Release That Witch ปล่อยแม่มดคนนั้นซะ - ตอนที่ 1365 ศูนย์ออกแบบแห่งใหม่
การเปลี่ยนแปลงในพื้นที่โรงงานไม่ได้มีเพียงเท่านี้
โรแลนด์สังเกตเห็นว่าบนถนนมีคนงานจำนวนไม่น้อยกำลังเปลี่ยนป้ายโฆษณาที่อยู่สองข้างทางออก ในไซต์ก่อสร้างที่ปกติจะมีเสียงก่อสร้างดังอยู่ตลอดเวลาเงียบสงบลง ราวกับว่าผู้คนในโครงการเมืองยานยนต์ขนาดใหญ่ได้ย้ายออกไปในชั่วพริบตาอย่างไรอย่างนั้น นอกกำแพงเตี้ยๆ ที่้ใช้สำหรับกั้นพื้นที่ก่อสร้างก็มีนั่งร้านตั้งขึ้นมา เหมือนว่าพวกเขามีความคิดว่าจะก่อกำแพงด้านนอกขึ้นมาใหม่
ที่น่าตกใจไปมากกว่านั้นก็คือเขายังเห็นตำรวจติดอาวุธจริงอยู่หลายนายด้วย แล้วก็มีการตั้งเส้นกั้นพื้นที่กับป้อมตำรวจขึ้นมา คนที่เข้าออกจำเป็นต้องผ่านการตรวจสอบตัวตนเสียก่อน รถยนต์ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปใกล้ตึกหลักเลยแม้แต่คันเดียว
หลังตรวจสอบเอกสารยืนยันตัวตนของเขากับการ์เซียเสร็จ ตำรวจก็ทำวันทยหัตถ์ จากนั้นจึงเปิดประตูให้ทั้งสองคน
“พระเจ้า…” การ์เซียพูดพึมพำขึ้นมา “นายไปขอให้สมาคมทำอะไรกันแน่เนี่ย?”
“บอกตามตรง ตอนนี้ฉันเองก็ไม่ได้รู้ไปมากกว่าเธอเลย” โรแลนด์ส่ายหัว “ฉันยังไม่ได้ไปขออะไรเลย”
ก่อนที่ทั้งสองคนจะเดินผ่านประตูหลักเข้าไปในตึก ฝีเท้าของการ์เซียพลันชะงักเล็กน้อย คิ้วของเธอขมวดขึ้นมา
คนที่ยืนต้อนรับพวกเขาอยู่ด้านนอกคือการ์โดซึ่งเป็นหนึ่งในประธานของกลุ่มทุนโคลฟเวอร์ แล้วก็เป็นพ่อของเธอ
“ผมรอคุณมานานแล้ว” อีกฝ่ายหันไปพยักหน้าให้ลูกสาวก่อน จากนั้นจึงยื่นมือไปทางโรแลนด์ “คุณโรแลนด์ ถึงแม้ในครั้งแรกที่ผมเจอคุณจะรู้ว่าคุณไม่ใช่คนธรรมดา แต่ผมก็คิดไม่ถึงเลยว่ามันจะมากกว่าที่ผมคิดเอาไว้ขนาดนี้ นับแต่นี้เป็นต้นไป โรงงานแห่งนี้เป็นของคุณแล้วครับ”
ถึงแม้การ์โดจะพูดแสดงความยินดี และน้ำเสียงของเขากลับไม่ได้มีความยินดีเท่าไรเลย สีหน้าของเขาดูสับสน ราวกับว่ารวบรวมความขัดแย้งต่างๆ เอาไว้ในตัว ถ้าบอกว่าตอนเจอหน้ากันครั้งแรกชายวัยกลางคนคนนี้มีท่าทีที่ดูถูกเขาอย่างชัดเจน พอครั้งที่สองก็แสดงทำเป็นให้ความร่วมมือเพราะความสัมพันธ์ของผู้คุม อย่างนั้นอารมณ์ที่แสดงออกมาในครั้งนี้คงจะเป็นอารมณ์ที่แท้จริงของเขาแล้วล่ะมั้ง
