Release That Witch ปล่อยแม่มดคนนั้นซะ - ตอนที่ 1328 การสืบทอดของมนุษย์
“ท่านบุ๊ค เสื้อผ้าเปลี่ยนเสร็จหรือยังเจ้าคะ?” นอกห้องลองเสื้อผ้า เสียงของหลิงดังขึ้น “ถ้าจะให้ข้าช่วยล่ะก็ บอกข้ามาได้เลยนะเจ้าคะ”
“ไม่ ไม่ต้อง ข้า…ใกล้เสร็จแล้ว” ด้านในมีเสียงฟังดูตื่นเต้นของบุ๊คดังขึ้นมา
โรแลนด์เลิกคิ้ว นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นบุ๊คประหม่าแบบนี้ เมื่อก่อนเธอมักจะไม่ตื่นตระหนกง่ายๆ ไม่ว่าจะทำอะไรก็ล้วนแต่มีความสุขุมเยือกเย็น นี่จึงทำให้เขาอยากจะเห็นบุ๊คหลังเปลี่ยนชุดใหม่มากขึ้น
“ครืด…”
ผ้าม่านถูกเลิกออก บุ๊คเดินออกมาจากห้องลองเสื้อผ้าอย่างระมัดระวัง
“แบบนี้…ได้ไหมเพคะ?”
โรแลนด์ตกตะลึงไปทันที
ด้านในบุ๊คสวมเสื้อไหมพรมคอเต่าสีน้ำเงินเข้มรัดรูป ทำให้โครงร่างของร่างกายท่อนบนถูกขับออกมาอย่างเด่นชัด ด้านนอกสวมชุดคลุมไหล่สีดำสลับแดงทับเอาไว้ โดยเสื้อคลุมนั้นคลุมตั้งแต่หัวไหล่ยาวไปจนถึงน่องของเธอ ดูแล้วค่อนข้างมีกลิ่นอายของชุดราตรีทีเดียว ส่วนหน้าอกสูงชั้นที่เปิดโล่งและเอวที่โค้งเว้า ดูเผินๆ แล้วให้ความรู้สึกสวยงามอย่างที่พูดไม่ถูก
ทั้งชุดเน้นสีเข้มเป็นหลัก ไม่ได้มีความรู้สึกเหลาะแหละใดๆ แม้แต่น้อย ในทางกลับกัน มันกลับทำให้เธอดูหนักแน่นมั่นคง บวกกับแว่นตากรอบดำบนหน้าบุ๊๕ แล้วก็ผมเปียสีดำที่ยาวจนถึงเอว ยิ่งทำให้เธอดูมีความเป็นผู้ใหญ่และรอบรู้มากยิ่งขึ้น
“สวยมากเลยเจ้าค่ะ” ฟิลลิสอุทานออกมา “ต่อให้อยู่ในหมู่แม่มด นี่ก็เรียกได้ว่างามอย่างมากเจ้าค่ะ”
“ข้าบอกแล้วว่าข้าเลือกไม่ผิด!” หลิงพูดด้วยน้ำเสียงภูมิใจ
“แต่ว่า…มันจะเปิดมากเกินไปหรือเปล่าเพคะ?”
บุ๊คเอามือขึ้นมาปิดตรงหน้าอกของตัวเองทันที
“ไม่เลยเจ้าค่ะ มันแค่รัดแน่นไปหน่อยเท่านั้นเอง” ฟาลดี้พูดยิ้มๆ “ชุดราตรีในงานเลี้ยงท่านยังยอมรับได้เลย ชุดนี้มันก็ไม่ถือว่าน่าเกลียดหรอกเจ้าค่ะ”
“ยิ่งไปกว่านั้นในโลกแห่งความฝันทุกคนเขาก็ใส่กันแบบนี้ด้วย หม่อมฉันพูดถูกไหมเพคะ ฝ่าบาท?” หลิงพูดเสริมขึ้นมา
โรแลนด์ส่ายหัวยิ้มๆ ถึงแม้จะมีเสื้อในกับเสื้อไหมพรมใส่รองเอาไว้ข้างใน แต่เสื้อคลุมที่ดูเปิดโล่งชนิดนี้ก็ยังทำให้เธอรู้สึกไม่ค่อยชินเท่าไร “สิ่งสำคัญมันไม่ได้อยู่ที่ว่าคนอื่นใส่ยังไง หากแต่อยู่ที่ว่าบุ๊คคิดยังไง” เขาชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะมองไปทางบุ๊ค “เจ้าคิดว่าเจ้าชอบชุดนี้ไหม?”
