Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - ตอนที่ 1176
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1176 ข้อตกลงของปีศาจ
แปลโดย iPAT
ไม่กี่วันต่อมาฟางหยวนก็มาถึงถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน
‘ผู้ใดจะคิดว่าชูตู๋จะสร้างค่ายกลวิญญาณขนส่งเพื่อเคลื่อนย้ายผู้อมตะเข้าและออกจากถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน’ ฟางหยวนรู้สึกชื่นชมการเตรียมการของชูตู๋
นี่คือแผนสำรองของเขา
ตราบเท่าที่มีค่ายกลวิญญาณขนส่ง พวกเขาจะไม่ติดอยู่ในถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน
สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าแม้ชูตู๋จะแสดงท่าทีแข็งกร้าวแต่เขาไม่ใช่คนบุ่มบ่ามและบ้าบิ่น
“น้องหลิว เจ้ามาแล้ว” ชูตู๋มารับฟางหยวน
เมื่อเห็นฟางหยวน เขาแสดงออกอย่างมีความสุข
ฟางหยวนถอนหายใจ “โชคชะตามักล้อเล่นกับผู้คนเสมอ หากไม่เกิดอุบัติเหตุ ถ้ำสวรรค์ไห่ฟานจะกลายเป็นสวรรค์อันเงียบสงบ”
ฟางหยวนมองไปรอบๆและเห็นถ้ำสวรรค์ไห่ฟานกลายเป็นสนามรบที่ดุเดือด
ชูตู๋กล่าวในช่วงเวลาที่เหมาะสม “ถ้ำสวรรค์ไห่ฟานมีพื้นที่ขนาดใหญ่ จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูส่งสัตว์อสูรเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แต่ข้าได้เชิญกำลังเสริมมาแล้วหลายคน พวกเขาเฝ้าระวังและปกป้องอยู่ในสถานที่ต่างๆขณะที่ข้าอยู่ที่นี่เพื่อป้องกันไม่ให้จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูสามารถเข้ามาด้วยตัวเขาเอง”
ฟางหยวนแสดงออกด้วยใบหน้าเคร่งขรึม เขาเข้าใจความหมายที่ซ่อนอยู่ “พี่ชู ท่านมีหน้าที่รับผิดชอบมากมาย ข้าย่อมไม่ทำให้ท่านผิดหวัง ข้านำสิ่งที่ท่านต้องการมาแล้ว”
หลังกล่าวจบคำ ฟางหยวนสะบัดแขนเสื้อนำสองเจตจำนงออกมาทันที
เจตจำนงทั้งสองกลายร่างเป็นปู้อู๋หมิงและเพิ่งซานที่ถือวิญญาณอมตะและพลังงานอมตะเอาไว้ในมือ
ฟางหยวนไม่ได้เก็บเจตจำนงทั้งสองไว้ในมิติช่องว่างจักรพรรดิ
แน่นอนว่าเขาไม่สามารถเปิดเผยมัน
เดิมทีฟางหยวนเคยคิดที่จะทำลายเจตจำนงทั้งสองและขโมยวิญญาณอมตะ แต่สิ่งนี้เป็นไปไม่ได้
เหตุผลหลักคือฟางหยวนถูกผูกมัดด้วยข้อตกลงพันธมิตร หากเขาโจมตีพวกมัน เขาจะตายเพราะผลกระทบย้อนกลับ
ประการที่สอง วิญญาณอมตะทั้งสองดวงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะฉกฉวยเพราะวิญญาณอมตะทั้งสองบรรจุเจตจำนงของเจ้าของเอาไว้ภายใน เพียงความคิดเดียว พวกเขาก็สามารถระเบิดทำลายพวกมันได้ทันที
“ขอบใจมาก” ชูตู๋กล่าวก่อนจะเก็บเจตจำนงของเพิ่งซานเข้าไปในมิติช่องว่างของตนเอง
ฟางหยวนสังเกตเห็นรายละเอียดเล็กๆน้อยๆนี้
มิติช่องว่างของผู้อมตะเป็นแหล่งทรัพยากรที่สำคัญที่สุดของผู้อมตะที่ไม่สามารถเปิดเผยต่อคนนอก
จากการกระทำของชูตู๋ ดูเหมือนเขาจะเชื่อใจเพิ่งซานเป็นอย่างมาก
ชูตู๋กล่าวกับปู้อู๋หมิง “ปู้อู๋หมิง เจ้าสามารถอยู่กับพันธมิตรของข้า”
ปู้อู๋หมิงลูบเคราและยิ้มให้ฟางหยวน “ร่างหลักของข้าเดาถูกว่าเหตุใดเจ้าถึงเลือกคนผู้นี้”
“หมายความว่าอย่างไร?” ฟางหยวนถาม เขาเต็มไปด้วยความสงสัย
ชูตู๋ตอบ “ให้ข้าอธิบาย โดยผิวเผิน ถ้ำปีศาจคลั่งเป็นหนึ่งในสิบเขตต้องห้ามของภาคเหนือ แต่แท้จริงแล้วมันถูกสร้างขึ้นโดยเทพปีศาจไร้ขอบเขตเมื่อเขาไล่ล่าความลับของชีวิตนิรันดร์”
“เทพปีศาจไร้ขอบเขตหลอมรวมวิญญาณต้นกำเนิดในตำนาน เขาซ่อนตัวอยู่ในถ้ำปีศาจคลั่งและทำการหลอมรวมวิญญาณที่นั่น”
เทพปีศาจไร้ขอบเขต!
