Release That Witch ปล่อยแม่มดคนนั้นซะ - ตอนที่ 1297 มาถึงแนวหน้า!
แต่เรื่องที่ไม่น่าเป็นไปได้ก็กลายเป็นจริงอย่างรวดเร็ว
นกยักษ์บินวนรอบๆ ลานซีเมนต์พร้อมกับลดระดับความสูง ฮอว์นมองเห็นคนขับชะโงกหน้าออกมามองได้อย่างชัดเจน ร่างกายของเจ้าสิ่งนี้ใหญ่กว่ารถม้าเสียอีก ไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่เข้าใจเลยว่าของหนักๆ แบบนี้มันบินอยู่กลางอากาศเหมือนนกได้ยังไง
คนอื่นๆ เองก็มีความคิดแบบเดียวกัน
ในตอนที่นกเหล็กส่งเสียงคำรามบินผ่านลานไป คนงานบางคนถึงขนาดคุกเข่าลงไปทำท่าเหมือนสวดภาวนา
นี่มันยิ่งกว่าปาฏิหาริย์เสียอีก
“แอนเดรียพี่สาวของเจ้าอยู่บนนั้น” ฮอว์ฟอร์ดพูดเสริมขึ้นมา “และวันออกเดินทางที่เขียนไว้ในจดหมายก็คือเมื่อวานนี้”
ฮอว์นงุนงงอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเข้าใจความหมายของคำว่า ‘เมื่อวาน’ นี้
พริบตาที่เขาเข้าใจ ขนบนแผ่นหลังของเขาพลันลุกเกรียวขึ้นมา
เดินทางพันกิโลเมตรได้ในวันเดียว?
‘และตอนนี้จุดที่ว่านั้นมันก็ไม่มีอยู่แล้ว’ คำพูดของพ่อเขาดังขึ้นมาในหู ตอนนี้เขาเพิ่งจะเข้าใจแล้วว่าความคิดของตัวเองก่อนหน้านี้มันน่าขันแค่ไหน
นกเหล็กที่คนสร้างขึ้นมาค่อยๆ ร่อนลงพื้นทีละลำๆ ในตอนที่แอนเดรียเดินออกมาจากเครื่องบิน ฮอว์ฟอร์ดก็รีบเดินเข้าไปต้อนรับอย่างรวดเร็ว
….
งานเลี้ยงต้อนรับเหล่าแม่มดถูกจัดขึ้นในปราสาท ถึงแม้จะไม่ได้แจ้งให้ขุนนางคนอื่นมาเข้าร่วมงาน แต่ข่าวแขกผู้มาเยือนจากบนท้องฟ้าก็แพร่กระจายไปทั่วทั้งเมืองกลอรีอย่างรวดเร็ว
หลังทานอาหารกลางวันเสร็จ ในที่สุดฮอว์ฟอร์ดก็มีโอกาสได้คุยกับลูกสาวของตัวเองตามลำพัง
สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกยินดีก็คืออย่างน้อยครั้งนี้อีกฝ่ายก็ยอมเรียกเขาว่าพ่อแล้ว
“เจ้าจะออกเดินทางบ่ายนี้เหรอ?” ฮอว์ฟอร์ดพูดเหมือนยังไม่อยากให้ลูกสาวไป
“พวกข้าต้องรีบไปรวมกับกองทัพที่หนึ่งที่ชายแดนเคจเมาเธ่นก่อนพระอาทิตย์ตกดิน” แอนเดรียพยักหน้า “ถ้าไม่เป็นเพราะคำนึงถึงว่านี่เป็นการบินข้ามอาณาจักรครั้งแรกของทุกคน ซีกัลก็น่าจะเดินทางถึงนั่นได้ในวันเดียว ถ้าเป็นแบบนั้น แม้แต่เวลาจะกินข้าวซักมื้อก็คงจะไม่มี”
เดินทางข้ามสองอาณาจักรได้ในวันเดียว! ถึงแม้ก่อนหน้านี้เขาจะรู้เรื่องเครื่องมือขนส่งที่น่าเหลือเชื่อนี้จากจดหมายที่ลูกสาวส่งมาแล้ว แต่คำพูดนี้ก็ยังทำให้เขารู้สึกตกตะลึงอยู่ไม่น้อย ถึงแม้ก่อนหน้านี้เขาจะสั่งสอนฮอว์นไปว่าไม่รู้ถึงการเปลี่ยนแปลงของเกรย์คาสเซิล แต่ความจริงแล้วตัวเขาก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันเท่าไรเลย ฮอว์ฟอร์ดแอบถอนใจกับตัวเอง ก่อนจะลูบคางแล้วพูดว่า “ความจริงแล้วพวกเจ้าจงใจที่จะทำให้มันดูน่าตกตะลึงขนาดนี้ใช่ไหม?”
