Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - ตอนที่ 1092
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1092 วิญญาณเจตจำนงของตนเอง
แปลโดย iPAT
ดวงวิญญาณของฟางหยวนลอยอยู่ในหุบเขาเหล่าโป
หมอกแห่งความสับสนค่อยๆเลือนหายไป
‘ยิ่งจิตวิญญาณของข้าควบแน่นมากเท่าใด มันก็ยิ่งยากที่จะขัดเกลา หลังจากบ่มเพาะมาหลายวัน จิตวิญญาณของข้าควบแน่นมากกว่าก่อนหน้าถึงสิบเท่า นี่เป็นพัฒนาการที่ยอดเยี่ยมอย่างแท้จริง อย่างไรก็ตามหากเปรียบเทียบกับเทพปีศาจจิตวิญญาณ ข้ายังไม่ถือเป็นสิ่งใด’ ฟางหยวนประเมินและคิดถึงเหตุการณ์บนภูเขาอี้เทียนอีกครั้ง
เทพปีศาจจิตวิญญาณเป็นผู้สร้างเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ แม้เขาจะตายไปแล้ว แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่และยังมีรากฐานบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งที่สุดของโลกใบนี้
จิตวิญญาณของเทพปีศาจจิตวิญญาณควบแน่นในระดับที่น่าสะพรึงกลัว
ดวงวิญญาณทั่วไปจะเป็นเพียงกลุ่มก้อนพลังงานที่อาจสามารถรบกวนจิตใจของผู้คนที่มีชีวิตอยู่เท่านั้น พวกมันไม่สามารถสัมผัสวัตถุทางกายภาพ
แต่เนื่องจากจิตวิญญาณของเทพปีศาจจิตวิญญาณควบแน่นจนถึงจุดที่น่าอัศจรรย์ ดังนั้นดวงวิญญาณของเขาจึงสามารถก่อรูปลักษณ์ที่ยิ่งใหญ่และทิ้งความประทับใจไว้ให้กับฟางหยวน
‘บางทีแม้เทพปีศาจจิตวิญญาณจะมาที่หุบเขาเหล่าโป แต่หมอกแห่งความสับสนก็อาจไม่ส่งผลกระทบต่อเขา’ ฟางหยวนคิดและถอนหายใจกับตนเอง ‘เมื่อใดที่ข้าจะบรรลุระดับเดียวกันนั้น?’
หากจิตวิญญาณของฟางหยวนอยู่ในระดับเดียวกับเทพปีศาจจิตวิญญาณ แม้ร่างผีดิบอมตะของเขาจะมีกับดับซ่อนอยู่ มันก็จะกลายเป็นไร้ประโยชน์
หมอกแห่งความสับสนรวมตัวกันและพัดมาอีกครั้ง
ดวงวิญญาณของฟางหยวนถูกกรีดเฉือนด้วยสายลมอันแหลมคม
มันเป็นความเจ็บปวดที่ยิ่งกว่าความตาย การโจมตีนับพันครั้งทำให้ดวงวิญญาณของฟางหยวนสั่นสะท้าน
แต่เขายังกัดฟันทน
สายลมที่ไม่แรงนัก ฟางหยวนสามารถทนได้
แต่เมื่อสายลมที่รุนแรงพัดมา ฟางหยวนจะล่าถอยและเก็บดวงวิญญาณของเขากลับเข้าไปในร่างอย่างชาญฉลาด
ด้วยการปกป้องจากร่างกาย ผลกระทบของสายลมเหล่าโปจะลดลงอย่างมาก
เมื่อเวลาผ่านไป จิตวิญญาณของฟางหยวนก็หดตัวลงถึงสามสิบส่วน
เพื่อความปลอดภัย เขานำดวงวิญญาณกลับเข้าไปในร่างกาย
วิญญาณความเด็ดเดี่ยว!
