Release That Witch ปล่อยแม่มดคนนั้นซะ - ตอนที่ 1320 การทดสอบพลังงานขั้นสูง (1)
โรแลนด์ได้รับข่าวดีที่แท้จริงในเที่ยงวันถัดมาหลังจากตื่นขึ้นมาจากโลกแห่งความฝัน
ในที่สุดกองวิศวกรรมและกองโยธาธิการก็ร่วมมือกันเตรียมพื้นที่และอุปกรณ์สำหรับโปรเจค ‘แสงแห่งอาทิตย์’ เรียบร้อย
เนื่องจากตามหลักแล้วยูเรเนียม 235 ทรงกลมจำนวน 52 กิโลกรัมก็สามารถทำให้ถึงค่าวิกฤติได้แล้ว ด้วยเหตุนี้การสกัดเอาธาตุออกมาจึงไม่ใช่สิ่งที่ยากที่สุด เพราะจนถึงตอนนี้ลูเซียสามารถสกัดยูเรเนียมบริสุทธิ์มาได้มากกว่าหนึ่งร้อยกิโลกรัมแล้ว
แต่ถ้าแค่เอายูเรเนียม 235 มากองรวมกัน มันยังไม่สามารถแสดงพลังของปฏิกิริยาฟิชชันออกมาได้อย่างเต็มที่ นอกเสียจากจะใช้ยูเรเนียมในปริมาณที่มากจริงๆ แต่แบบนั้นมันก็จะทำให้ความปลอดภัยและประโยชน์ที่ใช้ได้จริงลดลงอย่างมาก ด้วยเหตุนี้จึงจำเป็นต้องใช้การจัดเรียงแบบเฉพาะเพื่อกระตุ้นประสิทธิภาพการใช้พลังงานของมัน
และอีกขั้นตอนหนึ่งที่สำคัญของแผนการนี้ก็คือการทดสอบระเบิด
เพราะการคำนวณตามทฤษฎีมันก็เรื่องหนึ่ง สร้างออกมาจริงๆ มันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
การจะทำให้ผลิตภัณฑ์จากการทดลองกลายมาเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้จริงได้นั้นไม่มีทางที่จะทำให้สำเร็จได้ในครั้งเดียว จากสถิติแล้ว อาวุธแต่ละอย่างที่โรแลนด์สร้างขึ้นมาให้กองทัพที่หนึ่งล้วนแต่ประสบความล้มเหลวในการทดสอบมามากกว่าสิบครั้ง ทั้งๆ ที่มีแบบแปลนที่น่าเชื่อถือและมีแม่มดคอยช่วยเหลือด้วย
โปรเจค ‘แสงของอาทิตย์’ นั้นย่อมต้องพิเศษกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย
การสร้าง การปรับปรุง การทดสอบอาวุธอื่นๆ ล้วนแต่สามารถทำได้ในสถานที่เดียวกัน แต่ปฏิกิริยาฟิชชันนั้นไม่สามารถทำแบบนั้นได้ ไม่ว่าผลการทดสอบจะสำเร็จหรือว่าล้มเหลว มันก็ล้วนแต่ต้องทำในพื้นที่หวงห้าม
เพียงแค่เรื่องสถานที่ในการทดสอบเพียงอย่างเดียวก็ต้องใช้เวลาเกือบเดือนแล้ว
ถึงแม้ที่ราบลุ่มบริบูรณ์จะกว้างใหญ่ไพศาล แต่ในฐานะที่มันเป็นสถานที่ที่เมืองเนเวอร์วินเทอร์จะบุกเบิกหลังจากนี้ มันจึงไม่เหมาะที่จะเป็นสถานที่ทดสอบระเบิด
