Release That Witch ปล่อยแม่มดคนนั้นซะ - ตอนที่ 1202 ศึกแห่งสายฟ้า
ค่ายของตระกูลเรดสโตนเกทกับตระกูลทัสด์นั้นตั้งอยู่ด้านข้างถนนหลักที่อยู่นอกเมือง ที่นี่เดิมทีเป็นสถานที่ที่เอาไว้ให้ทหารรับจ้างของคณะพ่อค้าได้ใช้พักแรม แต่ตอนนี้มันถูกเอามาให้คณะตัวแทนของทั้งสองตระกูลใช้พัก
เนื่องจากด้านหลังติดกับอ่าวดีพพูล จึงแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะเจอกับอันตรายอะไร ด้วยเหตุนี้รอบๆ ค่ายที่พักจึงมีแค่รั้วไม้เตี้ยๆ แม้แต่ประตูก็ไม่มี บวกกับสิ่งเดียวที่อาจจะเป็นภัยต่อคณะตัวแทนก็คือคณะตัวเองของอีกฝ่ายหนึ่ง ด้วยเหตุนี้ทั้งสองฝั่งจึงไม่มีความคิดที่จะไปเฝ้าดูประตูของอีกฝ่าย แถมยังมีการเอาหอกกับโล่มาตั้งเป็นเส้นแบ่งเขตแดนด้วย
แต่หลายคนต่างก็รู้ดีว่าเส้นแบ่งเขตนี้เป็นเพียงแค่สัญลักษณ์เท่านั้น ขอเพียงเจ้าเมืองของอ่าวดีพพูลยังไม่ตัดสินใจ คณะผู้แทนของทั้งสองฝ่ายก็ไม่มีทางที่จะเปิดฉากสู้กัน ด้วยเหตุนี้การที่พวกเขาจัดคนเฝ้าประตูเอาไว้ก็เพียงเพื่อพอเป็นพิธีเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ด้านนอกยังมีฝนตกหนักอีก
ด้วยเหตุนี้ในตอนที่ทหารร้อยกว่าคนของกองทัพที่หนึ่งบีบเข้ามาถึงระยะ 200 เมตร คนของทั้งสองตระกูลก็ยังไม่รู้สึกตัวแม้แต่น้อย
จนกระทั่งเสียงตะโกนเตือนให้ยอมแพ้ดังฝ่าสายฝนขึ้นมา อัศวินของทั้งสองตระกูลถึงได้รับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลง
“นี่คือกองทัพที่หนึ่งของเกรย์คาสเซิล ตอนนี้พวกเราได้เข้าดูแลอ่าวดีพพูลแล้ว ตามกฎหมายของเนเวอร์วินเทอร์ ตอนนี้พวกเจ้าได้ทำผิดฐานบุกรุกและแทรกแซงด้วยอาวุธ พวกเจ้ามีเวลา 15 นาทีในการปลดอาวุธและยอมแพ้ ไม่อย่างนั้นพวกเราจะใช้มาตรการบังคับ และพวกเจ้าต้องเป็นฝ่ายรับผิดชอบผลทุกอย่างหลังจากนี้!”
ถ้าจะใช้คำอะไรมานิยาม มันก็ควรจะเป็นคำว่าไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
หัวหน้าคณะตัวแทนของตระกูลทัสก์เลิกผ้าม่านออก ก่อนจะเห็นชายคนหนึ่งยืนอยู่นอกรั้วพร้อมถือกรวยรูปร่างแปลกๆ ส่งเสียงตะโกนออกมา อีกด้านหนึ่งไม่ไกลก็มีธงด้ามนึงปักเอาไว้ สัญลักษณ์ที่เป็นสีแปลกๆ บนนั้นดูเลือนราง แต่นั้นไม่ใช่ตราประจำตระกูลที่เห็นบ่อยๆ ของวูล์ฟฮาร์ทแน่นอน เพียงแต่เขาไม่สามารถเชื่อมโยงคนร้อยกว่าคนที่จู่ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นมากับเกรย์คาสเซิลเข้าไว้ด้วยกันได้ สำหรับเขาแล้ว นั่นเหมือนเป็นประเทศแปลกหน้าที่เดินทางมาจากแดนไกลที่ปกติมักจะปรากฏตัวขึ้นมาในข่าวลือต่างๆ เท่านั้น
นอกจากนี้คนพวกนั้นยังเอาผ้าใบมาคลุมไว้บนตัวแลวยืนตากฝน ดูแล้วน่าลำบากอย่างมาก พอมองดูไกลๆ ก็ทั้งรู้สึกสงสารแล้วก็น่าขัน บวกกับที่พวกเขาเอาแต่ตะโกนบอกให้คน 700 – 800 คนปลดอาวุธ นี่ยิ่งทำให้รู้สึกเหมือนไม่ใช่เรื่องจริงอย่างไรอย่างนั้น
หัวหน้าคณะเดินลงมาชั้นล่าง ก่อนจะพบว่าทหารรับจ้างที่อยู่ชั้นหนึ่งต่างก็มายืนอออยู่ที่หน้าต่าง แล้วก็ใช้คำหยาบต่างๆ นาๆ ด่าทออีกฝ่าย อีกทั้งยังทำท่าทางต่ำๆ ด้วย ถ้าไม่เป็นเพราะข้างนอกมีฝนตกอยู่ เกรงว่าพวกเขาคงจะออกไปถุยน้ำลายพร้อมตะโกนด่าตรงหน้าแล้ว
สมแล้วที่เกิดมาเป็นคนชั้นต่ำ แต่ในฐานะที่เขาเป็นขุนนาง เขาจำเป็นต้องคิดให้รอบคอบกว่านี้หน่อย