วิญญาณความเด็ดเดี่ยวถูกกระตุ้นใช้งานอยู่ในมิติช่องว่างของฟางหยวนและกลายเป็นพลังงานลึกลับไหลเข้าสู่จิตใจของเขา
ในไม่ช้าจิตวิญญาณของฟางหยวนก็กลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง
อาการบาดเจ็บจากการฝึกฝนก่อนหน้าหายไปอย่างสมบูรณ์
หุบเขาเหล่าโปและภูเขาตงฮันต่างเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์สำหรับการบ่มเพาะจิตวิญญาณ
ด้วยเครื่องมือทั้งสองชิ้น จิตวิญญาณของฟางหยวนจึงพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว
จิตวิญญาณของฟางหยวนราวกับเหล็กกล้าที่แข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ
แต่เขายังไม่กล้านำดวงวิญญาณเข้าไปในร่างผีดิบอมตะ
สองชั่วโมงต่อมา จิตวิญญาณของฟางหยวนเริ่มถึงขีดจำกัด
เขาหยุดบ่มเพาะและออกจากหุบเขาเหล่าโป
มีสามแง่มุมที่ต้องคำนึงถึงในการบ่มเพาะจิตวิญญาณ
ทุกคนรู้เกี่ยวกับการเสริมสร้างจิตวิญญาณและการขัดเกลาจิตวิญญาณ แต่นี่เป็นเพียงสองแง่มุม
สำหรับแง่มุมที่สาม มันคือการสงบจิตใจ
ความแข็งแกร่งของจิตวิญญาณคือขนาดของจิตวิญญาณ
การขัดเกลาจิตวิญญาณจะทำให้จิตวิญญาณควบแน่นและบริสุทธิ์
และการสงบจิตใจจะทำให้จิตวิญญาณได้พักผ่อนและฟื้นฟู
ทั้งสามแง่มุมต่างสนับสนุนซึ่งกันและกัน หากคนผู้หนึ่งมุ่งเน้นเพียงแง่มุมใดแง่มุมหนึ่ง มันจะไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
วิญญาณความเด็ดเดี่ยวจากภูเขาตงฮันเป็นตัวช่วยที่ดีที่สุดในการเพิ่มเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับจิตวิญญาณ ลมเหล่าโปและหมอกแห่งความสับสนเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดในการขัดเกลาจิตวิญญาณ สุดท้ายวิธีที่ดีที่สุดในการสงบจิตใจก็คือการพึ่งพาวารีจิตวิญญาณจากทะเลสาบมนตรา
ทะเลสาบมนตราอยู่ในประตูแห่งชีวิตและความตาย ตำนานกล่าวว่าหลังจากหยางเมิ้งตาย เขาเมามายอยู่ที่ริมทะเลสาบแห่งนี้
‘ประตูแห่งชีวิตและความตายอยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์ของนิกายเงาและแดนศักดิ์สิทธิ์ของนิกายเงาอยู่ที่ภูเขาอี้เทียนของภาคใต้ ปัจจุบันมันอยู่ในอาณาจักรแห่งความฝันขนาดใหญ่ หากไม่ใช่เพราะเรื่องนี้ ข้าจะไปยึดครองประตูแห่งชีวิตและความตาย ด้วยการผสานงานระหว่างแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์พิภพทั้งสาม การบ่มเพาะจิตวิญญาณของข้าจะมีประสิทธิภาพสูงสุด!’
ฟางหยวนทำได้เพียงคิด
อาณาจักรแห่งความฝันเป็นอุปสรรคที่ยิ่งใหญ่ ปัจจุบันเขาไม่สามารถผ่านอุปสรรคนี้
สิ่งสำคัญที่สุดคือเจตจำนงสวรรค์
ทุกการเคลื่อนไหวของฟางหยวนจะดึงดูดความสนใจของเจตจำนงสวรรค์
เขาต้องคิดถึงเจตจำนงสวรรค์เสมอ
ฟางหยวนไม่ได้บินกลับเมืองเมฆาของเขาแต่เดินทางไปยังเมืองเมฆาที่สิบสอง
ในไม่ช้าเขาก็พบผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขน ขนที่สิบสอง
“ผู้อาวุโสฟางหยวน ท่านมาแล้ว นี่คือวิญญาณเจตจำนงของตนเองที่ท่านต้องการให้ข้าหลอมรวม โปรดตรวจสอบ” ผมที่สิบสองกล่าวด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่น
ฟางหยวนโบกมือและเก็บวิญญาณเจตจำนงของตนเองทั้งหมดเอาไว้ “ไม่จำเป็นต้องตรวจสอบ ข้าเชื่อใจเจ้า”
ผมที่สิบสองหัวเราะและรู้สึกปลื้มปิติมาก
ก่อนฟางหยวนจะจากไป ผมที่สิบสองยังจับมือเขาและกล่าวขอบคุณ “ข้าต้องขอบคุณท่านมากที่ให้โอกาสข้าได้หลอมรวมวิญญาณเจตจำนงของตนเอง ตอนนี้สวรรค์สีเหลืองปิด ข้าไม่มีเงินทุนที่จะซื้อสัตว์อสูรเดียวดาย”
“พวกเราต่างช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ข้าหวังว่าพวกเราจะสามารถทำงานร่วมกันอีก” ฟางหยวนเผยรอยยิ้มบาง
“แน่นอน!” ผมที่สิบสองเร่งตอบรับ
หลังจากทำธุรกรรม ฟางหยวนเดินทางกลับเมืองเมฆาของเขาทันที
“วิญญาณเจตจำนงของตนเอง” ในห้อง ฟางหยวนพึมพำขณะถือวิญญาณระดับห้าเอาไว้ในมือ
วิญญาณดวงนี้ดูคล้ายกระดาษพับเป็นรูปแมงป่อง มันมีลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์มาก
สำหรับเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณดวงนี้ มันมาจากนิกายเงา
ฟางหยวนเป็นปีศาจต่างโลกที่สมบูรณ์ ตอนนี้เขาไม่ได้รับผลกระทบจากเจตจำนงสวรรค์ แต่ผู้อมตะหรือผู้ใช้วิญญาณคนอื่นไม่เหมือนเขา แล้วผู้คนเหล่านั้นจะต่อต้านเจตจำนงสวรรค์อย่างไร?