ฟยอร์ดมีเกาะเยอะแยะมากมาย แต่ระยะทางกลับไกลอย่างมาก ตอนนี้การขนส่งทางทะเลมีความจำเป็นต้องใช้เรือจำนวนมาก จึงทำให้ยากที่จะแบ่งเอาเรือมาช่วยชนอุปกรณ์ต่างๆ ได้
ทะเลทางใต้ที่ไร้ซึ่งผู้คนนั้นดูเหมือนจะเป็นสถานที่ที่เหมาะสมที่สุด แต่เมื่อคิดถึงว่าที่นั่นมีซากของมนุษย์ไม้ขีดฝังอยู่เป็นจำนวนมาก โรแลนด์ลังเลอยู่นาน สุดท้ายจึงปฏิเสธที่จะใช้ดินแดนทางใต้สุดเป็นสถานที่ทดสอบระเบิด
สุดท้ายสถานที่ทดสอบระเบิดจึงถูกกำหนดเอาไว้ที่ทางตะวันตกของภูเขาหิมะ ค่ายเก่าของพวกปีศาจ
ถึงแม้ที่นั่นอาจจะมีโอกาสเจอกับสัตว์อสูรและปีศาจ แค่ความเสี่ยงมันก็ยังอยู่ในขอบเขตที่ยอมรับได้ ขณะเดียวกันหลังทดสอบระเบิดแล้ว ไม่ว่ามันจะสำเร็จหรือว่าล้มเลว ที่นั่นก็จะกลายเป็นพื้นที่ปนเปื้อน นั่นกลับจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับด้านหลังของเมืองเกรย์คาสเซิล
และหลังจากปัญหาสองข้อนี้ได้รับการแก้ไขแล้ว พวกเขาจึงจะถือว่ามีคุณสมบัติที่จะทำการทดสอบระเบิดนิวเคลียร์ได้
‘ฝ่าบาท พาหม่อมฉันได้ด้วยนะเพคะ’
‘หม่อมฉันด้วยเพคะ!’
‘หม่อมฉันคิดว่าหม่อมฉันคงไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ขอเพียงเป็นอาวุธที่ฆ่าปีศาจได้ ไม่ว่ายังไงหม่อมฉันก็จะต้องไปดูให้ได้!’
“เอ่อ…” ในเวลาเดียวกับที่ได้รับข่าวดีนี้ โรแลนด์ก็ได้รับคำขอจากทางเมืองชายแดนที่สามเหมือนกัน หลังเห็นใบหน้าขนาดใหญ่ของทั้งสามเบียดเสียดกันอยู่ในลำแสงภาพ เขาถึงกับต้องกุมขมับ “นี่เป็นแค่ทดสอบอุปกรณ์ในขั้นทดลองเท่านั้น การทดสอบอาวุธจริงๆ ยังต้องรออีกนาน”
นับตั้งแต่ที่เขาได้อธิบายแนวคิดคร่าวๆ ของ ‘แสงแห่งอาทิตย์’ ให้กับแม่มดทาคิลาได้ฟัง พาซาร์กับเซลีนก็เฝ้ารอที่จะได้เห็นมันมาโดยตลอด แต่เขาคิดไม่ถึงเลยว่าแม้แต่อาลิเธียก็จะเป็นไปกับเขาด้วย แถมน้ำเสียงยังฟังดูจริงจังอย่างมากทีเดียว
‘ถ้ามันเป็นเหมือนกับพระอาทิตย์ที่ส่งลงมาจากฟากฟ้าเหมือนอย่างที่พระองค์ตรัสจริงๆ อย่างนั้นหม่อมฉันก็จะเห็นการถือกำเนิดของมันเพคะ’ พาซาร์ลู่หนวดหลักลง
‘หม่อมฉันเองก็มีส่วนร่วมในการสร้างชิ้นส่วนที่เป็นหัวใจสำคัญของแสงแห่งอาทิตย์ไม่น้อย พระองค์จะทิ้งคนที่มีส่วนรวมกับโครงการนี้เอาไว้ที่นี่ไม่ได้นะเพคะ’ เซลีนพูดเสริม
