Release That Witch ปล่อยแม่มดคนนั้นซะ - ตอนที่ 1327 ชุดใหม่ของบุ๊ค
ท่ามกลางสายตาของทุกคนที่มองมา บุ๊คใช้เวลานานมากกว่าก่อนหน้านี้ถึง 15 นาทีกว่าจะรวบรวมสมาธิแล้วไล่ตามจับคลื่นกระเพื่อมพลังเวทมนตร์ในสมองที่เหมือนมีเหมือนไม่มีอันนั้น
ในตอนที่ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ตัวเธอก็มาอยู่ใน ‘ห้องเอกสาร’ แคบๆ แห่งนั้น
ฟิลลิสเองก็ปรากฏตัวขึ้นข้างกายขึ้น ด้วยรูปร่างของแม่มดที่อ่อนเยาว์ กาลเวลาหลายร้อยปีนั้นไม่ได้ทิ้งร่องรอยอะไรเอาไว้บนตัวอีกฝ่ายเลย ถึงแม้ช่วงเวลาที่ฟิลลิสมีชีวิตอยู่จะยาวนานกว่าตัวเธอ แต่ในเวลานี้ตัวเธอกลับดูแก่กว่าอีกฝ่าย
“หลังจากนี้พวกเราจะทำยังไงต่อ?” บุ๊คถาม
“เดี๋ยวข้าจัดการเอง” ฟิลลิสยิ้มอย่างมั่นใจ จากนั้นจึงเปิดประตูเหล็กแล้วเดินออกไป
เธอรีบเดินตามไป
เมืองใหญ่ที่วุ่นวายปรากฏขึ้นตรงหน้าเธออีกครั้ง
ฟิลลิสมองปรอบๆ ก่อนจะล็อกเป้าไปที่ชายหนุ่มคนหนึ่งที่กำลังเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว เธอจูงมือบุ๊คแล้วเดินเข้าไปยืนขวางหน้าอีกฝ่าย
“สวัสดีค่ะ”
ชายหนุ่มที่ได้ยินเสียงทักทายหยุดฝีเท้า จากนั้นก็เงยหน้าละสายตาจากกล่องเล็กๆ ที่อยู่ในมือขึ้นมาอย่างแปลกใจ แต่ในตอนที่สบตากัน ในสายตาของชายหนุ่มก็เผยให้เห็นถึงความรู้สึกประหลาดใจอย่างชัดเจน “เอ่อ….มีอะไรหรือเปล่าครับ?”
“ขอโทษนะคะ มือถือของฉันหาย ฉันเลยติดต่อเพื่อนไม่ได้ คุณพอจะ….”
“เข้าใจแล้ว ร้อยนึงพอไหม?” อีกฝ่ายรีบหยิบกระเป๋าเงินออกมา ก่อนจะหยิบเงินกระดาษสีแดงใบหนึ่งส่งให้เธอ ขณะเดียวกันก็พูดด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อยว่า “ถึงจะถูกหลอกก็ไม่เป็นไร…แต่ดูการแต่งตัวของพวกเธอแล้ว หัวหน้าของพวกเธอนี่ก็ยอมลงทุนทีเดียวนะเนี่ย”
ฟิลลิสหุบยิ้มลงทันที “เปล่า ฉันแค่อยากจะยืมโทรศัพท์ของคุณหน่อยเท่านั้น”
ชายหนุ่มตกตะลึง ก่อนจะรู้ตัวว่าพูดผิดไป เขายืนกล่องเล็กๆ ที่อยู่ในมือให้อย่างกระอักกระอ่วนใจพร้อมกับพูดขอโทษทั้งสองคน
ฟิลลิสยักไหล่ ก่อนจะกดหมายเลขอย่างรวดเร็ว
ตอนนี้บุ๊คยังคงงุนงงอยู่ เธอไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี เธอจึงได้แต่แสร้งทำเป็นยืนนิ่งๆ อยู่กับที่ แต่ภายในใจเธอกลับรู้สึกประหม่าอย่างมาก ที่นี่ไม่เหมือนกับโลกที่เธอคุ้นเคยเลย รอบตัวเธอมีแต่ความรู้สึกแปลกหน้าอยู่เต็มไปหมด เหมือนว่ามีกำแพงกดทับเธอเอาไว้จนหายใจไปไม่ออก รอบๆ ตัวมีคนอยู่หลายคนที่มองมาทางพวกเธอ แถมในนั้นยังมีบางคนที่มองเธอเหมือนประสงค์ร้ายด้วย นี่ทำให้เธอพลันนึกตอนที่เหล่าพี่น้องแม่มดในสมาคมแม่มดเปิดเผยตัวต่อหน้าคนธรรมดาขึ้นมา
“ไม่ต้องกลัว พวกเขาก็แค่มองเท่านั้น” ฟิลลิสเหมือนจะสังเกตเห็นความกระวนกระวายของเธอ ก่อนจะหันหน้ามาพูดปลอบว่า “ท่านแค่จ้องกลับไป เดี๋ยวพวกเขาก็จะเลิกมองไปเอง”
ทันใดนั้นเอง กล่องเล็กๆ ใบนั้นก็มีเสียงตึ๊ดดังขึ้นมา
“ฮัลโหล ฟิลลิสเหรอ?”
