Release That Witch ปล่อยแม่มดคนนั้นซะ - ตอนที่ 1273 แผนของปีศาจ
เมื่อประมาณ 20 กว่าชั่วโมงที่แล้ว มันได้รับรายงานว่าทางเมืองที่เรียกว่าวูล์ฟฮาร์ทนั้นมีลูกบอลไฟแปลกๆ ขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นมา หน่วยสนับสนุนส่วนหนึ่งได้รับความเสียหายอย่างหนัก ในตอนนั้นมันยังอยู่ที่เมืองทางตะวันตกของอีเทอร์นอลวินเทอร์เพื่อทำให้ผู้ปกครองของมนุษย์สวามิภักดิ์อยู่
ความจริงแล้วเฮคซอดไม่อยากสนใจเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ ถ้าไม่เป็นเพราะปีศาจที่มารายงานพูดถึงพลังทำลายล้างแปลกๆ ของระเบิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า มันก็ไม่คิดที่จะมาที่นี่ด้วยตัวเอง
แค่ต้องไปคุยกับพวกมนุษย์ก็ทำให้มันเหนื่อยมากพออยู่แล้ว แต่ทั้งกองทัพก็ดันมีมันแค่คนเดียวที่ทำเรื่องนี้ได้ เพราะไม่ใช่ว่าลูกน้องมันทุกตัวจะฉลาดเหมือนอย่างอุรูคที่มักจะเรียนรู้ว่าสิ่งไหนมีประโยชน์สิ่งไหนไม่มีประโยชน์ พวกผู้ยกระดับส่วนใหญ่มักจะมองมนุษย์เป็นเหมือนแมลง ดังนั้นพวกมันยิ่งไม่มีทางที่จะไปเรียนรู้ภาษาของมนุษย์ได้
แม่ทัพของมันเองก็เหมือนกัน แต่ละตัวล้วนแต่ภักดีและมีความสามารถ แต่นั่นก็แค่เรื่องสู้รบเท่านั้น ถ้าจะให้เจ้าพวกนั้นไปติดต่อกับมนุษย์ เกรงว่าไม่ถึงครึ่งวันพวกมันคงจะฉีกมนุษย์ออกเป็นชิ้นๆ แน่
แต่มนุษย์นั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่ชักจูงได้ง่าย ถึงแม้เผ่าพันธุ์นี้จะอ่อนแอ แต่สมองกลับค่อนข้างดี ในช่วงบุกเบิกแรกๆ พวกเขาถูกใช้ให้ทำงานแทนพวกปีศาจระดับล่างจำนวนมาก การทำลายมนุษย์ทั้งหมดนั้นไม่เป็นผลดีต่อเผ่าพันธุ์ของมัน
สรุปแล้วทั้งหมดนี้เป็นความผิดของวัลคีรีย์
เดิมมันคือราชาที่ถนัดในเรื่องนี้มากที่สุด แต่ตอนนี้มันกลับเอาแต่แช่อยู่ในบ่อละอองชีวิต เฮคซอดมักจะรู้สึกว่าความอดทนของตัวเองเหมือนจะค่อยๆ ลดน้อยลงทุกวัน
แต่ว่าในตอนที่มันบินผ่านเมืองทัสก์ มันพลันสังเกตเห็นว่าเรื่องนี้มีอะไรแปลกๆ ได้ทันที
ละอองชีวิตภายในเมืองดูเบาบางอย่างมาก เหมือนว่ามันถูกอะไรบางอย่างชะล้างไปอย่างนั้น ส่วนในเมืองก็ยิ่งแล้วใหญ่ ทุกที่มีแต่ซากบ้านเรือนที่ถูกทำลายกับเสาไม้ไหม้ๆ
หลังพวกมันบินลงมาที่พื้น เฮคซอดพลันพบว่าบนพื้นที่ยังมีไออุ่นแผ่กระจายออกมา กลิ่นแปลกๆ ที่แสบจมูกลอยขึ้นมาปะทะหน้ามัน
ไม่นานมันก็พบที่มาของกลิ่นที่ว่านั้น
ปีศาจชั้นต่ำรูปร่างแปลกๆ กลุ่มหนึ่งนอนตัวหงิกงออยู่บนพื้น ผิวหนังของพวกมันไหม้จนเป็นสีดำเกรียม เห็นชัดว่าพวกมันถูกไฟเผาตาย แต่ที่น่าแปลกก็คือรอบๆ ตัวพวกมันเหมือนจะมีก็แต่ก้อนหินกับดินโคลน ไม่มีวัตถุอื่นที่ลุกติดไฟได้อยู่เลย เฮคซอดนึกไม่ออกว่าเปลวไฟลุกไหม้ตัวพวกมันได้อย่างไร
