Release That Witch ปล่อยแม่มดคนนั้นซะ - ตอนที่ 1326 คำขอร้อง
การทดสอบการเปลี่ยนแปลงของพลังของบุ๊คหลังจากยกระดับนั้นใช้เวลาไม่นานนัก
ความจริงก่อนที่โรแลนด์จะมา เธอได้พูดคุยกับอันนามาบ้างแล้ว คำตอบที่ปรากฏขึ้นหลังสมการนั้นไม่ใช่ภาพลวงตา แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่ผ่านการคิดคำนวณออกมาเหมือนกัน หากแต่เป็นผลที่เกิดจากการสืบค้นความทรงจำ
เนื่องจากในข้อมูลนั้นมีสมการจำนวนมากที่ถูกใช้ซ้ำๆ แล้วบุ๊คก็เคยเห็นพวกมันพอดี ดังนั้นคำตอบจึงปรากฏขึ้นมาในหัว โดยเฉพาะฟังก์ชั่นที่มีความซับซ้อนเหล่านั้น ถ้าทุกๆ ตัวแปรในนั้นล้วนแต่ถูกจำไป อย่างนั้นต่อให้สลับตัวแปรในสมการ เธอก็ยังได้คำตอบออกมาอย่างรวดเร็ว ถึงแม้จะไม่เข้าใจความหมายของมันก็ตาม
เมื่อเทียบกับการอ่านข้อสอบหรือเอกสารข้อมูลแล้ว การทำแบบนี้เห็นได้ชัดว่ามีปริมาณงานที่เยอะกว่า แต่ในอดีตไม่ใช่ว่าจะทำไม่ได้ เพียงแต่ตอนนี้เธอกลับสามารถทำมันให้สำเร็จได้ภายในชั่วพริบตา เห็นได้ชัดว่าความสามารถหลักของเธอได้ถูกยกนะดับขึ้นแล้ว
แต่สิ่งที่เธอไม่เคยจำ หรือเนื้อหาบางส่วนที่จำไม่หมดก็จะไม่ได้รับคำตอบใดๆ กลับมา
ด้วยเหตุนี้ถ้าอยากจะคำนวณความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์ตัวอย่างที่ออกแบบมาใหม่ ก็ยังต้องให้ทางสถาบันคำนวณและร่างศูนย์กลางเป็นคนทำอยู่
เพียงแต่ถ้าให้บุ๊คอ่านมันก่อนรอบหนึ่ง มันก็จะสามารถลดปริมาณงานลงไปได้ไม่น้อย
หัวใจสำคัญของการทดสอบนั้นอยู่ที่ ‘ห้องเอกสาร’ ในดินแดนของโลกแห่งความทรงจำ — ถึงแม้ตอนนี้มันจะเป็นแค่ห้องเล็กๆ ธรรมดาๆ เท่านั้น
สิ่งแรกที่ถูกทำการยืนยันก็คือกฎการแลกเปลี่ยนของสิ่งของของทั้งสองโลก
เพราะว่าบุ๊คเป็นสุดยอดอมนุษย์ วิธีการเข้าไปในโลกแห่งความฝันนั้นไม่เหมือนกับแม่มดอาญาสิทธิ์กับไนท์แมร์ลอร์ด แม่มดอาญาสิทธิ์นั้นจำเป็นต้องพึ่งพาเสาลำแสงในการเข้าไปในโลกแห่งความฝัน ส่วนไนท์แมร์นั้นเป็นการเข้าไปโดยพลการ จนทำไรร่างกายเปลี่ยนไปจากเติม แต่วิธีของบุ๊คนั้นเป็นเหมือนการเชื่อมต่อ เหมือนกับการขับรถคันเล็กๆ เข้าไปในลานจอดรถ ไม่ว่าจะเป็นร่างกายหรือว่าจิตสำนึกก็ล้วนแต่ปกป้องรักษาเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์
ถ้าสามารถเอาสิ่งของที่อยู่ในลานจอดรถออกมาได้ มันก็จะยิ่งมีความสำคัญอย่างมาก
แต่ความจริงก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าบนโลกนี้ไม่มีเรื่องที่ดีขนาดนั้น บุ๊คสามารถเอาสิ่งของ ‘เข้าไป’ ในดินแดนของตัวเองได้ แต่ไม่สามารถเอาของที่อยู่ในดินแดนหรือโลกแห่งความฝันออกมาได้ ต่อให้เป็นแค่ก้อนหินก้อนหนึ่งก็ตาม
นอกจากนี้การจะบอกว่าเอาของเข้าไปมันก็ไม่ถูกซะทีเดียว เพราะว่าสิ่งของที่ใช้ทดสอบดูเหล่านั้นไม่ได้หายไป หากแต่ยังคงอยู่ในมือของเธอ
“ขออภัยเพคะ…ฝ่าบาท” หลังทดสอบดูหลายครั้ง บุ๊คมองดูสองมือที่ว่างเปล่าของตัวเองพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย “พลังของหม่อมฉันยังไม่ดีพอเพคะ”
