Release That Witch ปล่อยแม่มดคนนั้นซะ - ตอนที่ 1481 ขึ้นพลขึ้นเกาะ เปิดศึกได้!
วันที่ห้าหลังสงครามเริ่มต้นขึ้น เวลา 9.20 น.
จู่ๆ รอบๆ เกาะลอยฟ้าก็มีหมอกหนาปรากฏขึ้นมา ท้องฟ้าที่เดิมสว่างสดใสพลันมืดครึ้มลง ระยะที่มองเห็นลดลงเหลือเพียงประมาณไม่กี่สิบเมตร
มาแล้ว!
ทุกคนที่อยู่ในฐานบัญชาการต่างรู้ว่าพวกเขากำลังจะข้าม ‘ชายขอบภาพลวงตา’ ที่เฮคซอดบอกแล้ว ถึงแม้นี่จะเป็นวันที่สามหลังปฏิบัติการเริ่มต้นขึ้น แต่การต่อสู้ที่แท้จริงนั้นเพิ่งจะมาถึงในตอนนี้!
ภายในห้องขนาดใหญ่ไร้ซึ่งซุ่มเสียง สายตาทุกคนต่างจับจ้องไปบน ‘ภาพลำแสง’ ด้วยร่างกายที่หดเกร็ง — แม้แต่ดวงตาแห่งเวทมนตร์ของซิลเวียก็ยังไม่สามารถมองทะลุผ่านพลังนี้ได้ นี่หมายความว่าข้างหน้านั้นเป็นสถานที่ที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อน ไม่ว่าผลสุดท้ายของชะตาชีวิตจะเป็นอย่างไร พวกเขาก็ต้องรอจนถึงวินาทีสุดท้ายถึงจะรู้ได้
สำหรับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทัพที่หนึ่งที่เคยชินกับการเตรียมพร้อมล่วงหน้าด้วยข้อมูลที่ครบถ้วนแล้ว ความรู้สึกที่ไม่สบายใจแบบนี้พวกเขาไม่ได้เจอมาเป็นเวลานานแล้ว
ทันใดนั้นเอง เสียงร้องของนกกาเสียงหนึ่งพลันดังมาเข้าหูของทุกคน
เฟร์รานและคนอื่นๆ ต่างสบตากัน
ที่นี่คือทะเล ทำไมถึงมีอีกาได้?
回声,还是他们遇上了一支庞大的鸦群。
แต่พวกเขาไม่ได้หูฝาด ไม่นานก็มีเสียงร้องที่มากขึ้นดังขึ้นมา — พวกมันดังทับซ้อนกันจนแยกไม่ออกว่านั่นเป็นเสียงสะท้อนหรือว่าพวกเขาเจอกับฝูงกาขนาดใหญ่กันแน่
หลังจากนั้นไม่กี่นาที เสียงร้องเหล่านี้ก็ดังต่อเนื่องจนแยกแยะไม่ออก ขณะเดียวกันก็ดังขึ้นเรื่อยๆ
จู่ๆ เจ้าหน้าที่จองทีมที่ปรึกษาคนนั้นพลันหน้าเปลี่ยนสี “นี่มัน…เสียงร้องของปีศาจทะเล!”
“ปีศาจทะเล?” มีคนถาม “เจ้าสิ่งมีชีวิตในตำนานนั้นน่ะเหรอ?”
“ไม่ มันไม่ใช่ตำนาน! ข้าเคยทำงานอยู่ที่ท่าเรือเรฟเวลรี่ เวลาที่พวกลูกเรือที่นั่นพูดถึงปีศาจทะเล พวกเขาจะเรียกมันว่าอีกา!”
