Release That Witch ปล่อยแม่มดคนนั้นซะ - ตอนที่ 1323 ข้อบกพร่อง
หลังจากนั้นหนึ่งสัปดาห์ รถรูปร่างแปลกๆ คันหนึ่งก็ค่อยๆ ขับเข้าไปในลานทดสอบระเบิด
มันเป็นรถแทรกเตอร์ตีนตะขาบคันแรกที่กองอุตสาหกรรมสร้างขึ้นมาตามแปลนและคำชี้แนะที่ทางศูนย์ออกแบบเกรย์คาสเซิลให้มา เพียงแต่นอกจากตัวถังรถที่เหมือนกันแล้ว รูปร่างภายนอกของมันเรียกได้ว่าแตกต่างจากรถแทรกเตอร์ที่สร้างขึ้นมาในตอนแรกอย่างสิ้นเชิง รอบๆ ตัวรถมีเกราะหนาๆ หุ้มเอาไว้รอบคัน ดูเผินๆ แล้วเหมือนกับกล่องสี่เหลี่ยมที่เคลื่อนที่ได้
หลังจากขับเข้าไปในพื้นที่ใจกลางการระเบิดแล้ว มันก็ไปหยุดอยู่ตรงหน้าอาคารเหล็กที่หลอละลายเป็นเวลาประมาณครึ่งชั่วโมง จากนั้นมันจึงหันหัวกลับแล้วขับกลับมาตามทางเดิม
หลังขับไปได้ประมาณ 5 กิโลเมตร รถบรรทุกคันหนึ่งก็ขับเข้ามาใกล้แล้วรับทุกคนที่อยู่บนรถแทรกเตอร์ไป ส่วนรถแทรกเตอร์ทรงสี่เหลี่ยมนั้นถูกจอดทิ้งเอาไว้บนพื้นหิมะ
จากนั้นคนกลุ่มนี้ก็เดินทางจากภูเขาหิมะมาถึงเมืองเนเวอร์วินเทอร์ในวันรุ่งขึ้น
ส่วนโรแลนด์ที่ได้รับแจ้งข่าวนี้ก็เชิญพวกเขาเข้ามาในปราสาททันที
“เป็นยังไงบ้าง ไม่เจออะไรผิดปกติใช่ไหม?”
“ขอฝ่าบาททรงวางพระทัยเพคะ ทุกอย่างราบรื่นดีเพคะ” ฟิลลิสยิ้มๆ พร้อมส่งรูนก้อนหนึ่งให้เขา “แอ็กเซียระบุภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนั้นได้อย่างรวดเร็ว พวกหม่อมฉันเลยใช้เวลาอยู่ตรงนั้นสั้นกว่าที่คิดเอาไว้เพคะ”
“พะ เพราะว่ารู้ช่วงเวลาที่แน่ชัด ก็เลยไม่ค่อยยากอะไรเพคะ” แอ็กเซียดูค่อนข้างเขินอาย “เมื่อเทียบกับพี่น้องคนอื่นแล้ว การควบคุมพลังของหม่อมฉันยังถือว่าแย่กว่า…..”