“ไม่ นี่เป็นสิ่งที่ข้าคิดเอาไว้อยู่แล้ว เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิด” โรแลนด์กับอันนาสบตากัน ภายในใจของพวกเขามีสรุปแล้ว ห้องเอกสารนั้นเกรงว่าจะเป็นเหมือนกับโลกแห่งความฝัน จะมากจะน้อยมันก็มีความสามารถในการบิดเบือนความจริง ขอเพียงเป็นสิ่งที่บุ๊คเข้าใจ เธอก็สามารถสร้างของเลียนแบบขึ้นมาได้ ดูเผินๆ แล้วจึงเหมือนว่าเธอเอาสิ่งของเข้าไปในโลกแห่งความฝัน แต่การจะเอาของกลับมานั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
นี่ทำให้โรแลนด์แอบรู้สึกโล่งใจ
เพราะว่าคนที่เปิดดินแดนโลกแห่งความฝันได้นั้นไม่ได้มีแค่บุ๊คเพียงคนเดียว จากข้อมูลที่ได้มาจากวัลคีรีย์ จักรพรรดิของเผ่าพันธุ์ปีศาจนั้นไม่ได้มีแค่ ‘หอเจ้าชีวิต’ เท่านั้น แต่มันยังมีความสามารถในการควบคุมดินแดนที่แข็งแกร่งอย่างมากด้วย ในตอนที่มันอยู่ในนั้น มันแทบจะไม่ได้ต่างอะไรจากพระเจ้าเลย
ถ้าสิ่งของของทั้งสองโลกสามารถแลกเปลี่ยนไปมาได้ตามใจชอบ เช่นนั้นสงครามแห่งโชคชะตานั้นก็จะเต็มไปด้วยความเสี่ยงกับความไม่แน่นอนอยู่เต็มไปหมด
การทดสอบต่อไปคือการทดสอบความสามารถในการรองรับของดินแดน
หลังจากที่ได้คุยกับมิสต์ เขาก็เคยคาดเเดาแล้วว่าโลกแห่งความฝันก็เป็นดินแดนหนึ่งในโลกแห่งความฝันเหมือนกัน เพียงแต่มันมีขนาดใหญ่อย่างมากเท่านั้น ถึงแม้เขาจะไม่สามารถเรียกลมเรียกฝนในโลกแห่งความฝันได้เหมือนอย่างจักรพรรดิของปีศาจ แต่ความเหมือนกันของดินแดนก็น่าจะมีอยู่ อย่างเช่นการรองรับจิตสำนึก
ลำแสงกุญแจของบุ๊คหลังจากยกระดับแล้วมีขนาดประมาณหนึ่งเมตร ถึงแม้จะยังห่างจากเสาลำแสงของผู้ถูกเลือก แต่เสาลำแสงของเธอก็ใหญ่เป็นอันดับสี่ของแม่มดในเนเวอร์วินเทอร์แล้ว เป็นของแค่โรแลนด์ ลีฟและอีฟลิน
และเสาลำแสงของเธอนี้ก็สามารถรองรับแม่มดอาญาสิทธิ์ยืนเรียงแถวหน้ากระดานได้ 4 คน
ถ้าบอกว่าแม่มดโบราณเหล่านี้เข้าไปในโลกแห่งความฝันได้เป็นเพราะเสาลำแสงของพวกเธอถูกเสาลำแสงของโลกแห่งความฝันปกคลุมพอดี อย่างนั้นพวกนางจะใช้วิธีเดียวกันนี้เข้าไปในห้องเก็บเอกสารได้หรือเปล่า?
และผลการทดสอบก็ทำให้โรแลนด์รู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก
ฟิลลิสสามารถใช้ดินแดนของบุ๊คในการกลับคืนสู่สภาพเมื่อ 400 ปีก่อนได้โดยที่เขาไม่ได้นอนหลับ
นี่เป็นการตอกย้ำสมมติฐานของเขา
เค้าโครงของโลกแห่งความฝันค่อยๆ ชัดเจนขึ้นมาในหัวของเขา
เพียงแต่จำนวนคนที่เข้าไปกับขนาดของลำแสงนั้นเหมือนจะไม่ได้มีความสัมพันธ์กัน ถึงแม้แม่มดอาญาสิทธิ์สี่คนจะนอนหลับอยู่ข้างกายบุ๊ค แต่ก็มีแม่มดเพียงแค่คนเดียวที่เข้าไปในห้องเอกสารได้
แต่เข้าไปได้เพียงคนเดียวก็พอแล้ว
จุดสำคัญจุดสุดท้ายก็คือการระบุำตำแหน่งของห้องเอกสารเพื่อดูว่ามันอยู่ส่วนไหนของโลกแห่งความฝัน ถ้าตึกสูงที่บุ๊คมองเห็นนนั้นเป็นสิ่งที่อยู่ในโลกแห่งความฝันจริงๆ อย่างนั้นเธอกับโรแลนด์ก็มีโอกาสเจอกันในโลกแห่งความฝัน
ในขณะที่กำลังจะเริ่มการทดสอบ จู่ๆ อันนาก็เรียกบุ๊คเอาไว้
“ฝ่าบาท?”
