Release That Witch ปล่อยแม่มดคนนั้นซะ - ตอนที่ 1256 ผลตอบรับและแผนการใหม่
“สถานการณ์การแลกเงินในหลายวันนี้เป็นยังไงบ้าง?”
วันที่สามหลังจากแจกจ่ายเงินสกุลใหม่ออกไปแล้ว โรแลนด์ก็เรียกประชุมหัวหน้ากองต่างๆ เนื้อหาสำคัญที่ประชุมก็คือผลตอบรับจากการเปลี่ยนแปลงสกุลเงิน
ในฐานะที่เป็นคนที่มาจากอนาคต เขาย่อมต้องรู้ดีว่าการจะทำลายระบบที่ทำกันมาเป็นพันๆ ปีนั้นมันยากเย็นแค่ไหน หากมีข้อผิดพลาดเพียงนิดเดียวก็อาจจะทำให้ทุกอย่างพังลงได้ ถ้าหากแผนสกุลเงินใหม่พังลง สำนักบริหาร…ไปจนถึงชื่อเสียงและบารมีที่เขาสะสมมาเป็นเวลานานก็อาจจะได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงได้
“น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท” บารอฟดูผ่อนคลาย “จำนวนเงินที่เอามาแลกในช่วงสามวันแรกนั้นมีไม่ถึง 1,000 เหรียญทอง ปกติแล้วช่วงแรกที่สำนักบริหารประกาศนโยบายใหม่ออกมามักจะเป็นช่วงที่มีความผันผวนมากที่สุด แต่หากสถานการณ์เป็นเหมือนอย่างตอนนี้ เงินที่มีอยู่ในคลังตอนนี้ก็น่าจะมีให้เราพอใช้ไปจนกว่าทุกอย่างจะอยู่ตัวพ่ะย่ะค่ะ”
เพื่อป้องกันไม่ให้ชาวบ้านแห่เอาเงินมาแลก จำนวนเงินกระดาษล็อตแรกที่แจกจ่ายออกไปจึงมีจำนวนเท่ากับเงินเดือนในเดือนนั้น ต่อให้เงินทั้งหมดถูกเอามาแลก เงินที่มีอยู่ในคลังก็ยังพอให้ใช้ไปได้อีกสองเดือน แต่ถ้าหากเกิดสถานการณ์แบบนั้นขึ้นจริงๆ ในความเป็นจริงก็เท่ากับว่าแผนการนี้ล้มเหลวแล้ว
“กระหม่อมคิดว่าพระองค์ทรงคิดมากไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ” บารอฟลูบเคราตัวเองพร้อมพูดยิ้มๆ “การเอาเงินใหม่มาแลกเป็นเงินเก่านั้นเรียกได้ว่ามีแต่ขาดทุน ถ้าไม่สุดปัญญาจริงๆ ประชาชนส่วนใหญ่ก็ไม่มีทางเอามันมาแลกแน่นอน”
“แต่ก็อย่าไปคิดว่าประชาชนจะยอมรับเงินสกุลใหม่กันแล้วนะ” เซนจ์ ดาลีนหัวหน้ากองการเกษตรพูดขึ้นมาอย่างระมัดระวัง “ข้าพบว่าช่วงนี้ปริมาณการขายธัญพืชต่างๆ ในตลาดเพิ่มขึ้นสูงกว่าเดิมมาก แล้วก็ยังมีพวกอาหารแห้งกับเครื่องปรุงด้วย”
การค้าขายไม่เพียงแต่จะไม่ลดลง แต่กลับเพิ่มขึ้น? โรแลนด์งุนงง ผ่านไปครู่หนึ่งเขาถึงคิดขึ้นมาได้
ที่แท้อย่างนี้นี่เอง เขาอดยิ้มขึ้นมาไม่ได้ ประชาชนนั้นยังไม่ยอมที่จะเสียค่าธรรมเนียมในสถานการณ์ที่ยังไม่แน่ชัด ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงเอาเงินไปแลกเป็นของใช้จำเป็น ในอดีตพวกธัญพืชนั้นถูกใช้เป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยน ส่วนของแห้งและเครื่องเทศนั้นก็สามารถเก็บไว้ได้นาน
แต่ว่านี่ก็ทำให้โรแลนด์รู้สึกเบาใจขึ้น
การที่จะเปลี่ยนแปลงความคิดคนในระยะเวลาสั้นๆ แค่ไม่กี่วันนั้นไม่มีทางเป็นไปได้ แต่ถ้าประชาชนแสดงความไม่มั่นใจออกมาด้วยการเอาเงินไปแลกเปลี่ยนเป็นสิ่งของ สำนักบริหารก็แทบจะไม่มีความกดดันอะไรเลย อย่างเช่นข้าวสาลี ไข่ไก่กับชีส ปริมาณการผลิตของเมืองเนเวอร์วินเทอร์เมืองเดียวก็เพียงพอต่อความต้องการของทั้งดินแดนตะวันตก กระทั่งหลังจากนี้อีกสามเดือน คลังก็จะได้รับเงินชำระงวดใหม่ของหอการค้าร่วม เมื่อถึงตอนนั้นเขาก็พอที่จะทราบแล้วว่าผลการเปลี่ยนสกุลเงินเป็นอย่างไร