“เอาล่ะ เจ้าก็อย่าถ่อมตัวไปเลย”
“ปะ เป็นเรื่องจริงนะเพคะ…”
โรแลนด์รับเอารูนมา แต่สีหน้าเขากลับยังดูเคร่งเครียดอยู่ เขาหันหน้าไปทางโมโม่ที่อยู่ข้างๆ “รบกวนเจ้าด้วยนะ”
“ไม่ พระองค์ตรัสหนักเกินไปแล้วเพคะ ฝ่าบาท” โมโม่ยื่นมือไปปิดดวงตาข้างหนึ่งเอาไว้เพื่อที่จะได้มองไม่เห็นฝ่าบาท ขณะเดียวกันเธอก็ใช้พลังออกมา หลังจากนั้นครู่หนึ่งเธอก็วางมือลง แล้วหันไปโค้งตัวให้โรแลนด์ “ตัวเลขและสีของทุกคนไม่มีการเปลี่ยนแปลง ทุกคนยังเหมือนกับตอนที่ออกเดินทางเพคะ”
ในตอนนี้โรแลนด์ถึงได้รู้สึกโล่งใจ เขาพูดยิ้มๆ ขึ้นมาว่า “เหนื่อยหน่อยนะทุกคน”
“พระองค์ก็เหมือนกัเพคะ” เหล่าแม่มดพูดออกมาพร้อมกัน
“ในห้องรับแขกได้เตรียมอาหารไว้แล้ว เครื่องดื่มยุ่งเหยิงไม่อั้น ทุกคนไปกินให้อิ่มท้องก่อนเถอะ” เมื่อเห็นท่าทีมีความสุขของทุกคน เขาพลันส่ายหัวยิ้มๆ ออกมา ส่วนแม่มดทาคิลาที่เข้าร่วมปฏิบัติการครั้งนี้ส่วนใหญ่ล้วนแต่เป็นแขกประจำของโลกแห่งความฝันอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องให้รางวัลอะไรเพิ่มเติม
พลังย้อนเวลาของแอ็คเซียทำให้สามารถสำรวจช่วงเวลาที่อาวุธเกิดการเปลี่ยนได้ นี่เป็นวิธีที่กองอุตสาหกรรมใช้บ่อยมากที่สุด ด้วยการปรับความเร็วในการฉายย้อนกลับทำให้สามารถมองเห็นการเปลี่ยนแปลงในแต่ละวินาทีได้อย่างชัดเจน แล้วก็จะทำให้มองเห็นปัญหาและข้อบกพร่องที่มีอยู่
แต่มันก็เหมือนกับที่เขาบอกเอาไว้ก่อนหน้านี้ แสงแห่งอาทิตย์ไม่เหมือนกับอาวุธอื่นๆ โดยเฉพาะเมื่อเป็นเดอร์ตี้บอมบ์ที่ทำปฏิกิริยาไม่สมบุูรณ์ ภายในพื้นที่ยังคงมีวัตถุที่ปล่อยรังสีอันตรายหลงเหลืออยู่มากมาย ถ้าหากเข้าไปโดยพลการ ร่างกายจะต้องได้รับอันตรายจากรังสีปริมาณมหาศาลแน่นอน
เพื่อการนี้โรแลนด์ยอมที่จะเอารถแทรกเตอร์ตีนตะขาบคันแรกมาใช้อย่างไม่เสียดาย แล้วก็ทำการปรับปรุงให้มันสามารถกันรังสีได้ — รอบด้านของมันถูกหุ้มด้วยแผ่นตะกั่วหลายชั้น แถมตรงกลางยังมีการใส่แผ่นฟอยล์กับแผ่นแบริลเลียมเอาไว้ด้วย ความหนาของมันหนาถึง 10 เซนติเมตร นี่จึงทำให้มันมีความสามารถในการป้องกันรังสีโปรตีน อิเล็คตรอนและนิวตรอนได้ ส่วนน้ำหนักที่เกิดขึ้นจากการห่อหุ้มทั้งตัวรถก็มีแต่เครื่องจักรไอน้ำที่ขับเคลื่อนด้วยลูกบาศก์เวทมนตร์เท่านั้นถึงจะแบกรับไหว
นอกจากนี้ ในตัวรถยังมีออกซิเจนติดตั้งเอาไว้ด้วย มันแทบจะตัดขาดจากโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิง เพื่อที่จะได้ป้องกันความเสี่ยงจากฝุ่นรังสีที่เข้ามาทางช่องอากาศ และเพื่อที่จะได้สังเกตดูภาพเหตุการณ์ในตอนที่เกิดการระเบิด ด้านหน้ารถจึงติดตั้งกระจกเคลือบตะกั่วขนาดใหญ่เอาไว้ ความหนาของมันหนาถึง 30 เซนติเมตร
เมื่อคิดถึงรถที่เข้าไปในลานทดสอบระเบิดอาจจะมีการปนเปื้อน เขายังสั่งให้ทำการเปลี่ยนรถทันทีที่ส่งคนออกมาจากพื้นที่ที่อันตรายที่สุด แล้วก็ทิ้งรถเอาไว้ตรงนั้นเลย
เรียกได้ว่าโรแลนด์ใช้มาตรการความปลอดภัยทุกอย่างที่คิดได้ แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ เขาก็ยังยากที่จะวางใจได้
โชคดีที่ผลลัพธ์ที่ออกมาแสดงให้เห็นว่าภารกิจตรวจสอบครั้งนี้ประสบความสำเร็จอย่างสมบูรณ์
หลังได้ข้อมูลที่เก็บมาแล้ว โรแลนด์ก็รีบทำงานวิจัยกับอันนาและเซลีนทันที
…..