ชีวิตนิรันดร์!
ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้น “แล้วเทพปีศาจไร้ขอบเขตประสบความสำเร็จหรือไม่?”
ปู้อู๋หมิงส่ายศีรษะ “พวกเราไม่รู้แน่ชัด ตามบันทึกในประวัติศาสตร์ เทพปีศาจไร้ขอบเขตหายสาบสูญไปอย่างลึกลับ เขาจะประสบความสำเร็จหรือล้มเหลว ไม่มีผู้ใดล่วงรู้”
“อย่างไรก็ตาม” ปู้อู๋หมิงกล่าวต่อ “สิ่งที่ชูตู๋กล่าวเป็นเรื่องจริง ถ้ำปีศาจคลั่งเป็นสถานที่ที่เทพปีศาจไร้ขอบเขตเคยอาศัยอยู่ เขาอยู่ในชั้นที่ลึกที่สุดของถ้ำปีศาจคลั่ง วิญญาณต้นกำเนิดยังอยู่ในค่ายกลวิญญาณขนาดใหญ่ที่ถูกจัดตั้งขึ้นโดยเขา”
“วิญญาณต้นกำเนิด…” ฟางหยวนพึมพำ
วิญญาณดวงนี้มีชื่อเสียงมาก ไม่เพียงผู้อมตะแต่กระทั่งผู้ใช้วิญญาณยังเคยได้ยินชื่อของมัน
เหตุผลเป็นเพราะมันอยู่ในตำนานมนุษยคนแรก
หลังจากสวรรค์ทั้งเจ็ดพังทลายลง บุตรทั้งสิบของมนุษย์คนแรกตายไปทีละคน มนุษย์คนแรกกำลังจะตายเพราะอายุขัยเช่นกัน แต่ในช่วงเวลานั้นมนุษย์คนแรกรวบรวมศพของบุตรทั้งสิบและบูชายัญตนเองกับวิญญาณต้นกำเนิด วิญญาณต้นกำเนิดระเบิดแสงแห่งชีวิตออกไปทั่วทั้งแผ่นดินและทำให้เกิดเผ่าพันธุ์มนุษย์ขึ้น มนุษย์เหล่านี้ไม่ใช่มนุษย์คนแรกหรือบุตรทั้งสิบของเขา แต่พวกเขาสามารถบ่มเพาะหลังจากปลุกทะเลวิญญาณให้ตื่นขึ้น
ด้วยเหตุนี้โลกใบนี้จึงพัฒนาเป็นโลกของผู้ใช้วิญญาณ ในช่วงเวลาเหล่านั้นผู้อมตะระดับเก้าถือกำเนิดขึ้น พวกเขาแต่ละคนเป็นตัวแทนของแต่ละยุคสมัยและสามารถฝากร่องรอยไว้ในประวัติศาสตร์
“เทพปีศาจไร้ขอบเขตได้รับวิญญาณต้นกำเนิดและพยายามเลียนแบบมนุษย์คนแรกเพื่อสร้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ขึ้นมาอีกครั้งงั้นหรือ?” ฟางหยวนถาม
“ไม่ใช่กรณีนั้น” ปู้อู๋หมิงตอบ “มนุษย์คนแรกสร้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ มันเป็นวิธีการทำซ้ำบนเส้นทางแห่งมนุษย์ อย่างไรก็ตามเทพปีศาจไร้ขอบเขตบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งกฎ เขาต้องการใช้วิญญาณต้นกำเนิดเพื่อให้กำเนิดพลังงานแห่งเต๋าชนิดใหม่ พลังงานแห่งเต๋าเหล่านั้นคือเงื่อนงำของการบรรลุชีวิตนิรันดร์”
“ใช้วิญญาณต้นกำเนิดสร้างพลังงานแห่งเต๋า?” ฟางหยวนตะลึง
ชูตู๋พยักหน้า “แม้นี่จะเป็นเพียงการอนุมานของสามปีศาจคลั่งแต่ถ้ำปีศาจคลั่งก็เป็นหลักฐานสำคัญ เสียงปีศาจในถ้ำคือผลกระทบที่เกิดจากการสร้างค่ายกลวิญญาณของเทพปีศาจไร้ขอบเขต การทำให้สิ่งมีชีวิตคลุ้มคลั่งเป็นเพียงผลข้างเคียง แรงจูงใจที่แท้จริงของเขาคือให้กำเนิดพลังงานแห่งเต๋าชนิดใหม่ในร่างของสิ่งมีชีวิตเหล่านั้น”
“เป็นเช่นนี้” ฟางหยวนส่ายศีรษะ เขาคิดก่อนถาม “แล้วมันประสบความสำเร็จหรือไม่?”
