Release That Witch ปล่อยแม่มดคนนั้นซะ - ตอนที่ 1337 เส้นเลือดใหญ่ของการขนส่ง
หลังจากนั้นสามวัน กองรักษาการณ์ที่อ่าวดีพพูลก็ถอนกำลังได้สำเร็จก่อนที่ปีศาจจะบุกเข้ามา
ในตอนนี้ เมืองกว่า 80% ได้ตกอยู่ในมือของปีศาจแล้ว
ส่วนกองทัพที่หนึ่งนั้นไปรวมตัวกันอยู่ที่ด่านด้านตะวันตกและด่านตรงกลางของเคจเมาเธ่น นี่เป็นเส้นทางธรรมชาติสองแห่งระหว่างวูล์ฟฮาร์ทกับดอว์น
และในวันเดียวกันนั้นเอง เส้นทางหลักที่เชื่อมระหว่างทางเหนือกับทางใต้ก็สร้างเสร็จสมบูรณ์ ถนนคอนกรีตที่ทอดยาวมาจากสองทิศทางมารวมกันอยู่ตรงด่านตรงกลางของเคจเมาเธ่น นี่หมายความว่าเมืองเนเวอร์วินเทอร์นั้นมีถนนที่เชื่อมตรงมาถึงวูล์ฟฮาร์ทแล้ว
และในตอนที่กองทัพรถ ‘ฮัม’ ค่อยๆ ปรากฏตัวขึ้นบนปลายสุดของถนน กลุ่มคนที่มองดูอยู่รอบๆ พากันส่งเสียงอุทานตกใจออกมา
“นั่นมันอะไร? เหมือนภูเขาลูกเล็กๆ เลย!”
“มีล้อ ข้าว่าน่าจะเป็นรถล่ะมั้ง…”
“แม้แต่เปลือกข้างนอกก็ยังเป็นเหล็กเลย นี่ต้องใช้เงินเท่าไรเนี่ย…”
“ถ้าเอาม้ามาลาก ข้าว่าม้าสิบตัวก็ยังลากไม่ไปเลย”
เหอะ เจ้าพวกโง่ ไวท์ที่กวาดตามองดูเพื่อนร่วมอาชีพที่พากันสุมหัวพูดคุยด้วยสายตาดูถูก แค่นี้ก็ยังตกใจ ถ้าพวกเจ้าได้เห็นนกเหล็กที่บินอยู่บนท้องฟ้าพวกนั้น ลูกตาพวกเจ้าคงจะกระเด็นออกมาจากเบ้าเลยมั้ง
เขามาที่นี่ย่อมไม่ใช่เพื่อร่วมฉลองถนนเส้นใหม่ของคนเกรย์คาสเซิล หากแต่มาที่นี่เพื่อรับงาน หมือนกับคนขับรถคนอื่นๆ หลังจากที่ถูกปีศาจโจมตีเมื่อครั้งที่แล้ว เขาก็ไม่กล้าเหยียบไปในพื้นที่ที่ไม่ได้อยู่ในการควบคุมของคนเกรย์คาสซิลอีก เพราะการที่ได้รับความช่วยเหลือจากนกเหล็กครั้งหนึ่งก็ถือว่าพระเจ้าเมตตาเขามากแล้ว เขาไม่คิดว่าตัวเองจะโชคดีเจอคนเกรย์คาสเซิลได้ทุกครั้งไป
และทีมขนส่งที่ผู้อพยพจัดตั้งกันขึ้นมาเองก็ได้จุดประกายความคิดให้กับไวท์ ถึงแม้รายได้จะไม่ดีเหมือนอย่างการรับส่งคน แต่มันก็ปลอดภัยมากกว่า ยิ่งไปกว่านั้นต่อให้ม้าของเขาจะแก่ รถของเขาจะเก่าแค่ไหน มันก็ยังดีกว่ารถเข็นของผู้อพยพมาก
แต่คนที่สังเกตเห็นในจุดนี้ไม่ได้มีแค่เขาเพียงคนเดียว เมื่อปีศาจรุกคืบเข้ามาใหม่และชาวเมืองต่างอพยพออกมาแล้ว คนขับรถหลายๆ คนเองก็เปลี่ยนมาอยู่แนวหลังเหมือนอย่างเขา ตอนนี้ทีมขนส่งที่ก่อตั้งขึ้นมาเองมีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิมมาก แล้วก็เริ่มมีแนวโน้มว่าจะเปลี่ยนกลายเป็นอาชีพ
เมื่อคิดถึงตรงนี้ ไวท์ก็รู้สึกไม่ค่อยสบายใจ เพราะเขามาถึงที่นี่ก่อน แต่กลับต้องมานั่งแย่งงานกับคนหนุ่มเหล่านี้ ถ้าเจ้าฉลาดอยู่ที่นี่ เกรงว่าเขาคงจะมีทีมขนส่งเป็นของตัวเองแล้วล่ะมั้ง?
