Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - ตอนที่ 1178
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1178 ดิ้นรนต่อสู้ (2)
แปลโดย iPAT
ภายในถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน
ฝูงหมาป่าเดียวดายหนึ่งร้อยตัวพุ่งเข้ามา
ห่าวเจิ้นและเชาเหลาอู๋ยืนเคียงข้างกันด้วยใบหน้าเคร่งขรึม
พวกเขามองหน้ากันก่อนจะกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะที่ทรงพลังที่สุด เสียงคำรามของวายุสายฟ้า!
“เปรี้ยง!”
พายุสายฟ้ากวาดสนามรบและทำลายหมาป่าเดียวดายแทบทั้งหมด
การแสดงออกของฟางหยวนและคนอื่นๆที่อยู่ด้านข้างเปลี่ยนแปลงไป
ทุกครั้งที่พวกเขาเห็นท่าไม้ตายอมตะเสียงคำรามของวายุสายฟ้า หัวใจของพวกเขาจะสั่นสะท้านขึ้น เนื่องจากพลังอำนาจของมันอยู่บนจุดสูงสุดของระดับเจ็ด หมาป่าเดียวดายส่วนใหญ่เป็นร่างเทียม พวกมันไม่สามารถต่อต้านเสียงคำรามของวายุสายฟ้า
กระทั่งหมาป่าเดียวดายร่างจริงก็ยังตายไปสองตัว สำหรับตัวสุดท้าย มันโชคดีที่อยู่ด้านหลังและรอดชีวิตจากการโจมตีครั้งนี้
“ฆ่ามัน! พวกเราไม่สามารถปล่อยให้ร่างจริงของมันหลบหนี มิฉะนั้นร่างเทียมของมันจะปรากฏขึ้นอีกครั้ง!” ผู้อมตะเหว่ยหมิงตะโกน
เหว่ยหมิงเป็นผู้อมตะระดับเจ็ดที่แข็งแกร่ง แต่ตอนนี้ดวงตาของเขาบอดไปแล้ว นี่ทำให้พลังการต่อสู้ของเขาลดน้อยลง
“ระวังหมาป่าหยิน!” หวังอู๋หมิงตะโกนเตือน
ร่างกายของเหว่ยหมิงแข็งค้างขณะที่หมาป่าหยินพุ่งเข้าโจมตีเขา
เหว่ยหมิงก่นเสียงเย็นและล่าถอยออกมาราวกับภูตพราย
ใบหน้าของเหว่ยหมิงปกคลุมไปด้วยเหงื่อ เขากล่าว “โอ้ ไม่!”
หมาป่าหยินพุ่งเข้าโจมตีเขาอีกครั้ง
ร่างของเหว่ยหมิงถูกฉีกกระชากออกเป็นชิ้นๆ
ร่างเทียมของจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูยืนอยู่บนแผ่นหลังของหมาป่าหยินด้วยการแสดงออกที่เย็นชา
“ช่างวิ่งหนีได้เร็วนัก แต่คราวหน้าเจ้าจะไม่โชคดีเช่นนี้” จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูกล่าวเสียงเย็น
“เกือบไปแล้ว โชคดีที่ข้าใช้ท่าไม้ตายตัวแทน!” เหว่ยหมิงตัวจริงสามารถหลบหนี
