Release That Witch ปล่อยแม่มดคนนั้นซะ - ตอนที่ 1236 เหมือนจนน่าตกใจ
หลังขับมาได้ประมาณ 20 นาที จีพีเอสก็แจ้งว่าพวกเขามาถึงที่หมาย
โรแลนด์มองไปรอบๆ แต่เขากลับมองไม่เห็นสิ่งก่อสร้างที่จะดูเหมือนโรงพยาบาลเลย สิ่งที่เขามองเห็นกลับเป็นตึกขนาดใหญ่ที่ดูสวยงามหรูหรา เผลอๆ อาจจะดูหรูมากกว่าพิพิธภัณฑ์ศิลปะเสียอีก
“ที่ีนี่แหละ” การ์เซียพยักหน้า
“เธอแน่ใจเหรอ?” โรแลนด์ขับรถไปทางประตูอย่างไม่แน่ใจ จากนั้นเขาจึงสังเกตเห็นตัวหนังสือขนาดใหญ่เขียนว่า ‘สถานพักฟื้นไรน์กรีนฟิลด์’ ติดอยู่บนกำแพง
“ใช่สิ เพราะทุกคนที่ฉันพามาก็ทำท่าแปลกใจเหมือนกับนายเนี่ยแหละ”
ด้านหลังประตูหน้ามีผู้ชายตัวใหญ่ใส่สูทกับแว่นดำสองสามคนเดินเข้ามาล้อมรถเอาไว้ หนึ่งในนั้นเคาะกระจกแล้วพูดว่า “ขอโทษด้วย ที่นี่เป็นที่ส่วนบุคคล ไม่มีบริการจอดรถ”
มุมปากโรแลนด์กระตุกขึ้นมา เฮ้ๆ…ท่าทางแบบนี้มันหมายความว่ายังไงกันเนี่ย นี่พวกเขาจะบอกว่าตัวเองแค่มาจอดรถงั้นเหรอ ขับรถตู้มาเยี่ยมคนป่วยไม่ได้เหรอไง
ในขณะที่เขาคิดจะหยิบใบอนุญาตไล่ล่าออกมาให้อีกฝ่ายดู การ์เซียพลันหมุนกระจกลงแล้วยื่นการ์ดใบหนึ่งออกใบ “รถเพิ่งจะซื้อมาได้ไม่นาน ป้ายทะเบียนยังไม่ได้บันทึกเข้าไปในระบบ พวกนายลงบันทึกให้หน่อยแล้วกัน”
อีกฝ่ายตกตะลึงไปเล็กน้อย หลังรับบัตรมาแล้วก็มองดูรอบอยู่อีกสักพัก จากนั้นจึงหมุนตัวเดินกลับไปที่ห้องควบคุม ในตอนที่เขาเดินออกมาใหม่ ท่าทีของเขาก็เปลี่ยนไป “ขอโทษด้วยครับคุณการ์เซีย รถที่คุณลงทะเบียนเอาไว้ไม่ใช่คันนี้ พวกผมก็เลย…”
“เปลี่ยนรถมันก็เป็นเรื่องธรรมดาไม่ใช่เหรอ?” การ์เซียพูดตัดบทอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“อย่างนั้น….” คนๆ นั้นมองมาทางโรแลนด์ “ไม่ทราบท่านนี้คือ…”
“คนขับรถของฉัน
บรรยากาศตรงนั้นดูอึดอัดขึ้นมาเล็กน้อย สุดท้ายหัวหน้าคนนั้นก็พูดตอบขึ้นมา “เข้าใจแล้วครับ เดี๋ยวผมจะไปลงทะเบียนให้คุณเดี๋ยวนี้แหละครับ”
ไม่นานประตูก็เลื่อนเปิดออก โรแลนด์ปล่อยคลัทช์ รถตู้ส่งเสียงบรื้นๆ ออกมา ก่อนจะขับผ่านประตูหน้าของสถานพักฟื้นเข้าไปอย่างช้าๆ
เมื่อมองผ่านกระจกมองหลัง เขาเหมือนจะเดาความรู้สึกของผู้ชายพวกนั้นออก
เปลี่ยนรถก็ยังเปลี่ยนเป็นรถตู้ แถมยังต้องมีคนขับรถให้ด้วย การ์เซียน่าจะเป็นผู้ฝึกยุทธ์ที่ตกอับที่สุดเท่าที่พวกเขาเคยเจอมาแล้วล่ะ…”
“เอ่อ ฉันนึกว่าเธอจะไม่พูดโกหกซะอีก”
“นั่นเป็นเพราะว่านายไม่รู้จักฉัน” การ์เซียยักไหล่ “เวลาที่ไม่ใช่สถานการณ์สำคัญอะไร ฉันก็ไม่ได้เถรตรงเหมือนอย่างที่นายคิดหรอก ยิ่งไปกว่านั้นนายเองก็เป็นหนึ่งในสมาชิกของสมาคม เพียงแค่ยังไม่ได้บัตรประจำตัวเท่านั้น”
“แล้วใบอนุญาตไล่ล่าใช้ไม่ได้เหรอ?”