ปู้อู๋หมิงตอบ “ยิ่งเจ้าเข้าไปลึกเท่าใด เสียงปีศาจก็ยิ่งแข็งแกร่งเท่านั้น ท่ามกลางพลังงานแห่งเต๋าที่วุ่นวาย พลังงานแห่งเต๋าชนิดใหม่จะถือกำเนิดขึ้นอย่างแน่นอน แต่พลังงานแห่งเต๋าชนิดใหม่เหล่านี้ถูกดึงเข้าไปในค่ายกลวิญญาณที่อยู่ในส่วนลึกของถ้ำ พวกเราสามปีศาจคลั่งอยู่ที่นั่นเพราะต้องการทะลวงเข้าไปยึดครองวิญญาณต้นกำเนิดและควบคุมค่ายกลวิญญาณนี้!”
“ผลที่ตามมาก็คือสามปีศาจคลั่งต้องการความแข็งแกร่งของข้า” ชูตู๋กล่าว
ฟางหยวนพยักหน้า เขาสามารถคาดเดา
ดังคาดคำกล่าวต่อไปของชูตู๋เป็นการยืนยันการคาดเดาของฟางหยวน
“ที่ชั้นนอกของถ้ำมีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าทุกเส้นทางปรากฏอยู่ สามปีศาจคลั่งมีความเชี่ยวชาญของตนเอง แต่เส้นทางความแข็งแกร่ง พวกเขายังด้อยกว่าข้า ดังนั้นพวกเขาจึงเชิญข้าไปช่วยทำลายอุปสรรคบนเส้นทางความแข็งแกร่ง”
ปู้อู๋หมิงถอนหายใจ “มันไม่ใช่การช่วยเหลือพวกเราแต่มันเป็นการช่วยเหลือตัวเจ้าเอง พวกเราสามปีศาจคลั่งอยู่ในถ้ำปีศาจคลั่งมาหลายร้อยปี แม้พวกเราจะมีความก้าวหน้าแต่เรายังไม่ได้รับประโยชน์มากนัก ความลับเกี่ยวกับชีวิตนิรันดร์ไม่ใช่สิ่งที่พวกเราทั้งสามจะได้รับมาด้วยเพียงความสามารถของพวกเรา พวกเราต้องการเจ้าและเจ้าก็ต้องการพวกเรา มีเพียงการร่วมมือกันพวกเราจึงจะได้รับผลประโยชน์จากเทพปีศาจไร้ขอบเขต”
ผ่านไปหลายร้อยปีแต่สามปีศาจคลั่งยังมีความก้าวหน้าไม่มากนัก พวกเขาต้องหาคนช่วย!
ชูตู๋คือเป้าหมายของพวกเขา
แต่ชูตู๋คิดว่าฟางหยวนเหมาะสมกับงานนี้เพราะความหมายที่แท้จริงของเทพปีศาจคลั่ง ชูตู๋คิดว่าเขาต้องร่วมมือกับฟางหยวนไปอีกนาน พวกเขาต้องสร้างความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง
ดังนั้นเขาจึงขอให้ฟางหยวนไปที่ถ้ำปีศาจคลั่ง
ปู้อู๋หมิงและเพิ่งซานเข้าใจเจตนาของชูตู๋ ดังนั้นพวกเขาจึงต้อนรับฟางหยวนอย่างอบอุ่น
“จักรพรรดิอมตะ ท่านเป็นผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางความแข็งแกร่ง ในภาคเหนือหรือกระทั่งทั้งห้าภูมิภาคอาจไม่มีผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางความแข็งแกร่งคนใดเหนือไปกว่าท่าน ไม่แปลกที่ผู้อาวุโสทั้งสามต้องการตัวท่าน แต่ข้ามีความสามารถใดที่คู่ควรให้พวกท่านเลือก?” ฟางหยวนถาม
ชูตู๋หัวเราะเสียงดัง “น้องหลิว อย่าได้ถ่อมตน เจ้าเป็นผู้อมตะระดับเจ็ดบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง เจ้าสามารถปลอมตัวเป็นผู้อมตะระดับหกโดยไม่มีข้อบกพร่อง ข้าเห็นภัยพิบัติของเจ้าแล้ว แม้ข้าจะเห็นเพียงเล็กน้อยแต่ภัยพิบัติที่เจ้าเผชิญทรงพลังมาก นั่นแสดงให้เห็นว่าเจ้ามีรากฐานที่ลึกซึ้ง กวาดตามองไปทั่วภาคเหนือ ในแง่ของความสำเร็จบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง ผู้ใดจะสามารถแข่งขันกับเจ้า?”