“เหอะ มีอะไรน่าตกใจ” เฮคซอดเอามือขึ้นมากอดอก “นี่เป็นแค่สมุนชั้นต่ำของอาณาจักรซีสกายเท่านั้น ข้อดีเพียงหนึ่งเดียวของพวกมันก็คือมีจำนวนเยอะ เหมาะที่จะเอามาใช้เพิ่มกำลังบนสนามรบอย่างมาก อีกเดี๋ยวพวกเจ้าก็จะได้เห็นเองว่าที่ผ่านมาเผ่าพันธุ์ของข้าสู้กับศัตรูแบบไหนอยู่—”
ในขณะที่เฮคซอดกำลังพูด ความหนาของหมอกก็ลดลงล ลานบินที่อยู่บนเกาะลอยฟ้าค่อยๆ ปรากฏขึ้นมาสู่สายตา จากนั้นก็เป็นท้องฟ้าและทะเลที่อยู่ไกลออกไป — บนท้องฟ้ายังคงมืดครื้ม แต่อย่างนั้นก็กลับสู่สภาพปกติแล้ว ทว่าภาพบนท้องทะเลพลันเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม
ทุกคนที่มองดู ‘จอภาพลำแสง’ พลันรู้สึกเย็นวาบขึ้นมาพร้อมๆ กัน
นั่นคือภาพที่ทุกคนไม่มีวันลืมอย่างแน่นอน
ปีศาจทะเลจำนวนนับไม่ถ้วนโผล่หัวขึ้นมาจากผิวน้ำแล้วอ้าปากคำรามใส่เกาะลอยฟ้า เหมือนกับว่าบนทะเลมีรูเล็กๆ จำนวนนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นมา เพียงแค่กวาดตามองก็ทำเอาขนหัวลุกได้แล้ว ส่วนร่างกายที่ลอยอยู่ใต้น้ำของพวกมันก็ทำให้น้ำทะเลลายเป็นสีดำแปลกๆ ถ้าจะนิยามให้ได้ มันก็เหมือนกับแอ่งน้ำที่มีลูกอ๊อดฟักออกมาเป็นจำนวนมาก เพียงแต่การที่มีลูกอ๊อดอยู่เต็มแอ่งน้ำนั้นไม่ใช่เรื่องแปลก แต่การที่ย่อมทะเลจนกลายเป็นสีดำได้นั้นนับว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยากอย่างมาก
ส่วนบอทธ่อมเลสแลนด์ในตำนานเองก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเกาะลอยฟ้า ขนาดของมันพอๆ กับเกาะสลีปปิ้ง ด้านบนไม่มีร่องรอยของแหล่งน้ำจืด แต่กลับมีต้นไม้ขึ้นจนเขียวชอุ่ม ไม่เหมือนกับเกาะที่ถูกทิ้งร้างอยู่บนทะเลเลย
ไม่นานในฝูงปีศาจทะเลที่ดำทะมึนก็มีรังแม่ปรากฏขึ้นมา พวกมันเปิดกระดูกที่อยู่ด้านหลังออก ก่อนจะพากันพ่นของเหลวสีเขียวขึ้นมาบนฟ้า! ทันใดนั้นเอง ด้านล่างของเกาะลอยฟ้าเหมือนมีฝนพิษตกลงมา — หากทัพหน้าของมนุษย์ที่เข้ามาเปิดทางไม่ใช่ ‘ภูเขาเหมืองทิศเหนือ’ แต่เป็นกองทัพเรือธรรมดาล่ะก็ ไม่ต้องบอกก็คงจะรู้ว่าจุดจบของพวกเขาจะเป็นอย่างไร
‘ทั้งหมด 1,524 ตัว’ เสียงของเอเลนอร์ดังขึ้นมาในหัวของทุกคน
“ท่านหมายถึง…” ขวานเหล็กถามอย่างตกใจ
‘จำนวนของรังแม่ที่พ่นกรดขึ้นมา’ เธอใช้น้ำเสียงที่ฟังดูขี้เกียจเหมือนอย่างทุกทีตอบออกมา ‘มันก็ไม่ได้เยอะกว่าจำนวนกระสุนปืนใหญ่ไม่ใช่เหรอ’
พอพูดตบ ด้านล่างของเกาะลอยฟ้าพลันมีเสียงดังสนั่นขึ้นมา!