“เดิมโครงการเมืองยานยนต์พลังงานใหม่เป็นโครงการที่กลุ่มทุนโคลฟเวอร์ให้ความสำคัญอย่างมากไม่ใช่เหรอ? แล้วเอามายกให้คนอื่นแบบนี้มันจะดีจริงๆ เหรอ?” การ์เซียพูดเสียดสี “ทีก่อนหน้านี้ยังจะไล่ที่ตึกถึงจึโดยไม่สนใจความรู้สึกชาวบ้านอยู่เลย หนูนึกว่ากลุ่มทุนโคลฟเวอร์จะใจแข็งกว่านี้ซะอีก”
ที่น่าแปลกใจก็คือการ์โดไม่ได้แสดงสีหน้าโกรธแค้นแต่อย่างใด หากแต่ยิ้มแห้งๆ ขึ้นมาแทน “สมาคมผู้ฝึกยุทธ์เสนอเงื่อนไขที่ทางตระกูลไม่อาจปฏิเสธได้ออกมา ถึงแม้พ่อจะเป็นหนึ่งในประธานบริษัท แต่ก็ไม่สามารถหยุดการตัดสินใจนี้ได้ นอกจากนี้กลุ่มทุนโคลฟเวอร์ยังหยุดโครงการไล่ที่และปรับปรุงชุมชนถงจึแล้ว อีกเดี๋ยวจะมีการประกาศในงานต้อนรับ หลังจากนี้ลูกก็ไม่ต้องไปยืนโบกธงตะโกนเพื่อชาวบ้านพวกนั้นแล้วนะ”
การ์เซียตกตะลึง
“หยุด…ไล่ที่แล้ว?”
“อื้อ หยุดแล้ว” การ์โดค่อยๆ พูด “พ่อรู้ว่าถึงเรื่องนี้จะผ่านไปแล้ว ลูกก็คงไม่ให้อภัยพ่อ แต่อย่างน้อยพวกเราก็ไม่ใช่ ‘ศัตรู’ กันอีก ต่อไปถ้าลูกอยากจะมาเจอน้อง ก็มาที่บ้านได้ตลอดเลยนะ แน่นอน…” เขามองไปทางโรแลนด์ “พาเขามาด้วยก็ได้”
หลังพาทั้งสองคนที่มีสีหน้างุนงงเข้ามาส่งให้ห้องโถงแล้ว การ์โดก็โบกมือแล้วเดินออกจากตึกไป
ยังไม่ทันที่ทั้งสองคนจะได้สติกลับมา เลขาที่มีหน้าที่ต้อนรับก็พาพวกเขาเข้าไปในห้องประชุมหลัก
ภายในห้องขนาดเกือบร้อยตารางเมตรมีคนนั่งล้อมโต๊ะอยู่ 40 – 50 คน แทบจะทุกคนสวมชุดสูท ดูแล้วไม่เหมือนการประชุมที่จัดขึ้นในไซต์ก่อสร้างเลย ตรงหัวโต๊ะมีเก้าอี้วางอยู่ 4 ตัว นอกจากผู้คุมร็อคแล้วก็ยังมีคนนั่งอยู่อีก 2 คน คนหนึ่งเป็นชายอายุ 40 – 50 ปี ใบหน้าดูเต็มไปด้วยความสามารถและประสบการณ์ ส่วนอีกคนหนึ่งถึงแม้จะมีผมขาวแล้ว แต่สายตากลับยังเต็มไปด้วยชีวิตชีวา
ส่วนเก้าอี้อีกตัวหนึ่งนั้นเห็นได้ชัดว่าเหลือเอาไว้ให้เขา
ในเวลานี้การ์เซียเหมือนตื่นขึ้นมาจากความงุนงง เธอดันหลังของโรแลนด์เบาๆ
โรแลนด์พยักหน้า จากนั้นจึงก้าวเข้าไปนั่งลงข้างๆ ผู้คุมร็อค
