Release That Witch ปล่อยแม่มดคนนั้นซะ - ตอนที่ 1296 แขกที่มาจากบนฟ้า
“ท่านพ่อ…พวกเราจำเป็นต้องทำขนาดนี้จริงๆ เหรอ”
บนที่ดินว่างเปล่าแห่งหนึ่งที่อยู่นอกเมืองกลอรี ฮอว์น ควินนกำลังมองดูเหล่าคนงานที่กำลังทำงานพร้อมถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
สิ่งที่อยู่ตรงหน้าทั้งสองคนหนึ่งลานสีเหลียมผืนผ้าแห่งหนึ่ง ความยาวของมันประมาณ 1,000 เมตร กว้าง 500 เมตร หลังจากที่ทีมก่อสร้างของเกรย์คาสเซิลเข้ามายังอาณาจักรดอว์น มาตราวัดความยาวแบบใหม่ก็เริ่มเผยแพร่กันในหมู่ขุนนาง
ลานแห่งนี้ไม่เหมือนกับพวกลานในเมืองหลวงที่ใช้ก้อนอิฐที่สวยงามสร้างขึ้นมา พื้นผิวของมันล้วนแต่ใช้ซีเมนต์ปูขึ้นมา ดูแล้วมีแต่สีเทาๆ ไม่มีสีสันและเอกลักษณ์ใดๆ เลย ถ้าจะให้พูดข้อดีของมันก็คงจะมีแค่สร้างได้สะดวกเท่านั้น นับจากวันที่ขุดพื้นจนถึงวันที่สร้างเสร็จใช้เวลาไปไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์
แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ คนงานที่เอามาใช้ในการก่อสร้างก็ล้วนแต่เป็นคนงานที่ตระกูลควินน์เลี้ยงดูขึ้นมา เห็นได้ชัดว่าพ่อของเขาให้ความสำคัญกับการก่อสร้างนี้มาก
“โอ้?” ฮอว์ฟอร์ด ควินน์หรือก็คือราชาแห่งดอว์นในตอนนี้เหลือบหันมองดูเขาอย่างสนใจ “เจ้าหมายถึงอะไร?”
“คำสั่งของฝ่าบาทโรแลนด์มันไม่มากเกินไปหน่อยหรือท่านพ่อ” ฮอว์นพูดพร้อมกางมือออก “เดี๋ยวก็ให้สร้างสะพาน เดี๋ยวก็ให้สร้างถนน แถมยังเป็นงานก่อสร้างขนาดใหญ่ทั้งหมดด้วย ท่านเอาคนงานของตระกูลทั้งหมดมาทำงานพวกนี้ แล้วงานอื่นของเราจะทำยังไงล่ะท่านพ่อ? ในปราสาทยังมีอีกหลายที่ที่รอการซ่อมอยู่นะท่านพ่อ”
แน่นอนสิ่งที่ทำให้เขาไม่พอใจนั้นไม่ได้มีแค่สองข้อนี้
ท่านพ่อให้ความสำคัญกับคำขอของราชาแห่งเกรย์คาสเซิลมากเกินไปแล้ว
เรียกว่าให้คนสำคัญจนคนอื่นได้ประโยชน์แต่ตัวเองเสียเปรียบ
อย่างเช่นซีเมนต์ที่เป็นผลิตภัณฑ์จากการเล่นแร่แปรธาตุ ถ้าหากผูกขาดเอาไว้กับตระกูลตัวเอง มันจะต้องทำเงินให้พวกเขาได้มหาศาลแน่นอน
แต่เพียงแค่คำพูดของฝ่าบาทโรแลนด์ในจดหมายที่บอกว่า ‘ให้เร่งเพิ่มกำลังการผลิตโดยเร็วที่สุด’ ประโยคเดียว ท่านพ่อก็เรียกเหล่าขุนนางทั้งหมดมาในวัง แล้วก็บอกสูตรทำซีเมนต์ให้กับทุกคน ด้วยกำลังของสมาคมการค้าที่อยู่ในมือเหล่าขุนนาง โรงงานผลิตซีเมนต์จำนวนหลายแห่งก็ถูกสร้างขึ้นมาในระยะเวลาสั้นๆ นี่ทำให้ผลประโยชน์ที่ตระกูลควินน์จะได้รับต้องลดลงอย่างไม่ต้องสงสัย