เมื่อใช้รูนเวลาฉายภาพการระเบิดในตอนนั้นซ้ำไปซ้ำมาหลายร้อยครั้ง จุดอ่อนของระเบิดทดลองหมายเลข 1 ก็ค่อยๆ ปรากฏออกมา
“ประสิทธิภาพของดินปืนของเราแย่เกินไป” อันนาพูดเสียงเบาๆ
‘หม่อมฉันเองก็มองเห็นแล้วเพคะ แรงปะทะของระเบิดเหมือนจะไม่สามารถส่งไปถึง ‘ลำกล้องปืน’ ได้อย่างราบรื่น’ เซลีนพยักหนวดหลัก ‘เราแก้ปัญหาด้วยการแบ่งตัวจุดระเบิดได้ไหมเพคะ?’
“เกรงว่าในช่วงเวลาสั้นๆ คงเป็นไปได้ยาก” โรแลนด์นวดดวงตาที่เมื่อยล้า การนั่งดูภาพบันทึกเหตุการณ์ตอนระเบิดมาสองวันติดทำให้เขารู้สึกว่าสีสันของทั้งโลกนี้เหลือเพียงแค่สีน้ำเงินกับสีขาว
ถึงแม้จะมีคิดถึงปัญหาของดินปืนเอาไว้แต่แรกแล้ว แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่ามันจะชัดเจนขนาดนี้
ตอนนี้ดินปืนที่เมืองเนเวอร์วินเทอร์ผลิตมาโดยตลอดคือดืนปืนไร้ควันฐานสอง ถึงแม้พลังทำลายและความเร็วในการระเบิดของมันจะไม่อาจสู้ระเบิดอำนาจสูงอย่าง RDX ได้ แต่มันก็เพียงพอสำหรับกองทัพ ต่อให้พลังทำลายล้างไม่เพียงพอ เขาก็ใช้จำนวนมาชดเชยในส่วนนี้ได้ แต่เมื่อเอามาใช้ในระเบิดทดลอง ปัญหายุ่งยากก็ปรากฏออกมาให้เห็น
ดินปืนจำนวนพันกว่ากิโลนั้นไม่ใช่แค่จุดเล็กๆ บนแปลนออกแบบ เมื่อเอาพวกมันมากองรวมกันแล้วมีขนาดใหญ่ประมาณตู้เซฟเลยทีเดียว เพื่อที่จะทำให้พลังงานระเบิดส่งไปถึงก้อนยูเรเนียมได้ โรแลนด์จึงได้สร้างเลนส์ที่มีลักษณะที่เป็นเหมือนกรวยขึ้นมาเพื่อที่รวมแรงปะทะเข้าไว้ด้วยกันให้ได้มากที่สุด
แนวคิดนี้ไม่ได้มีปัญหาอะไร เพียงแต่ตอนที่การจุดระเบิดยังดำเนินมาไม่ถึงขั้นตอนนี้มันก็มีปัญหาเกิดขึ้น เรื่องจากขนาดของห่อดินปืนมีขนาดใหญ่ อีกทั้งห่อดินปืนแต่ละจุดยังระเบิดขึ้นมาพร้อมกัน ทำให้คลื่นกระแทกที่เกิดขึ้นมาจากดินปืนเหล่านั้นต่างพากันหักล้างซึ่งกันและกันไปไม่น้อย ในจุดนี้จะสามารถให้ได้ภาพที่ฉายย้อนกลับ คลื่นกระแทกที่ปะทะเข้าใส่กันและกันทำให้เลนส์เหล็ก แล้วก็เปลือกนอกเกิดการบิดเบี้ยวอย่างรุนแรง นี่หมายความว่ามีพลังงานจำนวนมากอยู่ที่ด้านนอก ‘ลำกล้อง’ ซึ่งนั่นก็ทำให้พลังงานที่จะไปผลักดันก้อนยูเรเนียมที่อยู่ด้านในน้อยลงไปจากเดิมมาก
