Release That Witch ปล่อยแม่มดคนนั้นซะ - ตอนที่ 1286 อีกโลกหนึ่ง
“อาการบาดเจ็บของเธอเป็นยังไงบ้าง?”
เฟยอวี่หานยกหนังสือกองใหญ่เข้ามาในห้อง 402 ก่อนจะเอาหนังสือวางไปบนโต๊ะข้างหัวเตียง
“ขอบคุณนะ” วัลคีรีย์พยักหน้าขอบคุณ “ตอนนี้ขยับลงจากเตียงได้แล้ว หมอบอกว่าอีกอาทิตย์หนึ่งก็หายเป็นปกติแล้วล่ะ”
“อย่างนั้นก็ดี ต่อให้เป็นผู้ฝึกยุทธ์ พลังในการฟื้นตัวของเธอก็ยังถือว่าอยู่ในระดับต้นๆ เลยนะเนี่ย” เฟยอวี่หานยิ้มๆ
“งะ…งั้นเหรอ?”
“พลังแห่งธรรมชาติจะทำให้ร่างกายของแต่ละคนแข็งแกร่งไม่เหมือนกัน ไม่ใช่ว่าผู้ตื่นรู้ทุกคนจะเป็นเหมือนอย่างเธอ กระดูกที่ข้าทั้งสองข้างถูกทับจนแตกอย่างละเอียด แต่ก็ยังฟื้นตัวขึ้นมาได้ในเวลาเดือนเดียว เพียงแต่เมื่อก่อนนี้เธอไม่เคยผู้ฝึกยุทธ์บาดเจ็บหนักขนาดนี้ ก็เลยไม่รู้ว่าตัวเองมีความสามารถนี้ซ่อนอยู่” เธอชะงักไปเล็กน้อย “ตอนอยู่ที่คาบสมุทรคาร์การ์ด ความสามารถของเธอก็น่าจะอยู่แถวหน้าใช่หรือเปล่า?”
“ทำไมถึงคิดอย่างนั้นล่ะ?”
“อาจารย์ของฉันพูดบ่อยๆ ว่าคนที่แข็งแกร่งมักจะแข็งแกร่งในทุกๆ ด้าน การที่ฟื้นตัวได้เร็วขนาดนี้ก็แสดงให้เห็นว่าความแข็งแกร่งและความอดทนของร่างกายเธอนั้นยอดเยี่ยมอย่างมาก ซึ่งผู้ฝึกยุทธ์ที่จะมีพรสวรรค์แบบนี้เรียกได้ว่ามีน้อยมากๆ อย่างเช่นฉัน” เฟยอวี่หานพูดออกมาตรงๆ “เอาไว้เธอหายดีแล้ว บางทีเราน่าจะมาลองประลองฝีมือเล่นๆ ดูนะ”
“นี่เป็นเหตุผลที่เธอดึงฉันมาเข้าทีมงั้นเหรอ?” วัลคีรีย์พูดอย่างเหนื่อยใจ “เธอเป็นอัจฉริยะระดับสุดยอดของสมาคม ฉันไม่คิดว่าตัวเองจะช่วยอะไรเธอได้”
“ไม่เห็นเกี่ยวกันเลย อีกอย่างเธอนอนอยู่บนเตียงนานขนาดนี้ การฝึกกับคนเก่งๆ จะทำให้ความสามารถฟื้นตัวกลับมาอย่างรวดเร็ว เพราะฟอลเลนอีวีลมันไม่มานั่งสนใจหรอกว่าเธอเคยบาดเจ็บหรือเปล่า”
“…..” วัลคีรีย์นิ่งเงียบไปครู่ก่อนจะพยักหน้าออกมา “ถึงตอนนั้นก็ขอคำชี้แนะด้วยแล้วกัน”
“ไม่เป็นไร” เฟยอวี่หานยิ้มมุมปากขึ้นมา “เออใช่ เมื่อวานฉันเข้าไปในเมืองซื้อขนมของคาบสมุทรคาร์การ์ดมาให้ อยู่ในถุงบนกองหนังสือนะ เธอน่าจะอยากกิน จะว่าไปแล้ว อาหารที่โรงพยาบาลจัดมาให้นี่ไม่ค่อยอร่อยเท่าไรเลย”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ เธอก็สังเกตเห็นลูกกระเดือกของอีกฝ่ายขยับเล็กน้อย นั่นคือการกลืนน้ำลายแบบไม่ให้ใครสังเกตเห็น
ถึงแม้ชาวคาร์การ์ดจะกินอาหารปกติ แต่ได้ยินว่าพวกเขาแยะแยะรสชาติอาหารว่าอร่อยหรือไม่อร่อยไม่ค่อยได้ มีแต่อาหารของที่คาบสมุทรคาร์การ์ดเท่านั้นถึงจะทำให้พวกเขารู้สึกอร่อย เฟยอวี่หานเองก็เคยลองกินอาหารที่มีรสชาติพิเศษที่ว่า แต่เธอพบว่ามันไม่มีความอร่อยเลย