ในที่สุดแอนเดรียก็ยิ้มออกมา “ท่านมองออกเหรอ?”
“ข้าคิดว่าเครื่องบินลงจอดมันไม่จำเป็นต้องบินวนนานขนาดนั้น” ฮอว์ฟอร์ดพูดด้วยท่าทีเหนื่อยใจ “ทำแบบนี้ เกรงว่าแม้แต่คนที่อยู่ทางใต้ของเมืองก็ยังได้ยินเสียงคำรามของมันเลย แต่แน่นอน แบบนั้นมันก็เป็นการเตือนพวกขุนนางที่คิดจะก่อความวุ่นวายที่ดีอย่างมากเหมือนกัน”
“นั่นเป็นเหตุผลแค่ข้อหนึ่งเท่านั้น เหตุผลอีกข้อหนึ่งก็คือเพื่อปลอบขวัญประชาชน” เธอยักไหล่ “ข้าได้ยินมาว่ามีคนเห็นร่องรอยของอสูรสยองในอาณาจักรดอว์น ถ้าสามารถทำให้ประชาชนเหล่านั้นรู้ว่ากองทัพเกร์คาสเซิลเองก็มีความสามารถในการบินเหมือนกัน ความหวาดกลัวก็คงจะลดลงไปได้บ้าง”
“เป็นวิธีที่ดีจริงๆ ไข่มุกแห่งดินแเดนทางเหนือคนนั้นเป็นคนคิดเหรอ?”
“เปล่า องค์หญิงทิลลีเป็นคนคิด”
พอพูดถึงชื่อขององค์หญิงตระกูลวิมเบิลดัน ฮอว์ฟอร์ดพลันสังเกตเห็นถึงความภูมิใจอยู่ในดวงตาของลูกสาวตัวเอง ราวกับว่าเป็นเกียรติอย่างไรอย่างนั้น ดูเหมือนเธออยู่ที่เนเวอร์วินเทอร์นางจะได้เพื่อที่ดีจริงๆ สินะ ฮอว์ฟอร์ดคิดในใจ เขาพยักหน้าแล้วเปลี่ยนประเด็น “เออใช่ เจ้าไม่คิดจะสืบทอดตำแหน่งของข้าจริงๆ เหรอ?”
“ทำไมถึงพูดเรื่องนี้อีกล่ะ?” แอนเดรียเลิกคิ้วขึ้นมา “ข้าเคยบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าข้าไม่สนใจบัลลังก์ของดอว์น? หรือว่าท่านไม่พอใจฮอว์น?”
“เขาเป็นขุนนางที่ดี มีพรสวรรค์ในเรื่องการค้า ถ้าแค่ตำแหน่งเอิร์ล ข้าคิดว่าคงจะไม่มีปัญหาอะไร” ฮอว์ฟอร์ดส่ายหัว “แต่ปัญหาคือฮอว์นก็เหมือนกับขุนนางที่มองผลประโยชน์เป็นสำคัญ หลายๆ คนในตระกูลไม่เข้าใจในสิ่งที่ข้าทำ พวกเขาไม่เข้าใจว่าที่ข้าทำอยู่นี่ก็เพื่อความมั่นคงของตระกูล”
หลังจากที่เขากลายเป็นราชาแห่งดอว์น ท่าทีของคนในตระกูลก็เปลี่ยนไป แม้แต่ลูกชายที่เขาเลี้ยงมาก็เหมือนกัน หากเป็นตัวฮอว์นเมื่อก่อนนี้ เขาไม่มีทางกล้าพูดว่า ‘ท่านไม่เหมือนราชาแห่งดอว์น หากแต่เป็นเสนาบดีของฝ่าบาทโรแลนด์ วิมเบิลดัน’ ต่อหน้าเขาเด็ดขาด ถ้าเป็นไม่เป็นเพราะมีคนคอยยุยงอยู่ข้างหลังเขา ก็คงเป็นเพราะเขาคิดว่าตัวเองจะกลายเป็นราชาคนต่อไป
‘ฝ่าบาท’ คำๆ นี้ช่างทำให้คนหลงใหลจริงๆ แต่อำนาจที่อยู่เบื้องหลังมันก็มีความเสี่ยงแอบซ่อนเอาไว้อยู่เหมือนกัน เขาไม่อยากให้ฮอว์นเดินตามรอยอัลเบน
ยิ่งไปกว่านั้นยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่เขาไม่ได้พูดออกมา นั่นคือฐานะของฮอว์นคงยากที่จะทำให้อีกสองตระกูลใหญ่ยอมรับได้
ความจริงแล้วที่ตระกูลโลธากับตระกูลโทคัตยอมสนับสนุนตัวเอง เหตุผลหลักๆ เป็นเพราะว่าผู้สืบทอดของทั้งสองตระกูลยืนดีที่จะรับใช้แอนเดรีย
“นั่นเป็นเรื่องที่ท่านต้องแก้ปัญหาเอง” แอนเดรียตอบ
“ถ้าเจ้าไม่ยอมมาแทนที่ข้า อย่างนั้นข้าก็คงได้แต่ต้องยกบัลลังก์ให้อีกสองตระกูลไปแบ่งกันเอง” ฮอว์ฟอร์ดแสร้งทำเป็นพูดเหมือนเสียใจ
“ท่านตัดใจได้เหรอ?”