อย่างเช่นถ้าอีกฝ่ายเป็นคนของเกรย์คาสเซิลจริงๆ จะทำยังไง
หรือไม่ก็ควรจะดูปฏิกิริยาของเรดสโตนเกทก่อนว่าเป็นยังไง
เพราะว่าคนพวกนี้บอกให้ยอมแพ้ ซึ่งเขาไม่มีทางที่จะออกคำสั่งเช่นนี้แน่ ยิ่งไปกว่านั้นถ้ามีเขาแค่คนเดียวส่งลูกน้องออกไปเจรจา เช่นนั้นจะยิ่งทำให้ดูเหมือนว่าเขาเป็นรองอีกตระกูล
ทั้งสองฝ่ายอยู่ห่างกันขนาดนี้ หัวหน้าคณะไม่รู้กังวลเรื่องที่อีกฝ่ายจะบุกโจมตีเข้ามาอย่างกะทันหันเลย เหล่าทหารรับจ้างหยิบอาวุธมาไว้ข้างกาย ในกลุ่ม ‘มนุษย์ผ้าใบ’ นั้นมองไม่เห็นม้าแม้แต่ตัวเดียว แค่นี้ก็เพียงพอที่จะให้ลูกน้องของเขารับมือแล้ว
ในขณะที่เขากำลังวางแผนต่างๆ อย่างชะล่าใจ เวลาก็ค่อยๆ เดินผ่านไปเรื่อยๆ เขามองข้ามคำเตือนของกองทัพที่หนึ่งไปโดยสิ้นเชิง พูดอีกอย่างก็คือเขาไม่ได้รับรู้สึกความน่ากลัวในคำเตือนของอีกฝ่ายเลย
สำหรับขุนนางของวูล์ฟฮาร์ทแล้ว การทำศึกเป็นเรื่องอะไรที่ต้องใช้เวลาและมีกระบวนการที่ชัดเจน ตั้งแต่การสังเกตการณ์ศัตรู วิเคราะห์วางแผน ออกคำสั่ง รวมพลเข้าโจมตีศัตรู ทุกอย่างล้วนแต่ค่อยเป็นค่อยไป ต่อให้เป็นศัตรูที่แข็งแกร่งเหมือนอย่างศาสนจักรก็หนีไม่พ้นขั้นตอนเหล่านี้เหมือนกัน
เรียกได้ว่ากองทัพที่หนึ่งที่ผ่านการทำศึกกับปีศาจมาแล้ว เพียงแค่ในด้านความคิดก็แตกต่างกับขุนนางเหล่านี้โดยสิ้นเชิง
สงครามระเบิดขึ้นมาอย่างกะทันหัน แทบจะไม่มีใครได้ทันตั้งตัว
ในตอนที่เวลาเดินครบ 15 นาที สิ่งที่ดังขึ้นมาเป็นเสียงแรกคือเสียงปืนครก พวกมันเข้ามาแทนที่ปืนใหญ่สนามรุ่นก่อนหน้าที่ทั้งหนักและใช้งานไม่สะดวก ถึงแม้อานุภาพของมันจะไม่อาจเทียบกับปืนใหญ่ป้อมได้ แต่แค่นี้ก็เพียงพอที่จะใช้จัดการพวกป้อมที่สร้างขึ้นมาจากไม้ เนื่องจากนั้นสามารถถอดประกอบแล้วแบกขึ้นหลังได้ เหล่าทหารจึงพึ่งพาอาวุธชนิดนี้อย่างมาก ในศึกรวมอาณาจักร พวกเขามักจะใช้มันเป็นสัญญาณในการเปิดฉากโจมตี
ค่ายพักที่อยู่ห่างออกไป 200 เมตรกลายเป็นผุยผงในพริบตา เสียงตะโกนด่าของคณะตัวแทนเองก็ถูกเสียงระเบิดกลบไปจนหมด ที่พักที่สร้างขึ้นมาจากไม้ไม่สามารถต้านการการโจมตีของปืนครกได้ กระแสอากาศที่เกิดจากการระเบิดฉีกเสากำแพงและหน้าต่างเป็นชิ้นๆ หลังจากกระหน่ำยิ่งไปหลายรอบ ที่พักภายในค่ายก็ถล่มลงมา
หัวหน้าหน่วยของกองทัพที่หนึ่งออกคำสั่งให้บุกเข้าไป
ทหารยกปืนแล้วเข้าไปล้อมค่ายเอาไว้
ศัตรูส่วนใหญ่ยู่ด้านหลังค่าย เพียงแต่ทั้งสองตระกูลนั้นไม่สามารถทำการตอบโต้อะไรได้เลย ทหารรับจ้างที่ไม่กลัวตายวิ่งฝ่าหมอกควันออกมา แต่ก็ถูกเสียงปืนที่ดังขึ้นยิงล้มลงไปกับพื้น เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกศัตรูลอบยิงธนูใส่ กองทัพที่หนึ่งจึงเฝ้ารออยู่ด้านนอกค่ายจนกระทั่งกลุ่มควันถูกส่ายฝนชะจนหายไป พวกเขาถึงจะพังรั้วบุกเข้าไปด้านใน
ทหารทุกคนยิงปืนอย่างระมัดระวัง ไม่ใช่เป็นเพราะพวกเขามีเมตตาแต่อย่างใด หากแต่เป็นเพราะพวกเขาต่างรู้ว่าในเหมืองของฝ่าบาทกำลังต้องการแรงงานจำนวนมาก
ขณะเดียวกัน เสียงเตือนให้ยอมแพ้ก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง
ครั้งนี้หลายๆ คนเลือกที่จะทำตาม
การต่อสู้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วแล้วก็จบลงไปอย่างรวดเร็ว ไม่ถึง 30 นาที ภัยคุกคามที่ทำให้บารอนลำบากใจก็ถูกกำจัดไปจนสิ้น
…..
