Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - ตอนที่ 1072
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1072 ผู้นำตระกูลเฉิงคนใหม่
แปลโดย iPAT
ภาคใต้ ภูเขาเฉิงเหลียง
ดวงอาทิตย์ลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า บรรยากาศเต็มไปด้วยชีวิตชีวา
ผู้ใช้วิญญาณระดับสี่ขั้นสุดยอดเฉิงปู้หลี่ยืนอยู่บนยอดเขาภายใต้การจ้องมองของผู้คน
แม้เฉิงปู้หลี่จะมีประสบการณ์มากมายแต่เขายังรู้สึกตื่นเต้น
เพราะนี่เป็นช่วงเวลาสำคัญของตระกูลเฉิง ผู้คนจากทุกสารทิศมารวมตัวกันอยู่ที่นี่ไม่ว่าจะเป็นคนตระกูลไท่ ตระกูลวู และตัวแทนจากกองกำลังอื่นๆ มันมีกระทั่งผู้บ่มเพาะสันโดษและผู้ใช้วิญญาณปีศาจ ตัวตนระดับสูงของภาคใต้ทั้งหมดมารวมตัวกันในเหตุการณ์สำคัญครั้งนี้
ตระกูลเฉิงแตกต่างจากกองกำลังใหญ่อื่นๆ นี่เป็นเพราะสนามประลองของตระกูลเฉิงจะเฟ้นหาตัวตนที่โดดเด่นและรับผู้บ่มเพาะสันโดษหรือผู้ใช้วิญญาณปีศาจเข้าสู่ตระกูล
ไม่เพียงผู้ใช้วิญญาณระดับมนุษย์แต่ขอบเขตอมตะก็เช่นกัน
หลังจากทั้งหมดตระกูลเฉิงเป็นพ่อค้าที่ทำธุรกิจกับทั้งฝ่ายธรรมะและฝ่ายปีศาจ
เห็นการปรากฏตัวของเฉิงปู้หลี่ ผู้ใช้วิญญาณจำนวนนับไม่ถ้วนบนภูเขาเฉิงเหลียงตระหนักว่างานกำลังจะเริ่มขึ้น
สรรพเสียงหยุดลง เฉิงปู้หลี่รู้สึกกดดันเล็กน้อย
เขาสูดหายใจลึกก่อนจะกล่าวด้วยความสงบ “พิธีสืบทอดตำแหน่งผู้นำตระกูลเฉิงเริ่มได้”
เสียงเพลงดังขึ้นพร้อมกับฉากเปิดตัวที่อลังการ
จากนอกภูเขา สายรุ้งพุ่งเข้ามาก่อนที่หญิงสาวผู้หนึ่งจะปรากฏตัวขึ้นในมุมมองสายตาของทุกคนและเดินเข้ามาอย่างช้าๆ
นางก็คือเฉิงซินซื่อ!
ผู้คนสูดหายใจลึก
“งดงามนัก!”
“นี่คือผู้นำตระกูลเฉิงคนต่อไปงั้นหรือ?”
“งดงามราวกับเทพธิดาที่แท้จริง นางคือผู้ใด?”