และเมื่อครู่นี้ เจ้าสัตว์ประหลาดยักษ์เหล่านี้ก็เคลื่อนตัวมาปรากฏอยู่ตรงหน้าทุกคน
ถึงแม้พวกมันจะดูแล้วหนักและเทอะทะ แต่ความเร็วของมันกลับไม่ได้ช้ากว่ารถม้าเลย โดยเฉพาะในตอนที่ร่างกายของมันปรากฏขึ้นมาจนหมด แม้แต่ไวท์ที่เคยพบเจออะไรมามากมายก็ยังรับรู้ได้ถึงแรงกดดันที่ถาโถมเข้ามา
รถพวกนี้มันช่างใหญ่จริงๆ
แค่ล้อของมันก็สูงเกือบครึ่งตัวคนแล้ว ความกว้างของมันหนากว่าร่างกาย รอบนอกวงเหล็กมียางสีดำหุ้มเอาไว้ชั้นหนึ่ง เมื่อเหยียบไปบนถนนแล้วให้ความรู้สึกมั่นคงอย่างบอกไม่ถูก เมื่อหันกลับมามองรถม้าที่เดิมตัวเองมองว่าสุดแสนจะล้ำค่า ไวท์พลันเกินความรู้สึกขายหน้าขึ้นมา
และเมื่อเขาสบตากับคนขับรถที่มองผ่านกระจกใส่บานใหญ่หน้ารถลงมา ความรู้สึกที่ว่านี้มันก็ยิ่งชัดเจนมากขึ้น
ไวท์อดคิดขึ้นมาไม่ได้ว่าถ้าใช้มันไปขนของล่ะก็ มันจะเท่ากับตัวเองใช้รถม้าขนกี่ครั้ง? ยังไงก็ต้องมีสิบกว่าครั้งแน่ๆ ถ้าใช้วิธีคำนวณตามปริมาณของคนเกรย์คาสเซิลล่ะก็ อย่างนั้นมันก็เท่ากับรายได้สิบเท่าเลยนะเนี่ย….
“พวกเขาแจกงานแล้ว!”
ไม่รู้ว่าใครตะโกนประโยคนี้ขึ้นมา แต่ทุกคนต่างหยุดพูดคุย แล้วก็แห่กันเข้าไปในค่ายทันที ถึงแม้ความสามารถในการขนส่งของรถที่ไม่เคยเห็นมาก่อนเหล่านี้จะเหนือกว่ารถม้ากับรถลาก แต่ถ้าอยากจะเอาของไปส่งตามค่ายและพื้นที่ต่างๆ ในภูเขา ยังไงก็ต้องพึ่งพาพวกเขาอยู่ดี
ไวท์เองก็วิ่งตามเข้าไปเหมือนกัน
เพียงแต่ภายในใจเขายังมีความคิดหนึ่งที่สลัดออกไปไม่ได้
ถ้าตัวเองมีรถล้อเหล้กแบบนี้ซักคันก็คงจะดี
……
ฟาร์รีน่าดึงเบรกมือ แล้วกระโดดออกมาจากห้องคนขับ
เธอคิดไม่ถึงว่าสุดท้ายตัวเองจะกลับมาที่วูล์ฟฮาร์ทด้วยวิธีแบบนี้ ถึงแม้ภายในใจจะตัดสินใจแล้ว แต่เธอถึงเป็นอดีตสมาชิกของศาสนจักร ต่อให้ผ่านการคัดเลือก สำนักบริหารก็ไม่แน่ว่าจะอนุญาตให้เธอมาที่แนวหน้าของสนามรบ
แต่ไม่มีใครเอ่ยถึงเรื่องที่เธอเคยเป็นสมาชิกของศาสนจักรเลย การจัดวางเส้นทางการขับรถดูจากคะแนนเพียงอย่างเดียว เธอใช้เวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์ก็สามารถเรียนรู้เทคนิคการขับรถบรรทุกไอน้ำทั้งหมดได้ และสุดท้ายก็สอบผ่านด้วยคะแนนเต็ม ในตอนที่เธอบอกว่าเธออยากจะรับผิดชอบงานขนส่งระหว่างวินด์สวิปริดจ์กับแม่น้ำสปาร์คกิ้ง เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบก็ตอบตกลงทันที
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอผ่านด่านตรงนี้ ถึงแม้ภาพทิวทัศน์ที่อยู่รอบๆ จะยังเหมือนกับในความทรงจำ แต่หน้าตาของมันกลับเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง บริเวณใกล้ๆ ด่านมีเต็นท์และบ้านพักแบบชั่วคราวถูกสร้างขึ้นมาเต็มไปหมด ถนนพื้นแข็งสีเข้มมีให้เห็นอยู่ทุกที่ ที่กั้นถนน ป้อมและลวดเหล็กได้แบ่งค่ายออกเป็นพื้นที่ต่างๆ ให้เห็นอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ไหนของค่ายก็จะเห็นภาพคนกำลังวุ่นวายกับการทำงาน
