Release That Witch ปล่อยแม่มดคนนั้นซะ - ตอนที่ 1474 ตัวแทน
“นาน่าว่ายังไงบ้าง?”
ไนติงเกลเดินเข้ามาในห้องนอน ก่อนจะถามอันนาที่เฝ้าอยู่ข้างเตียง
“ตรวจดูแล้วไม่พบความผิดปกติอะไร…ทั้งการหายใจ การเต้นของหัวใจ อุณหภูมิร่างกายล้วนแต่เป็นปกติ เหมือนกับหลับไปอย่างไรอย่างนั้น เพียงแต่…”
เพียงแต่ปลุกยังไงก็ไม่ตื่น
ไนติงเกลรู้ว่าเธอหมายความว่าอย่างไร เมื่อคืนไม่มีใครที่จะคิดถึงว่างานเลี้ยงที่เฉลิมเฉลิงชัยชนะจะกลายเป็นแบบนี้ ตอนนั้นสิ่งที่อันนาทำคือให้องครักษ์และแม่มดอาญาสิทธิ์ปิดล็อคพื้นที่นี้ จากนั้นจึงเรียกคนอื่นๆ อย่างทิลลี เวนดี้และขวานเหล็กเข้ามา ถึงจะเจอกับเหตุการณ์ที่น่าตกใจเช่นนี้ แต่ก็ยังทำการตัดสินใจออกมาโดยไม่ลนลาน คงจะมีเธอคนเดียวเท่านั้นที่ทำได้
เสียดายที่วิธีการเหล่านี้ไม่สามารถปลุกโรแลนด์ขึ้นมาได้
“ซีกัลเพิ่งจะขึ้นอีก จุดหมายปลายทางคือเมืองกลอรีของอาณาจักรดอว์น” ไนติงเกลเปลี่ยนประเด็น “ถ้าหากไลต์นิ่งส่งข่าวได้ทันเวลา ประมาณสามวันก็น่าจะพาไนท์ฟอลมาที่เกาะลอยฟ้าได้
“อื้อ น่าจะทันอยู่” อันนาพยักหน้า
โรแลนด์ไม่ได้มีร่างกายเหมือนนักรบอาญาสิทธิ์ เมื่อต้องอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สามารถกินอาหารได้ เขาก็จำเป็นต้องใช้เมล็ดพันธุ์แห่งการอยู่ร่วมกันของไนท์ฟอลในการดำรงชีวิต การที่เลือกจุดรับส่งอยู่ที่เมืองกลอรีก็เพื่อที่จะประหยัดเวลา — ถ้าไลต์นิ่งกับเมซี่ออกเดินทางไปด้วยกันก็จะเร็วกว่าซีกัล นี่ทำให้เมืองเนเวอร์วินเทอร์มีเวลาพอที่จะเรียกไนท์ฟอลมาแล้วพาเธอไปส่งยังอาณาจักรดอว์น
และเจ้าของความคิดนี้ก็คืออันนา
แต่ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีอยู่ นั่นคือพวกเธอไม่ใช่เพิ่งจะเจอกับเหตุการณ์แบบนี้เป็นครั้งแรก ก่อนหน้านี้หลังจากที่สู้กับซีโร่ โรแลนด์ก็เคยสลบไปแบบนี้เป็นเวลานานเหมือนกัน สภาพของเขาในตอนนั้นเหมือนกับตอนนี้ไม่มีผิด
การสลบไปครั้งนั้นทำให้เขาสามารถเชื่อมต่อเข้ากับโลกแห่งจิตสำนึกและสร้างโลกแห่งความฝันอันยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้ และครั้งนี้เกรงว่าคงจะเกี่ยวข้องกับแห่งกำเนิดพลังเวทมนตร์ที่เล่าสืบต่อกันมาเหมือนกัน
“หลังจากนี้พวกเราจะทำยังไง?” ไนติงเกลอดถามขึ้นมาไม่ได้