“ข้อมูลรายละเอียดของผู้ที่ถือใบอนุญาตนั้นเป็นความลับของสมาคม มีคนแค่ไม่กี่คนที่รู้ได้ ในจุดนี้ไม่เหมือนกับผู้ฝึกยุทธ์ชื่อดังที่เป็นดารา” การ์เซียตอบอย่างจริงจัง “ถึงแม้มันจะแสดงถึงการยอมรับของสมาคม แต่มันก็เป็นการเพิ่มความเสี่ยงที่จะถูกไล่ล่าเหมือนกัน ในอดีตเคยมีเหตุการณ์ที่ฟอลเลนอีวิลรุมฆ่าผู้ฝึกยุทธ์อยู่แล้วครั้ง ส่วนผู้ฝึกยุทธ์ส่วนใหญ่ที่โดนฆ่าก็ล้วนแต่เป็นคนที่เปิดเผยสถานะของตัวเอง”
พูดอีกอย่างก็คือขอเพียงตัวเองเปิดเผยสถานะออกไป ฟอลเลนอีวิลก็จะเอาแกนพลังแห่งธรรมชาติมาส่งให้ตัวเองถึงที่?
แต่เมื่อคำนึงถึงความปลอดภัยของซีโร่และคนอื่นๆ ในเขตชุมชน สุดท้ายโรแลนด์จึงล้มเลิกความคิดนี้ไป
หลังจากที่ได้คุยกับมิสต์ เขาก็ไม่สามารถมองคนที่อยู่ในโลกแห่งความฝันเป็นเหมือน NPC ที่อยู่ในเกมได้อีก
หลังเข้ามาในสถานพักฟื้น โรแลนด์ถึงได้พบว่าที่นี่สวยงามอย่างมาก พื้นที่ไม่เพียงแต่จะกว้างขวาง แต่มันยังมีทั้งสวนดอกไม้ น้ำตก แล้วก็สะพานเล็กๆ นอกจากนี้เขายังมองเห็นป้ายบอกทางไปสถานที่ต่างๆ อย่างเช่นบ่อน้ำพุร้อน สระว่ายน้ำ สนามกอล์ฟ ดูแล้วไม่ได้ด้อยไปกว่าสถานที่ท่องเที่ยวชั้นยอดบางแห่งเลย
ความยากจนได้จำกัดจินตนาการของเขาเอาไว้
ถึงแม้จะกลายเป็นราชาแห่งเกรย์คาสเซิล เขาก็ไม่เคยคิดที่จะสร้างโรงพยาบาลให้กลายเป็นแบบนี้เลย
ตึกหอพักผู้ป่วยนั้นตั้งอยู่ใจกลางของสถานพักฟื้น เมื่อดูจากกำแพงกระจกที่ส่องแสงระยิบระยับแล้ว จะบอกว่ามันเป็นโรงแรมระดับห้าดาวก็คงไม่เกินไป
ทั้งสองคนเดินเข้าไปในล็อบบี้ ผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่เหมือนภูเขาคนหนึ่งเดินเข้ามา เขาอายุประมาณ 40 กว่า ผิวสีแทน กล้ามเนื้อบนร่างกายทำให้ชุดผู้ฝึกยุทธ์ขยายใหญ่ขึ้นมา คลื่นพลังแห่งธรรมชาติบนร่างกายเองก็ชัดเจนอย่างมาก ถึงจะอยู่ห่างกันสิบกว่าเมตรโรแลนด์ก็ยังสัมผัสได้ถึงแรงกดดัน
“เขาคืออาจารย์ของอาจารย์” การ์เซียกระซิบเบาๆ จากนั้นจึงพยักหน้าให้ชายคนนั้นเล็กน้อย “ท่านผู้คุม…”
“เรื่องมิสต์ ฉันขอโทษด้วยนะ” ร็อคย่อตัวลงเล็กน้อย พร้อมกับวางสองมือลงไปบนไหล่ของการ์เซีย “ฉันไม่ได้ปกป้องเธอให้ดี”
