Release That Witch ปล่อยแม่มดคนนั้นซะ - ตอนที่ 1303 เบาะแสที่กระจัดกระจาย (1)
ในห้องข่าวกรองเรียกได้ว่าเป็นส่วนที่มีจำนวนคนเยอะที่สุดและใช้พื้นที่เยอะที่สุดในศูนย์บัญชาการ เพื่อที่จะคัดกรองและเก็บข่าวสารจำนวนมหาศาล โลตัสกับฟรานได้สร้างห้องใต้ดินขึ้นมาให้ทีมที่ปรึกษาใช้เป็นการเฉพาะขึ้นมาห้องหนึ่ง ซึ่งในจำนวนสมาชิกทั้งหมด 200 คนของทีมที่ปรึกษา มี 70% ที่มาทำงานอยู่ที่นี่
ขณะเดียวกันมันยังเป็นห้องทำงานที่ใช้ทรัพยากรเยอะที่สุดด้วย ไม่เพียงแต่จะมีหินเรืองแสงที่ค่อนข้างหายาก ตอนกลางดึกมันยังมีเครื่องดื่มยุ่งเหยิงให้ได้ดื่มฟรีด้วย เรียกได้ว่าสวัสดิการของมันทำให้คนอื่นๆ ต้องอิจฉา
แต่ภายในห้องข่าวกรองกลับมีเสียงบ่นอยู่ตลอดเวลา
หลังจากที่ไข่มุกแห่งดินแดนทางเหนือเสนอแผนการสายลับขึ้นมา แผนการนี้ก็ค่อยๆ แสดงผลลัพธ์ของมันออกมาให้เห็น จดหมายลับจากอีเทอร์นอลวินเทอร์และวูล์ฟฮาร์ทจากสัปดาห์ละ 2 – 3 ฉบับ จนตอนนี้กลายเป็นวันละเกือบร้อยฉบับ
ถึงแม้จุดประสงค์หลักๆ ที่ตั้งทีมที่ปรึกษาขึ้นมาก็เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลข่าวสาร แต่ในอดีตข้อมูลส่วนมากล้วนแต่มาจากการสอดแนมและรายงานจากในสนามรบ ข้อมูลเหล่านั้นไม่เพียงจะเขียนเอาไว้อย่างเรียบร้อย แต่ยังกระชับและเข้าใจได้ง่าย แต่ข่าวจำนวนมากที่ได้มาในทุกวันนี้เป็นแค่คำไม่กี่คำ แม้แต่จะรวมเป็นประโยคก็ยังทำได้ยาก แค่จะตีความหมายว่ามันหมายถึงอะไรก็ใช้เวลาไม่น้อยแล้ว ทำให้การคัดกรองข่าวสารจึงกลายเป็นเหมือนเกมต่อจิ๊กซอว์อย่างไรอย่างนั้น
แต่นี่ยังไม่ใช่สิ่งที่แย่ที่สุด
เมื่อเทียบกับการอ่านวิเคราะห์ข้อมูลแล้ว การจัดการกับจดหมายลับนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้ทุกคนปวดหัวมากที่สุด
ตามหลักแล้ว การที่ปริมาณข้อมูลข่าวสารมันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นั้นดูไม่สมเหตุสมผลเลย เพราะตอนนี้ปีศาจกำลังปิดล็อกชายขอบหมอกแดงอยู่ การจะส่งข่าวออกมานั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่หลังจากที่ฮิล ฟ็อกส์เข้ามาดูแลงานสายลับ วิธีการส่งข่าวพลันมีความหลากหลายขึ้นมา
อย่างเช่นเขียนเอาไว้ที่ด้านในของหนังสัตว์ ใส่เอาไว้ในคานหาม หรือไม่ก็ยัดเอาไว้ในท้องปลาเค็ม…ขอเพียงขุนนางในพื้นที่นั้นยังไม่หยุดทำการค้า พวกเขาก็ไม่มีทางที่จะหยุดข่าวสารไม่ให้ไหลออกมาได้ หลายๆ ครั้งแม้แต่คนส่งข่าวก็ยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตัวเองได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายข่าวกรองแล้ว
แต่ก็เป็นเพราะแบบนี้ จดหมายลับจึงเรียกได้ว่ามีความหลากหลาย อย่างเช่นความรู้สึกในตอนที่ล้วงเอาเศษผ้าออกมาจากท้องปลานั้นไม่ใช่ความรู้สึกดีที่ซักเท่าไร ยิ่งความรู้สึกตอนที่ต้องทนกลิ่นคาวเอามันไปทำความสะอาดแล้วค่อยเอากลับมาตรวจสอบดูใหม่นั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย
ถ้าต้องเปลี่ยนจากการเขียนรายงานพร้อมดื่มชายามบ่ายมาเป็นการล้วงเอาจดหมายออกมาจากข้าวของที่กองกันเหมือนกองขยะ แล้วยังต้องทำให้มันกลับคืนสู่สภาพเดิมเพื่อเอามาตรวจสอบ ไม่ว่าใครก็คงต้องรู้สึกแย่ทั้งนั้น
แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ ถึงแม้จะมีคนบ่น แต่ก็ไม่มีใครกล้าอู้งานแม้แต่คนเดียว เพราะว่าห้องข่าวกรองนี้เป็นหน่วยงานที่เอดิธส์กับขวานเหล็กให้ความสำคัญอย่างมาก การอู้งานต่อหน้าทั้งสองคนนั้นไม่ได้ต่างอะไรกับการรนหาที่ตายเลย
เมื่อเดินเข้ามาในห้องข่าวกรอง ไข่มุกแห่งดินแดนทางเหนือก็เห็นขวานเหล็กกำลังคุยกับฮิล ฟ็อกส์อยู่ ส่วนบนโต๊ะที่อยู่ตรงกลางห้องก็มีกระดาษโน๊ตอยู่หลายสิบแผ่น เห็นได้ชัดว่านั้นเป็นข้อมูลที่เจ้าหน้าที่ในทีมที่ปรึกษาคัดลอกออกมาใหม่
เธอกวาดตามองดู ก่อนจะพบว่าข่าวส่วนใหญ่ล้วนแต่มาจากอาณาจักรอีเทอร์นอลวินเทอร์
โดยส่วนใหญ่จะเป็นข่าวที่ไม่มีที่มาทำไปทำนองว่า ‘ตอนนี้เมืองทางเหนือเมืองหนึ่งมีกองทัพปีศาจเข้ามาประจำการ’ ‘ขุนนางคนหนึ่งตายอย่างประหลาด ส่วนตำแหน่งของเขาก็มีคนเข้ามาแทนที่’ ‘ตรงชายแดนมีสัตว์ประหลาดหินขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นมา’ แทบจะไม่มีข่าวที่ดูมีคุณค่าเลย
แต่มันก็ไม่แปลก การที่แผนการสายลับสามารถขยายตัวได้รวดเร็วขนาดนี้ นอกจากความสามารถของฮิลแล้ว ทางแบล็คมันนี่เองก็มีส่วนช่วยอย่างมากเหมือนกัน
หลังจากที่แนะนำให้ขวานเหล็กติดต่อคนส่งการ์ดสีดำมา คนที่อยู่หลังม่านก็ก้าวออกมายืนหน้าเวที ถึงแม้คนที่มาจะเป็นเพียงตัวแทน แต่เขาก็ยังแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่ายินดีที่จะให้ความช่วยเหลือเกรย์คาสเซิล องค์กรนี้ก่อตั้งขึ้นในอาณาจักรดอว์น แต่มันก็มีอิทธิพลในอาณาจักรวูล์ฟฮาร์ทกับอีเทอร์นอลวินเทอร์เช่นเดียวกัน หลักๆ แล้วอิทธิพลต้องนี้จะเป็นในหมู่ตลาดมืดกับพวกโจรใต้ดิน
ในเมื่อเป็นข่าวสารที่พวกโจรใต้ดินรวบรวมมา คุณภาพของข่าวสารย่อมไม่ได้ดีอะไรมาก บางทีข่าวสารพวกนี้อาจจะมีอยู่ไม่น้อยที่เป็นเพียงข่าวลือที่พูดกันตามถนน แต่ต่อให้เป็นข่าวที่ดูไร้ค่าแค่ไหน มันก็ยังดีกว่าก่อนหน้านี้ที่ไม่รู้อะไรเลยมาก
แต่ก็มีกระดาษโน้ตอยู่สองสามแผ่นที่ทำให้เธอสนใจ มันเป็นข่าวที่พูดถึงเรื่องที่มีการ ‘บังคับกะลาสีเรือ’ เกิดขึ้นในหลายๆ พื้นที่
“เจ้าคิดว่ายังไง?” ขวานเหล็กเองก็สังเกตเห็นไข่มุกแห่งดินแดนทางเหนือเหมือนกัน เขาจึงเอ่ยปากถามออกไป
“ถ้าข้าจำไม่ผิดล่ะก็ ในตอนที่การ์เซียบุกโจมตีอีเทอร์นอลวินเทอร์ นางเคยพาเรือเดินทะเลจำนวนมากมาด้วย” เอดิธส์นิ่งเงียบไปครู่ “ถ้าศาสนจักรไม่ได้ทำลายเรือพวกนั้นทิ้ง เกรงว่าตอนนี้พวกมันคงยังอยู่ที่ไหนซักแห่งในอีเทอร์นอลวินเทอร์”
“ดูเหมือนเจ้าเองก็ค่อนข้างสนใจเรื่องนี้เหมือนกัน”