แต่ภาพแบบนี้ไม่ได้มีแค่ที่นี่ที่เดียว
“โทโทล็อก เจ้ากับลูกน้องของเจ้าพาทหารไปสิบตัว ไปดูความเคลื่อนไหวของพวกกองทัพมนุษย์ ถ้าเจออะไรให้มารายงานข้าทันที”
“ขอรับนายท่าน”
“ซีอาซิส ตรวจสอบดูว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แล้วลองดูซิว่ายังมีใครที่มีชีวิตรอดอยู่ไหม”
“ขอรับ นายท่าน”
ผู้ยกระดับรับคำสั่งแล้วจากไปอย่างรวดเร็ว เฮคซอดเดินไปตามถนน ก่อนจะค่อยๆ เดินไปยังพื้นที่ทางเหนือของเมืองที่เสียหายหนักที่สุด
จากที่ได้รับรายงานมา ปีศาจที่โดนซุ่มโจมตีคือทีมขนส่งที่เป็นร่างชั้นต่ำ แมลงน่าสงสารที่ไม่มีวันจะได้ยกระดับพวกนี้เป็นปีศาจระดับล่างที่สุดของเผ่าพันธุ์ ไม่ได้ต่างอะไรจากทาสหรือกรรมกรของพวกมนุษย์เลย ในตอนนั้นพวกมันกำลังขนหินออบซีเดียนและบ่อละอองชีวิตระดับสองเข้าไปในเมืองทัสก์ เพื่อที่จะใช้สร้างเป็นค่ายให้ร่างยกระดับได้ใช้พักผ่อน
หินออบซีเดียนที่ถูกตัดและถูกเคลือบเอาไว้เรียบร้อยกระจัดกระจายอยู่ทั่วทุกที่ ร่างชั้นต่ำส่วนหนึ่งยังคงอยู่ในสภาพที่กำลังขนส่งอยู่ในตอนนั้น ไม่มีร่องรอยการต่อสู้ก็หมายความว่าพวกมันไม่ได้เผชิญหน้ากับมนุษย์ ในจุดนี้จะเห็นได้ว่าการต่อสู้นั้นเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน แล้วก็จบลงอย่างรวดเร็ว
ด้วยเหตุนี้การวิเคราะห์ที่สมเหตุสมผลก็คืออีกฝ่ายวางกับดักเอาไว้ที่นี่แทนที่จะรวบรวมกำลังพลบุกเข้ามา โทโทล็อกออกไปสำรวจอาจจะไม่ได้อะไรกลับมา
แต่ยิ่งเป็นแบบนี้ก็ยิ่งทำให้สกายลอร์ดรู้สึกหวาดกลัว มันยินดีที่จะเห็นพวกมนุษย์รวมกลุ่มบุกเข้ามามากกว่า เพราะอย่างน้อยแบบนั้นมันก็ยังเห็นความเคลื่อนไหวของพวกศัตรู เฮคซอดไม่สนใจความเป็นความตายของร่างชั้นต่ำ แต่แนวรบตะวันตกจะปล่อยให้มีอะไรเสียหายไม่ได้อีก ถ้ากองทัพหลักของพวกมันมาเจอกับดักแบบนี้เข้า ผลลัพธ์จะเป็นยังไงมันก็ไม่กล้าที่จะคิดถึงเหมือนกัน
ศัตรูใช้ ‘ไฟ’ ในการโจมตีอย่างไม่ต้องสงสัย เฮคซอดนั้นคุ้นเคยกับไฟเป็นอย่างดี ในสงครามแห่งโชคชะตาเมื่อครั้งอดีตมันก็เคยให้ไฟในการโจมตีเมืองของมนุษย์ เพียงแต่ละอองชีวิตนั้นไม่ชอบอุณหภูมิที่สูง จึงทำให้เผ่าพันธุ์มันไม่ค่อยใช้ไฟในการโจมตี
เปลวเพลิงที่สามารถเผาร่างระดับต่ำทั้งเป็นได้แบบนี้ มันเพิ่งจะเคยเห็นเป็นครั้งแรก
เหมือนว่าทั้งเมืองถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นเตาไฟขนาดใหญ่
แต่มันจะเป็นไปได้ยังไง?
ถ้ามนุษย์มีอาวุธแบบนี้อยู่จริงๆ อย่างนั้นก็จำเป็นต้องให้จักรพรรดิรับทราบว่าแนวรบตะวันตกมีอันตรายแล้ว
เดี๋ยวๆ…เปลวเพลิง?