แน่นอนว่ามีบางคนบอกให้ค่อยๆ ลิ้มรสมัน แล้วจะรับรู้ได้ถึงรสชาติอันแสนอร่อยที่มีอยู่น้อยนิดบนโลก เพียงแต่แนวคิดนี้ไม่ได้รับการยอมรับจากคนส่วนใหญ่ ด้วยเหตุนี้อาหารของคาบสมุทรคาร์ดการ์ดจึงมีขายอยู่แค่ในบางร้านเท่านั้น
“ขอบคุณเธอมากนะ…” วัลคีรีย์รีบปิดบังปฏิกิริยาตอบสนองของตัวเองพร้อมกับกล่าวขอบคุณ
“เรื่องเล็กน้อยน่า ฉันเป็นหัวหน้าทีมนะ เรื่องใส่ในลูกทีมมันก็เป็นเรื่องที่ฉันต้องทำอยู่แล้ว” เฟยอวี่หานโบกมือ “แต่จะว่าไป เธอนี่ชอบอ่านหนังสือจริงๆ เลยนะ”
“อื้อ เวลาเบื่อๆ ก็อยากหาหนังสือมาพลิกอ่านหน่อย กลายเป็นความเคยชินไปแล้วล่ะ”
“เป็นนิสัยที่ดีทีเดียวนะเนี่ย ในนี้ไม่มีอะไรให้แก้เบื่อเลย แต่หนังสือกลับมีเยอะมาก ถ้าเธออยากจะอ่านอะไรก็บอกฉันได้เลยนะ”
“ขอบคุณนะ”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ทั้งสองคนก็ไม่ได้พูดอะไรอีก ภายในห้องเหลือเพียงแค่เสียงพลิกหน้าหนังสือ
เฟยอวี่หานยืนอยู่ริมหน้าต่างในห้องพักผู้ป่วย สายตามองดูทิวทัศน์นอกหน้าต่าง อากาศวันนี้ดีมาก ต้นหลิวห้อยตกลงไปในสระน้ำที่ใช้แรงงานคนสร้างขึ้นมา บางครั้งมันก็ไหวไปตามแรงลมที่พัดผ่าน หงส์ที่อยู่ไกลออกไปลอยอยู่บนผิวน้ำอย่างสบายใจ เงาสีขาวสะท้อนอยู่บนผิวน้ำ
ที่นี่ช่างเหมาะสำหรับการพักฟื้นร่างกายจริงๆ
แต่ว่าหางตาของเธอเคยจับจ้องดูความเคลื่อนไหวของวัลคีรีย์ผ่านทางเงาสะท้อนบนกระจกอยู่ตลอดเวลา
จริงๆ แล้วเธอไม่ได้เป็นคนที่กระตือรือร้นชอบช่วยเหลือคนอื่น แล้วก็ไม่ได้ชอบบีบคนอื่นให้มาประลองฝีมือกับตัวเองด้วย
ที่ก่อนหน้านั้นเธอแสร้งทำแบบนี้ออกมาก็เป็นเพราะในการเยี่ยมผู้ป่วยเมื่อหนึ่งเดือนก่อนหน้า เธอสังเกตเห็นว่าบางทีคนๆ นี้อาจจะรู้จักกับโรแลนด์ ไม่สิ พูดให้ถูกคือเธอรู้จักโรแลนด์ แต่โรแลนด์กลับคิดว่าเธอเป็นคนอื่น สิ่งที่ดูเหมือนการชวนคุยเรื่อยเปื่อยนั้น แท้จริงที่แล้วเขากำลังทำการยืนยันการวิเคราะห์ของตัวเองอยู่ ในจุดนี้เฟยอวี่หานมั่นใจว่าเธอไม่ได้ดูผิดไป
แต่สิ่งที่ทำให้เธอไม่เข้าใจก็คือในตอนที่โรแลนด์สอบถาม เขาไม่ได้แสดงความเป็นศัตรูออกมาเลย น้ำเสียงเองก็ฟังดูสบายๆ พูดอีกอย่างก็คือไม่ว่าวัลคีรีย์จะเป็นคนที่เขารู้จักคนนั้นหรือไม่มันก็ไม่ได้สร้างปัญหาอะไรให้เขาแม้แต่น้อย แต่ว่าอีกฝ่ายกลับแสดงความเป็นศัตรูและความตื่นตระหนกออกมาอย่างรุนแรง ถึงแม้มันจะเป็นเวลาแค่เสี้ยววินาทีในตอนที่ทุกคนเดินเข้าประตูมา แต่ว่ามันก็ยังถูกเฟยอวี่หานที่เดินอยู่หน้าสุดสังเกตเห็นอยู่ดี
ความสัมพันธ์แบบไหนถึงทำให้เกิดการตอบสนองที่แตกต่างกันถึงขนาดนี้?