แต่เสียงเหล่านี้ถูกกลบโดยเสียงเพลง
ทุกคนมองไปที่เฉิงซินซื่อและส่งข้อความแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
“หญิงผู้นี้เป็นบุตรสาวนอกสมรสของเฉิงเยี่ยนเฟย นางไม่ได้รับความนิยมมากนัก การบ่มเพาะของนางก็ต่ำ แต่ในที่สุดนางกลับกลายเป็นผู้นำคนใหม่ของตระกูลเฉิง โชคชะตามักเล่นตลกกับผู้คนเสมอ”
“ระหว่างการต่อสู้บนภูเขาอี้เทียน ผู้คนมากมายตายอยู่ที่นั่น เรื่องนี้ทำให้ภาคใต้ได้รับผลกระทบที่รุนแรง ตอนนี้สนามรบยังกลายเป็นสถานที่ลึกลับที่สุดของภาคใต้อีกด้วย”
เฉิงซินซื่อเดินมาตามเส้นทางสายรุ้ง
ภายใต้สายตาของผู้คน นางเดินขึ้นสู่ยอดเขาอย่างช้าๆ
เมฆรวมตัวกันอยู่บนท้องฟ้าและส่องแสงสีสันสดใสลงมายังบัลลังก์ของนาง
“วันนี้เจ้ากลายเป็นตัวตนที่สำคัญของโลกผู้ใช้วิญญาณภาคใต้แล้ว” เฉิงชิงชิง ผู้อมตะหญิงของตระกูลเฉิงที่เลือกเฉิงซินซื่อเป็นผู้นำตระกูลกล่าว
“หลังการต่อสู้บนภูเขาอี้เทียน ภาคใต้ตกสู่ความสับสนวุ่นวายครั้งใหญ่ที่สุดในช่วงหลายร้อยปี หญิงผู้นี้จะสามารถนำตระกูลเฉิงและรักษาเสถียรภาพของตระกูลหรือไม่?” เฉิงตันโม่ถาม
ผู้อมตะที่ดูเยาว์วัยในชุดสีน้ำเงินมองเฉิงซินซื่อด้วยความสงสัยและอยากรู้อยากเห็น
เฉิงชิงชิงยิ้ม “ผู้นำตระกูลทุกรุ่นต่างเคยผ่านประสบการณ์ที่ยากลำบาก เหตุผลที่ข้าเลือกเฉิงซินซื่อไม่เพียงเพราะความสามารถของนางแต่ยังรวมถึงหัวใจของนางอีกด้วย ตัวตนของนางทำให้นางดูมีเสน่ห์และยากที่จะคาดเดา ดูผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งหมดของนางที่กำลังหลั่งน้ำตาด้วยความสุข พวกเขามีความภักดีและไว้วางใจเฉิงซินซื่อ คนเหล่านี้มีภูมิหลังที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงแต่ตอนนี้พวกเขากลับสามารถอยู่รวมกลุ่ม”
“โอ้” เฉิงตันโม่ถูกชักจูง เขารู้ว่าเฉิงชิงชิงเลือกเฉิงซินซื่อเป็นผู้นำตระกูลไม่เพียงเพราะภาพลักษณ์ แต่นางเฝ้ามองเฉิงซินซื่อมากนานแล้ว
“ผู้ใดจะคิดว่าคุณหนูจะกลายเป็นผู้นำตระกูลเฉิงในวันหนึ่ง ฮือ…ฮือ…ฮือ…คุณหนู… พวกเราทำได้ในที่สุด” เสี่ยวตี้มีความสุขมาก นางเป็นสาวใช้คนสนิทของเฉิงซินซื่อ นางเดินทางมายังเมืองเฉิงพร้อมกับเฉิงซินซื่อและมีความภักดีมาก
“นายท่าน หากท่านรู้เรื่องนี้ ท่านต้องมีความสุขมาก คุณหนูแตกต่างจากบุตรคนอื่นๆของท่าน นางจะนำตระกูลเฉิงสู่ความรุ่งโรจน์” เสี่ยวหลานร้องไห้ นางเป็นคนมีความสามารถที่เฉิงเยี่ยเฟยอุปการะไว้ตั้งแต่ยังเด็ก นางถูกมอบหมายให้ดูแลเฉิงซินซื่อ ตอนนี้เมื่อเฉิงเยี่ยนเฟยตาย นางจึงมอบความภักดีทั้งหมดให้แก่เฉิงซินซื่อ
จ้าวฉวนเงียบ
เขาเคยเป็นผู้นำตระกูลจ้าวที่หยิ่งยโส หลังจากตระกูลจ้าวถูกทำลาย เขาที่รอดชีวิตมาเปิดร้านค้าในเมืองเฉิง หลังจากนั้นฟางหยวนบังคับให้เขากลายเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของเฉินซินซื่อ ตอนนี้เมื่อเห็นเฉิงซินซื่อนั่งอยู่บนบัลลังก์ ช่วยไม่ได้ที่ดวงตาของจ้าวฉวนจะส่องประกายขึ้น
เขาคิดถึงรอยยิ้มที่ลึกลับบนใบหน้าของฟางหยวนในเวลานั้น เขาคิด ‘ปีศาจดำขาว ข้าควรขอบคุณพวกเจ้าหรือไม่? ตอนนี้คุณหนูกลายเป็นผู้นำตระเฉิง ตระกูลจ้าวของข้ามีโอกาสกลับมา!’
