย่างนั้นก็อาจจะมีครั้งที่สองแน่นอน ถ้าครั้งนี้อีกฝ่ายไม่ได้มาข่มขู่หรือมาเตือน หากแต่บุกเข้ามาในเขตปราสาทเลย…ถ้าปีศาจที่มาไม่ใช่ปีศาจคุ้มคลั่งธรรมดาๆ หากแต่เป็นปีศาจระดับสูงล่ะก็….”
ภายในห้องประชุมเงียบไปทันที
“ถึงแม้ต้องทิ้งทาคิลางั้นเหรอ?” อกาธาขมวดคิ้วพูดขึ้นมา
“ก็คงไม่ถึงกับทิ้งซะทีเดียว หากแต่พยายามชดเชยสิ่งที่พวกมันสูญเสียไปให้ได้มากที่สุดมากกว่า”
“ข้าเข้าใจแล้ว” โรแลนด์ยิ้มๆ “ก็ทำตามที่เจ้าว่ามาแล้วกัน บารอฟ ทางสำนักงานเมืองให้เจ้าเป็นคนจัดการ รู้ใช่ไหมว่าต้องทำยังไง?”
“พ่ะ พ่ะย่ะค่ะ! ฝ่าบาท”
ความจริงถึงอีกฝ่ายจะไม่พูดเช่นนี้ เขาก็คิดที่จะไปชม ‘การถ่ายทอดสด’ อยู่ในโถงของเมืองชายแดนที่สามอยู่แล้ว ถึงแม้จะมองเห็นแค่เพียงมุมหนึ่งของเมืองทาคิลา แต่มันก็เป็นโอกาสที่หาได้ยากเหมือนกัน
“ทุกคน ข้ารู้ว่าพวกเจ้ากำลังคิดอะไรอยู่” โรแลนด์ลุกขึ้นยืน เขารู้ว่าหลังจบการประชุมครั้งนี้ คนที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องก็ต้องเดินทางไปยังแนวหน้าเพื่อทำสงครามชิงเอาพื้นที่สำหรับการอยู่รอดกลับมา….และนี่ก็ถึงเวลาในการพูดปลุกใจครั้งสุดท้ายแล้ว “ถูกต้อง ตอนนี้ชัยชนะอยู่ห่างจากพวกเราเพียงแค่ก้าวเดียวเท่านั้น ถึงแม้คนที่รู้เรื่องสงครามครั้งนี้จะมีจำนวนเพียงแค่นิดเดียว ถึงแม้คนที่รู้ความหมายของมันจะมีจำนวนเพียงแค่หยิบมือเดียว แต่สุดท้ายวันหนึ่งมันก็จะถูกมนุษย์ชาติจดจำเอาไว้ตลอดไปแน่นอน! ก่อนที่สงครามแห่งโชคชะตาจะเริ่มต้นขึ้น เกรย์คาสเซิลจะชิงเป็นฝ่ายลงมือขับไล่ปีศาจออกไปจากที่ราบลุ่มบริบูรณ์ ไม่ว่าพวกปีศาจมันจะติดพันทำศึกอยู่กับอาณาจักรซีสกายหรือไม่ แต่ความยิ่งใหญ่ของชัยชนะในครั้งนี้ก็ไม่ได้ลดลงเลยแม้แต่น้อย! สิ่งเดียวที่น่าเสียใจก็คือ…ข้าไม่สามารถเดินทางไปกับพวกเจ้าได้”
ภายในโถงประชุมไร้ซึ่งเสียงพูดใดๆ แต่ในสายตาของทุกคนกลับส่องประกายออกมา
“เอาชนะปีศาจ ยึดทาคิลากลับมา —- ข้าจะรอฟังข่าวดีจากพวกเจ้า!” เขามองไปรอบๆ พร้อมพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำ
“พ่ะย่ะค่ะ!” ทุกคนตอบรับเป็นเสียงเดียวกัน
……………………………………………………………..