พอพูดถึงมิสต์ สีหน้าการ์เซียก็ดูเศร้าขึ้นมาทันที เธอส่ายหัวแล้วพูดว่า “นี่ไม่ใช่ความผิดของท่านค่ะ…ตอนที่อาจารย์ยังอยู่ อาจารย์มักจะพูดอยู่เสมอว่าต้องมีซักวันที่ผู้ฝึกยุทธ์ต้องสละตัวเองเพื่อต่อสู้กับการกัดกิน ถ้าหากกลัวล่ะก็ คนๆ นั้นก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นสมาชิกของสมาคม”
“เธอสอนลูกศิษย์ได้ดีจริงๆ” ร็อคถอนใจ “วางใจได้ ฉันจะต้องให้ไอพวกที่มันบุกโจมตีเข้ามาชดใช้ในสิ่งที่พวกมันทำแน่”
“ฉันเองก็ยินดีที่จะทุ่มเทเพื่อขับไล่การกัดกินค่ะ”
ร็อคพยักหน้าชื่นชม ก่อนจะยืดตัวขึ้นแล้วมองไปทางโรแลนด์ “เธอน่าจะเป็นนักล่าฟอลเลนอีวิลฝีมือดีคนนั้น คุณโรแลนด์สินะ ยินดีที่ได้พบนะ ฉันคือร็อค หนึ่งในผู้คุมของเมืองปริซึม”
“สวัสดีครับ” โรแลนด์จับมือกับอีกฝ่าย
“โชคดีที่การเข้ามาของเธอทำให้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างฝ่ายยุคเก่ากับยุคใหม่ผ่อนคลายลง ในจุดนี้ฉันต้องขอบคุณเธอด้วย” ร็อคพูดตรงๆ “หลังจากนี้ขอให้เธอช่วยปกป้องโลกใบนี้ด้วยนะ”
“เป็นเกียรติอย่างยิ่งครับ” โรแลนด์ตอบอย่างหนักแน่น
กล้ามาขุดกำแพงโลกแห่งความฝันของเขา แล้วเขาจะไม่จำกัดพวกมันให้สิ้นซากได้ยังไง?
คำพูดนี้ทำเอาการ์เซียรู้สึกฮึกเหิมขึ้นมา เหมือนกับว่าในที่สุดคนที่เธอมาเข้ามาก็เดินมาถูกทางแล้ว
กระทั่งสามโมงตรง กิจกรรมเยี่ยมผู้ป่วยก็เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ ทั้งคณะมีประมาณ 20 กว่าคนโดยมีร็อคเป็นคนนำ เห็นได้ชัดว่าเมืองปริซึมไม่ได้ให้สมาชิกระดับสูงออกมาทั้งหมด หากแต่เลือกเอาบางคนที่สามารถเป็นตัวแทนของสมาคมได้ อย่างเช่นผู้ฝึกยุทธ์ชื่อดังเฟยอวี่หาน
ความจริงแล้วโรแลนด์รู้สึกกลัวเล็กน้อยตอนที่เห็นเธอ เพราะในปฏิบัติการกวาดล้างฟอลเลนอีวิลเมืองครั้งที่แล้ว เขาไม่เพียงแต่จะให้หลิงไปทำให้สมาชิกทุกคนสลบ แต่เขายังไม่ระวังจนทำให้เฟยอวี่หานได้ยินคำพูดของเขากับหลิงด้วย เดิมเขาคิดเตรียมจะปฏิเสธลูกเดียวหากอีกฝ่ายถามอะไร แต่ผลปรากฏว่าอีกฝ่ายนั้นไม่ได้พูดอะไรแปลกๆ ออกมาเลย แต่เขาไม่มีทางคิดว่าเธอจะลืมเรื่องนี้อย่างแน่นอน
ด้วยเหตุนี้ในการเดินเยี่ยมผู้ป่วย โรแลนด์จึงพยายามรักษาระยะห่างกับเฟยอวี่หานเอาไว้ให้มากที่สุด ถ้าไม่จำเป็นต้องพูดก็จะไม่พูด โชคดีที่เธอค่อนข้างเป็นที่นิยม ไม่ว่าจะเดินเข้าไปในห้องไหนก็กลายเป็นเป้าสายตา เธอจึงไม่มีเวลาจะมานั่งคุยกับเขา