คนที่เปิดฉากโจมตีก่อนก็คือเอเลนอร์
กระสุนปืนใหญ่ป้อม 152 มม.ถูกยิงออกไป มันลอยออกไปเกือบพันเมตร ก่อนจะพุ่งทะลุเข้าไปในตัวรังแม่ตัวหนึ่งอย่างแม่นยำ — กระสุนปืนใหญ่ระเบิดออกหลังทะลุทะลวงเครื่องในแล้วฉีกร่างของมันออกเป็นสองส่วน! พวกนั้นถูกระเบิดไปพร้อมๆ กันยังมีปีศาจทะเลที่อยู่ข้างกายมัน เศษกระสุนปืนใหญ่ที่กระเด็นลอยออกไปทำให้สะเก็ดน้ำแตกกระจายขึ้นมา เพียงแค่ครั้งนี้น้ำทะเลไม่ใช่สีดำอีก หากแต่เป็นเลือดสีน้ำเงินเข้ม
ในช่วงเวลาครึ่งเดือนที่ผ่านมานี้ กองวิศวกรรมได้ทำการติดตั้งปืนใหญ่เพิ่มที่ด้านล่างของเกาะลอยฟ้า ตั้งแต่ปืนใหญ่อัตโนมัติ 20 มม.ไปจนถึงปืนใหญ่ป้อมที่มีลำกล้องขนาดใหญ่ อะไรที่ควรมีก็มีหมด — เพราะว่าการโจมตีหลักๆ ของอาณาจักรซีสกายมาจากบนทะเล เมื่อไม่มีการโจมตีจากบนฟ้า กองทัพที่หนึ่งย่อมต้องเลือกที่จะเสริมความแข็งแกร่งให้กับการโจมตีด้านล่าง
ในเวลานี้เกาะลอยฟ้าได้กลายเป็นยานพิฆาตทางอากาศ แถมยังเป็นยานพิฆาตที่มีระบบควบคุมการยิงด้วย
ภายใต้การควบคุมของเอเลนอร์ ปืนใหญ่อัตโนมัติจำนวนมากได้กระหน่ำยิงออกไป ด้านล่างเกาะลอยฟ้ากลายเป็นดินแดนแห่งความตายที่ถักทอขึ้นจากเหล็กกล้าและก้อนเนื้อ
เสียงปืนใหญ่และเสียงปืนกลดังสลับกันจนกลบเสียงร้องของปีศาจทะเล
ถึงแม้ท่าทางของเฮคซอดจะยังไม่เปลี่ยนแปลง แต่สีหน้าของมันกลับมีความซับซ้อนขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว — มันเองก็รู้แล้วว่าในตอนที่การสืบทอดของแต่ละเผ่าพันธุ์มารวมเข้าด้วยกันมันจะก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่น่าตกตะลึงแค่ไหน
“ให้อัศวินอากาศเตรียมตัวออกรบได้” ทิลลีหยิบไมโครโฟนขึ้นมาพูด
ตามแผนการที่วางไว้ ปฏิบัติการครั้งนี้อัศวินอากาศจะไม่ใช่หน่วยโจมตีหลัก พวกเขาจะแบ่งกลุ่มออกเป็นกลุ่มหลายสิบกลุ่ม แล้วก็บินวนอยู่บนท้องฟ้าเหนือบอทธ่อมเลสแลนด์เพื่อตัดการสนับสนุน โจมตีกองกำลังหลักของศัตรู แล้ช่วยลดภาระของกองกำลังภาคพื้นดิน ในเมื่อจุดอ่อนที่สำคัญอาณาจักรซีสกายคือการต่อสู้บนอากาศ อย่างนั้นพวกเขาก็จำเป็นต้องใช้ประโยชน์จากจุดนี้ให้ได้มากที่สุด
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เครื่องบินปีกสองสั้นที่เติมน้ำมันจนเต็มก็เคลื่อนตัวออกไปจากโรงเก็บเครื่องบิน ก่อนจะบินขึ้นไปบนน่านฟ้า