ภายในหัวเฮคซอดมีภาพๆ หนึ่งผุดขึ้นมาทันที มันเป็นภาพที่มันเห็นตอนที่มันเข้าไปค้นหาความทรงจำของคาบราดาบีในโลกแห่งจิตสำนึก ลูกบอลเพลิงที่สว่างเจิดจ้าเบ่งบานขึ้นมา คล้ายกับพระอาทิตย์ยามเช้าที่ลอยขึ้นมาจากท้องฟ้า
หรือว่า…ที่คาบราดาบีเห็นในตอนนั้นก็ออาวุธเปลวเพลิงแบบนี้?
มันรู้สึกเย็นวาบขึ้นมาทันที
ในขณะที่สกายลอร์ดกำลังนึกหวาดกลัวอยู่นั่น เสียงของซีอาซิสพลันดังแทรกความคิดของมันขึ้นมา “นายท่าน ข้าตรวจสอบดูคร่าวๆ แล้ว ทีมขนส่งกลุ่มนี้มีร่างชั้นต่ำอยู่ทั้งหมด 350 ตัว แล้วก็มีร่างระดับต้นที่ทำหน้าที่คุ้มครองพวกมันอยู่อีก 10 กว่าตัว ตอนนี้ยังไม่พบผู้รอดชีวิต แต่ข้าคิดว่าข้ารู้วิธีโจมตีของแมลงพวกนั้นแล้วขอรับ”
“โอ้? ไหนลองว่ามาซิ”
“เชิญตามข้ามาเลยขอรับ”
เฮคซอดบินตามซีอาซิสมาที่บริเวณใกล้ๆ กำลังเมืองทางทิศเหนือ ร่างระดับต้นส่วนหนึ่งกำลังก้มหน้าก้มตาขุดอะไรบางอย่าง รอบๆ พวกมันมีเศษโลหะสีดำกองกระจัดกระจาย ส่วนตรงที่ๆ ไกลออกไปอีกหน่อยก็มีรถศึกสำหรับโจมตีเมืองหลายคันพลิกคว่ำอยู่ หลังจากที่ร่างซิมไบออนท์ที่มีความแข็งแกร่งและความคล่องตัวมากกว่าถูกสร้างขึ้นมา อาวุธสำหรับทำศึกรุ่นเก่าพวกนี้จึงกลายมาเป็นเครื่องมือสำหรับการขนส่งแทน
“ท่านดูนี่สิขอรับ” ซีอาซิสยื่นหนวดออกไปหยิบเศษโลหะที่อยู่บนพื้นขึ้นมา ตรงรอยฉีกมีร่องรอยหลอมละลายอยู่อย่างชัดเจน “ถ้าเอามันมาประกอบเข้าด้วยมัน มันน่าจะเป็นภาชนะอย่างหนึ่ง และของแบบนี้ก็ถูกตั้งเรียงเอาไว้รอบเมือง ดูน่าจะมีอยู่หลายร้อยอัน ข้าคิดว่าพวกแมลงน่าจะใส่ผงหิมะกับวัตถุที่ลุกติดไฟได้เอาไว้ข้างใน แล้วก็คิดที่จะใช้มันทำลายเส้นทางการขนส่งของพวกเรา จากนั้นค่อยฉวยโอกาสบุกเข้าโจมตี”
หลังสู้กับมนุษย์จนมาถึงตอนนี้ พวกมันย่อมต้องรู้เรื่องอาวุธที่พวกมนุษย์ใช้แน่นอน ในระหว่างที่ไล่ฆ่าอีกฝ่าย เฮคซอดก็ยังเก็บอาวุธของมนุษย์มาได้ไม่น้อยด้วย ไม่ว่าจะเป็น ‘กระบอกเพลิง’ หรือว่า ‘หน้าไม้เพลิง’ ก็ล้วนแต่ใช้ผงหิมะเป็นตัวจุดชนวนให้ไฟลุก เมื่อเทียบกับอาวุธที่ใช้พลังเวทมนตร์ในการขับเคลื่อนแล้ว มันดูใช้งานได้ยุ่งยากกว่า และก็เป็นเพราะเหตุนี้ โครงสร้างของอาวุธเหล่านี้จึงดูมีความละเอียดประณีตอย่างมาก นี่เป็นเทคโนโลยีที่ไม่เคยมาก่อนในช่วง 400 ปีที่ผ่านมา
“ถ้าเป็นแค่เปลวไฟธรรมดา อย่างนั้นมันจะสร้างความเสียหายขนาดนี้ได้ยังไง?”