“ไม่เป็นไร ปล่อยให้พวกเขาซื้อไป” เขาสั่งเซนจ์ “ช่วงนี้เจ้าคอยจับตาดูให้ดี ห้ามปล่อยให้มีเหตุการณ์สินค้าขาดแคลนเด็ดขาด ขอเพียงยังไม่ถึงปริมาณการซื้อที่จำกัดเอาไว้ต่อตน พวกเขาอยากจะซื้ออะไรก็ปล่อยให้ซื้อไป”
สินค้าในตลาดล้วนแต่เป็นสิ่งของที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต แล้วก็สามารถมองว่าเป็นร้านค้าที่ถูกควบคุมและดำเนินกิจการโดยอาณาจักรก็ได้ คนซื้อจำเป็นต้องแสดงบัตรประชาชนถึงจะซื้อได้ ขอเพียงไม่ปล่อยให้พวกนายทุนที่มีเงินจำนวนมากเข้ามาก็แทบจะเป็นไปไม่ได้ที่ชาวบ้านจะซื้อสินค้าไปจนหมด
“พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท!”
“เออใช่ แล้วพวกพ่อค้าคนอื่นๆ เป็นยังไงบ้าง?”
“ทูลฝ่าบาท” บารอฟตอบ “พ่อค้าในเมืองเนเวอร์วินเทอร์เหมือนจะแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มพ่อค้าที่มาจากที่ต่างๆ เหมือนจะรอดูสถานการณ์ พ่อค้าจำนวนไม่น้อยประกาศปิดร้าน พระองค์ว่า…” เขาทำมือไล่ออกไป
ปฏิเสธเงินใหม่ไม่ได้ก็เลยปิดร้านไปเลยงั้นเหรอ? โรแลนด์ส่ายหัว “ถ้าไม่ผิดกฎหมายก็ทำได้ วันครบกำหนดการเช่ายังไม่ถึง จะเปิดหรือปิดร้านมันก็แล้วแต่พวกเขาจะตัดสินใจ อีกพวกหนึ่งล่ะ?”
“พวกหอการค้าจากทางฟยอร์ดไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมากพ่ะย่ะค่ะ พวกเขายังคงทำการค้าตามปกติ แต่กระหม่อมได้รับจดหมายจากพ่อค้าของฟยอร์ดจำนวนไม่น้อย พวกเขาสอบถามว่าจะใช้เงินสกุลใหม่ในการจ่ายค่าเครื่องจักรไอน้ำกับเรือกลไฟได้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมก็เลยตอบตกลงไปตามที่พระองค์เคยตรัสเอาไว้”
ภายในห้องประชุมมีเสียงซุบซิบดังขึ้นมาทันที
เห็นได้ชัดว่าทุกคนต่างรู้สึกแปลกใจกับเหตุการณ์นี้ ในสายตาของพวกเขาแล้ว การที่พ่อค้าในอาณาจักรไม่ยอมสนับสนุนราชา กลับกลายเป็นพ่อค้าจากนอกทะเลที่มาสนับสนุนราชานั้นเรียกได้ว่าทำให้เกรย์คาสเซิลเสียหน้า
แต่โรแลนด์กลับไม่ได้สนใจ
ดูเหมือนชาวฟยอร์ดจะยอมรับเรื่องใหม่ๆ ได้ดีกว่าคนในพื้นที่นะเนี่ย เมื่อคิดถึงตอนที่เครื่องจักรไอน้ำปรากฏขึ้นมาเป็นครั้งแรก ก็เป็นมาร์จอรีซึ่งเป็นชาวฟยอร์ดที่แสดงความสนใจมันเป็นคนแรก แล้วก็ทำให้เมืองชายแดนมีเงินก้อนใหญ่มาพัฒนาเมือง
“แต่ว่า….ในนี้ก็มีข้อยกเว้นอยู่พ่ะย่ะค่ะ” บารอฟกระแอมเล็กน้อย “มีร้านขายเสื้อผ้าอยู่ร้านหนึ่งที่ชื่อเรนโบว์สโตน ร้านนี้ไม่เพียงแต่จะไม่หยุดขาย หากแต่ยังทำป้ายขึ้นมา โดยบนป้ายบอกว่าทางร้านลดราคาสินค้าเพื่อฉลองเงินสกุลใหม่ — จากที่กระหม่อมได้รับรายงานมา ประชาชนที่ไปซื้อเสื้อผ้าที่ร้านนี้แทบจะเบียดกันจนเต็มถนนเลยพ่ะย่ะค่ะ”
โรแลนด์กะพริบตา จากนั้นจึงหัวเราะออกมาเบาๆ…วิคเตอร์ โลธาที่มาหาเขาพร้อมทั้งขอความร่วมมือจากลีฟนะเหรอ?