“กระไรนะ!? เขาเป็นผู้อมตะระดับเจ็ดงั้นหรือ?” ได้ยินคำกล่าวของชูตู๋ ปู้อู๋หมิงตกใจมาก
เขาต้องประเมินฟางหยวนใหม่อีกครั้ง “น่าประทับใจมาก! มีรากฐานบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงที่ลึกซึ้งจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นร่างหลักของข้าหรือร่างหลักของเพิ่งซาน ไม่มีผู้ใดที่สามารถมองออก”
ฟางหยวนเผยรอยยิ้มขมขื่น
สาเหตุหลักของเรื่องนี้มาจากท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคย
แน่นอนว่ายังมีความประทับใจต่อภัยพิบัติของฟางหยวนที่ชูตู๋ได้พบเห็น
ใบหน้าที่คุ้นเคยเป็นท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง
ฟางหยวนรู้ว่าแม้ระดับความสำเร็จบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงของเขาจะไม่ต่ำต้อยแต่รากฐานบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงของเขายังตื้นเขิน เขาอาศัยใบหน้าที่คุ้นเคนเพื่อทำให้คนนอกเข้าใจผิดเท่านั้น
แต่ความเข้าใจผิดนี้เป็นเรื่องดี
ดังนั้นตอนนี้ฟางหยวนจึงใช้ท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคยเปลี่ยนกลิ่นอายของผู้อมตะระดับหกเป็นกลิ่นอายของผู้อมตะระดับเจ็ด
ปู้อู๋หมิงตระหนักถึงกลิ่นอายระดับเจ็ดของฟางหยวนและจ้องมองด้วยดวงตาเบิกกว้าง
“ข้าไม่ได้ตั้งใจหลอกลวงท่านแต่ข้ากำลังเข้าไปในสถานที่อันตราย ข้าต้องปกปิดตัวเองเพื่อความอยู่รอดของตนเอง หวังว่าผู้อาวุโสจะไม่โกรธข้า” ฟางหยวนขอโทษปู้อู๋หมิงอย่างสุภาพ
ปู้อู๋หมิงโบกมือ “ข้าได้เปิดหูเปิดตาแล้ว จักรพรรดิอมตะช่างมองการณ์ไกลนัก”
ทัศนคติของเขาเปลี่ยนไปมาก
ความสัมพันธ์ระหว่างผู้อมตะมักขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งเสมอ
ชูตู๋กล่าวอย่างเคร่งขรึม “น้องหลิว เจ้ายินดีร่วมค้นหาความลับของชีวิตนิรันดร์กับพวกเราหรือไม่?”
“แน่นอนว่าข้าเต็มใจ” ฟางหยวนตอบอย่างจริงจัง
ปู้อู๋หมิงกล่าว “หลังการต่อสู้ครั้งนี้ น้องหลิวสามารถไปที่ถ้ำปีศาจคลั่งและทำข้อตกลงกับพวกเรา”
“ได้!” ฟางหยวนตอบอย่างหนักแน่น
“หลังจากนี้ปู้อู๋หมิงจะอยู่กับน้องหลิว” ชูตู๋จัดการ
นี่เป็นการแสดงความจริงใจ
หากชูตู๋เก็บเจตจำนงของเพิ่งซานและปู้อู๋หมิงไว้พร้อมกับวิญญาณอมตะสองดวง เขาสามารถทำลายข้อตกลงพันธมิตรได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องเผชิญหน้ากับฟันเฟืองใดๆ
แต่เขาแยกเจตจำนงรวมถึงวิญญาณอมตะทั้งสองออกจากกันและวางไว้ในมือของฟางหยวน มันไม่เพียงช่วยปัดเป่าความหวาดระแวงของฟางหยวนแต่ยังทำให้ฟางหยวนรู้สึกถึงความจริงใจของชูตู๋และสามปีศาจคลั่ง
เจตจำนงของปู้อู๋หมิงมึนงงก่อนจะเข้าใจ
ชูตู๋หัวเราะ “น้องหลิว เจ้าต้องระวังตัวให้มาก เอาล่ะ พวกเราไปกันเถอะ”