“มันเกิดขึ้นอีกครั้ง!” แต่เขายังเต็มไปด้วยความหวาดกลัวเมื่อมองไปที่จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซู
หมาป่าหยินเป็นสัตว์อสูรบรรพกาลที่มีพลังการต่อสู้ระดับเจ็ด ร่างเทียมของจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูสามารถใช้วิญญาณอมตะ นี่ทำให้พลังการต่อสู้ของพวกเขาเพิ่มสูงขึ้นหลายเท่า
แรกเริ่มจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูส่งสัตว์อสูรเดียวดายจำนวนมากบุกโจมตีถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน แต่ตอนนี้เขาเข้าใจสถานการณ์มากขึ้น ดังนั้นเขาจึงเปลี่ยนกลยุทธ์และส่งสัตว์อสูรบรรพกาลเข้ามา
สัตว์อสูรบรรพกาลทุกตัวมาพร้อมกับร่างเทียมของจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซู นี่ทำให้สถานการณ์ค่อยๆเปลี่ยนไป
หวังอู๋หมิงในร่างหมาป่าดาวตกเพลิงกล่าวด้วยภาษามนุษย์ “พี่ห่าว พี่เชา รีบถอยออกไป หมาป่าหยินที่ซ่อนตัวอยู่สามารถลอบโจมตีพวกท่าน”
หลังจากกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะที่ทรงพลัง ห่าวเจิ้นและเชาเหลาอู๋อยู่ในสภาพที่อ่อนแอมาก
เสียงคำรามของวายุสายฟ้าต้องจ่ายด้วยราคามหาศาล ดังนั้นตอนนี้พวกเขาจึงกลายเป็นไร้ประโยชน์
การต่อสู้ในถ้ำสวรรค์ไห่ฟานดำเนินอย่างต่อเนื่องมาหลายวันแล้ว เสียงคำรามของวายุสายฟ้าเป็นอาวุธที่ทรงพลังของพวกเขาโดยเฉพาะกับฝูงสัตว์อสูรเดียวดาย
ทุกคนเห็นด้วยกับเรื่องนี้
เพื่อชัยชนะ พวกเขาต้องปกป้องห่าวเจิ้นและเชาเหลาอู๋
ทั้งสองล่าถอยทันที
“ข้าจะพาพวกท่านไป” หลี่ซื่อจุนบินไปหาพวกเขา
ฟางหยวน หวังอู๋หมิง และเหว่ยหมิงยังอยู่ในสนามรบ
“จัดการสัตว์อสูรบรรพกาลตัวนี้อย่างรวดเร็ว ห่างออกไปประมาณสามพันลี้ยังมีสัตว์อสูรบรรพกาลอีกตัว” ชูตู๋ส่งข้อความถึงพวกเขา
“ข้าจะดึงดูดความสนใจของมัน พวกเจ้าคอยหาโอกาสฆ่ามัน!” หวังอู๋หมิงลอบส่งข้อความก่อนจะพุ่งเข้าเผชิญหน้ากับหมาป่าหยิน
ฟางหยวนและเหว่ยหมิงร่วมมือกัน หนึ่งบินขึ้นสู่ท้องฟ้า อีกหนึ่งวิ่งอ้อมไปด้านหลัง
การต่อสู้ที่รุนแรงปะทุขึ้น
ด้วยความร่วมมือระหว่างหวังอู๋หมิงและฟางหยวน ฟางหยวนพบโอกาสและส่งวิญญาณอมตะดาบบินออกไป
“บึม!”