หลังจากมีประสบการณ์ได้เป็นราชาของอาณาจักรมา เขาย่อมไม่รู้สึกกลัวต่อสถานการณ์แบบนี้ ภายในใจเขากลับรู้สึกแปลกใจขึ้นมา — เพราะเมื่อดูจากสถานการณ์ในตอนนี้แล้ว เห็นได้ชัดว่าทางสมาคมกำลังสร้างเซอร์ไพรส์ให้เขา
แต่ว่าหลังจากที่เลขาของผู้คุมกล่าวเปิดการประชุมและแนะนำผู้เข้าร่วมประชุมทีละคนแล้ว โรแลนด์ก็รู้สึกตกใจจนพูดอะไรไม่ออกไปทันที ถึงแม้จะรู้ว่าสมาคมผู้ฝึกยุทธ์มีประวัติมายาวนาน แล้วก็มีอิทธิพลอย่างมากต่อรัฐบาล แต่ ‘เซอร์ไพรส์’ ที่ว่านี้ก็ยังเหนือกว่าที่เขาคิดเอาไว้มาก
ตั้งแต่โลหะวิทยาไปจนถึงวัสดุศาสตร์ ตั้งแต่การออกแบบเครื่องจักรไปจนถึงการควบคุมอัตโนมัติ คนที่นั่งอยู่ในห้องประชุมแห่งนี้แทบจะเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีอำนาจในสาขานั้นๆ ในนั้นมีทั้งศาสตราจารย์จากสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ แล้วก็มีผู้นำทางเทคโนโลยีจากบริษัทเอกชน แต่ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นก็คือทั้ง 40 – 50 คนนี้เป็นแค่ตัวแทนเท่านั้น เบื้องหลังของพวกเขายังมีทีมขนาดใหญ่อยู่อีก เรียกได้ว่าครอบคลุมตั้งแต่กระบวนการวิจัยพัฒนาไปจนถึงการผลิตเลย
ส่วนอีกสองคนที่นั่งอยู่ทางด้านขวาของเขาคือผู้อำนวยการอู๋และหัวหน้าหลิว โดยผู้อำนวยการอู๋จะรับผิดชอบในด้านเทคโนโลยี คอยวางแผนเรื่องการวิจัยแต่ละโครงการ ส่วนหัวหน้าหลิวซึ่งเป็นผู้จัดการฝ่ายธุรการจะเป็นคนรับผิดชอบเรื่องคนและทรัพยากร จากจุดนี้จะเป็นได้ถึงความเป็นมืออาชีพของทั้งระบบ ซึ่งนี้ไม่ใช่สิ่งที่ศูนย์ออกแบบเกรย์คาสเซิลเล็กๆ ก่อนหน้านี้จะเทียบได้เลย
และก็เป็นเพราะเหตุนี้ สมาคมถึงได้ขอที่ดินผืนนี้มา เพราะถ้าไม่มีที่ดินที่ใหญ่พอ พวกเขาก็จะไม่สามารถทำการวิจัยหลายๆ โครงการพร้อมกันได้
นอกจากนี้พวกเขาทั้งสองคนยังเป็นตัวแทนของรัฐบาล แล้วก็เป็นคนส่วนน้อยในห้องนี้ที่รู้ข้อมูลเชิงลึก
โปรเจคนี้ถูกตั้งชื่อว่า ‘หนี่วา[1]โปรเจค’ ซึ่งการใช้ตำนานหนี่วาซ่อมฟ้ามาเปรียบเปรยกับการต่อสู้กับการกัดกินนั้นถือว่าเหมาะสมอย่างมาก แต่ว่าเรื่องนี้มีเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลเพียงแค่ไม่กี่คนที่รู้ข้อมูลการมีอยู่ของอีกโลกหนึ่ง ด้วยเหตุนี้บนเอกสารการประชุมจึงเขียนอธิบายลงไปว่าโปรคเจคนี้เป็นการ ‘ซักซ้อมเพื่อการกลับมา’ โดยเป็นการสมมติว่าสุดท้ายอารยธรรมของมนุษย์ถูกการกัดกินทำลายลง ผู้ที่มีชีวิตรอดได้ใช้ประโยชน์จากทรัพยากรที่หลงเหลืออยู่ในการสร้างอารยธรรมขึ้นมาใหม่