เมื่อถึงตอน 10.40 น. ยานรบเอเลนอร์ได้เคลื่อนตัวเข้าสู่พื้นที่เกาะบนทะเล ในเวลานี้สัตว์ประหลาดที่ถูกเกาะขนาดมหึมาดึงดูดความสนใจเอาไว้มีจำนวนนับไม่ถ้วน พวกมันเหยียบย้ำซากศพของพวกตัวเองแห่กันเข้ามาหาเกาะลอยฟ้าโดยไม่ได้สนใจเลยว่าพวกมันไม่สามารถทำอะไรเกาะลอยฟ้าได้เลย
แน่นอน นี่เป็นเพราะเอเลนอร์จงใจลดระดับความสูงของเกาะลอยฟ้าลงเพื่อล่อให้ศัตรูพยายามปีนขึ้นมาบนเกาะด้วย เพียงแต่การจะฝ่าตาข่ายกระสุนปืนกลเข้ามานั้นไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ง่ายๆ
เมื่อเทียบกับด้านตะวันตกที่กำลังเดือดพล่ายแล้ว พื้นที่อื่นๆ บนเกาะพลันดูเงียบสงบลงอย่างมาก เห็นได้ชัดว่าป้อมปราการลอยฟ้าที่จู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นมาได้ดึงดูดความสนใจของศัตรูส่วนใหญ่เอาไว้
“เริ่มได้” อันนาหันไปพูดกับเฮคซอด
อีกฝ่ายดีดน้ำ ก่อนจะหายตัวไปจากห้องบัญชาการ
ขณะเดียวกัน เคออสลอร์ดที่ถูกไซเลนท์ดิสแอสเตอร์เกลี้ยกล่อมจนต้องไปอยู่ด้านบนสะพานเรือก็ปล่อยพลังของตัวเองออกมา หลังถูกเพิ่มความแข็งแกร่งด้วยรูนอนันต์แล้ว คลื่นพลังเวทมนตร์ที่มีความสามารถในการมองเห็นนี้ก็กวาดไปทั่วทั้งเกาะทันที
เมื่อมองผ่านจอภาพลำแสง เจ้าหน้าที่ระดับสูงที่อยู่ในศูนย์บัญชาการต่างมองเห็นได้อย่างชัดเจน บนที่ๆ ดูแล้วว่างเปล่าไม่มีอะไร จู่ๆ พลันมีร่างของอสูรมีดปรากฏขึ้นมา โครงร่างของพวกมันค่อยๆ กลายเป็นรูปเป็นร่าง ราวกับว่าถูกลากออกมาจากที่ซ่อนอย่างไรอย่างนั้น
ทันใดนั้นเอง สกายลอร์ดก็ไปปรากฏตัวอยู่ตรงขอบบอทธ่อมเลสแลนด์
มันเงยหน้าขึ้นไปบนท้องฟ้า ถึงแม้จะไม่ได้หยิบหินเวทมนตร์หลากสีออกมา แต่มันก็ยังถึงภาพอันน่าตกตะลึงตอนที่มาถึงที่มีเป็นครั้งแรกได้
“โชคชะตาที่พระเจ้ากำหนดอย่างนั้นเหรอ?”
บางทีนับตั้งแต่ตอนที่ได้เห็นลำแสงเวทมนตร์ทั้งหมดมารวมตัวกันอยู่ที่นี่ และได้รู้ว่าจุดจบของสงครามแห่งโชคชะตาไม่ใช่การก้าวไปสู่ความเป็นนิรันด์ ช้าเร็วยังไงวันนี้ก็ต้องมาถึง แต่ในตอนที่วันนั้นมาถึงจริงๆ มันกลับรู้สึกว่าความรู้สึกที่ได้ร่วมมือกับมนุษย์มันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร
เฮคซอดยิ้มขึ้นมา ก่อนจะเปิดประตูมิติบานใหญ่มหึมาออกมาบานหนึ่ง!
…………………………………………………………………….