ต่อให้ไม่ถามเธอก็สัมผัสได้ บรรยากาศของที่นี่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของสงคราม
สำหรับฟาร์รีน่าแล้ว เธอคุ้ยเคยกับกลิ่นอายที่ว่านี้อย่างมาก จนทำให้เธอรู้สึกใจลอยเล็กน้อย
“เป็นอะไรหรือเปล่า?” เสียงของโจดังแทรกความคิดของเธอ
“เปล่า ไม่มีอะไร” ฟาร์รีน่าส่ายหัว “ข้ารู้สึกว่าข้าได้คำตอบแล้ว”
ในฐานะที่เป็นหนึ่งในสมาชิกของกองทัพพิพากษา เธอรู้ถึงความแข็งแกร่งของเกรย์คาสเซิลดีกว่าใครๆ หากศัตรูเป็นแค่ขุนนาง กองทัพที่หนึ่งไม่มีความจำเป็นต้องทำถึงขนาดนี้เลย ถ้าบอกว่าทั้งหมดที่อยู่ตรงนี้หน้าล้วนแต่เป็นสิ่งที่กองทัพที่หนึ่งแสร้งทำขึ้นมาเพื่อหลอกเธอ แบบนั้นมันจะเป็นการประเมินเธอสูงเกิดไปหน่อยหรือเปล่า
มีเพียงแค่ปีศาจในตำนานเท่านั้นถึงทำให้โรแลนด์ต้องทุ่มกำลังเต็มที่แบบนี้ได้
“อย่างนั้นต่อไปพวกเราจะ…”
“ช่วยราชาแห่งเกรย์คาสเซิลคว้าชัยชนะก่อน” ฟาร์รีน่าก้มหน้าเล็กน้อย “นี่คือการเริ่มต้นชดเชยความผิดของข้า”
“ข้าจะอยู่ข้างเจ้าไปตลอด” โจจับสองมือของเธอเบาๆ
“ฟาร์รีนากับโจจากกลุ่มที่สองใช่ไหม?” จู่ๆ ด้านหลังพลันมีเสียงดังขึ้นมาขัดจังหวะการสบตาของทั้งสองคน
“ใช่ ไม่ทราบว่ามีเรื่องอะไรหรือเปล่า?” ฟาร์รีน่ากระแอม ก่อนจะหมุนตัวกลับไปอย่างหวาดกลัวเล็กน้อย
ผู้ชายที่ท่าทางเหมือนนายทหารคนนั้นทำวันทยาหัตถ์ก่อน จากนั้นจึงพูดว่า “ท่านผบ.ขวานเหล็กอยากจะเจอหน้าคนขับ ‘ฮัม’ ทุกคน ตอนนี้ท่านผบ.อยู่ในศูนย์บัญชาการเคจเมาเธ่น ได้โปรดตามข้ามา”
สมาชิกในหน่วยรถบรรทุกได้ถูกแจ้งเอาไว้ตั้งแต่ตอนฝึกซ้อมแล้วว่างานขนส่งถือเป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการทางการทหาร หากมีการเรียกระดมพลจากกองทัพ พวกเขาจะต้องรีบวางงานในมือลงก่อน
ฟาร์รีนากับโจสบตากัน ก่อนจะพยักหน้าออกมา
….
หลังเข้ามาในศูนย์บัญชาการเคจเมาเธ่น แวบเรกที่ได้เห็นกลุ่มคน ฟาร์รีน่าก็รู้ทันทีว่าการพบกันครั้งนี้คงไม่ใช่การพบหน้าธรรมดาๆ อย่างที่เธอคิดเอาไว้แล้ว
อย่างน้อยมันก็ไม่ใช่การพบหน้ากันเพื่อสอบถามสารทุกข์สุขดิบหรือเป็นงานเลี้ยงต้อนรับธรรมดาๆ แน่
เพราะผู้หญิงที่อยู่ท่ามกลางกลุ่มคนเหล่านี้นั้นมีผมสีเทาที่สวยงาม และนั้นก็เป็นสัญลักษณ์ทางสายเลือกของเกรย์คาสเซิล
กระทั่งหลังจากมีคนออกมากล่าวแนะนำแล้ว เธอถึงได้มั่นใจในการวิเคราะห์ของตัวเอง
องค์หญิงทิลลี ขวานเหล็กผู้บังคับบัญชาของกองทัพที่หนึ่ง แวนนาผู้บังคับการกองพันปืนใหญ่ ไบรอันผู้บังคับการกองพันปืน อกาธาบังคับบัญชาการรบของสโมสรแม่มด เรียกได้ว่าสมาชิกระดับสูงของแนวหน้าทั้งหมดต่างมารวมกันอยู่ที่นี่แล้ว
“ยินดีต้อนรับสู่เคจเมาเธ่น” ขวานเหล็กพูดเปิดประเด็นตรงๆ “ข้ามีภารกิจหนึ่งอยากจะมอบหมายให้พวกเจ้าทำ”
……………………………………………………………….