หลังจากนั้นจ้าวฉวนคิดอีกครั้ง ‘ไม่ ตระกูลจ้าวต้องรอก่อน แม้คุณหนูจะกลายเป็นผู้นำตระกูลเฉิง แต่ยังมีความขัดแย้งภายใน สถานะการณ์ของนางยังไม่มั่งคง แล้วข้าจะจากไปตอนที่นางต้องการความช่วยเหลือจากผู้ใต้บังคับบัญชาของนางได้อย่างไร?’
จ้าวฉวนไม่ถูกล่อลวงโดยพิธีการอันยิ่งใหญ่
เขามองไปที่เฉิงปู้หลี่และเหวินเฉียนซาน
เมื่อเฉิงเยี่ยนเฟยยังมีชีวิต พวกเขาเป็นหนึ่งในห้าขุนพลคนสำคัญของตระกูลเฉิง หลังการต่อสู้บนภูเขาอี้เทียน ห้าขุนพลของตระกูลเฉิงเหลือเพียงสอง
คนแรกควบคุมการค้าทาสของตระกูลขณะที่คนหลังดูแลเรื่องการรวบรวมทรัพยากรเช่นการล่าสัตว์ รวบรวมสมุนไพร เหมืองแร่ และอื่นๆ
หนึ่งเป็นผู้อาวุโสสายตรงของตระกูลเฉิงและอีกหนึ่งเป็นผู้อาวุโสนอกที่ดูแลผู้ใช้วิญญาณสายนอกของตระกูล
‘ด้วยการคงอยู่ของคนทั้งสอง สถานการณ์ภายในตระกูลของคุณหนูถือว่าเลวร้ายมาก นางอ่อนแอขณะที่ฝ่ายตรงข้ามแข็งแกร่ง มีความเป็นไปได้ที่พวกเขาจะใช้นางเป็นหุ่นเชิด คุณหนูไม่ได้รับการสนับสนุนจากทุกคนในตระกูล หลังจากทั้งหมดนางเป็นบุตรสาวนอกสมรส’
‘ปัญหาภายในน่ากังวลแต่ปัญหาภายนอกยิ่งน่ากลัวกว่า อันตรายแฝงตัวอยู่ทุกที่ การต่อสู้บนภูเขาอี้เทียนทำให้กองกำลังต่างๆสูญเสียผู้นำและผู้เชี่ยวชาญมากมาย ทุกสิ่งเปลี่ยนไปแล้ว ทรัพยากรที่ไร้เจ้าของจะถูกจัดสรรใหม่ คุณหนูมีผู้ใต้บังคับบัญชาน้อยเกินไป นางจะถูกกดดันอย่างหนัก’
‘ในสาถานการณ์ขับคับ ท่านหญิงเว่ยกลับทิ้งคุณหนูไป!’
คิดถึงเรื่องนี้ จ้าวฉวนมองไปที่ผู้ใช้วิญญาณหญิงที่อยู่ด้านข้างและรู้สึกไม่พอใจ นางก็คือเว่ยตี้ซิน
จ้าวฉวนถือเป็นมือขวาของเฉิงซินซื่อ ดังนั้นเขาจึงรู้ข้อมูลมากมาย
เว่ยตี้ซินเป็นภรรยาของผู้นำตระกูลเว่ย นางมีทักษะในการฝึกผู้พิทักษ์ เดิมทีฟางหยวนใช้จุดอ่อนเรื่องที่นางกำลังตั้งครรภ์บังคับให้นางเป็นผู้พิทักษ์ของเฉิงซินซื่อ แต่ตอนนี้นางให้กำเนิดสายเลือดของสามีสำเร็จแล้ว หลังจากเว่ยเฉินจิงน้องชายของนางค้นพบเรื่องนี้ เขาส่งจดหมายมาและเรียกนางกลับไปรับใช้ตระกูลวูร่วมกับเขา
เว่ยตี้ซินไร้ความภักดีต่อเฉิงซินซื่อมาตั้งแต่ต้น นางเพียงถูกบังคับ ดังนั้นนางจึงตัดสินใจที่จะจากไป
อย่างไรก็ตามสิ่งที่จ้าวฉวนไม่รู้ก็คือขณะที่เขากำลังกังวล เว่ยตี้ซินยิ่งกังวลมากกว่า
จ้าวฉวนเคยเป็นผู้นำตระกูลมาก่อน เขาสามารถมองเห็นภาพใหญ่ แต่เว่ยตี้ซินก็เช่นกัน นางเป็นภรรยาของผู้นำตระกูล ดังนั้นตอนนี้สายตาของนางจึงพุ่งไปที่เสี่ยวหลานและเสี่ยวตี้
‘เฉิงเยี่ยนเฟยตายไปแล้ว ความเป็นอริต่อตระกูลเฉิงของข้าลดน้อยลง’
‘ย้อนกลับไปแม้ข้าจะถูกบังคับโดยปีศาจดำขาวให้ปกป้องคุณหนูเฉิงซินซื่อ แต่หลังจากนั้นข้าก็เริ่มเข้าใจนาง’
‘คุณหนูเป็น…คนดี มีคนดีน้อยมากบนโลกใบนี้’
‘น้องชาย ข้าทำให้เจ้าผิดหวังแล้ว ข้าไม่สามารถไปช่วยเจ้า!’