บุ๊คมองดูตัวเองในกระจก นั่นคือภาพลักษณ์ที่ตัวเธอไม่เคยเห็นมาก่อน ต่อให้ทั้งสองโลกจะต่างกันมากแค่ไหน แต่สิ่งสวยงามยังไงมันก็ดึงดูดเสียงเรียกร้องภายในใจได้อยู่ดี เธอไม่อาจปฏิเสธได้ว่าตัวเธอชอบชุดที่เธอใส่อยู่ในตอนนี้
“ชอบเพคะ…ฝ่าบาท” เธอตอบเสียงเบาๆ
“อย่างนั้นก็ดี” โรแลนด์เรียกพนักงานเข้ามา “ผมเอาชุดนี้ครับ”
“คุณผู้ชาย คุณที่ตาแหลมมากเลยนะคะ นี่เป็นชุดรุ่นใหม่ล่าสุดของฤดูหนาวปีนี้ ยิ่งไปกว่านั้นคุณผู้หญิงคนนี้ยังใส่แล้วสวยอย่างมากด้วยค่ะ!” พนักงานหยิบเอาเครื่องคิดเลขขึ้นมากด “ทั้งหมด 24,000 หยวน เชิญตามมาชำระเงินทางนี้เลยค่ะ!”
“เอ่อ….” โรแลนด์กลั้นหายใจไปครู่หนึ่ง ราคานี่ประมาณหนึ่งในสามของรถตู้เลยนะเนี่ย แต่ว่าเขาพูดไปแล้ว จะให้ถอยตอนนี้ก็คงไม่ทันแล้ว เขาหันไปมองหลิง “ตอนเจ้าเลือกชุดเจ้าเลือกยังไง?”
“เลือกที่แพงที่สุดเพคะ!” หลิงแลบลิ้น “เพื่อนในโรงเรียนบอกว่าบนโลกนี้มีแค่ราคาเท่านั้นที่ไม่หลอกคน”
โรแลนด์ถึงกับกุมขมับ
“ฝ่าบาท ชุดพวกนี้…แพงมากหรือเพคะ?” บุ๊คขยับเข้ามาถามเสียงเบาๆ “ถ้าไงไม่ต้องซื้อดีไหมเพคะ…”
“ข้าเป็นผู้สร้างโลกแห่งความฝันนะ จะไปมีปัญหาเรื่องเงินได้ยังไง เรื่องเล็กน้อยน่า” เขาแสร้งทำเป็นไม่ใส่ใจ ก่อนจะซื้อเสื้อผ้ามา “ต่อไปก็ไปกินข้าวเย็นที่ชั้นสอง!”
“เพคะ!”
แม่มดอาญาสิทธิ์ทั้งสามคนตอบออกมาพร้อมกันด้วยความยินดี
“ฝ่าบาท…แล้วการทดสอบล่ะเพคะ?”
“วางใจได้” โรแลนด์โบกมือ “เวลาที่นี่เดินไปเร็วกว่าในโลกแห่งความจริง ในโลกแห่งความจริงข้างนอกตอนนี้เพิ่งจะผ่านไปได้ไม่เท่าไรเอง ยิ่งไปกว่านั้นนี่เป็นครั้งแรกที่เจ้าเข้ามาในโลกแห่งความฝันได้ ดังนั้นต้องหาความสุขให้พอก่อนแล้วค่อยว่ากัน อีกเดี๋ยวอยากกินอะไรก็บอกข้ามาเลย!”
