Release That Witch ปล่อยแม่มดคนนั้นซะ - ตอนที่ 1252 ศูนย์ออกแบบเกรย์คาสเซิล
โรงงานที่การ์โดว่านั้นตั้งอยู่ที่ไซต์ก่อสร้างตรงชานเมืองทิศใต้
ในเมื่อออกไปข้างนอกกับประธานของบริษัท โรแลนด์ย่อมไม่ต้องขับรถตู้ผุๆ คันนั้นออกไป หากแต่ฉวยโอกาสนี้ในการสัมผัสกับความรู้สึกในการนั่งรถหรูดูซักครั้ง
ต้องยอมรับเลยความรู้สึกของการนั่งอยู่บนที่นั่งกว้างๆ ที่นุ่มกว่าโซฟาแล้วดื่มแชมเปญเย็นๆ ที่หยิบออกมาจากตู้เย็นด้านหลังนั้นมันช่างน่าหลงใหลจริงๆ
นี่ถ้าเปลี่ยนจากแชมเปญเป็นโคล่าคงจะเพอร์เฟคมากกว่านี้
หลังจากที่รถขับออกมาจากถนนเรียบๆ แล้วแล่นไปบนถนนขรุขระที่เป็นหลุมเป็นบ่อ เสียงเครื่องจักรก็ดังขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ตลอดทางจะเป็นรถบรรทุกกับเครื่องเจาะอยู่ตลอดเวลา
บนโรงงานที่ตั้งเรียงรายมีป้ายผ้าเขียนว่า ‘บริษัท โคลฟเวอร์ คอนสตรัทชั่น เอนจิเนียริ่ง จำกัด’ ติดเอาไว้อยู่ เมื่อมองออกไปไกลกว่านั้นจะเห็นเสาเข็มสูงชะลูดตั้งเรียงรายอยู่เต็มไปหมด
น่าจะเป็นเพราะมองเห็นถึงความรู้สึกสงสัยของโรแลนด์ การ์โดจึงพูดอธิบายขึ้นมาว่า “ทางกลุ่มทุนเราวางแผนจะสร้างที่นี่ให้กลายเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานชนิดใหม่ ตอนนี้ฝ่ายที่รับผิดชอบคือแผนกก่อสร้าง เอาไว้สร้างเสร็จเมื่อไร ทุกอย่างก็จะตกไปอยู่ในมือฝ่ายผลิต โปรเจคนี้ใช้เวลาขออนุมัติอยู่นาน จนเมื่อสองสามเดือนก่อนถึงจะได้รับการอนุมัติ”
มิน่าช่วงนี้การ์เซียถึงไม่ได้พูดถึงเรื่องคัดค้านการเวนคืนที่เท่าไร คงจะเป็นเพราะช่วงนี้กลุ่มทุนโคลฟเวอร์เปลี่ยนเป้าหมายใหม่ชั่วคราว
“แล้วโรงงานล่ะครับ?”
“จะถูกรื้อถอนทิ้ง” การ์โดตอบ “ก่อนหน้านี้มันเป็นโรงงานผลิตเครื่องจักรทางการเกษตร แล้วก็ถูกปรับปรุงมาหลายครั้งแล้ว แต่สุดท้ายก็ตามยุคสมัยไม่ทัน เมื่อคิดถึงว่าความต้องการของคุณนั้นค่อนข้างพิเศษ ผมก็เลยจะเหลือโรงงานหลังหนึ่งเอาไว้ให้คุณใช้ ถึงแม้มันจะไม่ได้อยู่ในการดูแลของผม แต่ผมคุยกับทางนั้นให้แล้ว”
“แล้วคนงานยังอยู่กันครบหรือเปล่าครับ?” เทียบกับโรงงานแล้ว สิ่งที่โรแลนด์สนใจมากกว่าก็คือคนงานที่เป็นมืออาชีพ
“ออกไปกันเยอะแล้วครับ” การ์โดยักไหล่ “เหลือเพียงแค่อาจารย์แก่ๆ ที่ใกล้เกษียณคนหนึ่งกับคนงานอีกสิบกว่าคน พวกเขาถือเป็นคนครอบครัวเดียวกัน เอาไว้พอเมืองยานยนต์สร้างเสร็จแล้ว พวกคนงานก็คงจะย้ายเข้าไปทำงานในนั้น”
เอ่อ ทำไมฟังดูน่ารันทดจัง…โรแลนด์บ่นอยู่ในใจ แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรเลย ถึงแม้จะต่างจากศูนย์ออกแบบสุดเทพที่ตัวเองคิดเอาไว้ แต่มันก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี
หลังจากที่มาถึงที่หลาย โรแลนด์ก็ต้องลดความคาดหวังในใจลงอีกครั้ง สิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าเขาคือโรงงานเก่าๆ แห่งหนึ่ง พื้นที่ของมันประมาณ 500 ตารางเมตร กำแพงที่ประกอบขึ้นมาจากแผ่นเหล็กมีรอยสนิมปรากฏขึ้นมาให้เห็นเป็นดวงๆ เมื่อเดินเข้าไปในโรงงาน ฝุ่นที่อยู่ตรงมุมโรงงานหนาพอที่จะใช้ประทับรอยเท้าได้ เครื่องจักรที่วางกระจัดกระจายก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันเท่าไร เห็นได้ชัดว่าไม่มีใครไปดูแลรักษาพวกมันมานานแล้ว
โรแลนด์เดินตามการ์โดขึ้นบันไดไปข้างบน ในตอนที่เข้าไปใกล้ห้องควบคุม โรแลนด์พลันได้ยินเสียงพูดคุยดังออกมาจากในห้อง
“เฮ้อ ไม่รู้ว่าเมื่อไรบริษัทถึงจะมารื้อที่นี่ไปซักที…ทุกวันนั่งอยู่ที่เดิมๆ จนตูดฉันจะขึ้นราอยู่แล้วเนี่ย”
“อยู่ว่างๆ มันไม่ดีเหรอไง ยังไงซะย้ายไปอยู่โรงงานใหม่เงินเดือนก็ไม่ได้เพิ่มซักหน่อย ไม่แน่อาจจะต้องทำโอทีทุกวันก็ได้ ฉันยอมนั่งอยู่นิ่งๆ แบบนี้ดีกว่า”
“อะไรกัน” เสียงของคนสูงอายุคนหนึ่งดังแทรกขึ้นมา “คนหนุ่มมันต้องมีชีวิตชีวาหน่อยสิ”
“ชีวิตชีวามันกินไม่ได้…ถ้าตอนนี้ให้ผมเกษียณแล้วรับเงินบำนาญได้ ผมจะรีบตอบตกลงเลย”
“เออใช่ อาจารย์เซี่ย ครั้งนี้คุณคงต้องเกษียณแล้วใช่หรือเปล่า ได้ยินว่าเถ้าแก่มาพูดกล่อมคุณหลายครั้งแล้ว ความจริงแล้วครั้งนี้ต่อให้คุณไม่มาตอกบัตร ก็ไม่มีใครมาว่าคุณหรอก”
“ก็ฉันไม่อยากจากโรงงานนี้ไปนี่นา…อยู่มาเกือบ 30 ปีแล้ว ก็เลยฉวยโอกาสตอนที่มันยังไม่โดนรื้อมาดูมันบ่อยๆ”
“ถ้าไง ผมถ่ายรูปให้คุณเอาไหม?”
“เจ้าบ้า รูปภาพมันจะไปเหมือนกับของจริงได้ยังไง!”
“เดี๋ยวๆ เหมือนจะมีคนมา…”
ภายในห้องมีเสียงดังกุกๆ กักๆ ดังขึ้นมาทันที
กระทั่งเลขาของการ์โดผลักประตูเข้ามา ทุกคนที่อยู่ภายในห้องต่ากลับไปประจำที่ บางคนก็กำลังจัดเอกสารที่อยู่บนโต๊ะ บางคนก็นั่งกดๆ อยู่หน้าคอมพิวเตอร์ เหมือนว่าก่อนหน้านี้ทุกคนกำลังทำงานอยู่อย่างไรอย่างนั้น
“ประธาน…การ์ คุณมาได้ยังไงครับเนี่ย?” เมื่อเห็นการ์โด ทุกคนต่างตกตะลึงไปทันที เห็นได้ชัดว่า ‘เถ้าแก่’ ที่พวกเขาพูดถึงนั้นไม่ได้หนึ่งในคณะกรรมการของบริษัทคนนี้ ความรู้สึกนี้มันเหมือนกับจู่ๆ ก็มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลไปเยี่ยมหมู่บ้านเล็กๆ ที่ไม่เป็นที่รู้จัก
“พาเพื่อนมาดูที่นี่หน่อยน่ะ” การ์โดมองดูคนที่อายุมากที่สุดในกลุ่ม “คุณคืออาจารย์เซี่ยใช่ไหม? ได้ยินว่าคุณอยู่ที่นี่มาหลายสิบปีแล้ว?”