ถ้าหากจินตนาการดูสักหน่อย มันก็ไม่ยากที่จะจินตนาการภาพคู่รักที่เลิกรากัน หลังจากนั้นสิบปีก็ทำศัลยกรรมเพื่อทำล้างแค้น อีกฝ่ายเมื่อได้เห็นก็รู้สึกเสียใจและเสียดาย แต่สุดท้ายก็ทำอะไรไม่ได้ประมาณนั้น แต่เฟยอวี่หานไม่ได้คิดไปในทางนั้นแม้แต่นิดเดียว เหตุผลนั้นเป็นเพราะว่าการควบคุมสีหน้าของวัลคีรีย์หลังจากนั้นน่าตกใจอย่างมาก ถ้าไม่มีภาพที่เธอเห็นในตอนแรกที่เดินเข้าห้องมา เกรงว่าแม้แต่เธอก็คงยากที่จะสังเกตเห็นถึงความผิดปกติอย่างแน่นอน ถ้านี่เป็นแค่เรื่องความรัก มันก็ยากที่จะเชื่อได้ว่าจะมีคนที่ทำถึงขนาดนี้ได้
เฟยอวี่หานเป็นคนที่ชอบสังเกตมาตั้งแต่เด็ก หลังตื่นรู้พลังแห่งธรรมชาติ ความสามารถตรงนี้ของเธอก็พัฒนาขึ้นไปอีกขั้น และก็เป็นเพราะเหตุนี้คนที่คุ้นเคยกับเธอจริงๆ จึงค่อยๆ ห่างเธอไปทีละคนสองคน บางคนถึงขนาดกลัวที่จะอยู่ใกล้ชิดกับเธอ พอนานวันเข้าเธอก็เคยชินกับความรู้สึกห่างเหิน แล้วก็ค่อยๆ ปลีกตัวออกมาจากทุกคน เพราะเพียงแค่มองดูไม่กี่ที เธอก็แทบจะเดาความคิดอีกฝ่ายออกมาได้จนหมดแล้ว
แต่โรแลนด์นั้นไม่เหมือนคนอื่น ผู้ไล่ล่าคนใหม่ที่เพิ่งจะเข้ามาในสมาคมได้ไม่นานเป็นคนที่เธอมองยังไงก็มองไม่ออก วัลคีรีย์ที่มีความสัมพันธ์อะไรบางอย่างกับโรแลนด์ก็เป็นเช่นนี้เหมือนกัน เห็นได้ชัดว่าพวกเขานั้นปิดบังอะไรบางอย่างอยู่ ความลับที่อยู่เบื้องหลังของทั้งคู่ทำให้เธอยากที่จะมองข้ามไปได้
และหลังจากที่ได้คลุกคลีอยู่กับวัลคีรีย์ เฟยอวี่หานก็ยิ่งรู้สึกแน่ใจในสัญชาตญาณของตัวเอง
ผู้ฝึกยุทธ์จากคาบสมุทรคาร์การ์ดคนนี้ดูเผินๆ แล้วเหมือนกับคนทั่วๆ ไป แต่การใช้ชีวิตของเธอยังคงมีรายละเอียดแปลกๆ หลายอย่างปรากฏออกมาให้เห็น — หากเป็นรู้จักอีกฝ่ายก่อนที่จะรู้จักโรแลนด์ เธอก็คงไม่รู้สึกสงสัยอะไร แต่หลังจากที่เธอค่อยๆ นึกเชื่อมโยง ความผิดปกติเหล่านี้มันกลับเชื่อมโยงเข้าด้วยกันอย่างน่าตกใจ
อย่างเช่นก่อนหน้านี้เธอเอาของกินเล่นของคาบสมุทรคาร์การ์ดมาให้วัลคีรีย์ ตอนแรกอีกฝ่ายไม่ได้แสดงทีท่าดีใจอะไรออกมา แต่หลังจากนั้นเธอกลับพบว่าอีกฝ่ายกินขนมจนหมดเกลี้ยง และครั้งนี้ปฏิกิริยาของวัลคีรีย์กลับเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด เรื่องนี้ดูเผินๆ แล้วเหมือนไม่มีปัญหาอะไร แต่หากคิดดูดีๆ ก็จะพบว่าครั้งนั้นจริงๆ แล้วอีกฝ่ายไม่ได้กินเข้าไปแค่เพราะจะหาอะไรใส่ท้องให้อิ่ม หากแต่เป็นเพราะก่อนหน้านี้เธอไม่รู้จักรสชาติของขนมของบ้านเกิดตัวเองว่าเป็นอย่างไร!