เพราะยังไงก็จ่ายค่าเสื้อผ้าไปขนาดนั้นแล้ว หลังจากนี้จะกินอะไรก็คงจะจ่ายแค่ไม่เท่าไร คิดซะว่าทำให้ทุกคนมีความสุขก็แล้วกัน เขาคิดในใจ
บุ๊คมองไปทางทั้งสี่คนที่กำลังตื่นเต้น ก่อนจะหันมายิ้มและส่ายหัวอย่างเหนื่อยใจให้โรแลนด์ “เข้าใจแล้วเพคะ”
…..
ในตอนที่เดินออกมาจากห้างสรรพสินค้าที่คึกคัก ทุกคนต่างก็กินกันจนอิ่มแปล้แล้ว
ภายใต้การนำของโรแลนด์ ทุกคนลองกินแทบจะทุกร้านที่มี เห็นอันไหนน่าอร่อยก็ลองสั่งมากินหนึ่งชุด — ตั้งแต่เสี่ยวหลงเปาไส้ปูร้อนๆ ไปจนถึงไอศกรีมแมคคาเดเมีย สำหรับบุ๊คแล้ว ทุกอย่างล้วนแต่มีรสชาติที่อร่อยอย่างมาก ถึงแม้อาหารบางอย่างที่เมืองเนเวอร์วินเทอร์จะมีเหมือนกัน แต่เมื่อเทียบกับที่นี่แล้ว มันก็ต่างชั้นกันเหมือนกับการเอารถของฝ่าบาทไปเทียบกับรถบรรทุกไอน้ำ
ถึงแม้เธอจะพยายามควบคุมตัวเองแล้ว แต่เธอก็ทำได้เพียงทำให้ภาพลักษณ์เวลากินดูดีหน่อยเท่านั้น
“โลกนี้มันช่าง….ดีจริงๆ เลยนะเพคะ…” บุ๊คที่เดินไปช้าๆ บนถนนที่กว้างใหญ่มองขึ้นไปบนท้องฟ้าแล้วพูดพึมพำขึ้นมา ถึงแม้หมู่ดาวจะถูกบดบังไปแล้ว แต่ในเมืองยังคงสว่างไสวอยู่ ไฟริมทางส่องถนนให้สว่าง เกล็ดหิมะตกปลิวปลายลงมาท่ามกลางแสงไฟที่อ่อนโยน ดูแล้วเหมือนกับภูมิน้อยในยามค่ำคืน “ในเมืองทั้งสว่างและสวยงาม คนที่เดินไปเดินมาก็มีแต่รอยยิ้ม ดูแล้วเหมือนกับความฝันอย่างไรอย่างนั้น….พวกเราจะโอกาสสร้างเมืองให้กลายเป็นแบบนี้จริงๆ ไหมเพคะ?”