การจับมือกับผู้บาดเจ็บและพูดให้กำลังใจคือขั้นตอนส่วนใหญ่ของกิจกรรมนี้ เนื่องจากการ์เซียไม่ได้เข้ามาด้วย แถมตัวเขาเองก็เป็นสมาชิกใหม่ของสมาคม ทำให้แทบไม่รู้จักสมาชิกระดับสูงของสมาคมเลย ดังนั้นแทนที่จะบอกนี่เป็นการเยี่ยมผู้ป่วย ควรจะบอกว่าเขามาเพื่อทำความคุ้นหน้ากับผู้คุมมากกว่า เกรงว่าที่อีกฝ่ายตามเขามาก็เพราะคิดถึงเรื่องนี้เหมือนกัน
“ผู้ป่วยในห้องต่อไปชื่อวัลคีรีย์” หมอที่ตามมาด้วยมองดูรายชื่อในมือ “ก่อนหน้านี้เธอบาดเจ็บสาหัส เดิมผมว่าจะให้เธอได้พักผ่อน แต่ในเมื่อพวกคุณมาแล้ว อย่างนั้นก็แวะเข้าไปเยี่ยมเธอหน่อยก็แล้วกัน ถ้าเป็นไปได้ก็พยายามรักษาความเงียบหน่อยนะครับ”
“แน่นอน สุขภาพของสมาชิกสมาคมคือสิ่งสำคัญที่สุด” ร็อกพยักหน้าก่อนจะเปิดประตูห้องออก
ห้องพักภายในตึกเป็นห้องเดียว พื้นที่ใหญ่กว่าห้องพักในตึกถึงจึประมาณเท่านึง คน 20 กว่าคนสามารถเข้าไปอยู่ในห้องได้สบายๆ โรแลนด์เดินตามเข้าไปเป็นคนสุดท้ายของแถว แล้วก็รอให้ถึงตาเขาค่อยเข้าไปจับมือ
แต่ว่าในตอนที่ทีเขายืนอยู่ท่ามกลางกลุ่มคนและมองไปทางผู้ป่วยที่อยู่บนเตียง เขาพลันรู้สึกตกใจขึ้นมาอย่างมาก
ใบหน้าของคนๆ นั้นคุ้นตาเขาเป็นอย่างยิ่ง เหมือนกับว่าเขาเคยเห็นอีกฝ่ายจากที่ไหนมาก่อน ขนตาเล็กเรียว ดวงตาอันเยือกเย็น สันจมูกโก่ง แล้วก็ริมฝีปากที่ได้รูปอย่างพอดิบพอดี เรียกได้ว่าสวยงามอย่างมาก ถึงแม้ผิวของเธอจะเป็นสีเขียวเข้ม แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ความสวยของเธอลดลงเลย พูดอีกอย่างก็คือมันยิ่งทำให้เธอดูพิเศษมากขึ้น
เขาตกตะลึงไปครู่หนึ่ง ก่อนจะค้นเจอแหล่งที่มาที่ทำให้เขารู้สึกคุ้นเคยจนพบ
มันคือส่วนหนึ่งของเศษเสี้ยวแห่งความทรงจำที่เขาเห็นในตึกถงจึ
พิธียกระดับที่จัดขึ้นในเมืองของปีศาจ และคนที่จัดงานนั้นก็มีหน้าตาเหมือนวัลคีรีย์คนนี้!
โรแลนด์เกือบคิดว่าปีศาจระดับสูงตัวนั้นได้ทำลายชั้นป้องกันของโลกแห่งความฝันแล้วเข้ามาในนี้ผ่านทางโลกแห่งเศษเสี้ยวความทรงจำนั้น
แต่ในตอนที่เขาสงบสติอารมณ์และคิดอย่างละเอียดถี่ถ้วนดูแล้ว เขากลับพบว่าทั้งสองคนนั้นไม่ได้เหมือนกันไปซะทีเดียว
สิ่งที่แตกต่างกันมากที่สุดก็คือบนหน้าผากของอีกฝ่ายนั้นเรียบเนียน ไม่ได้มีดวงตาที่สามเหมือนอย่างปีศาจตัวนั้น
…………………………………………………………