คนที่มาจากคาบสมุทรคาร์การ์ด แต่กลับไม่เคยกินอาหารขึ้นชื่อของคาร์การ์ด ไม่ว่ายังไงมันก็ดูไม่สมเหตุสมผลเลย
นอกจากนี้ช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา เฟยอวี่หานก็ไม่เคยเห็นวัลคีรีย์เล่นโทรศัพท์มือถือเลยแม้แต่ครั้งเดียว ตอนนี้คนหนุ่มสาวแทบจะอยู่ห่างจากโทรศัพท์มือถือไม่ได้ แต่อีกฝ่ายกลับเหมือนตัดขาดจากมันเลยอย่างไรอย่างนั้น ดูแล้วมันช่างน่าแปลกจริงๆ
แล้วก็ยังมีหนังสือพวกนั้น…
เธอไปยืมหนังสือเกี่ยวกับพวกประวัติศาสตร์มาจากห้องสมุดเป็นจำนวนมากตามคำไหว้วานของวัลคีรีย์ ถึงแม้จะบอกว่ามันเป็นนิสัยที่ดี แต่การที่อ่านหนังสือที่น่าเบื่อแบบนั้นตลอดทั้งวัน ความอดทนและความตั้งใจตรงนี้เกรงว่าแม้แต่เฟยอวี่หานก็ยังสู้ไม่ได้
ถ้าจะบอกว่าการที่ท่าทีที่มีต่ออาหารเปลี่ยนไปเป็นเพราะตอนแรกไม่รู้สึกอยากอาหาร ที่ไม่เล่นโทรศัพท์มือถือเป็นเพราะมีนิสัยชอบอยู่เงียบๆ การที่ชอบอ่านแต่หนังสือประวัติศาสตร์นั้นเป็นความชอบพิเศษส่วนตัว ฟังๆ ดูแล้วมันก็เหมือนจะฟังขึ้น แต่การที่มันเกิดขึ้นพร้อมๆ กันแบบนี้มันจะบังเอิญเกินไปหน่อยหรือเปล่า เมื่อเทียบกับเหตุผลที่ว่ามาข้างต้นแล้ว เฟยอวี่หานมักจะมีความรู้สึกว่าอีกฝ่ายกำลังทำความคุ้นเคยกับโลกใบนี้อยู่
ถ้าหากเป็นเวลาปกติ เกรงว่าเธอคงจะรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องตลก แต่หลังจากที่นึกโยงกับคำว่า ‘ฝ่าบาท’ นั่นแล้ว จู่ๆ ภายในใจเธอพลันมีการคาดเดาที่น่าเหลือเชื่อปรากฏขึ้นมา
เดิมเธอไม่อยากจะคิดต่อไป เพราะมันน่าตกใจจนเธอรู้สึกขนลุก แต่ทันทีที่ความคิดนี้มันผุดขึ้นมา เธอก็ไม่สามารถมองข้ามมันต่อไปได้อีก
เมื่อมีมัน เรื่องทุกอย่างก็จะอธิบายได้
ตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ที่มีคนที่ไม่เหมือนพวกเธอแอบเข้ามาอยู่ในเมืองแห่งนี้
พวกเขา…มาจากอีกโลกหนึ่ง
……………………………………………………………..