ร่างเทียมของจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูใช้วิญญาณอมตะต่อต้าน
“ใช้ท่าไม้ตายอมตะ! เพียงวิญญาณอมตะจะทำสิ่งใดได้!?” หวังอู๋หมิงตะโกนด้วยความกังวล
“เจ้าจะไปรู้สิ่งใด?” ฟางหยวนเย้ยหยัน
ในเวลาต่อมาเหว่ยหมิงฉวยโอกาสใช้ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งแสงทำลายร่างเทียมของจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซู
มันกลายเป็นว่าการโจมตีของฟางหยวนเป็นเพียงเหยื่อล่อขณะที่เหว่ยหมิงหาโอกาสโจมตี
ผู้อมตะในถ้ำสวรรค์ไห่ฟานเริ่มพัฒนาความร่วมมือกันมากขึ้น
‘พวกมันเป็นเพียงร่างเทียมที่มีสติปัญญาจำกัดแต่สามารถใช้วิญญาณอมตะ นี่เป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่ออย่างแท้จริง’ ฟางหยวนลอบถอนหายใจ
เขารู้สึกเช่นนี้มาหลายครั้งแล้ว
การทำลายร่างเทียมของจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูไม่ได้ทำลายวิญญาณอมตะ ดูเหมือนวิญญาณอมตะของเขาจะเป็นวิญญาณอมตะเทียมเช่นกัน
ดังนั้นการทำลายร่างเทียมของจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูจึงมีประโยชน์เพียงเล็กน้อย
จากนั้นผู้อมตะทั้งสามก็ร่วมมือกันโจมตีหมาป่าหยิน
สัตว์อสูรบรรพกาลตัวนี้มีพลังป้องกันที่น่าทึ่ง ฟางหยวนใช้วิญญาณอมตะดาบบินแต่ยังไม่สามารถเจาะทะลวงร่างกายของมัน
โชคดีที่หมาป่าหยินไม่ได้รับความช่วยเหลือจากร่างเทียมของจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูอีกต่อไป เพียงสติปัญญาของมันไม่สามารถแข่งขันกับผู้อมตะสามคน
ห้วงมิติเกิดการบิดเบี้ยว จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูส่งร่างเทียมเข้ามาช่วยเหลือหมาป่าหยิน
แต่ฟางหยวนกับคนอื่นๆค้นพบอย่างรวดเร็วและป้องกันไม่ให้ร่างเทียมของจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูเข้าถึงตัวหมาป่าหยิน
ไม่กี่นาทีต่อมาหมาป่าหยินถูกสังหารและถูกแยกร่างออกเป็นชิ้นๆ
ความตายของสัตว์อสูรบรรพกาลทำให้จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูพบกับความสูญเสีย
แต่สถานการณ์ยังไม่เปลี่ยนแปลง
ฟางหยวนและคนอื่นๆเสียค่าใช้จ่ายมหาศาล
‘พวกเราต่อสู้มานานแล้ว หากยังดำเนินต่อไป องุ่นเขียวอมตะของข้าจะถูกใช้จนหมด’ ฟางหยวนไม่แสดงออกแต่รู้สึกกังวลอยู่ภายใน
ผู้อมตะระดับเจ็ดคนอื่นๆมีพลังงานอมตะระดับเจ็ด พวกเขาสามารถต่อสู้ได้นานกว่า
โชคดีที่ฟางหยวนขายซากศพสัตว์อสูรเดียวดายและสัตว์อสูรบรรพกาลเป็นครั้งคราว นี่ทำให้เขาสามารถรักษาสภาพคล่อง
หลังจากสังหารหมาป่าหยิน ผู้อมตะทั้งสามเดินทางไปยังสนามรบถัดไปโดยไม่มีเวลาหยุดพัก
สถานการณ์เริ่มเลวร้ายลง
หลายวันผ่านมาฟางหยวนซ่อนตัวอยู่ในรอยแยกใต้พิภพและปกป้องดินหลากสี
แต่ไม่นานมานี้เขาต้องออกมาช่วยคนอื่นๆ
ตอนนี้เขาเหมือนนักผจญเพลิงที่เดินทางไปช่วยดับเพลิงในสถานที่ต่างๆโดยไม่ได้พักผ่อน
ร่างหลักของจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูถูกปิดกั้นโดยชูตู๋แต่เขายังสามารถส่งสัตว์อสูรเข้าสู่ถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน
กลุ่มของฟางหยวนมาถึงสนามรบต่อไปในที่สุด
มันเป็นสัตว์อสูรบรรพกาลมังกรสวรรค์เจ็ดกรงเล็บ
มีบางคนต่อสู้กับมังกรสวรรค์เจ็ดกรงเล็บอยู่ก่อนแล้ว นอกจากกลุ่มของหวังอู๋หมิง ชูตู๋ยังขอให้ผู้อมตะอีกหลายคนมาช่วย
คนผู้นี้เป็นผู้อมตะหญิงชื่อซานชิงฉวี
เส้นทางการบ่มเพาะของนางน่าสนใจมากเพราะมันคือเส้นทางแห่งการโจรกรรม!