ตอนนี้คนที่รู้เรื่องนี้มีแค่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของแต่ละหน่วยบนเกาะลอยฟ้าเท่านั้น ถ้ากลับไปเมืองเนเวอร์วินเทอร์ในตอนนี้ เกรงว่าคงจะปิดเรื่องนี้ต่อไปไม่ได้แน่ ทันทีที่ข่าวแพร่กระจายออกไป ก็คงต้องใช้เวลานานไม่น้อยกว่าจะควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้ นี่ไม่เพียงแต่จะทำให้แผนการที่วางเอาไว้ต้องล่าช้าออกไป แต่มันยังจะเป็นการเพิ่มตัวแปรใหม่ให้กับทางปีศาจและอาณาจักรซีสกายด้วย
แต่การมุ่งหน้าไปยังบอทธ่อมเลสแลนด์ตามแผนนั้นก็มีความเสี่ยงอย่างมาก เพราะคนที่เชื่อมต่อกับโลกแห่งจิตสำนึกได้มีแค่โรแลนด์เพียงคนเดียวเท่านั้น ถ้าเกิดความไม่ตื่นขึ้นมา สถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกก็จะยิ่งเลวร้ายขึ้น
นอกจากอันนาแล้ว เธอก็ไม่รู้ว่ายังมีใครที่สามารถตัดสินใจแบบนี้ได้
อันนาจ้องมองโรแลนด์ที่นอนอยู่บนเตียง เหมือนกับลืมทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบตัวไป หลังจากนั้นครู่ใหญ่ เธอจึงค่อยๆ พูดขึ้นมา
“เดินหน้าตามแผนที่วางเอาไว้”
ถึงแม้เสียงจะเบา แต่มันกลับไม่มีความลังเลแม้แต่น้อย
“ถ้าเป็นโรแลนด์ล่ะก็…เขาก็ต้องพูดแบบนี้เหมือนกัน ผู้คนจำนวนมากต้องสละชีวิตตัวเองกว่าจะทำให้เร็วมีโอกาสอันนี้ ถึงแม้จะยังไม่รู้ว่าหนทางข้างหน้าเป็นอย่างไรมันก็ต้องลองดู ถ้าหากถอยหลังกลับตอนนี้ โรแลนด์ก็ไม่แน่ว่าจะตื่นขึ้นมา แต่อาณาจักรซีสกายที่บุกเข้าไปโจมตีแบล็คสโตนแล้วคงจะไม่รอพวกเราอยู่กับที่แน่นอน — ในสถานการณ์ที่เขาสลบอยู่แบบนี้ พวกเราคงไม่สามารถเปิดศึกใหม่ได้”
สมแล้วที่เป็นอันนา…ไนติงเกลแอบคิดในใจ ความจริงแล้วเธอเองก็เห็นด้วยที่จะเดินทางไปยังบอทธ่อมเลสแลนด์ ในเมื่อการสลบของโรแลนด์มีความเป็นไปได้สูงว่าจะเกี่ยวข้องกับโลกแห่งจิตสำนึก อย่างนั้นเมื่อเปรียบเทียบระหว่างแหล่งกำเนิดพลังเวทมนตร์กับเมืองเนเวอร์วินเทอร์แล้ว เห็นได้ชัดว่าแหล่งกำเนิดพลังเวทมนตร์นั้นมีโอกาสที่จะแก้ไขปัญหาได้มากกว่า แต่เหตุผลมันก็ส่วนเหตุผล การตัดสินใจคือการเอาความรับผิดชอบมาแบกไว้บนบ่า ถึงแม้คนอื่นๆ จะรู้ถึงจุดนี้ แต่พวกเขาก็อาจจะเลือกวิธีที่มันปลอดภัยมากกว่า แทนที่จะเดินหน้าต่อไป
ยิ่งไปกว่านั้นอีกฝ่ายไม่มีแม้กระทั่งความสับสนและความลังเล
ในตอนที่เธอเตรียมจะพูดอะไร ทิลลีพลันผลักประตูเดินเข้ามาในห้อง
สีหน้าอีกฝ่ายดูคร่ำเคร่งอย่างมาก “เฮคซอดมาแล้ว”
….