“ทำไมจะไม่ได้” เขาพูดกึ่งจริงจังกึ่งล้อเล่น “ถึงตอนนั้นข้าก็จะได้ไม่มีเรื่องมาทำให้วุ่นวายใจ หลังสงครามจบลง ไม่แน่ข้าอาจจะย้ายไปอยู่เป็นเพื่อนเจ้าที่เนเวอร์วินเทอร์ก็ได้”
นี่ไม่ได้เป็นแค่การพูดลอยๆ ถ้าหากโรแลนด์ วิมเบิลดันสามารถเอาชนะสงครามแห่งโชคชะตาได้จริงๆ เขายังจะปล่อยให้มีสี่อาณาจักรต่อไปอีกเหรอ? ฮอว์ฟอร์ดไม่คิดเช่นนั้น ที่ตระกูลควินน์เดินมาถึงจุดนี้ได้นั้นเป็นแค่เพราะเรื่องสงครามเท่านั้น ถ้าคนที่นั่งอยู่บนบัลลังก์คือแอนเดรีย บางทีโรแลนด์อาจจะไม่ทำอะไร แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นเขามันก็ไม่แน่
ก็เหมือนกับที่เขาพูดไปก่อนหน้านี้ ตอนนี้ ‘ระยะทาง’ ที่เอาไว้คานอำนาจกันมันได้ถูกทำลายลงแล้ว
แอนเดรียจ้องมองเขาอยู่ครู่ สุดท้ายก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับมา แต่ฮอว์ฟอร์ดรับรู้ได้ว่าในดวงตาของลูกสาวตัวเองมีความอ่อนโยนกว่าแต่ก่อน ผ่านไปครู่หนึ่งเขาจึงพูดขึ้นมาว่า “ได้เวลาแล้ว ข้าต้องไปแล้วล่ะ”
“ดูแลตัวเองด้วยนะ” ฮอว์ฟอร์ดสะกดความคิดที่จะยื่นมือไปลูบหัวลูกสาวตัวเองเอาไว้ “ถ้ามีเวลาข้าจะไปเยี่ยมเจ้าที่แนวหน้านะ”
“…ท่านก็เหมือนกัน” แอนเดรียหมุนตัวเดินออกไปจากห้องหนังสือ
ฮอว์ฟอร์ดสูดหายใจ ก่อนจะนั่งพิงไปบนเก้าอี้แล้วหลับตา
เขายังไม่ลืมการตัดสินใจของตัวเองเมื่อหนึ่งปีก่อนหน้านี้
เขายินดีใช้ชีวิตที่เหลือในการชดเชยความผิดพลาดในอดีต
….
หลังจากนั้น 4 ชั่วโมง ฝูงบินทั้งหมดก็ร่อนลงจอดที่เมืองธอร์นตรงตีนเขาเคจเมาเธ่น
ในเวลาไม่ถึง 2 วัน ลงจอดพัก 4 เมือง บินข้ามระยะทางพันกว่ากิโลเมตร การเคลื่อนพลสนับสนุนในครั้งนี้จะต้องถูกจารึกลงไปประวัติศาสตร์
คนอื่นๆ อย่างเช่นขวานเหล็ก ไบรอัน เอดิธส์ต่างมารอต้อนรับอยู่ที่ลานจอดเครื่องบิน หลังทักทายอย่างง่ายๆ เสร็จเรียบร้อย เหล่าแม่มดก็ถูกเชิญเข้าไปในฐานบัญชาการที่ตั้งอยู่บบนยอดเขา เมื่อดูจากสีหน้าตรึงเครียดของทีมที่ปรึกษาแล้ว สถานการณ์ของกองทัพที่หนึ่งในตอนนี้คงจะดูไม่ดีเท่าไรนัก
ขวานเหล็กกางแผนที่ลงบนโต๊ะยาว ก่อนจะหันมาพยักหน้าให้ทุกคน “หลังจากนี้ข้าจะอธิบายสถานการณ์ในตอนนี้ให้ทุกคนได้ทราบ”
…………………………………………………………………