‘เจ้าเป็นผู้อาวุโสลับของตระกูลวู ชีวิตของเจ้าปลอดภัย แต่ที่นี่คุณหนูมีอันตรายอยู่ทุกหนทุกแห่ง’
เว่ยตี้ซินลอบถอนหายใจ
‘ในฐานะของผู้พิทักษ์ ข้าต้องคิดแทนคุณหนู ตอนนี้นางต้องการกำลังคน สามพี่น้องผู้ใช้วิญญาณปีศาจ ซ่งถู ซ่งเฮา และซ่งเฟิง ต้องอยู่! พวกขาไม่สามารถจากไป!’
‘ไม่ว่าอย่างไรคุณหนูก็ต้องมีผู้พิทักษ์ส่วนตัว เฉิงเยี่ยนเฟยตายไปแล้ว ตระกูลเฉิงเหลือขุนพลเพียงสองคน พวกเราไม่สามารถปล่อยให้พวกเขากีดขวางคุณหนู พวกเราต้องหาขุนพลเลือดใหม่ เสี่ยวเยี่ยนคือตัวเลือกที่ดี! เขาไม่เพียงมีพลังการต่อสู้ที่โดดเด่น เขายังนับถือเว่ยหยางเป็นต้นแบบ เพราะปีศาจดำขาว เว่ยหยางและเสี่ยวเยี่ยนจึงมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับคุณหนู’ เว่ยตี้ซินวางแผนอยู่ในใจ
บนท้องฟ้า เฉิงซินซื่อกล่าวสุนทรพจน์สั้นๆแต่มีความหมายที่ลึกซึ้งต่อหน้าผู้คนเป็นครั้งแรก
หลังกล่าวจบประโยค เสียงปรบมือสรรเสริญจึงปะทุขึ้น แต่พิธีรับสืบทอดตำแหน่งยังไม่จบ สิ่งที่ตามมาคืองานเฉลิมฉลองที่ยิ่งใหญ่
ร่างของเฉิงซินซื่ออันตรธานหายไปก่อนจะปรากฏขึ้นอีกครั้งที่คฤหาสน์ของเมืองชั้นใน
“ช่างเหนื่อยนัก…” นางพึมพำแต่นางรู้ว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาพักผ่อน
นางใช้วิญญาณเรียกผู้ใต้บังคับบัญชา
เสี่ยวหลาน เสี่ยวตี้ เว่ยตี้ซิน จ้าวฉวน ซ่งถู ซ่งเฮา และซ่งเฟิง
เฉิงซินซื่อมีบางสิ่งที่ต้องจัดการ
เย่ฟานเดินอยู่บนถนน ดวงตาของเขาส่องประกายสว่างไสว
ด้วยการปกป้องเฉินซินซื่อในสถานการณ์อันตรายและปฎิเสธที่จะหลบหนี เขาจึงได้รับรางวัลจากเฉิงชิงชิงเป็นมรดกที่ยอดเยี่ยมและวิญญาณอีกมากมาย
หลังจากได้รับมรดกนี้ อนาคตของเขากลายเป็นสดใส
เขาตัดสินใจที่จะตอบแทนบุญคุณของเฉินซินซื่อ
‘ผู้ใดจะคิดว่าท่านหญิงซินซื่อจะกลายเป็นผู้นำตระกูลเฉิง…แต่ในฐานะผู้นำตระกูล มันไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับข้า ข้าควรตัดใจจากนางหรือไม่?’