แต่พอถึงตอนที่ต้องสร้างถนน สถานการณ์กลับไม่เหมือนเดิม
พวกขุนนางเหล่านั้นต่างก็พยายามบ่ายเบี่ยงไม่ยอมสร้าง ท่านพ่อเลยต้องลงมามือจัดการเอง
ตั้งแต่การเกณฑ์คนงานจนกระทั่งร่วมมือกับทีมก่อสร้างของเกรย์คาสเซิลสร้างถนนจนเสร็จล้วนแต่เป็นตระกูลควินน์ที่เป็นคนแบกรับ ค่าใช้จ่ายตรงนี้ไม่ใช่จำนวนเงินน้อยๆ แน่นอน ถึงแม้การกลืนกินทรัพย์สมบัติของตระกูลโมยาจะทำให้อำนาจของตระกูลเพิ่มขึ้น แต่เงินก็ถุูกใช้ออกไปอย่างรวดเร็วเหมือนกับสายน้ำเช่นเดียวกัน ฮอว์นที่เห็นเงินในคลังร่อยหรอลงไปทุกวันย่อมต้องปวดใจเป็นธรรมดา
สิ่งสำคัญนั้นอยู่ที่การสร้างถนนมันไม่เหมือนกับการลงทุนทำการค้า เงินที่จ่ายออกไปในการทำการค้าอาจจะกลับมามากกว่าเดิม แต่การสร้างถนนเชื่อมต่อจากแม่น้ำนอร์ธไซด์ไปถึงเคจเมาเธ่นจะทำให้พวกเขาได้อะไรกลับมา? ที่ตรงนั้นมันไม่ได้อยู่ในพื้นที่ควบคุมของตระกูลควินน์ด้วยซ้ำ! ต่อให้มันจะช่วยเร่งการเจริญเติบโตทางการค้าได้ แต่ผลประโยชน์มันก็ไปตกอยู่กับเจ้าเมืองตรงชายแดน
และเมื่อดูจากสถานการณ์ในปัจจุบัน สิ่งที่ฝ่าบาทโรแลนด์ต้องการจะสร้างไม่ได้มีแค่หนึ่งหรือสองอย่างนี้แน่ พื้นเรียบๆ แปลกๆ ที่ดูไม่มีประโยชน์อะไรตรงหน้านี้คือสิ่งยืนยัน หากปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป ช้าเร็วตระกูลจะต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอย่างแน่นอน ความจริงเขาก็เริ่มได้ยินเสียงต่อว่าจากตระกูลสาขามาไม่น้อยแล้ว
สิ่งที่ทำให้ฮอว์นรู้สึกไม่สบายใจมากที่สุดก็คือท่าทีของพ่อเขาที่มีต่อคนของเกรย์คาสเซิล
เขาไม่เพียงแต่จะลงตรวจตรางานก่อสร้างนั้นด้วยตัวเอง หากแต่ยังเชิญทีมก่อสร้างพวกนั้นเข้าไปในวังเพื่อถามความต้องการอยู่บ่อยๆ ด้วย ถ้าอีกฝ่ายเป็นขุนนางก็ว่าไปอย่าง แต่ปัญหาก็คือฮอว์นได้ไปสอบถามมาแล้ว เจ้าหน้าที่พวกนี้ล้วนแต่เป็นชาวบ้านธรรมดา ไม่ได้มีชาติตระกูลอะไรเลย พ่อของเขาซึ่งเป็นราชาของอาณาจักรมานั่งร่วมโต๊ะพูดคุยกับชาวบ้านธรรมดา นี่ทำให้เขายากจะยอมรับได้จริงๆ
แล้วก็อย่างเช่นวันนี้ พอได้ยินว่าทางเกรย์คาสเซิลจะมีคนมาที่เมืองกลอรี พ่อของเขาก็รีบพาคนมารอต้อนรับอยู่ที่นอกเมือง นี่มันทำให้คนยากจะเชื่อได้จริงๆ ในฐานะที่เป็นผู้ปกครอง ไปรอต้อนรับอยู่ในปราสาทก็ถือว่าให้เกียรติมากพอแล้ว มีราชวงศ์ไหนเขาทำกันถึงขนาดนี้บ้าง?