หลังกลับมาถึงคฤหาสน์ จีน เบ็ตยังคงตกตะลึงกับเหตุการณ์ต่อสู้ก่อนหน้านี้อยู่
ถึงแม้เขาจะพอรับรู้ถึงความแข็งแกร่งของเกรย์คาสเซิลมาแล้ว แต่เขาก็คิดไม่ถึงเลยว่าพวกเขาจะแข็งแกร่งได้ขนาดนี้ นี่ดูไม่เหมือนการต่อสู้ปกติที่เขาเคยเห็นมาเลย
ในที่สุดตอนนี้บารอนก็เข้าใจคำพูดของขวานเหล็กที่บอกว่า ‘ถ้าเทียบกับการพูดแล้ว เจ้าไปดูให้เห็นด้วยตาตัวเองจะดีกว่า’ — ในฐานะที่ได้ไปเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดด้วยตาตัวเอง เขาไม่สามารถใช้คำพูดมาบรรยายสิ่งที่ตัวเองเห็นได้จริงๆ ถ้าจะพูดให้ได้ มันก็เหมือนเป็นความสุขจากการได้เห็นอย่างหนึ่ง ทหารของเกรย์คาสเซิลเคลื่อนไหวอย่างเงียบๆ ท่ามกลางสายฝน ไม่มีคำพูดฟุ่มเฟือยหรือการสนทนา ความเงียบที่ไร้ซึ่งซุ่มเสียงกับเสียงระเบิดกัมปนาทมันช่างเป็นภาพที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เรียกได้ว่ามันสร้างความประทับใจได้มากกว่าอาวุธที่พวกเขาใช้เสียอีก
คนเหล่านี้ผ่านอะไรมากันแน่ถึงได้กลายเป็นแบบนี้?
“ตอนนี้เจ้าเชื่อแล้วใช่ไหมว่าพวกข้าสามารถปกป้องอ่าวดีพพูลได้?” เสียงพูดของขวานเหล็กดังแทรกความคิดเขา
จีน เบ็ตพบว่าตัวเองไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้นอกจากพยักหน้า
“วางใจได้” อีกฝ่ายยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย “เจ้าไม่จำเป็นต้องหวาดกลัวกองทัพที่หนึ่ง โดยเฉพาะเมื่อเจ้าตัดสินใจที่จะรับใช้ฝ่าบาทแล้ว ศัตรูหน้าไหนก็ตามที่โจมตีอ่าวดีพพูลก็เท่ากับเป็นการก้าวล่วงอำนาจของฝ่าบาทด้วย นี่ไม่ใช่ปัญหาของเจ้าเพียงคนเดียวอีกต่อไป อย่าลืมสิ ตอนนี้เจ้าเป็นส่วนหนึ่งของเกรย์คาสเซิลแล้ว”
ส่วนหนึ่งของเกรย์คาสเซิล? ช่างเป็นคำพูดที่แปลกจริงๆ…บารอนคิดในใจ เขาอยู่วูล์ฟฮาร์ทมานานขนาดนี้ เขาไม่เคยคิดว่าตัวเองมีความสัมพันธ์ใดๆ กับอาณาจักรมาก่อน แต่ในน้ำเสียงของแม่ทัพกองทัพที่หนึ่ง ทั้งสองอย่างนี้เหมือนจะเกี่ยวข้องกันอย่างไรอย่างนั้น
เขาไม่ค่อยๆ เข้าใจว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น แต่เขากลับพบว่าตัวเองไม่ได้รู้สึกปฏิเสธคำพูดนี้
หลังนิ่งเงียบไปครู๋ จีน เบ็ตจึงถอนหายใจออกมา “เรื่องเกณฑ์ชาวบ้าน ปล่อยให้เป็นหน้าที่ข้าเอง”
……………………………………………………………………….