นั่นคือเสียงของฝ่าบาทโรแลนด์
บุ๊คพลันรู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันที
ที่นี่คือโลกแห่งความฝันจริงๆ ด้วย ฝ่าบาทอยู่ไม่ไกลจากเธอ
ความรู้สึกแปลกหน้ายังคงมีอยู่ แต่มันกลับไม่ได้กดทับเธอเหมือนก่อนหน้านี้ แม้แต่สายตาแปลกๆ ที่มองมาก็ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกแย่เหมือนอย่างตอนแรก
บุ๊คสูดหายใจพร้อมไปทางสายตาที่จ้องมองมาเหล่านั้น แล้วเป็นเหมือนอย่างที่ฟิลลิสบอกเอาไว้ คนเหล่านั้นพลันหลบสายตาแล้วเบือนหน้าหนีไป
คลื่นมนุษย์ที่อยู่บนถนนเหมือนจะกลับมาไหลอีกครั้ง
“ใช่ค่ะ นี่หนูเอง เลดี้บุ๊คก็อยู่ข้างๆ หนูเนี่ย ที่อยู่ตรงนี้คือ…ใช่ค่ะ บนแผนที่มันบอกอย่างนี้ อยู่ห่างจากชุมชนถงจึแค่สองกิโลเหรอ? เยี่ยมไปเลย ค่ะ เดี๋ยวหนูรออยู่ที่นี่ ฝ่า…พี่” ฟิลลิสเอากล่องเล็กๆ คืนชายหนุ่มไปหลังจบบทสนทนา “ขอบคุณนะ”
“มะ ไม่เป็นไร” อีกฝ่ายลังเลเล็กน้อย ก่อนจะพูดออกมาว่า “อย่างนั้น พวกเราเป็นเพื่อนกันได้ไหม?”
ฟิลลิสบอกตัวเลขออกไป
ชายหนุ่มรีบบันทึกตัวเลขพวกนั้นราวกับมันเป็นอัญมณีอย่างไรอย่างนั้น จากนั้นก็บอกลาทั้งสองคนไปด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“กล่องเล็กๆ ที่เจ้ายืมมาเมื่อกี้นี้ หรือว่านั้นจะเป็นโทรศัพท์ไร้สายที่สามารถติดต่อกันได้เป็นพันกิโลเมตรอย่างที่ฝ่าบาทเคยตรัสอยู่บ่อยๆ?” บุ๊คถาม
“ใช่ ระดับเทคโนโลยีของโลกนี้ทำให้ทุกคนสามารถใช้โทรศัพท์ไร้สายได้ ไม่ใช่แค่พูดคุยกันเท่านั้น แต่มันยังใช้ระบุทิศทางแล้วก็ค้นหาข้อมูลได้ด้วย ถ้าไม่มีมันล่ะก็ เวลาจะทำอะไรก็จะลำบาก” ฟิลลิสพูดอธิบาย “แล้วก็เป็นเพราะเหตุนี้ ขอเพียงแค่จำหมายเลขได้ เราก็จะสามารถติดต่ออีกฝ่ายได้ทุกเมื่อ ถ้าเจอคนที่ไม่อยากจะทำความรู้สึกด้วย ก็ให้ปฏิเสธไปหรือไม่ก็บอกตัวเลขออกไปมั่วๆ ก็พอ”
“อย่างนี้นี่เอง” บุ๊คเข้าใจทันที มิน่าฝ่าบาทถึงได้ตรัสว่าถ้าทั้งสองคนอยู่ในโลกเดียวกันจริงๆ ไม่นานพวกเขาก็จะได้เจอกัน
“ว่าแต่ท่านนั่นแหละ ความเร็วในการปรับตัวเร็วกว่าที่ข้าคิดเอาไว้เสียอีกนะเจ้าคะ สมแล้วที่เป็นอาจารย์ของสโมสรแม่มด” ฟิลลิสพูดยิ้มๆ
บุ๊คส่ายหัวเล็กน้อย แต่ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป
เธอรู้ว่าความกล้าตัวเองมาจากไหน
เห็นๆ อยู่ว่าเป็นราชาแล้ว แต่กลับไม่ได้มีอะไรพัฒนาจากเมื่อก่อนเลย คนที่พูดว่าราชาต้องปกป้องลูกน้องของตัวเองได้นั้น เกรงว่าคงมีแต่ฝ่าบาทโรแลนด์เพียงพระองค์เดียวล่ะมั้ง? จริงๆ เลยเชียว เมื่อไรพระองค์ถึงจะกลายเป็นราชาที่ดีได้ล่ะเนี่ย?