ฮอว์นสงสัยว่าพ่อของตัวเองกำลังชดเชยให้กับแอนเดรียหรือเปล่า เพราะการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนี้มันเริ่มขึ้นหลังจากที่ฮอว์ฟอร์ดได้เจอกับลูกสาวของตัวเอง
“ข้าจะทำยังไงได้ล่ะ?” ฮอว์ฟอร์ดยักไหล่ “คนอื่นไม่ยอมออกแรง ข้าจะนั่งอยู่เฉยๆ ก็ไม่ได้ใช่ไหมล่ะ? ความแข็งแกร่งของเกรย์คาสเซิลเป็นอย่างไรเจ้าก็เคยเห็นมาแล้ว เจ้าคิดว่าถ้าไม่มีการสนับสนุนของตระกูลวิมเบิลดัน ข้าจะนั่งอยู่บนบัลลังก์นี้ได้เหรอ?”
“ไม่ ท่านพ่อ…ข้าไม่ได้จะให้ท่านไปเป็นปฏิปักษ์กับเกรย์คาสเซิล” ฮอว์นรีบโบกมือปฏิเสธ “ท่านแค่สั่งการออกไป แล้วให้ลูกน้องไปทำ โรแลนด์ วิมเบิลดันก็ไม่มีทางที่จะมากล่าวโทษท่านได้ ส่วนเรื่องเงินก็ค่อยๆ คุยกับผู้ปกครองในท้องที่นั้นๆ ได้ เพราะการค้าคือการประณีประนอม พ่อค้าที่ยิ่งใจร้อนก็จะยิ่งขาดทุนได้ง่าย นี่เป็นสิ่งที่ท่านสอนข้าเอง”
“เสียดายที่สงครามแห่งโชคชะตามันไม่ใช่การค้าน่ะสิ”
“มันก็ใช่ แต่…” ฮอว์นกัดฟัน สุดท้ายจึงรวบรวมความกล้าพูดขึ้นมา “แต่บางคนคิดว่าสภาพของท่านในตอนนี้ไม่เหมือนกับราชาแห่งดอว์นเลย หากแต่เหมือนกับเสนาบดีของฝ่าบาทโรแลนด์ วิมเบิลดันมากกว่า!”
เดิมเขาคิดว่าคำพูดนี้จะทำให้พ่อของตัวเองโมโหอย่างมาก แต่อีกฝ่ายกลับจ้องมองเขาอยู่ครู่ ก่อนจะยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย “ข้าถามเจ้าหน่อย ทำไมทวีปนี้ถึงมีแค่สี่อาณาจักรใหญ่ ทำไมถึงไม่เป็นห้าหรือสาม?”
“เอ่อ…” ฮอว์นที่เจอกับการเปลี่ยนประเด็นอย่างปุบปับทำอะไรไม่ถูก “เพราะว่า…ทั้งสี่เป็นตระกูลที่แข็งแกร่งที่สุด?”