โรแลนด์เองก็มองดูอีกฝ่าย เมื่อดูจากท่าทางแล้ว เขาน่าจะอายุประมาณ 60 ปี ผมบนหัวเหลืออยู่เพียงเล็กน้อย บนจมูกมีแว่นสายตาของคนแก่ขนาดใหญ่ ร่างกายดูซูบผอม ในมือถือแก้วเก็บความร้อนที่เก่าจนเปลี่ยนสีแล้วใบหนึ่ง นอกจากสายตาที่ค่อนข้างเปล่งประกายแล้ว ส่วนอื่นๆ ของเขานั้นไม่ได้ต่างอะไรกับพวกคนแก่ในเขตชุมชนถงจึเลย
เกรงว่าความภาคภูมิใจเพียงหนึ่งเดียวของอาจารย์คนนี้ในตอนนี้ก็คงจะมีแต่ประสบการณ์การทำงานอันยาวนานเท่านั้น
“ใช่ครับ” อีกฝ่ายถูแก้วที่อยู่ในมือ น้ำเสียงเหมือนพยายามจะเอาอกเอาใจ “ตั้งแต่เข้ามาอยู่ในโรงงานจนถึงตอนนี้ก็ 29 ปีแล้วครับ”
โอเค ท่าทางดูแล้วไม่เหมือนพวกปรมาจารย์ที่แฝงตัวอยู่ในหมู่คนธรรมดาที่มักจะไม่มองใครอยู่ในสายตาเลย….ภายในใจโรแลนด์รู้สึกผิดหวังอีกครั้ง ดูเหมือนตัวเองคงต้องหาคนจากบนอินเทอร์เน็ตแล้ว
“อย่างนั้นก็พอดีเลย” การ์โดยิ้มๆ เพื่อนผมคนนี้เขารู้สึกสนใจโรงงานแห่งนี้ คุณช่วยพาเขาไปเดินดูรอบๆ หน่อยได้ไหม”
“ได้ ได้ครับ” อาจารย์เซี่ยมองโรแลนด์อย่างแปลกใจ “แต่ว่าอีกเดี๋ยวโรงงานก็จะ….”
“ถ้าเขาชอบที่นี่ โรงงานก็จะยังอยู่ต่อไป”
พอคำพูดนี้หลุดออกมา โรแลนด์พลันเป็นในดวงตาของอีกฝ่ายมีเปลวไฟลุกโชนขึ้นมาทันที
“ไม่ทราบว่าคุณชื่ออะไรครับ?”
“เรียกผมโรแลนด์ก็ได้ครับ”
“โอเคคุณโรแลนด์ เชิญตามผมมาเลยครับ!”
อาจารย์เซี่ยพาเขาไปชมโรงงานอย่างตื่นเต้น ในขณะที่กำลังเตรียมตัวแนะนำประวัติอันยาวนานของโรงงาน โรแลนด์พลันพูดตัดบทเขา “เทียบกับเรื่องพวกนี้แล้ว ผมอยากจะรู้มากกว่าว่าเมื่อก่อนคุณเคยทำอะไรมาบ้าง?”
“น่าจะทำมาเกือบหมดแล้วล่ะครับ…” อาจารย์เซี่ยหัวเราะแหะๆ “ตั้งแต่ช่างฟิตไปจนถึงหัวหน้าช่าง ต่อมาก็เป็นรองผู้จัดการโรงงานอยู่ช่วงหนึ่ง ตอนที่ยุ่งๆ ผมคนเดียวต้องทำงานแทนคนสามสี่คน ตอนกลางวันต้องจัดการสายการผลิต พอตกกลางคืนก็ต้องสอนพวกเด็กๆ ซ่อมเครื่องจักร จนกระทั่งสายตาไม่ดีถึงได้ว่างขึ้น”
โรแลนด์หยุดฝีเท้าทันที “แล้วคุณเคยออกแบบไหม?”