ชั้นล่างของเกาะลอยฟ้า ภายในพื้นที่ใจกลางของเสาหินอาญาสิทธิ์
“คิดไม่ถึงว่าจะมีวันที่ข้าต้องมาเติมละอองชีวิตในดินแดนของมนุษย์” สกายลอร์ดเอาถังเก็บหมอกแดงที่บรรจุหมอกแดงจนเต็มใส่เข้าไปในร่างกาย ก่อนจะสูดหายใจลึก “รสชาติไม่เลวทีเดียว”
‘ข้าเองก็คิดไม่ถึงว่าตัวเองจะปล่อยให้ปีศาจสองตัวมายืนอยู่ตรงหน้าตัวเองได้’ เอเลนอร์จ้องมองดูทั้งสองด้วยสายตาเยือกเย็น ‘พอคิดถึงว่ามีโอกาสที่แก้แค้นให้กับสมาพันธ์หลังผ่านมาเป็นเวลาหลายร้อยปี ข้าก็แทบอยากจะพุ่งเข้าไปตอนนี้เลย’
“อันดับแรก ส่วนใหญ่แล้วพวกเราจะอยู่ในแบล็คสโตน ไม่ได้เข้าร่วมศึกบนที่ราบลุ่มบริบูรณ์เลย อันดับต่อมา การทำแบบนี้ไม่ส่งผลดีต่อทั้งเจ้า สมาพันธ์และมนุษย์เลย ดังนั้นเจ้าไม่ควรจะเอาความโกรธมาลงที่เรา” เฮคซอดผายมือ
ไซเลนท์ดิสแอสเตอร์กวาดตามองมัน “ถ้าเจ้าหุบปากล่ะก็ นางก็คงไม่รู้สึกอยากจะพุ่งเข้ามาหรอก”
‘บรรจุเสร็จแล้วก็ออกไปซะ คนที่พวกเจ้ามาหามาถึงแล้ว’
หลังเดินออกมาจากบ่อละอองชีวิตแล้วเดินเข้ามาในถ้ำที่กว้างขวางแห่งหนึ่ง เฮคซอดพลันขมวดคิ้วขึ้นมา
มันมองเห็นคนหลายคน มีทั้งแม่มด ร่างต้นแบบ แล้วก็ทหารมนุษย์ที่สวมชุดเครื่องแบบ แต่กลับไม่มีโรแลนด์ที่เป็นราชาแห่งเกรย์คาสเซิล
“นี่มันหมายความว่ายังไง?” มันถามเสียงต่ำ
ในขณะที่พระผู้สร้างเพิ่งจะพังทลายและมนุษย์ได้รับชัยชนะอันยิ่งใหญ่ คำพูดที่เต็มไปด้วยความสงสัยนี้ทำให้บรรยากาศในที่ตรงนี้ตรึงเครียดขึ้นมาทันที
“ข้าคืออันนา เป็นภรรยาของโรแลนด์ ราชินีของเกรย์คาสเซิล” อันนาก้าวออกมาจากกลุ่มคนแล้วค่อยๆ เดินเข้าไปหาเฮคซอด — ส่วนสูงของทั้งสองต่างกันเกือบเท่าหนึ่ง ในตอนที่ยืนประจันหน้ากันนั้นยิ่งเห็นได้ชัด “ตอนนี้มีเรื่องที่ไม่คาดคิดกับฝ่าบาทโรแลนด์ พระองค์จึงไม่สามารถออกมาพบเจ้าได้”
จากนั้นเธอก็เล่าเรื่องที่โรแลนด์สลบไปและเรื่องความสัมพันธ์กับโลกแห่งความฝันออกมา
ตอนแรกเฮคซอดทำหน้าตกใจออกมาก่อน หลังจากนั้นสีหน้าก็ยิ่งดูแย่ขึ้นมา
“อย่างนั้นก็หมายความว่าคนที่ตกลงกับเผ่าพันธุ์ข้าไม่อยู่แล้ว?”
“อันดับแรกข้าต้องขอแก้ไขคำพูดของเจ้าก่อน” อันนี้พูดเสียงดังขึ้น “ฝ่าบาทโรแลนด์เพียงแค่สลบไปเท่านั้น พระองค์ไม่ได้รับอันตรายใดๆ ทั้งสิ้น นอกจากนี้พวกเราต่างก็รู้ดีว่าข้อตกลงที่ว่ามันคืออะไร ต่อให้พระองค์ไม่ตื่นขึ้นมา ข้าก็จะทำตามที่ตกลงเอาไว้แทนพระองค์เอง!”