คิดถึงเฉิงซินซื่อ หัวใจของเย่ฟานเต้นเร็วขึ้น
เขาพัฒนาความรู้สึกที่มีต่อเฉินซินซื่อแต่เขาไม่รู้ว่าเฉินซินซื่อคิดอย่างไรกับเขา
เย่ฟานเดินเข้าไปในคฤหาสน์ของนางโดยไม่มีผู้ใดค้นพบ
เมื่อเขาเห็นนาง เขาเริ่มเดินเร็วขึ้น
เขายืนอยู่ที่ประตูหลังแต่ก่อนที่เขาจะเคาะประตู เขาได้ยินเสียงของเฉิงซินซื่อดังมาจากภายใน “ทุกคนฟังข้า หลังจากกลายเป็นผู้นำตระกูล มีสิ่งหนึ่งที่ข้าต้องทำเป็นอันดับแรก เรื่องนี้ติดอยู่ในหัวใจของข้ามานานแล้ว ข้าต้องการใช้พลังอำนาจของตระกูลจับกุมปีศาจดำ! และแน่นอนว่ารวมถึงพี่สาวปีศาจขาวด้วย”
เย่ฟานหยุดนิ้วที่กำลังจะเคาะประตู
เฉินซินซื่อกำลังพูดคุยกับผู้ใต้บังคับบัญชาของนางขณะที่เฉิงชิงชิงและผู้อมตะคนอื่นๆของตระกูลกำลังหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ของภาคใต้อยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์สมบัติที่มีชีวิต
แดนศักดิ์สิทธิ์สมบัติที่มีชีวิตเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ของตระกูลเฉิง มันมีเสถียรภาพมาและอนุญาตให้ผู้อมตะจำนวนมากเข้าไป
ประตูของแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ก็คือประตูสมบัติที่มีใบหน้ามนุษย์อยู่บนบานประตูและสามารถแลกเปลี่ยนสมบัติผ่านรูจมูก
“หลังการต่อสู้บนภูเขาอี้เทียน ภาคใต้ตกสู่ความสับสนวุ่นวายและไม่สงบสุขอีกต่อไป” ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของตระกูลเฉิงกล่าว
เขามองไปรอบๆก่อนกล่าวต่อ “ตอนนี้เรามีสามเรื่องสำคัญ”
“หนึ่ง กองกำลังพันธมิตรผีดิบของทั้งห้าภูมิภาคหายไปอย่างลึกลับ ตระกูลเฉิงต้องยึดครองทรัพยากรของพวกเขา”
“สอง ภูเขาอี้เทียนถูกปกคลุมด้วยอาณาจักรแห่งความฝันขนาดใหญ่ กองกำลังฝ่ายธรรมะกำลังร่วมมือกันปิดล้อมสถานที่แห่งนั้นเอาไว้เพื่อทำวิจัยและปกป้องมันจากผู้บ่มเพาะสันโดษ”
“สาม การแข่งขันบนภูเขาอี้เทียนไร้บทสรุปแต่มีทรัพยากรจำนวนมากตกค้างอยู่ในสวรรค์สีเหลือง ผู้เดิมพันคนเดียวที่ยังมีชีวิตอยู่และสามารถรับสมบัติทั้งหมดคือผู้อมตะกั่วหลาว เราต้องควบคุมเขา!”
ผู้อมตะทั้งหมดของตระกูลเฉิงพยักหน้า ทั้งสามเรื่องเป็นเหตุการณ์สำคัญของโลกผู้อมตะภาคใต้ในเวลานี้ ผู้คนมากมายกำลังกังวลเกี่ยวกับพวกมัน
“ข้าจะจัดการเรื่องสวรรค์สีเหลือง…” เฉิงชิงชิงกำลังกล่าวแต่ทันใดนั้นการแสดงออกของนางกลับเปลี่ยนแปลงไป “เกิดสิ่งใดขึ้น? สวรรค์สีเหลืองปิดงั้นหรือ!?”