ต่อไปก็เป็นปฏิกิริยาลูกโซ่
แรงดันภายในลำกล้องที่มีไม่พอทำให้ปฏิกิริยาฟอชชันหยุดลงอย่างรวดเร็ว ยูเรเนียมจำนวนมากถูกอุณหภูมิที่สูงทำให้กลายเป็นไอ ซึ่งนี่ก็เป็นผลจากการของการที่ทำให้แหล่งกำเนิดนิวตรอนอ่อนแรงลงอย่างกลายๆ
“คงต้องคิดหาวิธีอื่นแล้ว” โรแลนด์ผายมือ เมื่อไม่มีเทคโนโลยีควบคุมการระเบิดแบบอิเลคโทรนิค มันจึงแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะกระตุ้มให้ดินปืนทั้งหมดระเบิดขึ้นมาตามลำดับในเวลาหนึ่งมิลลิวินาที แล้วทำให้เกิดคลื่นกระแทกซ้อนทำกับ ต่อให้เปลี่ยนเป็นดินปืนอำนาจสูงก็ทำได้แค่เพียงปรับปรุงให้มันดีขึ้น แต่ไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างแท้จริง
เขาสามารถให้ทางกองอุตสาหกรรมเคมีทำวิจัยระเบิดความเร็วต่ำ แล้วก็ติดตั้งมันเอาไว้ที่หน้าเลนส์ได้ เพื่อที่จะได้ลดผลกระทบระหว่างกันของดินปืน แต่ขั้นตอนนี้เกรงว่าคงต้องใช้เวลาในการทดลองค่อนข้างยาวนาน จะสำเร็จหรือเปล่าก็ยังไม่อาจรู้ได้ ตอนนี้วิธีที่น่าเชื่อถือที่สุดเห็นได้ชัดว่าคือการใช้การออกแบบโครงแบบมาชดเชยเทคโนโลยีการจุดระเบิดที่ยังไม่ดีพอ
“ดูเหมือนคืนนี้คงต้องทำงานจนดึกอีกแล้ว” เขาบิดขี้เกียจพร้อมพูดออกมาอย่างเหนื่อยล้า
“หม่อมฉันจะอยู่เป็นเพื่อนพระองค์เพคะ” อันนาพูดยิ้มๆ “ให้รางวัลด้วยการนวดด้วยไฟสีดำดีไหมเพคะ?”
“จู่ๆ ก็รู้สึกมีแรงขึ้นมาทันที” โรแลนด์พูดอย่างตื่นตัว “มีรางวัลอื่นอีกไหม?”
“อย่างเช่นแบบไหนเพคะ?”
“เดี๋ยวขอข้าคิดดูก่อนนะ….อืม ไอที่พูดถึงครั้งที่แล้วเป็นไง….”
นี่ก็เป็นความรู้ที่เรียนมาจากโลกแห่งความฝันด้วยงั้นเหรอ…
เซลีนใช้หนวดหลักปิดใบหน้าที่เริ่มร้อนผ่าวขึ้นมา ก่อนจะค่อยๆ ออกไปจากห้องทดลอง
……………………………………………………