นี่เป็นเส้นทางที่เทพปีศาจปล้นสวรรค์สร้างขึ้น มีมรดกเพียงเล็กน้อยบนเส้นทางสายนี้
ตอนนี้ซานชิงฉวีตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ แม้นางจะสามารถขโมยวิญญาณจำนวนมากจากร่างมังกรสวรรค์เจ็ดกรงเล็บแต่มันกลับส่งผลต่อศัตรูเพียงเล็กน้อย
ฟางหยวนและคนอื่นๆรีบเข้าไปช่วยและโจมตีมังกรสวรรค์เจ็ดกรงเล็บ
แต่ครั้งนี้พวกเขาไม่โชคดีเหมือนครั้งก่อน
หลังจากทุ่มเทความพยายามอย่างหนัก ร่างเทียมของจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูก็ถูกทำลาย
การสังหารมังกรสวรรค์เจ็ดกรงเล็บตัวนี้ใช้เวลานานกว่าสัตว์อสูรบรรพกาลตัวก่อนหน้าเพราะมันบินได้และมีความเร็วสูง
หลังจากสังหารมังกรสวรรค์เจ็ดกรงเล็บตัวนี้ ฟางหยวนรู้สึกแย่มาก
เขาเสียค่าใช้จ่ายมากกว่าก่อนหน้าหลายเท่า รายจ่ายของเขาสูงกว่ารายรับไปแล้ว หากสถานการณ์นี้ยังดำเนินต่อไป อีกไม่กี่วันหลังจากนี้พลังงานอมตะของเขาจะหมดจริงๆ
ชูตู๋ส่งข้อความเสียงมาอีกครั้งขณะที่กลุ่มผู้อมตะกำลังแบ่งชิ้นส่วนซากศพของมังกรสวรรค์เจ็ดกรงเล็บ “เร็ว! การต่อสู้ก่อนหน้าเป็นเพียงเหยื่อล่อ ตอนนี้จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูปลูกต้นหลิวหิมะเดียวดายขึ้นแล้ว เราต้องรีบกำจัดมัน!”
ฟางหยวนและคนอื่นๆเข้าใจถึงความร้ายแรงของสถานการณ์และรีบลงมือทันที
ครู่ต่อมาพวกเขามาถึงสถานที่เกิดเหตุ
มันไม่เพียงมีต้นหลิวหิมะเดียวดายแต่ยังมีฝูงวานรเทพน้ำแข็งอีกนับร้อย ต้นหลิวหิมะเดียวดายมีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งหิมะจำนวนมากขณะที่วานรเทพน้ำแข็งเป็นสัตว์อสูรบนเส้นทางแห่งน้ำแข็ง ทั้งสองเส้นทางสนับสนุนซึ่งกันและกัน นอกจากนั้นยังมีร่างเทียมของจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูจำนวนนับไม่ถ้วนคอยให้ความช่วยเหลือ
“เราต้องทำลายสิ่งนี้ หากปล่อยไว้ จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูจะได้เปรียบมากขึ้นเรื่อยๆ” ชูตู๋กล่าว “หากไม่มีทางเลือก ข้าจะลงมือเอง!”
“ท่านควรอยู่ที่นั่นและป้องกันไม่ให้จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูตัวจริงเข้ามา มิฉะนั้นพวกเราจะถึงคราวจบสิ้นอย่างแท้จริง” ห่าวเจิ้นเร่งตอบกลับ
เขากับเชาเหลาอู๋พึ่งมาถึง แม้พวกเขาจะยังไม่ฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์ แต่สถานการณ์บังคับให้พวกเขาต้องเสี่ยงชีวิต
ผู้อมตะหกคนพุ่งเข้าไปในป่าหลิวหิมะเดียวดายและเข้าสู่การต่อสู้อันดุเดือด!