โดยมีปูมหลังที่สำคัญของเรื่องนี้คือภายใต้ผลกระทบของการกัดกิน ผู้ตื่นรู้บางส่วนได้วิวัฒนาการความสามารถพิเศษที่แตกต่างไปจากพลังแห่งธรรมชาติที่มีอยู่ในตอนนี้อย่างสิ้นเชิง ด้วยเหตุนี้โครงการวิจัยต่างๆ จึงได้คำโดยคำนึงถึงปัจจัยในจุดนี้ ส่วนรายละเอียดของความสามารถพิเศษที่ว่าจะมีหน้าตาเป็นอย่างไร ก็จะให้ทางโรแลนด์ซึ่งเป็นประธานนักไล่ล่าของทางสมาคมเป็นคนกำหนด
เมื่ออ่านถึงตรงนี้โรแลนด์ก็เกือบจะสำลักชาที่กินเข้าไป
พูดอีกอย่างก็คือเนื้อหาหลักของการประชุมครั้งนี้คือฟังเขาพูดเรื่องความสามารถและถกเรื่องวิธีใช้งานของมัน ต่อให้มันเป็นสิ่งที่เขาแต่งขึ้นมา ทุกคนก็ต้องคิดอย่างจริงจังว่าพลังอันนี้มันจะสร้างผลกระทบต่อการสร้างอารยธรรมขึ้นมาใหม่อย่างไรบ้าง
แล้วก็ต้องขอบคุณที่ทางสมาคมผู้ฝึกยุทธ์จัดการประชุมแบบนี้ขึ้นมา ถ้าให้ตัวเขาไปเที่ยวประกาศเรื่องนี้เอง เกรงว่าพวกนักวิชาการคงจะเดินออกจากห้องประชุมไปทันทีแน่
“ไม่ทราบว่าคุณโรแลนด์พอใจแผนการนี้หรือเปล่าครับ?” ร็อคหันมามองเขายิ้มๆ “ก่อนหน้านี้ตอนที่คุณมาขอร้องผม คุณเคยบอกว่ามันสำคัญต่อโลกนี้อย่างมาก ตอนนั้นผมยังนึกว่ามันเป็นแค่การพูดให้ดูเกินจริง แต่ตอนนี้ผมเข้าใจความหมายที่แท้จริงของคำพูดคุณในตอนนั้นแล้ว เมื่อคิดถึงว่ารูปแบบการแสดงออกมาของพลังเวทมนตร์ของทั้งสองโลกนั้นไม่เหมือนกัน แบบนี้ไม่ว่าคำขอร้องของคุณมันจะฟังดูแปลกแค่ไหน พวกเขาก็ไม่มีทางว่าอะไรได้แล้วล่ะครับ”
โรแลนด์เลิกคิ้ว “คุณเชื่อ…ที่ผมบอกเหรอครับ?”
“บอกตามตรง ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน” เขาหันกลับไป “แต่ขอเพียงพวกเขาสามารถร่วมมือกันเอาชนะการกัดกินได้ ต่อไปยังไงก็ต้องมีโอกาสได้พิสูจน์มันแน่นอนใช่ไหมล่ะครับ? และศูนย์ออกแบบแห่งใหม่แห่งนี้ก็เป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น
…………………………………………………….
[1] หนี่วา คือเทพเจ้าองค์หนึ่งของจีน