ตัวเธอเองก็เหมือนกัน หลังจากที่สมาคมแม่มดได้รับการปกป้อง เธอก็ควรจะออกมายืนอยู่ข้างหน้าราชาถึงจะถูก แต่จนถึงตอนนี้เธอก็ยังได้รับการคุ้มครองจากอีกฝ่ายอยู่ นี่ไม่ใช่สิ่งที่เธอควรทำเลย
แต่ว่า….ถ้าทุกคนเป็นแบบนี้ล่ะก็ มันก็รู้สึกไม่เลวเหมือนกัน
ในเมื่อเป็นแบบนี้ อย่างนั้นก็ปล่อยให้มันเป็นแบบนี้ไปก่อนแล้วกัน
“เฮ้ยๆ ดูสองคนนั้นสิ”
“นั่นมันชุดในยุคกลางไม่ใช่เหรอ พวกเธอกำลังแต่งคอสเพลย์เหรอ?”
“จะว่าไปแล้ว ทั้งสองคนสวยมากเลยนะเนี่ย!”
“รู้สึกว่าไม่ได้ด้อยไปกว่าดาราเลย…”
รอบๆ มีเสียงกระซิบกระซาบดังขึ้นมา แต่บุ๊คไม่ได้รู้สึกไม่สบายใจเหมือนอย่างตอนแรกอีกแล้ว
หลังจากนั้นประมาณสิบนาที รถทรงกลมคันหนึ่งก็มาจอดตรงหน้าทั้งสองคน
“โทษทีที่ให้รอนาน” ฝ่าบาทยื่นหน้าออกมาจากห้องคนขับ
“ขึ้นรถเถอะ” ฟิลลิสเปิดประตู ก่อนจะดึงบุ๊คเข้าไปในรถ
จากนั้นทุกคนก็เดินทางออกมาจากสายตาของทุกคนที่มองเหมือนไม่อยากจะเชื่อ จากนั้นจึงหายในกระแสรถยนต์ที่อยู่บนถนน
“พวกเราโชคดีทีเดียวนะเนี่ย” หลิงที่นั่งอยู่ข้างคนขับหันหน้ากลับมา “ถ้าจุดเชื่อมต่อดินแดนของท่านบุ๊คอยู่ห่างจากตึกถงจึไปแค่สองช่วงถนนล่ะก็ แมลงของฟาลดี้ก็จะสามารถตรวจตราพื้นที่นี้ได้ 24 ชั่วโมงเลย
ฟาลตี้พยักหน้า “ตรงนี้เคยถูกตรวจสอบมาก่อนหน้านี้แล้ว ตอนนี้ไม่มีร่องรอยของฟอลเลนอีวิลปรากฎขึ้นมาใหม่ น่าจะเรียกได้ว่าปลอดภัยทีเดียว”
“แบบนี้ก็ดี” โรแลนด์พูดยิ้มๆ “อย่างนั้นในฐานะที่เป็นแม่มดคนแรกที่เข้ามาในโลกแห่งความฝันได้ ตอนนี้เจ้ารู้สึกยังไงบ้างบุ๊ค?”
“นี่คือรถของโลกแห่งความฝันหรือเพคะ?” บุ๊คลูบเบาะที่อยู่ด้านหลัง แล้วก็เคาะกระจก “ที่ั่ั่นั่งนุ่มกว่าโซฟา แถมยังขับแล้วไม่มีเสียงด้วย ความเร็วก็เร็วอย่างมาก เรียกได้ว่าดีกว่ารถจักรไอน้ำหลายเท่า….ถ้าพวกเราสามารถสร้างเครื่องมือขนส่งแบบนี้ออกมาได้คงจะดีไม่น้อยเลยเพคะ”
ไม่รู้ว่าทำไม จู่ๆ เธอพลันรู้สึกว่ารอยยิ้มของโรแลนด์จับตัวแข็งขึ้นมา แม่มดอาญาสิทธิ์อีกสามคนเองก็ปิดปากลง เหมือนกำลังพยายามอดทนต่ออะไรบางอย่างอยู่
“เอ่อ…ข้าพูดอะไรผิดหรือเปล่า?”
“เปล่า อะแฮ่มๆ…ช้าเร็ววันนั้นต้องมาถึงแน่นอน” โรแลนด์กระแอมเล็กน้อย
“ฝ่าบาท แล้วนี่พวกเรากำลังจะไปที่ไหนหรือเพคะ?” บุ๊คมองดูทิวทัศน์ข้างนอกพร้อมพูดออกมา “พระองค์ทรงต้องการทดสอบดินแดนจิตสำนึกไม่ใช่เหรอเพคะ?”
“เรื่องนั้นเดี๋ยวเราค่อยว่ากัน เจ้าไม่สังเกตเหรอว่าชุดของพวกเจ้าตอนนี้มันดูสะดุดตาไปหน่อย” โรแลนด์พูดโดยไม่หันหน้ามามอง “เสื้อผ้าของฟิลลิสอยู่บนรถ เดี๋ยวค่อยเปลี่ยนก็ได้ แค่ชุดที่เหมาะกับเจ้าตอนนี้ยังไม่มี ดังนั้นสิ่งแรกที่ต้องทำในตอนนี้ก็คือหาชุดให้เจ้าเปลี่ยนก่อน!”
……………………………………………………………..