“ที่ถูกต้องกว่านั้นก็คือ ในดินแดนของตัวเอง” ฮอว์ฟอร์ดตอบ “ความแข็งแกร่งของตระกูลจะน้อยลงเรื่อยๆ ตามระยะทางที่เพิ่มขึ้น สิ่งที่เรียกว่าชายแดน จริงๆ แล้วก็คือจุดที่ความแข็งแกร่งของทั้งสองฝ่ายเท่ากัน แต่ตอนนี้จุดที่ว่านั้นมันไม่มีอยู่อีกแล้ว ขอเพียงโรแลนด์ วิมเบิลดันต้องการ เขาก็สามารถยึดเอาสี่อาณาจักรใหญ่มาเป็นของตัวเองได้ทันที ในเมื่อเป็นเช่นนี้ อย่างนั้นข้าเป็นเสนาบดีของเขามันไม่ถูกตรงไหนล่ะ?”
ฮอว์นแย้งออกไปทันที “ท่านพ่อ! ต่อให้กองทัพของเกรย์คาสเซิลจะแข็งแกร่งแค่ไหน แต่พวกเขาก็ควบคุมดินแดนที่กว้างใหญ่ขนาดนี้ไม่ได้! ท่านชมเชยความสามารถของเขาเกินไปหรือเปล่า…”
“นั่นเป็นเพราะว่าเจ้ายังไม่รับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงของเกรย์คาสเซิลต่างหาก ฮอว์น” ฮอว์ฟอร์ดถอนหายใจออกมา “บางทีโรแลนด์ในอดีตอาจจะทำไม่ได้ แต่ตอนนี้ระยะทางมันไม่ใช่อุปสรรคในการปกครองของเขาอีกแล้ว แน่นอน เจ้าซึ่งไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาทำย่อมต้องจินตนาการไม่ออกว่าเขาแข็งแกร่งขนาดไหนแล้ว”
“แล้ว…ท่านรู้ได้อย่างไร?”
ฮอว์ฟอร์ดยิ้มๆ “แอนเดรียตอบจดหมายข้ามาแล้ว”
นี่ทำให้ฮอว์นรู้สึกตกใจขึ้นมาทันที
ในขณะที่เขากำลังจะพูดโน้มน้าวพ่อของตัวเองต่อ จู่ๆ เขากลับได้ยินเสียงอุทานตกใจดังขึ้นมา
จากนั้นก็เป็นเสียงคำรามดังหึ่งๆ
ฮอว์นมองตามเสียงไป ก่อนจะตกตะลึงขึ้นมาเล็กน้อย เขาเห็นตรงขอบฟ้ามีเงาดำที่เรียงตัวอย่างเป็นระเบียบ พวกมันเรียงแถวเป็นเส้นตรงบินเข้ามาทางเมืองกลอรี
นั่นมัน…นกที่กำลังอพยพเหรอ?
แต่หลังจากนั้นครู่หนึ่งความคิดนี้ก็ถูกปฏิเสธไป ขนาดของจุดดำขยายใหญ่จนใหญ่กว่านกชนิดใดๆ บนโลก แล้วก็ยังคงขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ไม่หยุด
ฮอว์นค่อยๆ ลืมตาโต นั่นมันเป็นสิ่งที่คนสร้างขึ้นมา!
คนงานที่่เห็นเหตุการณ์นี้ต่างก็วางเครื่องไม้เครื่องมือในมือลง ก่อนจะส่งเสียงร้องขึ้นมา
เหล่าพ่อค้าที่ผ่านไปผ่านมาเองก็หยุดฝีเท้าแล้วพากันเงยหน้าขึ้นมองไปบนท้องฟ้า
“น่าเหลือเชื่อจริงๆ….เขาทำได้ถึงขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย” ฮอว์ฟอร์ดยิ้มมุมปากขึ้นมา “คนที่ข้ารอรับ…มาถึงแล้ว”
ฮอว์นที่ได้ยินคำพูดประโยคนี้ตกตะลึงไปทันที หรือว่านกยักษ์นั้นคือพาหนะที่คนเกรย์คาสเซิลสร้างขึ้นมา?
มันจะเป็นไปได้ยังไง!?
………………………………………………………….