“นายท่าน เปลวไฟนี่เกรงว่าจะไม่ใช่เปลวไฟธรรมดา อย่างน้อยอุณหภูมิของมันก็สูงกว่าเปลวไฟธรรมดาอย่างแน่นอน แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ มันก็ไม่มีทางที่จะเผาร่างชั้นต่ำทั้งหมดนั่นทั้งๆ ที่อยู่ห่างกันขนาดนี้ได้ ข้าคิดว่าจุดสำคัญน่าจะอยู่ที่รถศึกสำหรับโจมตีเมืองพวกนั้นขอรับ”
“หมายความว่ายังไง?” เฮคซอดถาม ซีอาซิสเป็นปีศาจที่มีพลังจิต ผู้ยกระดับที่มีความสามารถย่อยแบบนี้มักจะมีความสามารถในการสังเกตที่เฉียบคม และนี่ก็เป็นเหตุผลที่สกายลอร์ดส่งมันมาสำรวจดูสนามรบ
“ในตอนที่ผงหิมะเหล่านี้ถูกจุดระเบิด มันอาจจะไปกระทบถูกรถศึกที่กำลังผ่านประตูเมืองในตอนนั้น ปกติรถศึกมักจะใช้ขนของหนักๆ อย่างเช่นบ่อละอองชีวิตหรือไม่ก็ถังเก็บละอองชีวิต ซึ่งอุณหภูมิที่สูงทำให้พวกมันระเบิด แล้วก็ยิ่งทำให้ละอองชีวิตของที่นี่เสียหายหนักขึ้น” อีกฝ่ายโบกสะบัดหนวดอย่างรวดเร็วพร้อมกับส่งเสียงซู่ๆ ออกมาไม่หยุด “ท่านก็รู้ว่าในตอนที่อุณหภูมิสูงขึ้นถึงระดับหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของอะไรก็ถูกเผาไหม้ได้ทั้งนั้น รวมไปถึงพวกเราด้วย”
คำอธิบายของซีอาซิสทำให้เฮคซอดรู้สึกโล่งใจขึ้นมาหน่อย การระเบิดครั้งนี้จะเป็นเรื่องบังเอิญหรือไม่มันก็ยังไม่อาจรู้ได้ แต่อย่างน้อยถังเหล็กขนาดใหญ่เหล่านั้นก็ทำให้มันรู้สึกสบายใจขึ้นมาไม่น้อย เพราะการที่ต้องติดตั้งอาวุธจำนวนมากเอาไว้ล่วงหน้ากับการที่สามารถยิงออกมาได้ตลอดเวลานั้นไม่เหมือนกัน ขอเพียงหลังจากนี้เพิ่มการป้องกันให้แน่นหนามากขึ้น กับดักแบบนี้ก็ยากที่จะทำอะไรพวกมันได้
แต่แน่นอน มันก็รู้ดีกว่าการที่จะตรวจสอบเมืองมนุษย์ซักเมืองอย่างรวดเร็วนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย การหยุดขนส่งบ่อละอองชีวิตกับถังเก็บละอองชีวิตก็ไม่ได้ทำให้พวกมันปลอดภัยได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ มันไม่คิดว่าพวกร่างระดับต้นกับร่างชั้นต่ำพวกมันจะสามารถทำเรื่องนี้ได้
วิธีที่ได้ผลดีที่สุดก็คือใช้พวกมนุษย์ด้วยกันเอง
“นายท่าน ต่อไปพวกเราจะทำยังไงดีขอรับ?”
“ชะลอความเร็วในการเข้าเมืองก่อน ให้พวกมนุษย์มันเข้าไปตรวจสอบแทนพวกเรา” เฮคซอดทำการตัดสินใจออกมาอย่างรวดเร็ว “ตอนนี้ที่อื่นก็ไม่สามารถส่งร่างชั้นต่ำมาทางนี้ได้ ความเสียหายตรงนี้ให้ปราสาทรีเฟลคสโนว์มาชดเชยแทนแล้วกัน ข้าคิดว่าเอิร์ลมาร์เวนจะต้องยินดีรับใช้พวกเราแน่”
“นอกจากนี้พวกเราก็ยึดเอาอาวุธบางส่วนของพวกศัตรูมาได้ไม่ใช่เหรอ?” สกายลอร์ดชะงักไปเล็กน้อย “ขุนนางจำนวนไม่น้อยเหมือนจะเกลียดคนเกรย์คาสเซิลอย่างมาก ก็ให้พวกมันเอาไปลองใช้แล้วกัน”
………………………………………………………………………