“ฮ่าๆ เคยสิครับ ถึงแม้ผมจะไม่ได้เรียนมหาวิทยาลัย แต่ผมก็เคยทำงานกะกลางคืนก่อนที่จะมาทำในโรงงาน ผมเองก็เรียนรู้ด้วยตัวเองมาไม่น้อย เพียงแต่ปากกากับไม้บรรทัดมันสู้คอมพิวเตอร์ไม่ได้ บวกกับบริษัทตั้งแผนกออกแบบมาโดยเฉพาะ แปลนกระดาษพวกนี้ก็เลยไม่มีใครสนใจเท่าไร”
“ถ้าผมอยากจะได้รถแทรกเตอร์ตีนตะขาบที่ไม่เหมือนกับที่ขายๆ อยู่ในตลาดซักคัน คุณพอจะสร้างมันออกมาได้ไหม?”
“รถแทรกเตอร์เหรอ? ฮ่าๆ ผมรู้จักมันดีซะยิ่งกว่าเมียที่บ้านอีก นี่ผมไม่ได้โม้นะคุณโรแลนด์ ถ้ามีลูกมือให้ผมซักสองสามคน ต่อให้หลับตาผมก็ยังสร้างมันออกมาได้เลย”
เขาถามอย่างแปลกใจ “ในเมื่อคุณเก่งแบบนี้ ทำไมกลุ่มทุนโคลฟเวอร์ถึงไม่เรียกคุณให้ไปอยู่ในแผนกออกแบบ?”
“เฮ้อ เดี๋ยวนี้สิ่งที่พวกเขาทำมันต้องใช้คอมพิวเตอร์ ได้ยินว่าสายการผลิตทั้งหมดของโรงงานใหม่จะเป็นระบบอัตโนมัติทั้งหมด แล้วก็พวกแขนเครื่องจักรและหุ่นยนต์ทำงานเสียเป็นส่วนใหญ่ คนทั้งหมดในโรงงานจะไปทำเรื่องการขายและการบริหารจัดการ ต่อให้เชิญผมไป ผมก็ทำอะไรไม่ได้หรอกครับ”
น้ำเสียงของอาจารย์เซี่ยฟังดูเศร้า
ส่วนโรแลนด์ก็เปลี่ยนมุมมองที่มีต่อเขาไปอย่างสิ้นเชิง
รูปลักษณ์ธรรมดา? คนงานแบบนี้สิถึงจะไม่อวดเก่ง
ดูเป็นคนซื่อๆ? ทีมที่ซื่อๆ ก็ยิ่งจัดการได้ง่ายไม่ใช่เหรอ?
ไม่รู้เรื่องคอมพิวเตอร์นั้นยิ่งเป็นปัญหาที่เล็กน้อยอย่างมาก คนเขียนแบบราคาถูกๆ นั้นมีอยู่เยอะแยะไป จ้างมาวาดซักคนก็ได้แล้ว
“เยี่ยมมาก เยี่ยมมาก” โรแลนด์ยิ้มมุมปากขึ้นมา ก่อนจะผงกหัวติดๆ กัน
“เอ่อ?” อาจารย์เซี่ยงุนงง เหมือนไม่เข้าใจว่าที่นี่คือที่ไหนกันแน่
“โรงงานไม่ถูกรื้อแล้วครับ” เขาพูดตรงๆ “ผมจะเปลี่ยนที่นี่ให้เป็นศูนย์ออกแบบแห่งใหม่ ส่วนคุณก็จะเป็นหัวหน้าวิศวกรคนแรกของผม”
“ศูนย์…ออกแบบ?”
“ถูกต้อง” โรแลนด์ยื่นมือไปหาอีกฝ่าย “ยินดีต้อนรับสู่ศูนย์ออกแบบเกรย์คาสเซิลครับ”
…………………………………………………………………..