ควรจะบอกว่าอีกฝ่ายมีความกล้า หรือว่าเข้าใจถึงความคิดของเขาจริงๆ?
“ดีมาก” เขามองไปทางฮันนี่ที่เป็นหัวหน้ากองประชาสัมพันธ์ “ทำบทความนี้ขึ้นมาเฉพาะเลย ในเวลาแบบนี้ ความมั่นใจมีค่ามากกว่าทองคำเสียอีก”
“ทราบแล้วเพคะ” ฮันนี่พยักหน้า
“ถูกต้องเพคะ ฝ่าบาท…ความมั่นใจมีค่ายิ่งกว่าทองคำ” จู่ๆ เอดิธส์ที่นั่งเงียบมาโดยตลอดก็พูดขึ้นมา “ขอพระองค์ได้โปรดหาทางป้องกันพวกที่จงใจสร้างข่าวลือขึ้นมาบิดเบือนด้วยเพคะ หม่อมฉันคิดว่าอีกไม่นานคงมีข่าวลือไม่ดีปรากฏออกมาแน่เพคะ”
“เจ้าหมายความว่ายังไง?” บารอฟขมวดคิ้ว “หรือว่ามีคนที่ประสงค์ร้ายต่อเงินสกุลใหม่?”
“นี่เป็นเรื่องปกติมาก เมื่อมีนโยบายใหม่ออกมา มันก็ต้องมีทั้งคนที่ได้ประโยชน์และเสียประโยชน์ อย่างเช่นพวกพ่อค้าที่ไม่อยากจะได้เงินกระดาษ หรือไม่ก็พวกที่ต้องการจะสั่นคลอนฝ่าบาท…ท่านคงไม่คิดหรอกนะว่าพวกขุนนางที่เคยคิดต่อต้านฝ่าบาทจะนั่งอยู่เฉยๆ ในช่วงเวลาสองปีที่ผ่านมา?”
“เอ่อ…” บารอฟพูดไม่ออกทันที
พวกเขาย่อมต้องไม่อยู่เฉยๆ แน่ โรแลนด์รู้ดี พวกเขาเพียงแต่ซุ่มดูอยู่เงียบๆ เท่านั้น ขอเพียงตัวเองเผยจุดอ่อนออกมาเพียงนิดเดียว คนพวกนี้ก็จะเผยเขี้ยวเล็บออกมาทันที
ถึงแม้ปีศาจมันจะเข้ามาประชิดเมืองแล้วก็ตาม
“วางใจได้ ฮันนี่กับแอ็คเซียจะคอยระวังแทนข้า”
“ยังมีหม่อมฉันด้วยเพคะ เหมืองของดินแดนตะวันตกพร้อมต้อนรับคนงานใหม่เสมอ” จู่ๆ ภายในห้องพลันมีเสียงเยือกเย็นดังขึ้นมา ถึงแม้จะมองไม่เห็นตัวคนพูด แต่ทุกคนต่างรู้ดีว่าประโยคนี้ไม่ใช่การพูดเล่นแน่นอน
โรแลนด์มองดูทุกคน “ฟังให้ดีนะ นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น หลังผ่านช่วงสองสามเดือนแรกไปแล้ว การเปลี่ยนแปลงสกุลเงินก็จะแพร่กระจายไปทั่วทั้งอาณาจักรอย่างรวดเร็ว แล้วก็แทนที่เหรียญทองได้อย่างสมบูรณ์ เรื่องนี้มีความสำคัญต่อการเอาชนะสงครามแห่งโชคชะตา ขอให้ทุกคนพยายามให้เต็มที่!”
