Release That Witch ปล่อยแม่มดคนนั้นซะ - ตอนที่ 1311 สูญเสีย
“ท่านสกายลอร์ด…” ในตอนที่ซีอาซิสเจอสกายลอร์ดอีกครั้ง มันแทบจะไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง
ร่างกายของมันเปียกโชกราวกับเพิ่งขึ้นมาจากน้ำ สีหน้าดูเหนื่อยล้าถึงขีดสุด บนร่างกายมีรอยบาดแผล บนชุดเกราะมีรอยเลือดสีน้ำเงินเปื้อนเป็นแถบ เหมือนกับมันเพิ่งจะผ่านศึกหนักมาอย่างไรอย่างนั้น
ส่วนพาราซิติคอายการ์ดที่คอยตามอยู่ข้างกายราชาก็ไม่รู้หายไปไหนแล้ว ในฐานะที่เป็นผู้เฝ้าระวังที่สามารถรับรู้ได้ไวมากที่สุด มันจะแสดงความสามารถออกมาได้มากที่สุดก็ต่อเมื่ออยู่ข้างกายราชา แต่เมื่อดูจากสถานการณ์ในตอนนี้แล้ว เป็นไปได้สูงว่าอายการ์ดคงจะโชคไม่ดีเสียแล้ว
ถ้าอีกฝ่ายเป็นอาณาจักรซีสกาย ภาพเหตุการณ์แบบนี้มันพอจะเข้าใจได้ แต่ศัตรูกลับเป็นแค่แมลงมนุษย์เท่านั้น
เฮคซอดไม่มีใจจะมานั่งอธิบาย มันคว้าตัวลูกน้องแล้วดึงเข้าไปในประตูมิติ
จากนั้นพวกมันก็กลับมายังเขตละอองชีวิต
“ท่านสกายลอร์ด พวกทหารที่อยู่บนเกาะนั่น…” ซีอาซิสนึกถึงมาได้ สีหน้ามันเปลี่ยนไปทันที ถึงแม้การระเบิดอย่างกะทันหันในเมืองจะทำให้กองทัพของพวกมันเสียหายอย่างหนัก แต่ถึงยังไงมันก็ยังมีปีศาจที่รอดชีวิตอยู่ การที่สกายลอร์ดออกมาแบบนี้ก็เท่ากับเป็นการทิ้งพวกมันทั้งหมดเอาไว้บนเกาะ
ซึ่งละอองชีวิตที่กองทัพพกพาไปด้วยนั้นมีจำกัด เกรงว่าพวกมันคงจะอยู่บนเกาะได้แค่ไม่กี่วัน
“ข้าไม่สามารถเปิดประตูบานใหม่ได้” คำพูดประโยคนี้ทำให้ซีอาซิสเงียบไปทันที ร่างระดับต้นนั้นไม่อาจเทียบกับราชาได้ หากทั้งคู่ต่างตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากทั้งคู่ จะเลือกยังไงก็คงไม่ต้องคิดมาก
“ข้าจะส่งท่านกลับไปเมืองสกายขอรับ”
“ไปแจ้งโทโทล็อกก่อน ให้มนุษย์ใช้เรือสำเภาไปรับตัวทหารเราจากบนเกาะกลับมา รับได้เท่าไรก็เท่านั้น ส่วนร่างซิมไบออนท์พวกนั้นก็ให้พวกมันซุ่มอยู่บนเกาะไปก่อน” สกายลอร์ดกัดฟัน “เอาไว้ละอองชีวิตปกคลุมทั่วทั้งเกาะ ก็ให้กองทัพบุกโจมตีอ่าวดีพพูลทันที พวกเจ้าสองคนเป็นคนรับผิดชอบเรื่องนี้!”
“ท่านสกายลอร์ด…แบบนี้มันจะไม่เป็นการเร่งรีบเกินไปหรือขอรับ?” ซีอาซิสพูดอย่างตกใจ “รอท่านรักษาตัวให้หายดีก่อนแล้วค่อยโจมตีก็ยังไม่สายนะขอรับ..”