“แต่จากภูเขาหิมะไปยังจุดชมการทดสอบมันไม่มีอุโมงค์ใต้ดิน…”
‘เรื่องนี้พระองค์ทรงไม่ต้องเป็นกังวลเพคะ เดือนแห่งปีศาจไม่มีแสงแดด พวกหม่อมฉันสามารถอยู่ข้างนานได้นานกว่าปกติ’ อาลิเธียรูปพูดขึ้นมา เหมือนกลัวว่าเขาจะพูดคำว่า ‘ไม่’ ออกมา ‘ยิ่งไปกว่านั้นอุโมงค์ที่ฟรานขุดเอาไว้ครั้งที่แล้วก็ยังอยู่ พวกหม่อมฉันสามารถออกไปจากเมืองโดยไม่ทำให้พวกชาวบ้านสังเกตเห็นได้เพคะ’
โรแลนด์ยิ้มแห้งๆ พร้อมหันไอสบตาอันนา อีกฝ่ายเองก็พยักหน้ายิ้มๆ มาให้เขา
ในเมื่อทั้งสามคนพูดขนาดนี้แล้ว จะยืนยันปฏิเสธอยู่อีกมันก็กระไรอยู่
“อย่างนั้นเดี๋ยวข้าจะให้กองโยธาธิการเหลือที่เอาไว้พวกเจ้าตอนที่สร้างบังเกอร์แล้วกัน อย่าลืมพาแม่มดอาญาสิทธิ์ส่วนหนึ่งไปด้วย แล้วก็ระวังเรื่องความปลอดภัย”
‘ขอบพระทัยเพคะฝ่าบาท!’ ทั้งสามคนดีใจ
เมื่อเห็นภาพนี้ โรแลนด์พลันรู้สึกทอดถอนใจ
ในโลกที่เขาอาศัยอยู่ก่อนหน้านี้ อาวุธชนิดมักจะถูกมองว่าเป็นอาวุธแห่งการทำลายตัวเอง มีผลงานทางวรรณกรรมจำนวนนับไม่ถ้วนที่บรรยายว่ามันเป็นดาบเดโมเคลสที่ห้อยอยู่บนหัวมนุษย์ แต่ที่นี่ มันกลับกลายเป็นแสงแห่งความหวัง ในตอนที่ความมืดมิดมาถึง มีเพียงแค่พลังเท่านั้นที่จะปกป้องอารยธรรมได้
เขามองไปทางอันนา “อย่างนั้นพวกเราออกเดินทางกันเถอะ”
…..
ห่างออกไป 50 กิโลเมตรทางตะวันตกของภูเขาหิมะ
หิมะของที่นี่เยอะกว่าเมืองเนเวอร์วินเทอร์มาก มันไม่เพียงแต่จะปกคลุมพื้นที่ที่ปีศาจเคยต้ั้งค่ายเอาไว้จนหมด แต่มันยังทำให้การก่อสร้างบังเกอร์มีความยากลำบากมากขึ้นด้วย
โชคดีที่มีแม่มดอาญาสิทธิ์ที่มีเรี่ยวแรงมหาศาลคอยช่วยเหลือ ทำให้ในที่สุดทีมก่อสร้างก็สามารถปักหลักลงยังพื้นที่ีรกร้างที่ไร้ซึ่งผู้คนนี้ได้สำเร็จ
เพื่อจะรับประกันว่าคุณภาพการก่อสร้างที่นี่จะออกมาดีที่สุด คนงานที่อยู่ในทีมก่อสร้างจึงล้วนแต่เป็นมือดีที่มาจากทีมสำรวจทางเหนือ หลังผ่านศึกฆ่าล้างบนที่ราบลุ่มบริบูรณ์มาแล้ว สภาพอากาศอันเลวร้ายก็ไม่ถือว่าเป็นศัตรูที่น่ากลัวอีก ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังได้รับแจ้งก่อนออกเดินทางว่าการก่อสร้างครั้งนี้เป็นความลับสุดยอดที่สุดของเมืองเนเวอร์วินเทอร์ ซึ่งเกี่ยวพันถึงอนาคตของอาณาจักร บวกกับค่าจ้างจำนวนมากที่สำนักบริหารเสนอให้ ทำให้ทุกคนต่างดูกระตือรือร้นอย่างมาก