นิกายเงามีคำตอบสำหรับเรื่องนี้ นั่นคือวิญญาณเจตจำนงของตนเอง
นี่เป็นวิญญาณบนเส้นทางแห่งปัญญา มันสามารถสร้างเจตจำนงชนิดพิเศษที่เรียกว่าเจตจำนงของตนเอง พลังอำนาจของมันคือป้องกันและกำจัดเจตจำนงสวรรค์
นี่เป็นงานวิจัยชิ้นสำคัญของนิกายเงาหลังจากเผชิญหน้ากับเจตจำนงสวรรค์มาอย่างยาวนาน
ฟางหยวนได้รับเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณเจตจำนงของตนเองมาจากผมที่หกและเริ่มหลอมรวมมันด้วยตนเอง
แต่ผลลัพธ์ยังไม่เป็นที่น่พอใจ
เขาไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการหลอมรวม เรื่องนี้ทำให้เขาเสียเวลาและความพยายามไปอย่างไร้ประโยชน์
ต่อมาเขาหลอมรวมวิญญาณอมตะเปลี่ยนรูปลักษณ์เพราะมันมีความสำคัญกับเขามากที่สุด
แต่กระทั่งวิญญาณเจตจำนงของตนเองจะเป็นวิญญาณระดับมนุษย์ ฟางหยวนก็ยังต้องการมัน
ดังนั้นเขาจึงเปิดเผยเคล็ดลับการหลอมรวมและมอบให้ผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนช่วยหลอมรวมมัน
ราคาของการขอให้จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาหลอมรวมวิญญาณนั้นสูงเกินไปและไม่มีความจำเป็น
ในบรรดาผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนของนิกายหลางหยา นอกจากผมที่หก คนอื่นๆเต็มใจที่จะทำงานร่วมกับฟางหยวน
เนื่องจากฟางหยวนคุ้นเคยกับพวกเขาแล้วหรืออาจเรียกได้ว่ามีความสัมพันธ์อันดี นิกายหลางหยาให้ความสำคัญกับแต้มผลงาน หลังจากการเดินทางไปยังไท่ชิว ฟางหยวนได้รับแต้มผลงานจำนวนมากขณะที่ผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนคนอื่นๆต่างต้องการมัน
ผมที่สิบสองไม่ใช่คนเดียวที่ฟางหยวนขอร้อง เขายังขอความช่วยเหลือจากผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนคนอื่นๆเช่นกัน
นอกจากนั้นฟางหยวนสามารถตั้งราคาที่ต่ำมากเพราะผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนเหล่านี้ล้วนเป็นคนไร้เล่ห์เหลี่ยม สิ่งสำคัญที่สุดก็คือพวกเขามีความเชี่ยวชาญด้านการหลอมรวมขณะที่ไม่เต็มใจต่อสู้ ดังนั้นพวกเขาจึงยินดีรับภารกิจของฟางหยวน
นี่ไม่ใช่วิญญาณเจตจำนงของตนเองชุดแรกที่ฟางหยวนได้รับ
หลังจากเก็บวิญญาณเจตจำนงของตนเองดวงนี้ไว้ในมิติช่องว่างจักรพรรดิ ฟางหยวนเริ่มตรวจสอบวิญญาณดวงอื่นๆ
เขาแสดงความไว้วางใจและเป็นกันเองต่อผมที่สิบสอง แต่ตัวตนที่แท้จริงของเขาเป็นคนระวังตัว ดังนั้นหลังจากรับสินค้ามาแล้ว เขาต้องตรวจสอบอย่างระมัดระวัง
ท้ายที่สุดนิกายหลางหยาก็มีสายลับเช่นผมที่หก