“หลังจากที่ได้เจอกับโรแลนด์ ข้าก็ไม่เคยอิจฉาใครมาก่อนเลย เพราะข้ารู้สึกว่านี่เป็นรางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของข้าแล้ว” เธอค่อยๆ พูด “ต่อให้รู้ว่าแม่มดอาญาสิทธิ์สามารถเข้าไปในโลกแห่งความฝันได้ข้าก็ไม่ได้รู้สึกอิจฉาอะไร เพราะพวกนางทุกข์ทรมานมามากพอแล้ว โลกแห่งความฝันถือเป็นของรางวัลชดเชยให้พวกนาง แต่…ตอนนี้เขารู้สึกอิจฉาเจ้าขึ้นมาจริงๆ แล้วสิ”
อันนาพูดคำพูดเหล่านี้ออกมาต่อหนาแม่มดทุกคน นี่ทำให้ในกลุ่มแม่มดพากันแตกตื่นขึ้นมา
“ว้าว…ทำไมข้าถึงรู้สึกว่าหน้าข้ามันร้อนผ่านล่ะเนี่ย?” ลูน่ารีบเอามือปิดหน้า แต่เธอกลับจงใจกางนิ้วออกเป็นช่องเล็กๆ
“เงียบๆ อย่าพูดแทรก!” ลิลลี่ถลึงตาใส่เธอ
“อันนา…” โรแลนด์เอ่ยปากขึ้นมา
อันนายิ้มให้เขาเล็กน้อย จากนั้นจึงหันมองบุ๊ค “ดังนั้นข้ามีคำขอเรื่องหนึ่ง”
บุ๊คพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ตรัสมาเลยเพคะ ฝ่าบาท ขอเพียงเป็นเรื่องที่หม่อมฉันทำได้ หม่อมฉันจะพยายามทำเต็มที่เพคะ”
“ก่อนหน้านี้เขาเคยเล่าเรื่องโลกแห่งความฝันให้ข้าฟัง แต่นั่นก็เป็นแค่เพียงการเล่าปากเปล่าเท่านั้น เจ้าเป็นดวงตาแทนให้ข้า แล้วเอาตึกถงจึที่เขาอยู่ สถานที่ที่เขาใช้ชีวิตเป็นประจำ แล้วก็ภาพของโลกใบนั้นถ่ายออกมาให้ข้าดูหน่อยได้ไหม?” อันนาพูดอย่างจริงจัง “ถ้าเอาภาพบันทึกลงไปในสมุดแห่งเวทมนตร์ล่ะก ข้าเองก็น่าจะมองเห็นด้วยใช่ไหม?”
“ได้เพคะ เดี๋ยวหม่อมฉันจัดการให้เองเพคะ”
“ว้าว…” จู่ๆ ลูน่าก็พูดเสียงดังขึ้นมา “ข้าก็อยากดูเหมือนกัน! ถ่ายออกมาทั้งเมืองเลย!”
“เจ้าหุบปากได้ไหม!”
แต่ยังไม่ทันที่ลิลลี่จะได้ปรามเธอ แม่มดคนอื่นๆ ก็ตะโกนตามขึ้นมา “ถ่ายเครื่องบินที่บรรทุกคนได้เป็นร้อยคนได้ไหม?”
“ข้าอยากเห็นลานที่บรรจุคนได้ทีเดียวหลายหมื่นคนว่าเป็นยังไง!”
“ข้าด้วย ข้าด้วย…”
เมื่อเห็นเหล่าพี่น้องแม่มดต่างไปห้อมล้อมอันนากับบุ๊คเอาไว้ ลิลลี่จึงกระทืบเท้าแล้วเบียดตามเข้าไป
ไนติงเกลถอนหายใจเบาๆ อยู่ในหมอกมายา
นี่น่าจะเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมอันนาถึงเดินนำหน้าตัวเองล่ะมั้ง?”
เธอยิ้มแห้งๆ ขึ้นมา
เห็นๆ อยู่ว่าความรู้สึกของตัวเองนั้นไม่ได้ด้อยกว่าอีกฝ่ายเลย แต่เธอกลับสามารถพูดคำพูดแบบนั้นออกมาต่อหน้าทุกคนได้
ความกล้าของเธอเจิดจรัสเหมือนอย่างอัญมณี
บุ๊คจำคำขอของทุกคนอย่างยากลำบาก จากนั้นจึงนอนลงไปบนเก้าอี้ยาวที่อยู่ในห้องทำงาน
ส่วนโรแลนด์ก็พิงไปบนโต๊ะไม้เพื่อเตรียมที่นอนเหมือนเวลาที่นอนกลางวัน
นอกจากทั้งสองคนแล้ว ฟิลลิส หลิงและดาเนนเองก็เตรียมตัวพร้อมเหมือนกัน
โรแลนด์กวาดตามองดูทุกคน สุดท้ายพิงไปบนตัวอันนา ส่วนอีกฝ่ายก็พยักหน้าให้เขาเบาๆ
“อย่างนั้น การทดสอบรอบที่สิบเริ่มขึ้นได้!”
…………………………………………………………..