“มีแน่นอน ขอเพียงพวกเรามีความรู้ที่มากพอ” โรแลนด์พูดพร้อมเดินเอามือไพล่หลัง “และนี่ก็เป็นสิ่งที่แตกต่างกันมากที่สุดระหว่างทั้งสองที่เมืองชายแดนสามารถเปลี่ยนแปลงกลายเป็นเมืองเนเวอร์วินเทอร์ได้ด้วยความรู้ อย่างนั้นเมืองเนเวอร์วินเทอร์ก็ต้องกลายเป็นโลกแห่งความฝันได้เหมือนกัน และกุญแจที่จะทำให้มันกลายเป็นจริงก็อยู่ตรงหน้าเจ้าในตอนนี้แล้ว”
“อยู่ตรงหน้า….หม่อมฉัน?” บุ๊คงุนงง
“ถูกต้อง” โรแลนด์ยิ้มมุมปาก ที่เขาพาบุ๊คมาที่นี่ไม่ใช่แค่เพื่อจะมาซื้อของเท่านั้น หลังข้ามถนนมา ทุกคนก็มายืนอยู่ตรงหน้าสิ่งก่อสร้างที่ดูสวยงามแห่งหนึ่ง ตรงหน้าประตูมันมีแผ่นป้ายสีทองแผ่นหนึ่งติดเอาไว้ บนป้ายเขียนว่า ‘ห้องสมุดเมือง’
เมื่อเข้ามาในห้องสมุด บุ๊คพลันอุทานออกมา
ภายในโถงที่กว้างขวางีขนาดประมาณลานเมืองของเนเวอร์วินเทอร์ เพดานด้านบนของมันสูงประมาณ 10 กว่าเมตร บันไดที่เลื่อนไปมาด้วยตัวเองที่อยู่รอบๆ พาคนขึ้นๆ ลงๆ ส่วนระเบียง 5 ชั้นก็ล้อมรอบโถงซ้อนทับขึ้นไปเป็นชั้นๆ ตู้หนังสือจำนวนนับไม่ถ้วนเรียงเป็นแถวนาน บนตู้หนังสือแต่ละตู้มีหนังสือวางอยู่เต็มไปหมด
ต่อให้เอาหนังสือทั้งเกรย์คาสเซิล…หรือทั้งสี่อาณาจักรมารวมกันก็ยังไม่อาจเทียบกับหนังสือของที่นี่ได้เลย
บุ๊คเอามือขึ้นมาทาบที่หน้าอก เธอเข้าใจแล้วว่าทำไมฝ่าบาทถึงพาเธอมาที่นี่
“นี่คือที่ๆ หลังจากนี้เจ้าจะต้องมาบ่อยๆ” โรแลนด์ยิ้มๆ “เอากุญแจไปให้โลกนั้นแทนข้าทีนะ”
เธอสูดหายใจพร้อมหันไปก้มหน้าให้โรแลนด์ จากนั้นจึงพูดอย่างจริงจังว่า “บุ๊คจะไม่ทำให้พระองค์ทรงผิดหวังเพคะ”
นี่เป็นงานที่ต้องใช้เวลายาวนาน ยิ่งไปกว่านั้นยังยากที่จะสำเร็จได้ในเวลาสั้นๆ ด้วย
แต่การเปลี่ยนแปลงใดๆ มันก็เริ่มจากสถานที่เล็กๆ แบบนี้ทั้งนั้น
ความรู้ก็เป็นเหมือนปุ๋ย
ขอเพียงโปรยออกไปก็จะช่วยเร่งให้ผู้คนเจริญเติบโตได้
ก่อนหน้านี้เขาก็พยายามผลักดันเรื่องนี้มาโดยตลอด การส่งพวกหลิงเข้าไปในโรงเรียนก็เพื่อเป้าหมายนี้เหมือนกัน ซึ่งการยกระดับของบุ๊คนั้นช่วยเร่งขั้นตอนนี้ให้เร็วขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย
ใช้เวลาสิบปีปลูกต้นไม้ ใช้เวลาร้อยปีเพื่อสร้างขึ้น โรแลนด์เชื่อว่าหลังจากนี้อีกร้อยปี ผู้คนในโลกแห่งความจริงจะต้องเปิดการเปลี่ยนแปลงอย่างชนิดที่ว่าหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว
ไม่ว่าจะเป็นคนที่ไม่มีพลังเวทมนตร์ก็ดี หรือว่าแม่มดที่มีพลังเวทมนตร์ก็ช่าง
เมื่อถึงตอนนั้น พวกเขาจะมี ‘โลกแห่งความฝัน’ แห่งใหม่ที่พวกเขาสร้างขึ้นมาด้วยมือทั้งสองข้าง
…………………………………………………………..