ฟางหยวนไม่รู้ว่าผมที่หกเป็นสายลับคนสุดท้ายที่เหลืออยู่ของนิกายเงา ด้วยเหตุนี้ฟางหยวนจึงต้องระวังตัว
หลังจากตรวจสอบและไม่พบปัญหา ฟางหยวนจึงพยักหน้าและแสดงความชื่นชม
“สิ่งเหล่านี้ได้รับการหลอมรวมโดยผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขน คุณภาพของพวกมันยอดเยี่ยมจริงๆ”
ฟางหยวนเก็บวิญญาณเจตจำนงของตนเองเข้าไปในมิติช่องว่างของเขา
หรือกล่าวให้ถูกต้องกว่านั้น เขาเก็บพวกมันไว้ในภาคเหนือน้อย
พวกมันถูกกระตุ้นใช้งานทีละดวงและค่อยๆชำระล้างเจตจำนงสวรรค์ที่อยู่ภายใน
“วิญญาณเจตจำนงของตนเองเป็นอาวุธที่ดีที่สุดในการต่อสู้กับเจตจำนงสวรรค์ แต่พวกมันยังมีข้อบกพร่อง พวกมันเป็นเพียงวิญญาณระดับห้า พวกมันจะตายหลังจากถูกใช้งาน” ฟางหยวนถอนหายใจ
เขาตั้งข้อสังเกต “เคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณเจตจำนงของตนเองที่ข้าได้รับมาไม่สมบูรณ์ นิกายเงายินดีมอบมันให้ข้า นั่นหมายความว่าพวกเขาต้องมีเคล็ดลับที่ดีกว่า ในการทำธุรกรรมที่ผ่านมา ข้าขอหลายสิ่งเกินไป นี่คือขีดจำกัด ข้าไม่สามารถขอเคล็ดลับการหลอมรวมที่ดีกว่านี้”
ด้วยวิธีนี้ฟางหยวนจึงสามารถกำจัดอสูรหิมะที่อยู่ในมิติช่องว่างจักรพรรดิและใช้วิญญาณเจตจำนงของตนเองกำจัดเจตจำนงสวรรค์ที่ตกค้าง
ในบางเวลาเขาจะใช้ภูเขาตงฮันและหุบเขาเหล่าโปบ่มเพาะจิตวิญญาณเพื่อเสริมสร้างรากฐานบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ
นอกจากนี้เขายังใช้บางเวลาฝึกสอนผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนเกี่ยวกับการต่อสู้
การปิดตัวของสวรรค์สีเหลืองยังส่งผลกระทบอย่างมากต่อฟางหยวน
การจัดการมิติช่องว่างจักรพรรดิของเขาถูกบังคับให้หยุดแม้เขาจะมีแผนการและเงินทุนอย่างเพียงพอก็ตาม
วันเวลาผ่านไป
ภัยพิบัติพิภพครั้งที่สองของฟางหยวนค่อยๆใกล้เข้ามา
แผนการของนิกายหลางหยาเกี่ยวกับไท่ชิวไม่เคยหยุดนิ่ง
ในบางครั้งผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนจะได้รับภารกิจจากนิกายและใช้ค่ายกลวิญญาณเคลื่อนย้ายสถานที่เดินทางไปยังไท่ชิว
ภารกิจแรกของผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนเหล่านี้คือการเปลี่ยนสภาพแวดล้อมและรักษาเสถียรภาพของค่ายกลวิญญาณเคลื่อนย้ายสถานที่
สิ่งที่ทำให้ฟางหยวนรู้สึกประหลาดใจก็คือผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนเหล่านี้ไม่พบกับความยากลำบากใดๆ ภารกิจของพวกเขาราบรื่นมาก พิจารณาจากเรื่องนี้ดูเหมือนเจตจำนงสวรรค์จะไม่ได้กำหนดเป้าหมายที่พวกเขา