หากเป็นเกรย์คาสเซิลเมื่อก่อนนี้ ต่อให้ขุนนางจะบีบบังคับอย่างไรก็ไม่มีทางที่จะทำให้ลูกน้องมาตั้งค่ายในสถานที่แบบนี้ได้
โรแลนด์และคนอื่นๆ ใช้เวลาเกือบสองวันกว่าจะมาถึงสถานที่ทดสอบระเบิด หลังเดินเข้าไปในฐานบัญชาการที่ฝังอยู่ใต้ดินครึ่งหนึ่ง สภาพภายในห้องก็เปลี่ยนไปจากเดิม กำแพงหนาๆ ช่วยกันลมหนาวเอาไว้ เตาผิงที่ไฟกำลังลุกไหม้ส่งเสียงเปรี๊ยะปร๊ะออกมา คนที่รับผิดชอบหน้าที่ต่างๆ กำลังยกตะเกียงไฟเพื่อตรวจดูงานของตัวเอง ดูแล้วยุ่งวุ่นวายอย่างมาก
เมื่อเห็นเขาเข้ามา ทุกคนพลันหยุดชะงักแล้วหันมาถวายบังคมให้เขา “ถวายบังคมฝ่าบาท!”
“พวกเจ้าทำงานต่อเถอะ” โรแลนด์โบกมือ จากนั้นจึงมองไปทางคาร์ล ฟอร์เบิร์ต “สถานการณ์ทางนี้เป็นอย่างไรบ้าง?”
“ช่วงหนึ่งเดือนมานี้ไม่มีร่องรอยของปีศาจพ่ะย่ะค่ะ” คาร์ลตอบ “พวกมันน่าจะทิ้งที่นี่ไปแล้ว ส่วนสัตว์อสูรก็เจอบ้างเป็นบางครั้ง แต่พวกมันไม่ได้เป็นปัญหาอะไรสำหรับทหารรักษาการณ์ แท่นทดสอบระเบิดกับอุปกรณ์จำลองล้วนแต่ถูกเตรียมเอาไว้เสร็จเรียบร้อย หากพระองค์ทรงไม่มีพระประสงค์อื่น พวกมันก็เพียงพอที่จะใช้ในโปรเจคนี้ได้พ่ะย่ะค่ะ”
“แท่นทดสอบระเบิดอยู่ที่ไหน?”
“ทางเหนือ ห่างจากที่นี่ไป 15 กิโลเมตรพ่ะย่ะค่ะ” คาร์ลชี้บนแผนที่ “หากพระองค์ทรงอยู่ที่ศูนย์บัญชาการนี้จะทอดพระเนตรไม่เห็นมัน เพราะหิมะที่นี่หนาอย่างมากพ่ะย่ะค่ะ ถึงแม้มันจะสูงเท่าตึกสามชั้นก็ยังถูกหิมะบังเอาไว้พ่ะย่ะค่ะ”
“ไม่เป็นไร เอาไว้มันระเบิดขึ้นมาเมื่อไรก็จะมองเห็นเอง” โรแลนด์ยิ้มๆ ก่อนหน้าหมุนตัวไปหาอันนา “อย่างนั้นพวกเราเริ่มทดสอบระเบิดครั้งแรกกันเลยเถอะ”
เพื่อที่จะทดสอบว่ามันสามารถใช้ได้จริง ในเวลาครึ่งปีมานี้ทั้งสองคนจึงได้เตรียมการจัดเรียงยูเรเนียมเอาไว้สามรูปแบบเพื่อใช้ในการทดสอบ และการจัดเรียงยูเรเนียมที่ถูกยกขึ้นไปบนแท่นทดสอบระเบิดในครั้งนี้ก็คือการจัดเรียงแบบกระบอกปืนซึ่งเป็นการจัดเรียงแบบที่ง่ายที่สุด
……………………………………………………………………