“เมื่อเทียบกับข่าวอื่นๆ แล้ว อย่างน้อยข่าวนี้มันก็ได้รับการยืนยันจากหลายๆ ฝ่าย ความน่าเชื่อถือของมันค่อนข้างสูง” เธอผายมือแล้วพูดว่า “ประโยชน์ของเรือนั้นคือการขนส่ง ปีศาจอาจจะต้องการขนกำลังพลจำนวนมาก หรือไม่ก็คิดที่จะบุกทางทะเล แต่ข้าคิดว่าความไปได้ของข้อที่สองมีไม่สูงนัก”
“เหตุผลล่ะ?” ขวานเหล็กถาม
“สู้กันมานานขนาดนี้แล้ว ปีศาจไม่มีทางที่จะไม่รู้ถึงความน่ากลัวของปืนใหญ่ ไม่น่าพวกมันจะขึ้นเรือไปโจมตีเกาะอาชดยุคหรืออ่าวดีพพูล ก็ล้วนแต่จะต้องถูกปืนใหญ่กระหน่ำยิงก่อนที่จะได้ขึ้นฝั่ง ด้วยความเร็วของเรือใบ มันก็ไม่ได้ต่างอะไรกับการเข้ามาตายเลย” เอดิธส์พูดอธิบาย “ส่วนถ้าจะแอบอ้อมท่าเรือของวูล์ฟฮาร์ทแล้วตรงเข้ามาในอาณาจักรดอว์น มันก็จะเจอกับสถานการณ์ที่หมอกแดงมีไม่เพียงพอ ดังนั้นข้าจึงคิดว่าน่าจะเป็นอย่างแรกมากกว่า ซึ่งการที่ปีศาจจะรวมพลไปยังแนวหน้าให้เร็วยิ่งขึ้น การขนส่งทั้งทางบกและทางทะเลพร้อมกันจึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด
พูดจบเธอก็มองไปทางฮิล “เจ้าคิดว่าไง?”
ฮิลโค้งตัวให้เอดิธส์เล็กน้อย “ท่านเอดิธส์ การวิเคราะห์สถานการณ์ในสนามรบนั้นไม่ใช่สิ่งที่ข้าถนัด ดังนั้นข้าจึงไม่สามารถรู้ได้ว่าศัตรูจะใช้วิธีไหน การเอาเบาะแสเหล่านี้มามองให้กับทางทีมที่ปรึกษาคือเรื่องเดียวที่ข้าสามารถทำได้”
เป็นคนที่ฉลาดทีเดียว
เอดิธส์คิดในใจ เมื่อเทียบกับการพูดเออออไปตามเธอแล้ว การที่เขาสามารถวิเคราะห์ความสามารถตัวเองได้อย่างระมัดระวัง และรู้ว่าอะไรควรหรือไม่ควรดูจะเป็นการกระทำที่ฉลาดกว่า มิน่าฝ่าบาทถึงได้มอบหมายให้เขาเป็นคนดูแลแผนการสายลับ
“ในเมื่อแม้แต่เจ้าก็ยังมองไม่ออก อย่างนั้นก็น่าจะไม่มีทางอื่นแล้ว” ขวานเหล็กพูดอย่างจนปัญญา “ดังนั้นพวกเราจึงรู้แค่ว่าปีศาจกำลังรวมพล แต่กลับไม่รู้เรื่องรายละเอียดในการจัดวางกำลังพลและกลยุทธ์ของพวกมัน นี่ทำให้ข้ารู้สึกอัดอัดจริงๆ”
“สิ่งสำคัญคือท่านอพยพคนในวูล์ฟฮาร์ทไปจนหมดเกลี้ยง จนทำให้ฮิลไม่มีโอกาสที่จะส่งสายของตัวเองเข้าไป ถ้าท่านไม่อพยพชาวบ้านออกมา ไม่แน่พวกเราอาจจะได้เบาะแสปีศาจไปนานแล้วก็ได้” เอดิธส์พูดหยอก
“ข้าไม่กล้าขัดคำสั่งของฝ่าบาทหรอก” ขวานเหล็กส่ายหัว “ยิ่งไปกว่านั้น…กองทัพที่หนึ่งไม่อาจฝากความหวังทั้งหมดเอาไว้ที่โจรใต้ดินได้”
“ข่าวกรองไม่มีทางที่จะกระจัดกระจายแบบนี้ไปตลอดหรอกท่านผบ.” จู่ๆ ฮิล ฟ็อกส์ก็พูดขึ้นมา
ขวานเหล็กเลิกคิ้ว “เจ้าหมายความว่าข้อมูลเหล่านี้มันจะสมบูรณ์ขึ้นเรื่อยๆ งั้นเหรอ?”
“ถูกต้องขอรับ” เขาตอบ “ข้าอยู่ในคณะกายกรรมของอาณาจักรดอว์นมานานขนาดนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ข้าได้เรียนรู้มาก็คือขอเพียงจัดการได้เหมาะสม เครือข่ายข่าวกรองมันจะขยายขึ้นเรื่อยๆ ด้วยตัวของมันเอง”
“โอ้? ไหนลองอธิบายให้ข้าฟังหน่อยสิ?” เอดิธส์พูดอย่างสนใจ
…………………………………………………………………..