“นี่คือคำสั่ง เจ้าไม่ต้องพูดอะไรอีก!”
“ขอรับ ข้าเข้าใจแล้ว” มันรีบก้มหัวทันที “ข้าจะไปจัดการเดี๋ยวนี้แหละขอรับ!”
เฮดซอดมองดูแผ่นหลังของลูกน้องที่เดินออกไป มือข้างที่เหลืออยู่ของมันกำแน่นขึ้นมา
ทำไมมันจะไม่รู้ล่ะว่าการทำแบบนี้มันเร่งรีบเกินไป แต่ถึงยังไงมันก็ดีกว่าปล่อยให้มนุษย์ได้มีเวลา นี่เป็นครั้งแรกที่สกายลอร์ดรู้ว่าบางทีเวลาอาจจะไม่ได้ยืนอยู่ฝั่งพวกมันแล้ว ความเร็วในการดูดซับการสืบทอดของมนุษย์เร็วกว่าที่มันคิดเอาไว้ ในเวลาเพียงแค่ปีเดียว อีกฝ่ายอาศัยแม่มดแค่ไม่กี่คนกับมนุษย์ตัวผู้ที่ไม่มีพลังเวทมนตร์ก็สามารถทำร้ายราชาได้ แล้วถ้าผ่านไปอีก 2 – 3 ปีมันจะกลายเป็นยังไง?
จะปล่อยให้มนุษย์ได้มีโอกาสพักหายใจไม่ได้เด็ดขาด!
แนวรบตะวันตกจำเป็นต้องกลับมาอยู่ในแผนที่วางเอาไว้ในตอนแรก!
หลังจากนั้นอีกหลายวัน ในที่สุดเฮคซอดก็กลับมายังด้านล่างสุดของรอยแตก ตอนนี้ที่นี่ถูกละอองชีวิตปกคลุมเอาไว้จนเต็มแล้ว เพียงแค่อยู่ที่นี่ก็จะสัมผัสได้ว่าสดชื่นขึ้น ความเจ็บปวดที่ฝ่ามือก็ทุเลาขึ้นเยอะ
มันลงมายังบ่อละอองชีวิตที่อยู่ด้านล่างหอคอยแห่งการให้กำเนิด
เมื่อเห็นไนท์แมร์ที่ยังคงไม่ขยับ สกายลอร์ดพลันรู้สึกโมโหขึ้นมา ถ้าไม่เป็นเพราะมันเอาแต่จมอยู่ในโลกแห่งจิตสำนึก ตัวเองก็คงไม่ตกอยู่ในสภาพแบบนี้
ทุกอย่างมันไม่ควรเป็นแบบนี้!
ถ้าตัวเองทุ่มสมาธิอยู่กับการเคลื่อนย้ายกำลังพล การรุกคืบของแนวหน้าก็คงจะไม่ช้าขนาดนี้ แล้วถ้าได้อีกฝ่ายมาเป็นคนนำทัพ พวกคนของเกรยคาสเซิลไม่มีทางที่จะได้หนีออกไปแม้แต่คนเดียว! จากนั้นก็ฉวยโอกาสตอนนี้มนุษย์กำลังหวาดกลัวเปิดฉากบุกเข้าไปตรงๆ ขณะเดียวกันมันก็จะนำทัพตีกระหนาบเข้าไปจากทางตะวันตก จนยึดที่ราบสูงเฮอร์มีสมาได้ นี่ต่างหากถึงจะเป็นแผนการตะวันตกที่วางเอาไว้!