“น้อมรับพระบัญชาพ่ะย่ะค่ะ!” ทุกคนตอบอย่างพร้อมเพียงกัน
“ฝ่าบาท…” หลังพูดตอบรับเสร็จ บารอฟก็ทำสีหน้าลังเลขึ้นมา “หลังจากนี้อีกสองสามเดือนต้องผลิตเงินกระดาษออกมาเยอะขนาดนั้น มันจะทันหรือพ่ะย่ะค่ะ?”
“ปริมาณในตอนนี้พอที่จะแทนที่เงินเดือนได้พอดี แต่มันไม่ได้หมายความว่าความสามารถในการผลิตของมันจะมีแค่นี้ เรื่องนี้เจ้าไม่ต้องกังวล” โรแลนด์ตอบ
ถึงแม้เงินกระดาษจะเป็นแค่กระดาษแผ่นหนึ่ง แต่เทคโนโลยีที่ใช้ผลิตมันขึ้นมากลับเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดของเมืองเนเวอร์วินเทอร์ เมื่อคิดถึงว่าปริมาณเหรียญทองและเหรียญเงินที่สะสมมาเป็นเวลาหลายร้อยหลายพันปีนั้นเป็นตัวเลขที่มหาศาลอย่างมาก ด้วยเหตุนี้เขาจึงไม่ได้คิดที่จะให้โซโรย่าแบกรับหน้าที่นี้ไว้คนเดียว ในด้านของกระดาษ เงินสกุลใหม่นั้นมีส่วนผสมของของเหลวจากแมลงยางอยู่ในเยื่อกระดาษด้วย หลังตากแดดให้แห้งแล้วมันจะมีความยืดหยุ่นสูง ไม่ฉีกขาดได้ง่าย
ส่วนสัญลักษณ์ป้องกันการปลอมแปลงก็คือตัวเลขบนเงินกระดาษที่ทำมาจากฟอยล์ โดยมันจะถูกกดทับลงไปล่วงหน้าในตอนที่ทำกระดาษขึ้นมา และเทคโนโลยีที่สามารถทำให้โลหะเบาบางเหมือนปีกจักจั่นได้ก็มีแต่ที่เนเวอร์วินเทอร์เท่านั้น
การผลิตเงินกระดาษนั้นใช้เครื่องพิมพ์แบบลูกกลิ้งในการพิมพ์ สีที่ใช้ก็เป็นสีที่เกิดจากความร่วมมือของดาร์คคลาวด์กับโบรคเคนซอร์ด จึงทำให้สีสันทั้งสดใสและคงทน เมื่อเทียบกับสีย้อมจากพืชหรือแร่ต่างๆ ในยุคสมัยนี้แล้วถือว่าดีกว่ามาก เรียกได้ว่าสามารถใช้จนกระทั่งเปลี่ยนสกุลเงินรอบหน้าได้เลย
เรียกได้ว่าไม่ว่าจะเป็นเรื่องประสิทธิภาพการผลิตหรือว่าการป้องกันการปลอมแลง เงินสกุลใหม่ก็เรียกได้ว่าทำออกมาได้ดีที่สุด แม่มดเพียงแต่ทำวัตถุดิบออกมาให้ การผลิตนั้นคนธรรมดาเป็นคนจัดการ นี่จึงทำให้มันไม่มีปัญหาเวลาที่ต้องผลิตในปริมาณมาก
การกระจายเงินกระดาษออกไปได้อย่างราบรื่นนั้นถือเป็นการแก้ปัญหาภายในใจโรแลนด์ไปได้เรื่องหนึ่ง ในเมื่อเมืองเนเวอร์วินเทอร์ในตอนนี้มีทั้งเงินและคนเพียบพร้อม สิ่งที่เหลือหลังจากนี้ก็คือจะเอาทรัพยากรเหล่านี้มาเปลี่ยนเป็นกำลังการผลิตได้อย่างไร
“หลังจากนี้ข้าคิดจะทำอีกโครงการหนึ่ง แรงงานที่ต้องการอยู่ที่ประมาณ 2 – 3 หมื่นคน” เขาหันไปพูดกับหัวหน้าสำนักบริหาร ซึ่งตัวเองนี้ก็เท่ากับปริมาณประชากรของเมืองใหญ่ๆ เมื่อก่อนนี้เมืองหนึ่ง “บารอฟ เรื่อยรายละเอียดการจัดสรรเจ้าไปตกลงกับหัวหน้ากองที่เกี่ยวข้อง”
“พ่ะย่ะค่ะ”
“อันดับแรกคือกองอุตสาหกรรมเคมี” โรแลนด์มองไปทางเคโม ซูอีล
เห็นได้ชัดว่าในเวลานี้ได้เวลาขยายปริมาณการผลิตดินปืนชนิดต่างๆ แล้ว
…………………………………………………………….