“เจ้ามนุษย์ เจ้ารู้ไหมว่าตัวเองกำลังพูดอะไรอยู่?” สกายลอร์ดโมโหจนหัวเราะออกมา “นั่นมันเป็นเรื่องที่มีแต่ผู้ที่ถูกเทวทูตเลือกเท่านั้นถึงจะทำได้ เจ้าแม้แต่โลกแห่งจิตสำนึกก็ยังเข้าไปไม่ได้ แต่กลับจะมาแทนที่เขาอย่างนั้นเหรอ? บ้าเอ้ย…วัลคีรีย์มันคิดผิดสินะ ถ้ามีเป็นการโจมตีกลับจากพระเจ้าล่ะก็ อย่างนั้นทุกอย่างก็คงจบสิ้นแล้ว”
“ไม่ เจ้าผิดแล้ว” อันนาพูดตัดบท “ข้าไม่จำเป็นต้องเข้าไปในโลกแห่งจิตสำนึก เพราะว่าตอนนี้ฝ่าบาทโรแลนด์อยู่ในโลกแห่งความฝันแล้ว ไม่ว่ายังไงเข้าก็จะมุ่งหน้าไปยังที่หมาย ส่วนเรื่องที่ข้าจะทำแทนเขานั้นเป็นอีกส่วนหนึ่ง” เธอชะงักไปเล็กน้อย “ข้าจะให้เกาะลอยฟ้ามุ่งหน้าไปยังบอทธ่อมเลสแลนด์ต่อ ขณะเดียวกันก็จะเกณฑ์กองหนุนมาจากทางเกรย์คาสเซิลด้วย เพื่อให้มั่นใจว่าแผนการนี้จะดำเนินไปอย่างราบรื่น แน่นอนว่าเรื่องนี้มันต้องอาศัยการช่วยเหลือจากเจ้าด้วย”
“ล้อข้าเล่นหรือเปล่าเนี่ย”
“ข้าไม่ได้ล้อเล่น และนี่็ก็เป็นวิธีเดียวที่จะรับมือก่อนวิกฤตจะมาถึง” เธอพูดอย่างหนักแน่น “ความร่วมมือจะไม่หยุด แล้วก็จะไม่สูญเปล่าด้วย เมื่อมองจากอีกมุมหนึ่ง ตอนนี้โณแลนด์ได้เดินทางไปยังบอทธ่อมเลสแลนด์ล่วงหน้าแล้ว สิ่งที่พวกเราต้องทำก็คือไล่ตามไป ไม่อย่างนั้นก็ไม่สามารถหลุดพ้นจากสงครามแห่งโชคชะตา แล้วทำให้เผ่าพันธุ์อยู่รอดต่อไปได้!”
“หึ พูดซะฟังดูดี” เฮคซอดยิ้มเยือกเย็นออกมา “การปกครองอาณาจักรๆ หนึ่งนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ข้าเข้าใจดีกว่าราชาแห่งเกรย์คาสเซิลมีความหมายต่อมนุษย์อย่างพวกเจ้าอย่างไร แล้วก็รู้ดีถึงความเย้ายวนของอำนาจที่มีต่อมนุษย์ ตอนนี้เขาไม่อยู่ เจ้าคิดว่าอาศัยเจ้าเพียงคนเดียวจะสามารถควบคุมทั้งหมดนี้ได้เหรอ?” มันมองไปทางคนที่อยู่ด้านหลังอันนา “ให้เด็กหญิงอายุ 20 กว่าปีมาเป็นตัวแทนผู้ปกครองของเกรย์คาสเซิล…หรือว่าพวกเจ้าไม่มีตัวเลือกอื่นที่ดีกว่านี้แล้ว? หรือว่าพวกเจ้าไร้เดียงสาจนถึงขนาดที่คิดว่าเธอเพียงคนเดียวจะสามารถ…”
ตอนที่พูดไปได้ครึ่งหนึ่ง เสียงของสกายลอร์ดก็ค่อยๆ เบาลง
มันมองเห็นสายตาของทุกคนจ้องมาที่ตัวเอง ถึงแม้จะไม่มีใครตอบคำถามของมัน แต่บางครั้งการเงียบมันก็เป็นคำตอบอย่างหนึ่ง
เด็กผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าสามารถเป็นตัวแทนมนุษย์ได้
……………………………………………………..