แต่โกรธมันก็ส่วนโกรธ ในตอนที่กำลังคิดจะดึงไนท์แมร์ออกมาจากโลกแห่งจิตสำนึกจริงๆ เฮคซอดพลันทำสีหน้าลังเลขึ้นมา
เพราะถึงยังไงอีกฝ่ายก็เคยเป็นราชาที่อยู่สูงจนมันทำได้แค่เพียงเงยหน้ามอง
มันถึงขนาด…เคยคิดว่าไนท์แมร์จะกลายเป้นจักรพรรดิของเผ่าพันธุ์
ไม่ๆๆ…เฮคซอดส่ายหัว มันจงรักภักดีต่อจักรพรรดิ นี่เป็นเพียงความคิดโง่เขลาที่ได้มาจากตอนที่เข้าร่วมพิธียกระดับเท่านั้น เมื่อพูดถึงระดับชั้นแล้ว ตอนนี้มันไนท์แมร์ไม่ได้ต่างอะไรจากมันเลย
อย่างมาก…อีกฝ่ายก็แค่เข้าใจโลกแห่งจิตสำนึกดีกว่ามันหน่อยเท่านั้น
มันตัดสินใจแล้ว
บางทีการทำแบบนี้มันอาจจะทำให้ความทรงจำของไนท์แมร์ได้รับความเสียหาย บางทีอาจจะทำให้มันโกรธ หรืออาจจะทำให้เบาะแสของปริศนาของการยกระดับของมนุษย์ขาดหายไป แต่นั่นมันก็ไม่สำคัญเท่ากับศึกทางตะวันตก
อย่างมากมันก็แค่ยอมรับทฤษฎีการยกระดับของไซเลนท์ดิสแอสเตอร์ในการประชุมสภาก็พอ ส่วนชิ้นส่วนสืบทอดชิ้นนั้นจะมาจากไหน เอาไว้หลังจากชนะแล้วค่อยมาคิดก็ได้ ขอเพียงกลืนกินชิ้นส่วนสืบทอดของมนุษย์ได้ เช่นนั้นทุกสิ่งทุกอย่างของพวกเขาก็จะกลายเป็นบันไดสู่การวิวัฒนาการให้กับเผ่าพันธุ์ของมัน!
เมื่อคิดถึงจุดนี้ เฮคซอดจึงสูดหายใจแล้วผลักตัวไนท์แมร์
พลังเวทมนตร์ที่อยู่ตรงใจกลางฝ่ามือจะตัดการเชื่อมต่อระหว่างมันกับโลกแห่งจิตสำนึก แล้วดึงมันกลับมาจากแหล่งกำเนิดเวทมนตร์
ตามหลักแล้วเป็นเช่นนั้น
แต่ไนท์แมร์กลับไม่ยอมลืมตาขึ้นมา ร่างกายของมันเอนล้มไปอีกข้าง เหมือนกับร่างเปลือกเปล่าๆ ที่ล้มลงไปในบ่อละอองชีวิต
เฮคซอดถูกความหวาดกลัวอุดอยู่ที่ลำคอทันที!
แม้แต่ตอนที่มันเกือบจะถูกพลังเวทมนตร์ที่สูญเสียการควบคุมทำลายจิตสำนึกในพิธียกระดับ หรือว่าตอนที่ถูกอาณาจักรซีสกายซุ่มโจมตี มันก็ยังไม่รู้สึกหวาดกลัวขนาดนี้เลย
มันก้าวไปข้างหน้าแล้วพยุงอีกฝ่ายขึ้นมา ก่อนจะพยายามไล่จับจิตสำนึกของมัน แต่สิ่งที่ได้รับกลับมามีแต่ความว่างเปล่า…
ชีพจรยังไม่หยุดเต้น แต่กลับหลับไม่ยอมตื่น นี่คือสัญญาณของการหลงทางอยู่ในโลกแห่งจิตสำนึก และทันทีที่จมดิ่งลงไปในทะเลสีแดงที่ไร้ซึ่งขอบเขตนั้นก็จะไม่มีโอกาสได้กลับมาอีก และช้าเร็วก็จะถูกกระแสจิตสำนึกที่วุ่นวายกัดกินจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของมัน
ใจของสกายลอร์ดตกไปอยู่ที่ตาตุ่มทันที
นี่หมายความว่าพวกมันได้สูญเสียไนท์แมร์ลอร์ดไปแล้ว!
ทำไมถึงเป็นแบบนี้?
ด้วยความสามารถของไนท์แมร์แล้ว ขอเพียงระมัดระวังไม่ทำอะไรสุ่มเสียง มันก็ไม่น่าจะพลาดท่าจนถูกขังอยู่ในโลกแห่งจิตสำนึกนี่นา!
มันไปเจอเข้ากับอะไรในตอนที่ค้นหากันแน่?
สกายลอร์ดไม่กล้าจะคิดต่อไป มันลุกขึ้นแล้วรีบวิ่งขึ้นไปยังยอดหอคอย แม้แต่อาการบาดเจ็บของตัวเองก็ลืมจนหมด
ทันต้องรีบเอาข่าวนี้แจ้งให้จักรพรรดิทราบ
ตอนนี้สถานการณ์ของฝั่งตะวันตกได้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากแล้ว!
…..
“ทุกคนเป็นยังไงบ้าง?”
ณ ศูนย์บัญชาการเคจเมาเธ่น ขวานเหล็กมองไปทางอกาธาพร้อมถามอย่างห่วงใย
“มีนาน่าอยู่จะเป็นอะไรได้ล่ะ” อีกฝ่ายเก็บรูนสดับพร้อมส่ายหน้ายิ้มๆ ขวานเหล็กมองออกไปอารมณ์ของเธอค่อนข้างดีทีเดียว “เวนดี้บอกว่าวันนั้นเมซี่ก็ฟื้นตัวจนกลับมาวิ่งได้แล้ว ส่วนไลต์นิ่งต้องรอถึงวันที่สองถึงจะกลับมาเป็นปกติ ตอนนี้ทั้งสองคนฟื้นกลับแล้วกลับไปลาดตระเวนแล้ว สิ่งเดียวที่รู้สึกเสียใจคือข้าไม่ได้มีส่วนร่วมกับการซุ่มโจมตีครั้งนี้ด้วย”
“เพราะว่ามันเสี่ยงน่ะ…ยิ่งไปกว่านั้นเพื่อที่จะติดตั้งปืนยักษ์นั่นแล้ว ที่นั่งบนซีกัลป์ต้องถูกถอดออกจนไม่เหลือ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการจะเพิ่มคนเข้าไปอีกคนเลย” ขวานเหล็กยิ้มออกมา “ข้ายังนึกว่าเจ้าเสียดายที่กำจัดปีศาจระดับสูงตัวนั้นไม่ได้”
“การที่สามารถเอาชนะราชาด้วยขบวนรบแบบนี้ได้ก็ถือเป็นชัยชนะที่สุดยอดแล้ว” อกาธาหันไปทำความเคารพไข่มุกแห่งดินแดนทางเหนือ “เมื่อก่อนข้าดูถูกพวกเจ้า ตอนนี้ความจริงได้พิสูจน์แล้วว่าข้าเป็นฝ่ายผิด นอกจากฝ่าบาทโรแลนด์แล้ว ในบรรดาคนที่ไม่มีพลังเวทมนตร์ยังมีคนที่ยอดเยี่ยมอีกหลายคนที่ไม่ควรถูกดูถูก”
ส่วนเอดิธส์ก็ยอมรับการทำความเคารพครั้งนี้ ในฐานะที่เป็นผู้วางแผนการซุ่มโจมตีทั้งหมด ในเวลานี้เธอไม่มีความจำเป็นต้องถ่อมตัวอะไรอีก
“ถึงแม้จะน่าเสียดายที่สุดท้ายปล่อยให้เจ้าปีศาจที่ชื่อเฮคซอดนั่นหนีไปได้ แต่ศึกครั้งนี้ก็ยังทำให้เราได้อะไรกลับมาอีกมาก” เธอตบหนังสือที่อยู่ในมือ “อย่างน้อยตอนนี้พวกเราก็ไม่ใช่ว่าจะไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับศัตรูอีกแล้ว”
…………………………………………………………………………….